Skip to main content

เมื่อใจเป็นนาย กายเป็นบ่าว หากใจและกายไม่สอดคล้องกับความรู้สึกและความต้องการ  ทางออกของใครหลายคนจึงเลือกที่จะเยียวยารักษาทางกายมากกว่าทางใจ  จึงเป็นผลให้ใครหลายคนเลือกที่จะทำการ “ผ่าตัดแปลงเพศ”

ในส่วนของพนักงานบริการที่เราคุ้นกันในเมืองไทย ก็มีจารึกไว้แล้ว โดยหนุ่มสจ๊วตที่แปลงโฉมเป็นแอร์กี่ เอ้ยไม่ใช่ค่า แอร์โฮสเตส เรียกเสียงวิพากวิจารณ์จากมหาชนมิใช่น้อย

ส่วนของเรือสำราญ พนักงานบริการที่ต้องพบปะผู้โดยสารจากหลายประเทศทั่วโลกก็มีเธอผู้นี้ ... เช่นเดียวกัน

วันนี้ชาน่าได้มีโอกาสพบกับเพื่อนร่วมงานบริการชาวต่างชาติคนหนึ่ง ซึ่งเมื่อก่อนเค้าคือ คนทำงานบริการที่เป็นผู้ชาย  แต่ตอนนี้ทุกคนต้องเรียกเธอว่าพนักงานบริการผู้หญิง “หนึ่งเดียวคนนี้” เมื่อร่างกายจากชายกลายเป็นหญิง  แต่งชุดพนักงานหญิงทำงานเหมือนสาวๆ ทั่วไป ทำให้เป็นที่จับตามองของหลายฝ่ายหลายคน ทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงาน

จึงพลาดไม่ได้ที่จะร่วมดริ้งกับเธอและสนทนาพาที  สัมภาษณ์เธอเผื่อจะกระจ่างแจ้งในทุกคำถามที่คุณอยากรู้  (ไม่ใช่แค่พี่ไทยเท่านั้นเพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติหลายคนก็สนใจถามกันใหญ่เลยเชียวค่า)

คืนหนึ่งที่บาร์ของพนักงานบนเรือสำราญหรู ราคาเกือบห้าร้อยล้านเหรียญ ซึ่งเรือได้ล่องไปในทะเลแถบเมดิเตอร์เรเนี่ยนมุ่งหน้าไปหลายประเทศในยุโรป จึงนัดกับเธอหลังจากเสร็จจากงานแชมเปญจ์วอเตอร์ฟอล

20080529 chana 1

ชาน่า - หวัดดีเจสสิก้า  แหมพอเปลี่ยนชุดพนักงานใส่ชุดราตรีซวย เอ้ย ...สวยเชียวนะตัวเอง
Jessica - อ้าวชาน่า  มารอเรานานหรือยัง  
(เจสสิก้าแต่งชุดสีแดงแรงฤทธิ์ เพื่อมานั่งดื่มและเช็คเมล์ที่บาร์ของพนักงานและห้องอินเตอร์เน็ต รวมทั้งให้สัมภาษณ์หลังจากที่ชาน่าได้เชิญก่อนหน้านี้)

ชาน่า -  เราขออนุญาตสัมภาษณ์เผื่อเรื่องราวของเธอจะเป็นประโยชน์ และไขคำถามของใครหลายคนที่อยากรู้เรื่องราวของสาวบริการ กับการแปลงเพศ ต้องขอขอบคุณเป็นตัวแทนของคนอ่านคอลัมน์ของชาน่าหลายคนด้วยนะคะ  เอาหละ  ถามก่อนว่า ตอนที่เป็นกะเทยครั้งแรก ทางครอบครัวรู้แล้วเป็นไงบ้าง
Jessica-  ตอนที่เปิดเผยตัวเองครั้งแรก พ่อไม่ชอบเลย ต้องทำใจและทำเวลานานแสนนานกว่าที่ท่านจะรับได้  ส่วนแม่เข้าใจหัวอกลูกนะ   

ชาน่า- แล้วก่อนที่ตัดสินใจผ่าตัดแปลงเพศหละ เป็นยังไงบ้าง
Jessica -ก็คิดอยู่นานเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ต้องทำเพราะคิดว่าเรามีโอกาส เจสสิก้าคิดว่าหลายคนมากที่ยังไม่มีโอกาส ฉะนั้นหากเราพร้อมจึงต้องรีบทำซะ เพราะชีวิตของเรามีอยู่ชีวิตเดียวจะกลัวอะไร  แต่ก็ขออนุญาตพ่อกับแม่ก่อนนะ

ชาน่า-ทราบข่าวว่า เจสสิก้าเลือกที่ไปผ่าตัดแปลงเพศที่เมืองไทยเหรอ
Jessica - ใช่แล้ว เพราะเจสสิก้า มีผู้ช่วยที่ทำงานเรือสำราญลำก่อนหน้านี้เป็นคนไทย เค้าแนะนำให้ไป ก็ต้องติดต่อทางอินเตอร์เน็ตก่อน  

ชาน่า-ทำไมถึงเลือกผ่าตัดที่เมืองไทย
Jessica -เหตุผลที่เลือกผ่าตัดที่เมืองไทยเพราะคิดว่า ราคาถูกกว่าหลายที่ และคิดว่าดีที่สุดนะเพราะเคยทราบข่าวดาราฮอลลี่วู๊ดหลายคนไปทำศัลยกรรมความงามที่เมืองไทย  และมั่นใจว่าหมอที่เมืองไทยเค้ารู้ว่าจะต้องทำอย่างไร แปลงร่างชายให้เป็นหญิงได้อย่างงดงาม “สมจริง”  เพราะเคยเปรียบเทียบที่เม็กซิโก ราคาแพงกว่าเยอะ และหมอก็ไม่ยอมผ่าตัดให้ด้วย แม้เราจะเป็นคนเม็กซิกัน

ชาน่า-เลือกไปผ่าตัดเมื่อไหร่
Jessica - เราผ่าตัดเมื่อสามปีที่แล้ว พอสมัครทางอินเตอร์เน็ตแล้ว หมอนัดจึงไปเมืองไทยช่วงพักร้อน  ตอนนั้นไปกับอดีตสามีชาวอิตาลี่ด้วย ซึ่งก็พักโรงแรม และเค้าก็ดูแลตลอด

ชาน่า-กลัวมั้ยก่อนผ่าตัด และหลังผ่าตัด
Jessica -ก็กลัวนะ คิดนานเชียวหละ แต่พอหลังผ่าตัด เจ็บมากเป็นเวลานานหลายเดือนเชียวแต่ก็ดีใจที่ตัวเองได้ทำในสิ่งที่อยากทำ และออกมาผลเกินคาด  เจสสิก้าไม่ได้กินฮอร์โมนผู้หญิงก่อนผ่าตัดเลยนะ ต้องมากินหลังจากผ่าตัด  ซึ่งตอนนั้นหมอสั่งงดเหล้า แอลกอฮอล์เพราะจะมีผลต่อฮอร์โมน

ชาน่า-ใช้เวลาผ่าตัดนานแค่ไหนเหรอคะ
Jessica -ประมาณเก้า ชั่วโมง ซึ่งต้องนอนรักษาแผลที่โรงพยาบาล

ชาน่า-อยากทราบว่า เลือกโรงพยาบาลไหน พอจะบอกได้มั้ยคะ  จำชื่อโรงพยาบาลได้มั้ย
Jessica -อ๋อ บอกได้ค่ะ  เลือกผ่าตัดที่โรงพยาบาลยันฮี

ชาน่า-ค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่
Jessica -เมื่อสามปีที่แล้ว ราคาประมาณ 16,000 เหรียญ  (คิดเป็นเงินไทยประมาณ  เกือบห้าแสนบาทในตอนนั้น)  ทำงานเกือบทั้งปีเชียวนะเธอกว่าจะได้ร่างกายเป็นหญิง สมใจนึก  โอ้โห...

20080529 chana 2

ชาน่า-คิดว่าพอใจมั้ยคะ
Jessica - ก็พอใจนะ ทำหลายอย่างเช่นผ่าตัดหน้าท้องให้เรียบเนียน  แต่ตอนนี้ยังอยากทำอีกหลายอย่างเช่น ทำหน้าอกเพิ่ม ทำก้นให้เด้งดึ๋ง
 
ชาน่า-ถามเรื่องเกี่ยวกับงานบ้างนะคะ  อย่างเจสสิก้าทำงานเป็นพนักงานบริการบนเรือสำราญ ซึ่งก่อนผ่าตัดเค้าก็รู้ว่า เป็นผู้ชายแล้วตอนนี้ทางเอเจนซี่ที่ประเทศเม็กซิโก เค้าส่งเธอมาในฐานะ นาย หรือนางสาว
Jessica – ชื่อที่มาทำงานเรือยังเป็นนายอยู่นะตอนนี้  เพราะทางต้นสังกัด ที่แอลเอ เค้าก็คิดว่าเป็นพนักงานผู้ชาย

ชาน่า-อ้าว ... เหรอ แล้วผ่านตรวจแมวเข้าเมือง เอ้ย ตรวจคนเข้าเมืองได้ยังไงเหรอคะ
Jessica -(หัวเราะ)  ก็บอกกับเจ้าหน้าที่ตรงๆ สิคะว่าเราคือ กะเทยแปลงเพศ  เพราะยังๆ ลายนิ้วมือ กับรูปหน้ายังคงเหมือนกับพาสปอร์ตอยู่แล้ว อย่างลายนิ้วมือไม่สามารถเปลี่ยนได้นี่นา เค้าก็ให้ผ่าน  ตอนแรกเค้าก็งงเป็นไก่ตาแตกเหมือนกันว่า “นี่ใช่คุณเหรอ”  (หัวเราะ)  

ชาน่า-ใช่ ชาน่าเข้าใจ  แล้วทำงานกับบริษัทเรือสำราญนานหรือยัง
Jessica -ทำมาหลายปีแล้ว แต่ตั้งแต่แปลงเพศแล้วทำมาได้สามปี

20080529 chana 3

ชาน่า-ตอนที่แปลงเพศแล้วกลับมาทำงานใหม่ ๆ ฟีดแบ็คเป็นอย่างไรบ้าง
Jessica - ตอนแรกก็ใส่ชุดพนักงานชายนั่นแหละ แต่หัวหน้าบอกว่า ไม่ได้แล้วเธอต้องเปลี่ยนชุดเป็นพนักงานผู้หญิงเพราะทั้งหน้าอก และผมเริ่มยาวขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งหัวหน้าเค้าก็เข้าใจนะเพราะพวกเค้าหลายคนก็เป็นเกย์ หัวอกเดียวกันด้วย (ยิ้ม ๆ)

ชาน่า-เคยหนักใจ หรือมีปัญหาอะไรในเรื่องนี้หรือไม่
Jessica -มีสิคะ  เรือบางลำที่ไปทำงาน หัวหน้าเค้าก็รับไม่ได้  เรียกประชุมกันยกใหญ่ว่าจะทำอย่างไร จะให้พักห้องกับเพศหญิง หรือเพศชาย  บางทีก็กดดันมาก  เคยเหมือนกันตอนที่กลับจากพักร้อนแล้ว ไปทำงานเรือลำใหม่ หัวหน้าและเพื่อนร่วมงานมองเราเหมือนตัวประหลาด ตัวแปลก แทบจะลาออกกลับไปบ้านเลยเชียวนะ

ชาน่า- แล้วเจสสิก้าทำอย่างไร
Jessica -ก็ทำดีที่สุด ทำหน้าที่ของพนักงานตามที่บริษัทเค้าคาดหวัง สุดท้ายก็ผ่านไปได้  หัวหน้าหลายคนก็รับได้ บางคนก็ดูเหมือนจะไม่รับอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น

ชาน่า-กับเพื่อนร่วมงาน ต่างเชื้อชาติ ต่างวัฒนธรรม หลากหลายกว่า สี่สิบสองเชื้อชาติทำงานร่วมกันหละ เป็นยังไงบ้างคะ
Jessica -บางคนยังจำได้ว่าคือ  ผู้ชายมาก่อน เจอกันอีกทีแต่งเป็นหญิงซะแล้ว  ไปทางไหนก็มีแต่คนมอง เม้าท์แตก  แต่ก็ไม่ได้เกรงกลัวอะไรนะ ใครอยากมองก็มองไป

ชาน่า- ผู้โดยสารที่เธอบริการล่ะ
Jessica - ส่วนมากเค้าจะไม่ถาม คิดว่าบางคนก็ไม่รู้นะว่าเราแปลงเพศมา เพราะอิชั้นตัวเล็กเสียงก็ไม่ใหญ่ด้วย

ชาน่า-เคยบอกผู้โดยสารมั้ย
Jessica -ก็เคยนะ พวกเค้าบางคนก็ไม่เชื่อ บอกว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอก หลากหลายคำถาม จนพักหลังเนี่ยไม่บอกดีกว่า

ชาน่า- เอาล่ะ อยากถามเรื่องราวความรัก -รสนิยมทางเพศบ้าง เป็นยังไงในความรู้สึก
Jessica -มีผู้ชายหลายคนที่เข้ามาในชีวิต  พวกเขาบางคนก็แค่ ต้องการ ... อยากร่วมลองด้วย...   บางคนพอหลังจากเค้ารู้ว่า เราไม่ใช่ หญิง หลายคนก็หายไป..  แต่บางคนก็รับได้  และคิดจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เพราะเค้าบอกว่าเค้าไม่แคร์ คบกันที่ใจ ส่วนร่างกายเธอก็เป็นเหมือนหญิง เค้ารับได้
“ถ้าจะชอบ ก็คือนี่ล่ะตัวฉัน  I am what I am”   เคยมีแฟนแต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีนะ เป็นโสดอีกแล้ว...

ชาน่า- แหม..ไม่เป็นไรหรอก สวยๆ อย่างเจสสิก้า ขี้คร้านมีแต่ผู้ชายจะวิ่งชนกันเข้ามาหา
Jessica -  (ยิ้มๆ) คิดว่ารอคนที่ใช่มากกว่า หากไม่ใช่ก็จะไม่เสียเวลาด้วย  หรืออาจจะแค่ผ่านมา ผ่านไป

ชาน่า- ถามเรื่องอนาคตว่าใฝ่ฝันอยากทำงานอะไร  หรือคิดโครงการอะไรบ้างคะ
Jessica -  ฉันคิดว่า ฉันอยากเป็นดารา นักแสดง หรือนางโชว์ ทำงานที่ตัวเองรักหนะค่ะ

ชาน่า-ฝากบอกอะไรกับคนอ่านคอลัมน์ของชาน่าบ้าง  
Jessica -ถ้าอยากจะแปลงเพศเมื่อพร้อมจริงๆ  ก็ทำเลย เพราะหลังจากนั้น เราอาจจะไม่มีโอกาส   คุณมีหนึ่งชีวิต อยากทำอะไรก็ทำซะ ไม่ได้ผิดกฎอะไรนี่นา  ฝากบอกคนไทยด้วยว่า เจสสิก้าชอบเมืองไทยมาก เป็นประเทศที่น่าอยู่ ผู้คนน่ารักค่ะ  ขอบคุณสำหรับกำลังใจด้วยนะคะ

20080529 chana 4

Profile
Name  : Hande  yener (turkish name means flowers) Or Jessica   
Birth  : 18 August- 26 years old
Birth Place : Acalpulco, Mexico
Hobbies :  like to go to the Gym, Disco, read the book etc,.
Favorite Place : Tahiti, The city of Transexual, Thailand  
Wanna tell :  I have only one life so I wanna have a happy one. Be yourself.

Special Thanks to Jessica ,Miss Mexico-my beautiful friend onboard ,Life @ sea Emerald Princess
“Jessica you not made in Mexico anymore I can tell now you made in Thailand”.


คืนนั้นต้องขอบคุณเพื่อนสาว เจสสิก้าที่พูดคุยกันจนกลายเป็นเพื่อนสนิทชิดเชื้อชาวต่างชาติของชาน่าจนหลายคนถามว่า เราเป็นเพื่อนสนิทกันเหมือนนานหลายปีมาก

ต้องขอบอกว่า หากมีโล่ห์สักอันอยากจะมอบให้เธอ สาว(ประเภทสอง)งาม ตำแหน่ง ...ช่างกล้า  ขอจารึกไว้ ณ คอลัมน์แล้ววันนี้   
     
เพื่อนร่วมงานชาวต่างชาติบางคน ถามชาน่าว่า  “เธออยากจะแปลงเพศมั้ย”
อิชั้นก็ต้องตอบไปตามตรงว่า  “ไม่หรอกค่า เพราะแก่เกินแปลง อีกอย่างทางบ้านฉันครอบครัวยังไม่รู้เลย  ที่สาวแตก ขนาดนี้ก็เพราะอยู่ไกลบ้าน ทำอะไรก็ได้ไม่มีผลกระทบกระเทือน นี่ลjะตัวฉัน แต่พอกลับไปบ้านเกิด... ชาน่า แมนยกกำลังสองแม้จะไม่สุด สุด แต่ก็...นะ... เก็กชง ตามกาละและเทศะเจ้าค่ะ”

ใครจะเป็นเพศไหน ไม่สำคัญ หากแต่ทุกคนในสังคมจะยอมรับที่ความสามารถและความเท่าเทียมกันของมนุษย์  ให้โอกาสทุกคน โดยไม่แบ่งแยกเพศเป็นกำแพงกั้น   แล้วเราก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างเป็นสุข  ... ความสำคัญอยู่ที่  “คุณ” คือใคร

ชาน่า  สัมภาษณ์เพื่อนสาวเม็กซิกัน จากบาร์ของพนักงาน ในขณะที่เรือกำลังจะจอดเมือง อิสตันบูล ประเทศตุรกี  Summer 2008 ค่ะ...

บล็อกของ ชาน่า

ชาน่า
  หากใครเคยชมภาพยนตร์ไทยของจีทีเอช โดย บริษัท จอกว้าง ฟิล์ม จำกัด เมื่อปีที่แล้ว “หนีตามกาลิเลโอ” หลายคนคงจะประทับใจเรื่องราวและการต่อสู้ ความน่ารักและการใช้ชีวิตของสองสาวไทยที่ตัดสินใจไปเที่ยวและทำงานต่างประเทศ หนึ่งคนไปเพราะอกหัก อีกหนึ่งไปเพราะสอบตก อยากเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมใหม่  แต่สำหรับฉัน “ชาน่า” หนีไปเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ที่ตัดสินใจบินออกนอกประเทศ ความรู้สึกไม่ได้แตกต่างอะไรไปมากกว่านางเอกของหนังเรื่องนี้นักเลย  สุข เหงา เศร้า คละเคล้ากันไปยิ่งกว่าละครเสียอีก    แต่ชาน่าไม่ใช่นางเอกของเรื่อง แค่เกย์ที่หลายคนรู้จัก บ้างรู้จักฉันดี…
ชาน่า
หลายคนอาจจะเคยสงสัยเหมือนกับชาน่าว่าในสมัยก่อนวิถีชีวิตของเกย์เป็นเยี่ยงไร วันนี้จึงหาคำตอบและเป็นความต้องการทราบส่วนตัวด้วยค่ะ เพราะว่ามีโอกาสได้ดูละครเรื่องสาปภูษา จึงใคร่รู้เยี่ยงนักว่าประวัติความเป็นมาและสังคม กฎระเบียบบ้านเมืองเป็นเช่นใด ข้าใคร่รู้ ณ บัดเดี๋ยวนี้
ชาน่า
  เมื่อช่วงพักร้อนที่ผ่านมา ชาน่าและเพื่อน ๆ ได้พบปะสังสรรค์กันตามประสาเฮฮาปาร์ตี้ เพื่อนๆ ต่างไม่เจอกันมานาน มีทั้งเพื่อนชายจริง หญิงแท้และชาวหลากหลายทางเพศ
ชาน่า
"กระจกจ๋า บอกซาร่าหน่อยนะ ว่าผู้ชายคนเนี้ยะ...ใช่มะ ใช่มะ...." มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว จิ๋ม ซาร่า ท้าสัมผัส... มากับอัลบั้มชุดที่สอง "คนร่วมฝัน"   หากคุณได้ยินเพลงนี้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าเป็นหญิงจริงหรือหญิงเทียม ไม่ว่าคุณจะมองผู้หญิงคนนี้อย่างไร ชาน่ามองเธอว่า เธอคือผู้ชายที่กลายเป็นผู้หญิงที่น่าค้นหาอีกคน ข้อความจากเพลง “เกินห้ามใจ” ของนักร้องสาวประเภทสองที่ชื่อจิ๋ม ซาร่า หรือชื่อที่ใช้ในวงการ “สุจินต์รัตน์ ประชาไทย” ผู้ชายทั้งแท่งที่ผันตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งทิ่ม เธอผู้นี้เป็นคนไทยคนแรกที่กล้าไปผ่าตัดแปลงเพศไกลถึงดินแดนเมืองผู้ดี “อังกฤษ”
ชาน่า
  การมองโลกในแง่ร้าย การมีประสบการณ์ที่โหดร้าย หรืออยู่ในสังคมที่แย่ อาจจะทำให้คนในสังคมนั้นมีพฤติกรรมที่ไม่น่ารัก สังคมที่ไม่มีศีลธรรม สังคมทุนนิยมที่เอาแต่แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยช่วยให้คนกลุ่มนั้นมีทัศนคติและพฤติกรรมที่กลุ่มคนดีเค้าไม่ทำกัน วันนี้อยากนำเสนอเหตุการณ์ และ ศัพท์ของเกย์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับสังคมสีม่วงของเรา ถ้าหากหลีกเลี่ยงได้ สังคมเกย์ไทยจะน่าอยู่อีกเยอะเลยล่ะฮ่ะ
ชาน่า
  เกิดเป็นคนมีชื่อเสียง (.... อือ... อันที่จริงทุกคนล้วนมีชื่อเป็นของตัวเองทั้งน้านนน) ก็ลำบากทำอะไรก็เป็นเป้าสายตาของประชาชี จะกิน ดื่ม ขยับซ้ายก็เป็นข่าว ขยับขวาก็มองต่างมุม โดนรุมทำข่าวอีก เรียกได้ว่าสูญเสียความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว เพราะนอกจากจะเป็นเครื่องมือของธุรกิจคนขายข่าว ขายเรื่องราวแล้วยังเป็นเหมือนสินค้าตัวหนึ่งทีเดียวฮ่ะ
ชาน่า
การมองโลกในแง่ดี(เกินไป) การทำดี การให้เพื่อคนที่เรารัก เคยรัก อยากรัก สุดท้ายคนนั้นกลายเป็นคนอื่นคนไกล คนไม่รู้จัก บางครั้งมันก็ยากที่จะสาธยายได้ว่า สิ่งที่เราทำไปนั้นมันเป็นไปทางทิศไหน หรือกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ สะกดคำว่า ... สายเกินไป “โดน” กับตัวเองแล้วล่ะ
ชาน่า
  เคยคิดอยากเขียนนิยาย ที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริงเหมือนกัน แต่ฝีมือการเขียนยังไม่เข้าขั้น และที่สำคัญเวลายังไม่เอื้ออำนวย เพราะต้องทำงานเป็นนางแบกโกอินเตอร์ ทำงานทุกวันฮ่ะ (นางแบก คือทำงานอาชีพแบกถาด บนเรือสำราญเจ้าค่ะ) สัปดาห์นี้อยากเขียนเรื่องจริงจากประสบการณ์ของชายคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของชาน่า ที่เค้ากล้าเผยความเป็นเกย์ต่อครอบครัว ความจริงมันไม่เป็นเพียงแค่ความกล้า หากแต่เป็นสถานการณ์พาไป และอยากให้รับรู้ ยามเมื่อถึงเวลา เนื้อเรื่องและเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงจากครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนครอบครัวหนึ่ง เรียบเรียงโดยชาน่า ล้านนา ค่ะ
ชาน่า
ปีใหม่ก้าวผ่านมาตามวันเวลาของปฎิทิน ที่ถูกกำหนดไว้ วันเดือนปี (ใหม่) เป็นแค่กาลเวลาที่คนเรากำหนด นับจากวันที่ผมลืมตาดูโลก จนถึงวันนี้ วัน เวลา และปีเป็นสิ่งที่กำหนดอายุของคนเรา ใช่มันผ่านไปแล้ว ...ผ่านไปเข้าสู่วัยกลางคน ของคน ๆ หนึ่งที่ยืนหยัดอยู่บนโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไปใบนี้ มีหลายสิ่งที่ดีเข้ามา มีหลายคราที่รู้สึกแย่ หลากอารมณ์ที่ตัวเองสัมผัสได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ค้นพบและรับรู้อยู่เสมอคือ... ความเป็นตัวตนที่แท้จริงภายใต้จิตสำนึก  
ชาน่า
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการรณรงค์ การกระทำที่ไม่รุนแรงต่อเพศหญิง แต่น้อยคนนักจะเข้าใจและเห็นด้วยกับการที่ได้ทราบข่าว การกระทำรุนแรงต่อเพศพิเศษนั่นคือเกย์ หรือกะเทย ที่เกี่ยวข้องกับผองเพื่อนชาวเรา ชาน่าได้อ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ส่งถึงเว็บเกย์โรมีโอ (เว็บไซต์สังคมเกย์ที่ขึ้นชื่อของโลก) โดยคนที่เขียนมาเล่าเป็นเกย์ ที่ออกค่ายอาสากับหมอ เกี่ยวกับโรคเอดส์ ซึ่งมีโอกาสได้ไปหลายประเทศต่าง ๆ ขอแปลจดหมายฉบับนี้เพื่อผู้อ่านค่ะ
ชาน่า
ชาน่าชอบอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้าถ้าหากมีเวลา แต่ถ้าไม่มีเวลามากนักก็เลือกบางเรื่อง ที่สนใจและเกี่ยวข้อง อย่างเรื่องฮา ฮา แม้บางครั้งบอกกับตัวเองว่า “ไร้สาระน่าดู...” แต่ลึก ๆ แล้วเนื้อหาบางส่วนอาจจะให้ความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมากอย่างเสียไม่ได้ ลองอ่านเรื่องราวที่ชาน่าเรียบเรียงโดยได้พล๊อตเรื่องจาก เมล์ส่งต่อ แต่แต่งเติมเป็นภาษาง่าย ๆ ของชาน่านะฮะ (ดั่งเพื่อนหลายคนตั้งฉายาให้ว่า ชาน่า ปั้นน้ำเป็นตัวจนแข็ง....) ... ด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม น้อง ๆ อายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่อนุญาตให้อ่านนะคะ เป็นคอลัมน์เรต ฉ. เด็กควรอยู่ในความดูแลของผู้ปกครองด้วยค่ะ
ชาน่า
  ชีวิตความรักของเกย์น่ะหรือ... หลายคนผลักดัน ยิ่งดันยิ่งดัก ยิ่งผลักเหมือนยิ่งแบกโลก เคยมีเพื่อนของชาน่าหลายคน บอกว่า ... “ฉันเชื่อเรื่องความรักของเกย์ ...ว่าคือรักนิรันดร์” แต่ “ฉัน” กลับขอค้าน ที่ค้านในที่นี้คือ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล คนที่เชื่ออย่างนั้นหนึ่งในนั้นคือ “ฉันเอง” ชาน่า