Skip to main content
นพพร ชูเกียรติศิริชัย

ถ้าหาก E เท่ากับ EMOTION (อารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลง และ อื่นๆ), M เท่ากับ MAN (มนุษย์ไม่ว่าหญิง ชาย และอื่นๆ) และ C เท่ากับ CLOCK (ซึ่งหมายถึงระยะเวลา) จากสมการ E=mc2คุณคิดว่า จำนวนของบุคคล' ที่เหมาะสมกับ ความรัก' จะเท่ากับเท่าไหร่?

รัก/สาม/เศร้า ตามสมการ รัก/สอง/สุข และเวลาแค่ไหนถึงจะพอสำหรับ รัก'

รัก/สาม/เศร้า' เป็นเรื่องราวของเพื่อนรักสามคน ที่แอบรัก' กัน ในฐานะที่มากกว่าเพื่อน น้ำ' แอบรัก พายุ' ‘พายุ' แอบรัก ฟ้า' โดยที่ตัวฟ้าเองก็ไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยว่าพายุแอบรักตนเอง (และก็ไม่เคยรับรู้เช่นกันว่าเพื่อนรักของตนอย่าง น้ำ' ก็แอบรักเพื่อนรักอย่าง พายุ' เหมือนกัน) ตาม สมการความรักเป็นเรื่องของคนสองคน จึงไม่ยากที่ คนป่วย' ผู้ปรารถนาความรักอย่าง ฟ้า' จะตกหลุมรัก ผู้ดูแล' อย่าง พายุ'

แต่ เมื่อฟ้ารับรู้ว่าเพื่อนรักอย่าง น้ำ' แอบรัก พายุ' สมการความรักระหว่างฟ้า' กับ พายุ' จึงถูกรบกวนด้วย ความเป็นเพื่อนของน้ำ' และด้วยเหตุผลที่ว่า เวลาชีวิต' ของเธอนั้นเหลือน้อยลงทุกที ฟ้า' จึงคิดว่าคงเป็นการเปล่าประโยชน์ที่เธอจะนำพาความรักของพายุไปกับเธอ เธอจึงตัดสินใจลบตนเองทิ้งจากสมการความรักระหว่าง น้ำ' กับ พายุ' ด้วยความมุ่งหวังว่า หากไม่มีเธอสักคน สมการความรักระหว่างเพื่อนรักของเธอจะสมบูรณ์ขึ้น

แต่การหายตัวไปของฟ้า' กลับไม่ได้ช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้น เพราะทุกคนต่างก็ต้องสูญเสียส่วนหนึ่งของความรู้สึกดีๆ (รวมถึงตัวของฟ้าเอง) น้ำ' จึงตัดสินใจที่จะออกตามหา ฟ้า' และตัดสินใจที่จะลบตนเองออกจากสมการความรักระหว่าง ฟ้า' กับ พายุ' แต่นั่นกลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของความรักระหว่าง พายุ' และ น้ำ' ในวันที่ ฟ้า' ได้จากลาโลกนี้ไป

จากเรื่องราวทั้งหมดของ รัก/สาม/เศร้า

หาก E หมายถึง ความรัก' M หมายถึง ฟ้า' และ C เท่ากับระยะเวลาที่เหลืออยู่' น้อยนิดของ ฟ้า' ค่าความรักของ ฟ้า' จึงยิ่งใหญ่และงดงาม (แม้จะเป็นเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆ)

หาก E หมายถึง ความรัก' M หมายถึง พายุ' และ C หมายถึงระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลง ค่าความรักของ พายุ' จึงอาจผันแปรและเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

และหาก E หมายถึง ความรัก' M หมายถึง น้ำ' และ C หมายถึงระยะเวลาส่วนหนึ่งของชีวิตที่ยังยึดมั่นในความรัก ค่าของความรักของน้ำ จึงยังมั่นคงเสมอต่อ พายุ'

เพราะฉะนั้นจากสมการ E=mc2 ก็จะทำให้เรา รับทราบว่า ความรัก' นั้น สัมพันธ์กับ บุคคล' และ กาลเวลา' เสมอ

" ความรักมันมีปัญหา เพราะเราอยากได้ อย่างเช่นเรารักใครแล้วเราก็อยากได้รักกลับมา ซึ่งมันคือจุดเริ่มต้นของความเจ็บปวด มันเป็นความรักที่เอาแต่ได้ ไม่เคยคิดว่า เฮ้ย เธอรักเขาเหรอ เธอไปกับเขาเถอะ เราไม่เคยคิดแบบนั้น แล้วเราคิดว่าการคิดแบบนั้นมันไม่ใช่ แต่ ณ วันนี้ หนังเรื่อง รัก/สาม/เศร้า ไม่ได้คิดแบบนั้น ทุกคนมีแต่ให้ ทุกคนแย่งกันให้ ถามว่าในชีวิตจริงมีไหม บอกไม่ได้ ไม่กล้าฟันธง นี่เป็นความรักในอุดมคติที่หายาก แต่เราเชื่อว่ามันมีอยู่จริง เราเลยทำหนังออกมาให้คนดูสัมผัสว่ามันก็มีความรักแบบนี้อยู่นะ"(บางส่วนจาก บทสัมภาษณ์ ยุทธเลิศ สิปปภาค.นิตยสาร Starpics.No.728 1 June 2008)

ส่วน ตัวของข้าพเจ้าเอง ไม่แน่ใจว่า มนุษย์' (ซึ่งหมายรวมถึงตัวของข้าพเจ้าเอง) ถูกทำให้เชื่อว่า ความรัก' ที่สมบูรณ์แบบและเหมาะสมจะต้องประกอบด้วย คนเพียงสองคน' ตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่ที่แน่ๆ เรื่องราวแบบที่เราเรียกกันว่า รักสามเส้า' นั้นกลับกลายเป็นพล็อต (plot) ยอดนิยมของเรื่องสั้น นวนิยาย ละครเวที ละครทีวี รวมไปถึงภาพยนตร์เกือบทั่วโลก (บางทีอาจจะนิยมมากกว่าความรักแบบที่มีคนเพียงสองคนด้วยซ้ำ)

ใคร หลายคน (ซึ่งรวมถึงตัวของข้าพเจ้า) มักจะปฏิเสธในการก้าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความรักที่ประกอบด้วยจำนวนคน มากกว่า 2 ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงยังมีผู้คนอีกจำนวนมากบนโลกใบนี้ที่มองว่า ความรัก' ที่สมบูรณ์แบบไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนของบุคคล

รัก/สาม/เศร้า' ในแบบของยุทธเลิศ สิปปภาค จึงทำให้ข้าพเจ้าเกิดคำถามว่า หากไม่ใช่สังคมที่ถูกทำให้เชื่อว่า ความรักเป็นเรื่องของคนสองคน' ‘รัก/สาม (ยังต้อง) เศร้าอยู่ไหม?'

ส่วน คำตอบอีกมากมายนั้นอยู่ที่ตัวของคุณทุกๆ คน เพราะ"เป็นไปได้ที่เราจะอธิบายทุกอย่างด้วยวิทยาศาสตร์ แต่มันคงดูไร้สาระ ไร้ความหมาย เหมือนกับการอธิบายเพลงซิมโฟนีของเบโธเฟ่นว่าคือความแปรผันของคลื่นเสียง"

 

บล็อกของ Cinemania

Cinemania
โดย… พิมพ์สิริ เพชรน้ำรอบ
Cinemania
      ซาเสียวเอี้ย   แต่ไหนแต่ไรมา...ระบบการศึกษาในพื้นที่หลายแห่งทั่วโลกมักถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการ ‘ดับฝัน’ ของคนวัยหนุ่มสาว เพราะทำให้ความอยากรู้อยากเห็นและกระตือรือร้นที่จะ ‘เรียนรู้’ สิ่งแปลกใหม่ในวัยเยาว์ถูกลบเลือนหายไปในกรอบ-กฎเกณฑ์-เหตุผล-เงื่อนไข และข้อเท็จจริงทั้งหลายทั้งปวง (ซึ่งถูกกำหนดขึ้นโดยคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีโอกาสเกิดมาใช้ชีวิตบนโลกก่อนหน้าเรา...)   กระนั้น...ใครหลายคนก็ยังยินดีเดินตามแนวทางหรือเงื่อนไขต่างๆ ที่ถูกวางไว้แล้วโดยไม่เคยคิดตั้งคำถาม เพื่อแลกเปลี่ยนกับ ‘การยอมรับ’ จากสังคมรอบข้าง...เพื่อที่มนุษย์ทั้งหลาย (ซึ่งเป็นสัตว์สังคม)…
Cinemania
        ซาเสียวเอี้ย   ‘ชาร์ลี วิลสัน’ ตายแล้ว...   แม้การตายของเขาจะไม่ได้ทำให้โลกสะท้านสะเทือนอะไรมากนัก แต่ก็มีความหมายสลักสำคัญมิใช่น้อย เพราะบทบาทของวิลสันในสมัยที่เขายังหนุ่มแน่นและดำรงตำแหน่ง สว.รัฐเท็กซัสของสหรัฐอเมริกา เป็นประเด็นให้คนที่ยังมีชีวิตอยู่ถกเถียงกันไม่สิ้นสุดว่าควรจะจดจำเขาไว้ในฐานะอะไร...   บ้างก็ว่า ชาร์ลี วิลสัน คือ ‘นักการเมืองเจ้าสำราญ’ เจ้าของฉายา Good Time Charlie ผู้มีชีวิตโลดโผนเต็มไปด้วยสีสัน หรือเป็น ‘วีรบุรุษชาวอเมริกัน’ ผู้ช่วยให้นักรบมูจาฮิดีนขับไล่กองทัพสหภาพโซเวียตอันโหดร้ายป่าเถื่อนไปจากอัฟกานิสถาน…
Cinemania
themadmon หมายเหตุ: ข้อเขียนชิ้นนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น บทสะท้อนย้อนคิดหลังจากการชมภาพยนตร์เรื่อง Air Doll ผมในฐานะที่เป็นผู้เขียนจงใจจะหยิบเลือกประเด็น (ซึ่งผ่านการตีความของผม) โดยไม่ได้อ้างอิงอย่างชัดเจนไปสู่ตัวภาพยนตร์ในแต่ละฉากแต่ละตอน โดยหวังว่าผู้ที่ยังไม่ได้ชมภาพยนตร์ก็สามารถอ่านได้ และผู้ที่ได้ชมภาพยนตร์แล้วจะสามารถระลึกถึงฉากต่างๆ ในภาพยนตร์ได้ด้วยเช่นกัน     หากลองพูดถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ในสามประโยค  ผมคงพูดสั้นๆ ว่า.. “ผู้คนหลากหลาย เราต่างก็ว่างเปล่า และเหงามากมาย”  เพราะอะไรน่ะหรือ …
Cinemania
  บริวารเงา   ขงจื๊อ เป็นชื่อหนึ่งที่ผมได้ยินมาเนิ่นนาน ถ้าจำไม่ผิดอาจจะเป็นหนังจีนกำลังภายในสักเรื่องหนึ่งที่อ้างชื่อนี้ขึ้นมาเพื่อพูดถึงปรัชญาในเรื่องคุณธรรมน้ำมิตร ผมมารู้จักเขาอีกครั้งในห้องสมุดช่วงที่กำลังสนใจพวกวิชาปรัชญา จิตวิทยา วรรณกรรม ฯลฯ  แต่ผมกลับไปชอบปรมาจารย์จีนอีกคนคือ เล่าจื๊อ เสียมากกว่า เพราะว่าแกมีความคิดที่ 'แนว' ดี (อารมณ์ของวัยรุ่นเช่นนี้แล) อีกนัยหนึ่งก็ดูเพี้ยน ๆ อีกนัยหนึ่งก็มีอารมณ์ศิลปินกว่าขงจื๊อ ขณะที่ผมเห็นว่าขงจื๊อเอาแต่พร่ำบ่นอะไรที่เป็นหลักจริยธรรมน่าเบื่อ ๆ ซึ่งความน่าเบื่อนี้ไม่ใช่ความผิดของขงจื๊อเสียทีเดียว…
Cinemania
เดือนสองจันทร์   October Sonata: รักที่รอคอย
Cinemania
สุพิชชา โมนะตระกูล ตลอดช่วงเวลาขณะชมภาพยนตร์สารคดี “Our Daily Bread” ผู้เขียนรู้สึกตะลึงกับภาพที่ได้รับชม โดยสาเหตุหลักหาใช่ “ความงาม” ของสีสันหรือองค์ประกอบศิลป์แบบภาพที่ผู้กำกับภาพบรรจงจัดวางอย่างภาพยนตร์ที่มีภาพงามเรื่องอื่นๆ...หากเป็น “ความจริง” ของภาพที่ตรึงผู้เขียนไว้ตลอดระยะเวลาหนึ่งชั่วโมงครึ่ง
Cinemania
  สาวกท่านเป้า ขณะที่กำลังตุรัดตุเหร่ในร้านหนังสือแอร์เย็นเฉียบ เพื่อตามหานิตยสารมือถือฉบับหนึ่ง บังเอิญเหลือบไปเห็นนิตยสารฉบับหนึ่งที่นำภาพโปรโมทภาพยนตร์ “วงษ์คำเหลา” มาขึ้นปก แต่เมื่อหยิบมาจึงรู้ว่าเป็นปกหลัง แต่ปกหน้าก็ยังเป็นวงษ์คำเหลาอยู่ดี จึงเริ่มรู้ตัวว่าถูกหลอกแดกเสียแล้ว มีที่ไหนวางขายนิตยสารโดยเอาปกหลังเป็นตัวชูโรง นิตยสารฉบับนั้นคือนิตยสารภาพยนตร์ของกลุ่มคนทวนกระแสที่ชื่อว่า “ไบโอสโคป”
Cinemania
   เคยได้ยินครูสอนประวัติศาสตร์บอกว่าคนอเมริกันมีปมเรื่องรากเหง้าทางวัฒนธรรม เพราะไม่ได้มีฐานที่มั่นคงแข็งแรงเท่าประเทศแถบยุโรปที่ผ่านการต่อสู้ก่อร่างสร้างชาิติและบ่มเพาะอารยธรรมมานานหลายศตวรรษ และต่อให้ ‘สหรัฐอเมริกา' เป็นถึงประเทศมหาอำนาจแห่งโลกสมัยใหม่ ก็ยังไม่วายถูกมองเป็นแค่ ‘เศรษฐีใหม่' หรือ ‘ชนชาติที่ไร้วัฒนธรรม' แถมยัง ‘บ้าอำนาจ' อีกต่างหากในสายตาของคนบางชาติถึงจะไม่แน่ใจว่าประโยคที่ได้ยินมาถูกต้องมากน้อยแค่ไหน แต่การที่สังคมอเมริกันให้ความสำคัญ (อย่างมาก)กับการเก็บรวบรวมประวัติศาสตร์ชาตินิยมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก็คงพอจะเป็นภาพสะท้อนได้กลายๆ ว่าคนอเมริกันคงมี ‘ปม'…
Cinemania
 'มาริโอ โรปโปโร' เป็นลูกชายชาวประมง เติบโตมาบนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในอิตาลี ที่ซึ่งไม่มีน้ำประปาและผู้คนบนเกาะส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือ...‘ปาโบล เนรูด้า' เป็นกวี-นักการทูต-นักการเมือง และเป็น ‘คอมมิวนิสต์' ชาวชิลี มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก แต่ต้องลี้ภัยไปอยู่บนเกาะเล็กๆ แห่งหนึ่งในอิตาลีช่วงปี 1952 และที่นั่นมีบุรุษไปรษณีย์เพียงคนเดียว...บุรุษไปรษณีย์นามว่า ‘มาริโอ โรปโปโร':::บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์::: Il Postino หรือ The Postman เป็นหนังภาษาอิตาลี แต่เป็นผลงานของผู้กำกับชาวอังกฤษ ‘ไมเคิล แรดฟอร์ด' ถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์หลายสาขาเมื่อปี 2538…
Cinemania
  ..mad mon..::ข้อเขียนชิ้นนี้เปิดเผยเรื่องราวบางส่วนในภาพยนตร์:: 1. จุดเริ่มต้นของจุดจบและ/หรือจุดเริ่มต้นอันใหม่เรื่องราวปัจจุบันในภาพยนตร์บอกให้เรารู้ว่าเมื่อ 30 ปีก่อนนั้น Laura (Belén Rueda) เคยใช้ชีวิตช่วงเวลาหนึ่งอยู่ในสถานเลี้ยงดูเด็กกำพร้าแห่งหนึ่งก่อนที่เธอจะถูกรับไปเลี้ยง สถานเลี้ยงเด็กนั้นอาจเรียกว่าอยู่ในพื้นที่ชนบทซึ่งห่างไกลผู้คน ตั้งอยู่ไม่ไกลชายหาดและทะเลซึ่งมีประภาคารสูงใหญ่คอยส่องไฟนำทาง และถ้ำอีกอันหนึ่ง, สถานที่ซึ่งเป็นอดีตแห่งความทรงจำของเธอ ... 30 ปีต่อมา Laura กลับมาที่แห่งนี้อีกครั้ง เมื่อเธอ, สามีของเธอ - Carlos (Fernando Cayo), และ Simón (Roger Príncep)…
Cinemania
(เขียนเมื่อ 31 ธ.ค.51)จันทร์ ในบ่อ สิ้นปีกันเสียที บรรยากาศตึงๆ ปีนี้อาจทำให้ใครหลายคนอึดอัดและทำท่าจะลากยาวไปถึงปีหน้า ก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆ  คนสู้ๆ กับปัญหาที่รุมเร้า แต่ถ้าเครียดมากลองผ่อนคลายกันด้วยการหาหนังดูมาสักเรื่องสองเรื่อง จะซื้อ จะเช่ามานั่งดูที่บ้านหรือจะออกไปดูตามโรงภาพยนตร์ต่างๆ ก็ได้ ลองออกจากโลกความจริงไปอยู่ในโลกอื่นสักชั่วโมงสองชั่วโมงอาจจะสบายใจขึ้นส่วนถ้าใครยังไม่รู้จะดูเรื่องอะไร ที่ไหนอย่างไร ผมก็มีโปรแกรมหนังรับปีใหม่มาฝาก เป็นหนังฟรีกลางแปลงครับหลายคนคงไม่ค่อยทราบว่าที่มหาวิทยาลัยศิลปากรจะจัดเทศการหนังกลางแปลงกันทุกปี ในวันที่ 7-8-9 มกราคม 2552…