Skip to main content
หลัง ธาหมวด แป่โป่ แปซวย แล้ว ก็จะต่อด้วย ธาหมวดโข่เส่ คะมอ ตามด้วย หมวดโดยมีเด็กชายนำการเดินวนอยู่เหมือนวันแรก  และหมวด ธาปลือลอ ได้เริ่มถูกขับขานต่อจาก หมวดโข่ เส่ คะมอ ต่อด้วย หมวด เชอเกปลือ  หมวดฉ่อลอ หมวดแกวะเก  หมวดธาชอเต่อแล


จากนั้น หมวดธาเดาะธ่อ จึงเริ่มขึ้นอีกครั้งพร้อมกับการกลับมาอย่างแน่นขนัดของหนุ่มสาวเช่นเดิม เมื่อธาเดาะธ่อหรือเริ่มต้นมาแล้ว ก็จะมีหมวดธา เดาะแฮ
, หมวด ธาเดาะเหน่,หมวด ธาลอบะ ,หมวด ธา ลอกล่อ ซึ่งล้วนแต่เป็น ธา หน่อ เดอ จ๊อหรือธา หนุ่มสาว ซึ่งตั้งแต่ ธา หมวด เดาะธ่อ เป็นต้นไป ถือว่าเป็น เพลงธา ที่สามารถขับขานเป็นปกติได้ทุกโอกาส ทุกสถานที่ ไม่มีการห้ามแต่อย่างใด 

แต่สำหรับ หมวดเลปลือแหมะ, หมวด ธาแหน่หมื่อ เหน่ลา, หมวดธาโข่เส่ คะมอ, หมวดธาปลือลอ, หมวดเชอเกปลือ , ธา หมวดฉ่อลอ ,หมวดธาชอเต่อแล  ถือเป็นเพลงธาสำหรับร้องสวดในงานศพโดยเฉพาะ  และต้องขับขานเฉพาะเวลา และสถานที่ ที่มีงานศพเท่านั้น  ไม่สามารถขับขานนอกเหนือจากนั้นได้  ถือเป็นเพลงธาที่อัปมงคล  หากเหตุการณ์ เวลาที่ปกติ ถือเป็นเพลงธาต้องห้ามก็ว่าได้

ณ หมู่บ้านปกาเกอะญอ บ้านทุ่งหลวง ต.แม่วิน อ.แม่วาง เชียงใหม่  กลุ่มชุมชนคนรักป่าร่วมกับกลุ่มละครมะขามป้อม จัดกิจกรรมให้เด็กปกาเกอะญอในชุมชนซ้อมการเล่นละครเพื่อไปแสดงในงาน "มหกรรมเสียงเผ่าชนคนต้นน้ำครั้งที่ 3" โดยมีการหยิบเอา นิทานพื้นบ้านเรื่อง "หน่อหมื่อเอ" ซึ่งเป็นเรื่องที่สาวงามที่ถูกงูใหญ่รัดตัวเพื่อเอาไปมาทำเป็นเมียในพรงของงู  ซึ่งในฉากหนึ่งของการแสดงนั้นมีงานศพของหน่อหมื่อเอ เพื่อให้สมจริงจึงมีการใส่ฉากเพลงแห่ศพเข้าไปในละครด้วย ผมจึงถูกเรียกให้ช่วยไปสอนเพลงแห่ศพ จึงต้องหยิบเอา ธาปลือไปสอนนักแสดง

ก่อนการสอน ผมพยายามไปหาฮี่โข่ ซึ่งเป็นผู้นำทางขวัญและวิญญาณของชุมชน
"พาตี่(ลุง) ผมสามารถสอน ธาปลือ ในหมู่บ้านได้หรือเปล่าครับ" ผมถามฮี่โข่ ท่าทางเขาลังเลนิดหนึ่ง  ก่อนจะตอบว่า
"ผมคิดว่า......น่า...จะได้นะ แต่ให้ไปสอนที่ศาลาชุมชน คงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง?" เขาตอบผม

ผมไม่แน่ใจว่า เขาเกรงใจผมหรือเขาคิดว่าคงไม่เป็นไรจริงๆ แต่เมื่อผมได้รับไฟเขียวจากฮี่โข่ ผมก็ลงมือสอนเยาวชนปกาเกอะญอที่แสดงละครทันที  เสียง ธาปลือ ดังจากศาลาหมู่บ้าน  ชาวบ้านมาชะเง้อมองดูการซ้อมเพลงธา ปลือ เพื่อแสดงละครของเราอย่างแปลกๆ  แต่เมื่อเห็นว่าเป็นการแสดงละคร ทุกคนต่างไม่ว่าอะไร

สองวันผ่านไป  ผมตื่นมาในตอนเช้าวันที่สาม แล้วไปธุระส่วนตัวตามปกติ จากนั้นทานข้าวเช้าเสร็จเตรียมตัวขึ้นไปที่ศาลาชุมชนเพื่อสอนเพลง ธาปลือต่อตามแผนที่วางไว้  ขณะที่ผมกำลังเดินลงบันไดเพื่อไปที่ศาลาชุมชน พร้อมกับเยาวชนที่มารอเต็มหัวบันได ก็มีชายอาวุโสคนหนึ่งเดินเข้ามาหา

"โพโดะ (หลาน) ไม่ต้องไปสอนที่ศาลาแล้ว คืนนี้ไปที่บ้านผมเลย" เขาพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นปนเศร้า
"พูดไปเรื่อย จะร้องธา ปลือที่บ้านได้ไง มันไม่ดี" แม่เฒ่าที่ผมพักอยู่ที่บ้านเขาร้องทัก
"ไม่เป็นไร ก็พี (ยาย) ลอเคาะ เพิ่งสิ้นลมเมื่อเช้านี้เอง" หลังจากเขาพูดจบทุกคนจึงร้องอ๋อ บ้างก็ทำหน้าตกใจ บ้างก็ทำหน้าเศร้าใจ บ้างก็ทำหน้าแปลกใจ

คืนนั้นทั้งผมและเยาวชนก็มีโอกาสไปเรียนรู้การขับขาน ธาปลือ ในสนามจริงอย่างคาดไม่ถึง แต่น่าเสียดายที่มีการเก็บศพพีลอเคาะเพียงแค่คืนเดียว

แต่หลังจากนั้น ฮี่โข่และคนในหมู่บ้านไม่อนุญาตให้ซ้อมการร้องเพลง ธา ปลือ ในชุมชนอีกแล้ว  แต่เขาก็หาทางออกให้ว่า  สามารถซ้อมร้องเพลง ธาปลือได้แต่ต้องออกไปซ้อมให้ไกลจากหมู่บ้านในรัศมีที่ไม่สามารถได้ยินเสียงไก่ขันในชุมชนได้

เช้าวันรุ่งขึ้นจึงปรึกษากันแล้วก็ห่อข้าวกัน จากนั้นออกเดินตามเส้นทางเดินเท้าเล็กๆ ประมาณครึ่งชั่วโมง  เราถึงที่นาผืนหนึ่ง ซึ่งมีกระท่อมหลังหนึ่งปลูกไว้เหมือนเตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ  เราจึงใช้สถานที่นั้นเป็นที่ฝึกซ้อมเพลง ธา ปลือ  เพื่อป้องกันมิให้มีคนตายเพิ่มขึ้นในหมู่บ้านอีก

เราคุยกับ ฮี่โข่ และกลุ่มผู้อาวุโสในชุมชนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น  จริงๆ แล้วเราก็กลัวคนในชุมชนจะโทษที่เรามาซ้อมร้องเพลง ธา ปลือ ในชุมชนเช่นกัน แต่โชคดีที่คนในชุมชนต่างรู้และเข้าใจเจตนาของเรา และเราก็ถามฮี่โข่และชาวบ้านก่อนจะทำการฝึกร้องเพลง ธา ปลือ ชุมชนด้วย มิได้ทำโดยพลการ

"ไม่เป็นไร เก่อ ลี แฮ เหน่ เส่ ก่า ตอ อะ คา มันเป็นเหตุการณ์ ไม้หักโค่นเองในจังหวะที่ลมพัดมาพอดี ถ้าเป็นเมื่อก่อนต้องมีการขอขมาครอบครัวผู้ตาย แต่อันนี้เราไม่ว่ากัน" ฮี่โข่บอกกับผมและทีมงานละคร ทำให้เราโล่งอกกันไป แต่ก็เป็นบทเรียนที่น่าจดจำเป็นอย่างยิ่ง 

 

บล็อกของ ชิ สุวิชาน

ชิ สุวิชาน
“ตั้งสายได้แล้ว วิธีการเล่นล่ะ?” ลูกชายกำลังไฟแรงอยากเรียนรู้ “ใจเย็นๆ ก่อนอื่นต้องฝึกร้องเพลงให้ได้ก่อน ถ้าร้องเพลงไม้ได้ จำทำนองเพลงไม่ได้ จะเล่นได้ไง” พ่อค่อยๆสอนลูกชาย “เอางี๊ เดี๋ยวพ่อจะสอนเพลงพื้นบ้านง่ายๆที่ผู้เฒ่าผู้แก่ชอบร้อง ชอบเล่นและชอบสอนเด็กบ่อยๆ ซักสองสามท่อนนะ” แล้วพ่อก็เริ่มเปล่งเสียงร้องและให้ลูกชายร้องตามที่ละวรรค
ชิ สุวิชาน
พ่อได้ดื่มชาในกระบอกไม้ไผ่จนหมดไปกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วจึงวางลง“เดิมทีนั้น เตหน่ากูมีจำนวนสายเพียง 5-7สาย แต่ต่อมาได้มีการเพิ่มเติมสายในการเล่นเป็น 8-9สายหรือ 10-12หรือมากกว่านั้นก็ได้” พ่อหยิบเตหน่ากูและเล่าให้ลูกชายฟัง“ทำไมจำนวนสายไม่เท่ากันล่ะ?” ลูกชายถามผู้เป็นพ่อ“มันขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน ชอบและถนัด 7 สายก็เล่น7 สายชอบน้อยกว่านั้นก็เล่นน้อยกว่าก็ได้ หรือชอบมากกว่านั้นก็เล่นมากกว่านั้นก็ได้” พ่อตอบสิ่งที่ลูกชายสงสัยในการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกล (Minor scale) นั้นเริ่มจาก 5-7 สายโดยมีตัวโน๊ตหลักตามไมเนอร์สเกลอยู่ 5 โน้ต ได้แก่ โด (D) เร (R)  มี (M) โซ (S) ลา…
ชิ สุวิชาน
ความมืดกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง เช่นเดียวกับไม้เกี๊ยะที่มาจากแกนไม้สนสองใบต้องถูกเผาเพื่อผลิตแสงสว่างในครัวบ้านปวาเก่อญออีกครั้ง กาต้มน้ำที่ดำสนิทด้วยคราบเขม่าควันไฟถูกตั้งบนเหล่อฉอโข่อีกครั้ง กลิ่นชาป่าขั้วหอมทำให้โสตประสาทกระปรี่กระเปร่าขึ้นมาพร้อมเข้าสู่บรรยากาศการเรียนรู้ภายในบ้านไม้ไผ่หลังเดิมเตหน่ากู คืออุปกรณ์การเรียนรู้ถูกเตรียมไว้เพื่อใช้ในการเรียนรู้ ของพ่อซึ่งเป็นผู้สอนหนึ่งตัว ของลูกซึ่งเป็นผู้เรียนหนึ่งตัว รูปร่างลักษณะเตหน่ากูแม้ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็มีรูปทรงที่คล้ายๆกัน  มีตัวท่อนไม้ใหญ่ และมีกิ่งไม้ที่โค้งงอเมื่อพ่อเห็นว่าลูกชายพร้อมที่จะเริ่มการรับความรู้แล้ว …
ชิ สุวิชาน
“พี่น้องครับ พี่ชายคนนี้ยังคงทำหน้าที่ต่อ ณ ตรงนี้ครับ ขอมอบเวทีต่อให้พี่ครับ” ผมพูดจบผมกลับไปที่นั่งของผมเพื่อเป็นคนดูต่อแม่น้ำสายนี้ยังคงไหลไปตามกาลเวลาฯ....................................................ฉันผ่านมา  ผ่านมาทางนี้ ผ่านมาดูสายน้ำ.............ได้รู้ได้ยิน..............ฯบทเพลงแรกผ่านไปต่อด้วยสาละวิน สายน้ำตาเสียงปืนดังที่กิ่วดอยลูกชายไปสงครามเด็กน้อยผวาตื่น(ทุกคืนๆ)
ชิ สุวิชาน
“ผมมีเพื่อนปกาเกอะญอมาด้วยคนหนึ่ง” ผมบอกกับคนดูผมได้ไปพบ และได้ไปฟัง เพลงที่เขาร้อง ณ ริมฝั่งสาละวิน ทำให้ผมเกิดความประทับใจในท่วงทำนองและความหมายของบทเพลงรวมทั้งตัวเขาด้วยผมทราบมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองเชียงใหม่  ผมจึงไม่พลาดโอกาสทีจะชักชวนเขามาร่วม บอกเล่าเรื่องราวของชนเผ่า ผ่านบทเพลงที่ผมประทับใจ ซึ่งแรก ๆ นั้น เขาแบ่งรับ แบ่งสู้  ที่จะตอบรับการชักชวนชองผม แต่ผมก็ชักแม่น้ำทั้งห้า จนเขาหมดหนทางปฏิเสธ“ผมไม่คุ้นเคยกับการร้องเพลงต่อหน้าคนมาก ๆ นะ” เขาออกตัวกับผมก่อนวันงาน แต่เมื่อถึงวันงานเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เขาเดินออกมาแบบเกร็งๆ และประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เขาจะยืนตรงก็ไม่ใช่…
ชิ สุวิชาน
ณ ห้องเล็กๆ แถวสี่แยกกลางเวียง เมืองเชียงใหม่ เก้าอี้ถูกเรียงเป็นแถวหน้ากระดานประมาณร้อยกว่าตัว  ข้างหน้าถูกปล่อยว่างเล็กน้อยสำหรับเป็นพื้นที่ตั้งเครื่องเล่นดีวีดีและโปรเจคเตอร์เพื่อฉายสารคดี ใกล้เวลานัดหมายผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาทีละคน ทีละคู่ ทีละกลุ่ม“เค้าไม่อยากให้เราพูดถึงเรื่องการเมือง แต่เราอาจพูดได้นิดหน่อย” เจ้าหน้าที่ FBR กระซิบมาบอกผมเกี่ยวกับความกังวลของเจ้าของสถานที่ ผมยิ้มแทนการสนทนาตอบ เพียงแต่คิดในใจว่า หากการเมืองคือความทุกข์ยากของประชาชน ของชาวบ้านคนรากหญ้าก็ต้องพูดให้สาธารณะได้รับรู้ เพื่อจะหาช่องทางในการช่วยบรรเทาทุกข์ของประชาชน…
ชิ สุวิชาน
หลังจากดูสารคดีด้วยกันจบ “ผมอยากฉายสารคดีชุดนี้สู่สาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่คนทั่วไปในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผมอยากให้คุณมาร่วมเล่นดนตรีด้วย คุณ โอ เค มั้ย” เขาถามผมผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เพราะผมไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร  ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ  ผมบอกกับตัวเองว่า เพียงแค่เห็นใจและเข้าใจอาจไม่เพียงพอ   หากสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสื่อสารเรื่องราวของผู้ทุกข์ยาก โดยเฉพาะคนชนเผ่าเดียวกันได้  มันก็ควรทำไม่ใช่หรือหลังจากผมตอบตกลงเขา เราทั้งสองได้พูดคุยประสานงานกันเกี่ยวกับงานอยู่เรื่อย ๆ จนเวลาลงตัวในวันที่ 21 ธันวาคม ศกนี้ ณ สมาคม AUA เชียงใหม่ ในหัวข้อ “…
ชิ สุวิชาน
ต่า หมื่อ แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละ         ตา ข่า แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละอะ เคอ กิ ดิ เค่อ มี โบ            มา ซี ปกา ซู โข่ อะ เจอผีร้ายโผล่มาทางริมฝั่งสาละวิน        แมงร้ายโผล่มาทางลำน้สาละวินเสื้อผ้าลายเหมือนดั่งต้นบุก        มาเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตคน(ธา บทกวีคนปกาเกอะญอ)“คุณเคยติดตามสถานการณ์ทางรัฐกะเหรี่ยงประเทศพม่าบ้างไหม” เสียงผู้ชายโทรศัพท์มาถามผมด้วยภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง“ผมทำงานในองค์กรชื่อFree Burma Rangers ครับ”…
ชิ สุวิชาน
เขานั่งอยู่แถวหน้า และเขาโบกไม้โบกมือขณะที่ผมกำลังบรรเลงเพลงอยู่บนเวที  ในมหกรรมคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งจัดโดยสำนักประชาสัมพันธ์ร่วมกับองค์กรยูเนสโก้  ในงานได้มีการเชิญศิลปินชนเผ่าหลักทั้ง 7 เผ่า ได้แก่ ม้ง อาข่า ลีซู ลาหู่ เมี่ยน ไทยใหญ่และกะเหรี่ยง รวมทั้งยังมีศิลปินล้านนา อาทิ ครูแอ๊ด  ภานุทัต  คำหล้า ธัญาภรณ์ น้อง ปฏิญญา และไม้เมืองนอกจากนี้มีทายาทของสุนทรี  เวชชานนท์ ราชินีเพลงล้านนา คือน้องลานนา มาร่วมร้องเพลง ธีบีโกบีกับทอดด์ ทองดี ศิลปินจากรัฐเพนโซเวเนีย…
ชิ สุวิชาน
เมื่อเข็มนาฬิกาเข็มที่สั้นที่สุด เลื่อนไปยังหมายเลขเก้า ทุกคนจึงขึ้นรถตู้ เคลื่อนขบวนไปยังศูนย์ศิลปและวัฒนธรรมแสงอรุณ  เมื่อถึงมีทีมงานเตรียมข้าวกล่องไว้รอให้ทาน พอทานข้าวเสร็จพี่อ้อย ชุมชนคนรักป่า ก็มาบอกผมว่า  งานจะเริ่มบ่ายโมง  พร้อมกับยื่นใบกำหนดการให้ผมดู  ผมตื่นเต้นนิดหน่อยพอบ่ายโมง งานก็เริ่มขึ้น โดยการฉายสไลด์เกี่ยวกับป่าชุมชนที่หมู่บ้านสบลาน อำเภอสะเมิงเชียงใหม่   "ถ้าถึงคิวแล้วจะมาเรียกนะ” ทีมงานบอกกับผมในระหว่างที่ผมรออยู่หน้างานนั้น ผมก็ได้เจอกับนักเขียน นักดนตรี นักกวี ที่ทยอยมา ได้มีโอกาสคุยกับคนที่ผมรู้จัก และกำลังรู้จัก และที่ไม่รู้จักด้วย …
ชิ สุวิชาน
บุ เต่อ โดะ นะ แล บุ เออบุ ลอ บ ะ เลอ ต่า อะ เออชะตา วาสนาช่างรันทดต้องเผชิญแต่สิ่งลำเค็ญ