Skip to main content

ห่างหายไปนานหลังจาก เปิดตัวหนังสือ “เม้าท์แตก...ชาวเรา” ได้สองวันก็ลัดฟ้า กลับไปทำงานต่อที่เรือสำราญ ณ อเมริกา  กว่าจะตั้งตัวได้เหนื่อยเอาการทีเดียวค่ะ

หมกมุ่นกับการทำงานและการปรับตัวสักระยะ จึงเริ่มออกไปพักผ่อนหย่อนใจ ตามประสาคนทำงาน ลอยล่องท่องไป ในโลกกว้าง  วันว่างหลังการทำงานหนักเป็นนางแบกอินเตอร์ (แบกถาดอาหารคาวหวาน)

วันนี้หลังจากทำงานกลางวันรับจองห้องอาหารทางโทรศัพท์เสร็จจึงรีบออกไปเที่ยวหาดเกย์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนชาวเกย์อันเลื่องชื่อของพลเมืองชาวเกาะของประเทศอเมริกา ที่อยู่ทะเลแคริบเบี้ยน  นามว่า “ St.Thomas”  U.S.V.I ย่อมาจาก United State Virgin Island.

chana1

ประเด็นที่จะพูดคุยกันวันนี้ ชาน่า ตั้งหัวข้อแบบเกิดขึ้นบนพื้นฐานของเรื่องจริงที่หลายคนอาจจะไม่รู้ แต่กล้าที่จะตีแผ่ เผื่อใครจะได้เรียนรู้โลกกว้าง เปิดหูเปิดตา  ว่าแท้จริงนั้นเป็นเช่นไร

ก็จะไม่ให้คิดได้ยังไงคะ  วันนี้ชาน่าตั้งหน้าตั้งตาไปเที่ยวชายหาด ซึ่งเป็นของเกย์โดยตรง จุดประสงค์ก็เพียงเพื่อไปในชุมชนของชาวเรา  จะใส่บิกินี่ หรือว่ายน้ำเป็นฉลาม หรือปลาพะยูนเกยตื้นก็จะได้ไม่ต้องอายน้องนี ชี ๆ ทั้งหลาย  รวมทั้งไม่อยากให้เด็กเล็ก เด็กแดงได้เลียนแบบพฤติกรรม “แต๋วแตก”  ของกลุ่มหลากหลายทางเพศ  (เป็นการรับผิดชอบต่อสังคม จะได้ไม่ต้องให้ผู้ปกครองรับภาระหนักในการดูแลเด็ก)

“แหม ...ไปเที่ยวหาดเกย์คนเดียวไปหาคู่ร่วมเพศล่ะสิ”
“ได้มะ  กี่ไม้คะเพื่อน วันนี้เกิดหรือเปล่า”

คำถามของเพื่อนเกย์หลายคนที่ถามไถ่
จึงทำให้ย้อนกลับมามองว่า  “ทำไมเกย์ ถึงต้องหมกมุ่นกับเรื่องทางเพศ”  จริงหรือ

จากการวิจัยเค้าบอกว่า  เพศชายนั้นมีความต้องการทางเพศไม่ได้มากไปกว่าเพศหญิงสักเท่าไหร่นัก แต่อาจจะเป็นเพราะว่า  ชายนั้นมีความกล้าแสดงออกมากกว่าหญิง  จึงทำให้หลายคนเข้าใจว่าเพศชายนั้นมีความต้องการทางเพศมากกว่านั่นเอง

แล้วถ้าเป็นเกย์ล่ะ
ไม่แปลกที่เกย์ รักสนุกหลายคนจะนิยมเปลี่ยนคู่ หรือแสดงออกถึงความต้องการทางเพศมากและง่ายกว่าชายจริงหญิงแท้เป็นหลายเท่า

สาเหตุน่าจะมาจาก  “ความเป็นอิสระเสรีไม่มีขีดจำกัด”
ก็เพราะเกย์หลายคนที่ครองสถานภาพโสดสนิท โสดเป็นวัน  ๆ   จึงนิยมเปลี่ยนรสนิยมทางเพศกับคู่ขา แปลกหน้า หรือหน้าแปลกทั้งหลาย  โดยพบปะเพื่อนใหม่ตามสถานที่ต่าง ๆ อาทิเช่น  ซาวน่า บาร์ ผับ แหล่งสิงสถิตของเกย์ต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งหาดของเกย์

chana2

หาดที่ชาน่าไปในวันนี้นั้นเป็นหาดที่เกย์อินเตอร์ ทั่วโลกรู้จักกันดี คือ Little Magens Bay ซี่งอยู่ทางสุดท้ายปลายทาง มุมสงบเงียบแห่งหนี่งที่ใกล้กับ Magens Bay ที่เค้าบอกชาวโลกว่า นี่คือหาดที่สวยงามหนึ่งในสิบของโลก  Magens Bay ,U.S.V.I  

ตั้งใจจะไปเล่นน้ำทะเล พักผ่อน หรือจุดประสงค์รองอาจจะพบปะเพื่อนใหม่คลายเหงา สุดท้ายก็บรรลุวัตถุประสงค์ทั้งหลักและรอง

แต่ก็มีหลายคนที่ เกิดอาการหมกมุ่นทางเพศแสดงออกมาอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่าหาดแห่งนี้เป็นหาดเปลือยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  และเป็นที่รู้กันคือแหล่งของชาวเรา  จนหาชะนีไม่ได้แม้สภาพโดยทั่วไปจะเต็มไปด้วยป่าชายเลน ต้นไม้ โขดหิน ชายหาด   

สิ่งที่พบเห็นเต็มตา และแทบจะเรียกได้ว่าเป็นการรบกวนหรือละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวก็ว่าได้ นั่นคือ ชายพื้นเมือง  ซึ่งแทบจะออกแบบชาวสีผิวก็ว่าได้  ตามจิก (เกาะติด)  พอห่างจากคนหน่อยก็ช่วยตัวเอง ชวนร่วมรักกลางป่าชายเลน   บัดสีบัดเถลิง  ชาน่าบอกว่าไม่ก็คือไม่ เพราะไม่ได้ตั้งใจมาผสมพันธุ์

ชายคนนี้ก็ตื้อ แล้วตื้ออีก  พอผ่านไปสักพักก็มีอีกคน ตามมาเสียบแทนชวนลงเอย เล่นรักอย่างว่า
“อะไรกันเนี่ย”
คำตอบที่ได้คือ ... (วันนี้) ชาน่าไม่ง่ายสำหรับคุณค่ะ  
(ประเภทไม่สวยไม่หล่อ แต่หยิ่งเข้ากระดูกดำ )  (ฮา ฮา)

นอกจากนั้นยังมีกลุ่มนักท่องเที่ยวเกย์ที่ควงแขนมากันเป็นคู่ ๆ นอนเป็นฮีเปลือย เปลือยฮี(เขาผู้ชาย) อย่างไม่อายฟ้าดิน เพียงเพื่อต้องการความเป็นธรรมชาติ และอาบผิวให้เป็นสีแทนทั่วเรือนร่าง รอบข้างมีถังน้ำแข็งและเครื่องดื่ม เรียกได้ว่า นอนคลุกเคล้า หิน ดินและทราย แล้วก็ยกซด ดื่มด่ำกำซ่า ท้าแดดท้าลม  “นี่ล่ะคือโลกของเรา แหล่งหาดเกย์กลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ”

ชาน่าพบเพื่อนใหม่คนหนึ่งที่เราคุยกันเค้ามาจากสิงค์โปร  แต่หน้าตาบ่งบอกว่าเป็นยิ่งกว่าอินเดีย  จึงใครรู้ว่า “ท่านไปมาเยี่ยงไร”   คำตอบที่ได้คือ เกย์อินเตอร์ที่รักการท่องเที่ยวจะรู้แหล่ง   

ส่วนอีกคนมาคนเดียวแบบแบกเป้เที่ยวไป  แอบมองกันอยู่นานจนเกิดอาการส่งต่อมกล้า ถามไถ่ได้ความว่าบินมาจากสเปน มาพักร้อนโดยตรงฮ่า

เพื่อนใหม่บางคนก็ถามชาน่าว่า มาจากที่ไหน  คำตอบที่บอกไปคือ  ญี่ปุ่นบ้าง จีนบ้างแล้วแต่อารมณ์  แต่ถ้าใครที่เราอยากจะผูกพันธมิตรก็จะตอบไปตามตรงว่า เมืองไทย เพราะไม่อยากเอาชื่อประเทศมาขาย

สุดท้ายจึงกลับมาคิดว่า  ทำไมชาวเกย์ถึงได้หมกมุ่นกับเรื่องเพศ แค่พบเห็นกันไม่กี่วินาทีก็จะต้องเล่นกลกามแห่งความรักกันเลยเหรอ

คงต้องตอบไปอย่างตามตรงว่า  คงจะใช่บางส่วนแต่บางส่วนก็ไม่ง่าย เหมือนที่ใครหลายคนคิด

คนเราเลือกที่จะทำอะไรได้ตามอิสระก็จริงแต่ควรจะม้วนหน้าตีลังกาคิดว่าสิ่งที่ทำนั้นถูกผิด หรือเป็นภัย เสียหายหรือไม่เช่นไร   แล้วสิ่งที่เราเลือกทำในชีวิตก็จะถูกต้องนะคะ

คงเปรียบเสมือนกับคำแนะนำของทุกศาสนา หรือแม้แต่แพทย์หลายคนที่บอกว่า  อย่าหมกมุ่นกับเรื่องเพศมากนัก (ไม่ว่าจะเป็นเพศชายจริงหญิงแท้หรือ หญิงเทียม เกย์เก็กชง หรือเกย์จงใจออก)   หาทางออกอย่างอื่นเช่น ดูหนัง ฟังเพลง เล่นกีฬา  จะได้ไม่หมกมุ่นครุ่นคิดแต่เรื่องอย่างว่า  อะไรสิ่งไหนก็ตามหากมันมากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็อาจเสียหายได้  เดินทางสายกลางได้จักดียิ่ง หรือคุณคิดเห็นเช่นไร

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า