งานวิจัยกับวัยรุ่น

งานวิจัยมากมายทยอยออกมานำเสนอผ่านสื่อมวลชน ในช่วงก่อนวาเลนไทน์ ชนิดที่ว่า นอกจากจะเป็นช่วงเทศกาลวันแห่งความรักแล้ว ยังเป็นเทศกาลนำเสนอผลวิจัยวัยรุ่นอีกก็ว่าได้

งานวิจัยที่ออกมาส่วนใหญ่แล้ว มีลักษณะ “ถ้ำมอง” และ นำเสนอด้าน “ลบ” ของวัยรุ่นเพียงอย่างเดียว ทำนองว่า วัยรุ่นจะมีเพศสัมพันธ์กันมากที่สุดในวันดังกล่าว – ผมเองได้พยายามค้นหาดูว่ามีผลวิจัยหรืองานสำรวจอะไรบ้างที่ให้ข้อเสนอแนะทางออกในเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับเรื่องเพศของวัยรุ่น

นอกจากผลการสำรวจของ เครือข่ายเยาวชนด้านเอดส์ ประเทศไทย (Youth Net) ที่เสนอว่า วัยรุ่นกว่า 70% เห็นว่าควรมีวิชาเพศศึกษาในหลักสูตรของทุกโรงเรียน นักเรียนทุกคนควรได้เรียนเพศศึกษาอย่างต่อเนื่องทุกระดับชั้น และครูควรตอบข้อสงสัยในเรื่องเพศศึกษาของนักเรียนได้อย่างกระจ่างชัด กว่าครึ่งของวัยรุ่นที่ทำการสำรวจ (2,000 คน) ไม่เห็นด้วยต่อประเด็นที่ว่าเพศศึกษาควรสอนเรื่องการรักนวลสงวนตัวเท่านั้น สะท้อนให้เห็นว่าการจัดเพศศึกษาที่เข้าถึงและตอบโจทย์วัยรุ่นได้ทุกคนนั้น จะต้องเริ่มจากการให้ทางเลือกที่หลากหลายสำหรับแต่ละคนที่มีวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ในการจัดการสัมพันธภาพและวิถีเพศของตนเอง

ส่วนด้านการเข้าถึงอุปกรณ์ป้องกันที่ทำให้วัยรุ่นปลอดภัย กว่าครึ่งอยากให้นักเรียนขอรับถุงยางอนามัยที่โรงเรียนได้ และเห็นว่าผู้หญิงควรเป็นผู้พกพา รวมทั้งเห็นว่าสถาบันการศึกษาควรมีนโยบายที่ปฏิบัติต่อเพศทางเลือก เกย์ กะเทย ทอม ดี้ อย่างเท่าเทียม  และในกรณีที่ตั้งครรภ์ ควรได้รับสิทธิให้เรียนต่อได้ทั้งขณะตั้งครรภ์หรือหลังคลอดตามความสมัครใจ เพศศึกษาสำหรับเยาวชนในสถานศึกษา จึงไม่ได้หมายความเพียงการจัดให้มีการเรียนการสอน แต่ยังต้องสะท้อนให้เห็นในการปฏิบัติต่อเยาวชนอย่างเห็นคุณค่าที่เท่าเทียมในมิติอื่นๆ ด้วย

และวัยรุ่นกว่า 70% ยังต้องการให้ผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองพูดคุยและรับฟังความในใจเรื่องความรักและเรื่องเพศ จึงถึงเวลาที่เด็กและผู้ใหญ่ต้องหันหน้ามาเจอกัน เพราะว่าการสอนเรื่องเพศศึกษาเป็นยิ่งกว่านโยบาย เพราะเป็นจิตสำนึกที่จะช่วยดูแลให้เยาวชนอยู่รอดปลอดภัยจากปัญหาเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาจทำลายนักเรียนได้ทุกกลุ่ม

นอกจากผลสำรวจในเชิงสร้างสรรค์ ที่เป็นข้อเสนอแนะและทางออกสำหรับวัยรุ่นต่อเรื่องเพศ ของ Youth Net แล้ว ก็ไม่ค่อยเห็นผลอะไรไปมากกว่านั้น

นอกจากนี้ ความคิดเห็น คนอื่นๆ ต่อผลสำรวจเท่าที่หาได้คือ ที่ “เพ็ญพิลาส เหล็มปาน” จาก คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เสนอว่า

จากปีที่ผ่านๆ มาในเดือนกุมภาพันธ์ก่อนหน้าวันวาเลนไทน์ไม่กี่วัน เรามักจะได้เห็นผลการวิจัยที่พยายามชี้ว่า วัยรุ่นเห็นเรื่องพฤติกรรมชิงสุกก่อนห่ามเป็นเรื่องปกติ เช่น พบว่าวันวาเลนไทน์เป็นวันที่วัยรุ่นตั้งใจจะมีเพศสัมพันธ์กับแฟน และมีการแสดงความรักโดยการสัมผัสอย่างเปิดเผยในที่สาธารณะ และบางครั้งมีเพศสัมพันธ์กันทั้งๆ ที่รู้จักกันไม่ทันข้ามวันตามสถานบันเทิงต่างๆ ผลการวิจัยนี้ก็นำมาซึ่งมาตรการหลากหลายที่ออกมาควบคุมพฤติกรรมวัยรุ่นในวันวาเลนไทน์ ไม่ให้มีเพศสัมพันธ์กันทุกทาง โดยเฉพาะมาตรการสอดส่องโรงแรม เพื่อไม่ให้วัยรุ่นเข้าไปใช้บริการ ตลอดจนตรวจตราสวนสาธารณะและหอพักต่างๆ เพื่อไม่ให้วัยรุ่นเข้าไป “มั่วสุม”



คนทำการสำรวจการวิจัยกับคนคิดมาตรการคงหวังควบคุมพฤติกรรมทางเพศที่เขาคิดว่าไม่เหมาะสมของวัยรุ่นในวันแห่งความรักนี้ แต่ที่น่าแปลกใจอยู่ทุกครั้งคือ ผลการวิจัยมีแนวโน้มจะทวีความรุนแรงของปัญหาขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะลดลง หากเป็นเช่นนี้แล้ว ควรจะตั้งคำถามได้หรือไม่ว่าการวิจัยเช่นนี้มีจุดประสงค์เพื่ออะไร แค่จะประณามวัยรุ่นในรอบปีแค่นั้นหรือ มาตรการที่ใช้ควบคุมพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นนั้นมีประสิทธิภาพจริงๆ แล้วหรือ การมีผลการวิจัยเช่นนี้จึงไม่น่าจะก่อให้เกิดผลประโยชน์อันใดมากนัก ซ้ำร้ายอาจจะทำให้เกิดช่องว่างของความไม่เข้าใจระหว่างผู้ใหญ่กับวัยรุ่นให้ถ่างจากกันมากขึ้น คงจะดีกว่าหากเราทบทวนวิธีการควบคุมพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่นเสียใหม่



สิ่งแรกที่ต้องทบทวน คือ การทำการวิจัยให้มีความสมดุล เพราะผลที่ออกมามักจะเป็นการกล่าวร้ายวัยรุ่นว่าประพฤติตัวเหลวแหลก ผิดวัฒนธรรมอันดีงามของสังคม โดยที่เราไม่ค่อยได้เห็นผลการวิจัยที่แสดงถึงมุมมองความรักและเรื่องเพศจากตัววัยรุ่นเอง ไม่ค่อยสำรวจว่าเขาต้องการความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศแค่ไหน อย่างไร มนุษย์เรามีความคิดที่สลับซับซ้อน การสำรวจวิจัยแค่เพียงผิวเผินคงจะไม่ได้ให้คำตอบที่ถูกต้องที่สุด ของการตัดสินพฤติกรรมทั้งหมดในชีวิตได้ การเปิดโอกาสให้วัยรุ่นได้แสดงความคิดเห็น น่าจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะเราจะได้ทราบถึงมุมมองจากคนที่เป็นผลผลิตของยุคโลกาภิวัตน์ นำไปสู่การคิดหาวิธีแก้ปัญหาที่เหมาะสม ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของเหตุผลซึ่งกันและกันทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่น



ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทบทวน คือ การสอนเรื่องเพศให้กับวัยรุ่น สังคมไทยยังไม่มีการสอนเรื่องการมีเพศอย่างตรงไปตรงมา แทบทุกครอบครัวไม่เคยสอนให้ลูกรู้ว่าการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและรับผิดชอบคืออะไร ต้องอาศัยองค์ประกอบใดบ้าง ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องที่มนุษย์แทบทุกคนต้องเผชิญ แม้แต่สถาบันการศึกษาก็ยังปฏิเสธการสอนเรื่องเหล่านี้ อาจจะสอนเพียงแค่ให้รู้ว่าอะไรคือถุงยางอนามัย แต่ไม่ได้ฝึกฝนให้รู้ถึงการเข้าถึง การเจรจา การสื่อสารกับคู่ในการใช้ ฯลฯ คงจะด้วยวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ถูกขัดเกลากันมานานว่า เรื่องเพศเป็นเรื่องในที่ลับ ไม่ใช่เรื่องปกติที่จะนำมาพูดกัน เมื่อวัยรุ่นเรียนรู้จากผู้ใหญ่ที่ใกล้ชิดไม่ได้ เขาก็ไปเรียนรู้จากสื่อต่างๆ และก็ขาดความเข้าใจที่ถูกต้อง การปิดกั้นวัยรุ่นในวัยที่มีความอยากรู้อยากลอง จึงเหมือนยิ่งห้ามยิ่งยุ



จากนี้ไปจึงหวังว่าวัยรุ่นจะไม่ถูกข่มด้วยผลการวิจัยที่มีน้ำหนักเอียงไปทางกล่าวร้ายวัยรุ่นเพียงฝ่ายเดียว คงจะได้เห็นการวิจัยที่แสดงถึงความคิดเห็นและความต้องการของวัยรุ่น และมุมมองที่เขาอยากให้ผู้ใหญ่เข้าใจ และหวังอีกเช่นกันว่าวัยรุ่นจะไม่ถูกขืนให้ขัดกับธรรมชาติของการมีความรัก และความสนใจในเรื่องเพศ จึงอยากสนับสนุนให้มีการสอนเรื่องเพศอย่างเปิดเผยมากขึ้น อยากให้วัยรุ่นมีความรักอย่างเข้าใจ และมีพฤติกรรมทางเพศที่มีความรับผิดชอบและปลอดภัย โดยเฉพาะพ่อแม่ผู้ปกครองผู้ใหญ่ทุกคนควรจะก้าวข้ามความอายที่จะพูดเรื่องเพศกับลูกหลาน เพื่อเข้าสู่ยุคปรับเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่วิธีแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เพราะเชื่อว่าทุกๆ คนต่างห่วงและรักลูกหลานของครอบครัวและประเทศชาติกันทั้งนั้น

ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับข้อเสนอและมุมมองของ เพ็ญพิลาส เหล็มปาน ในเรื่องมาตรฐานการวิจัย และการนำเสนอข้อมูลที่ไม่ทำร้ายเด็กหรือข้อมูลที่ทำให้มองวัยรุ่นด้วยสายตาลำเอียง

การนำเสนอผลวิจัยด้วยเชิงบวก หรือ เชิงสร้างสรรค์ นั้นยังคงหา “ได้ยาก” จากนักวิจัยหรือสังคมไทย รวมทั้งข่าวที่นำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ด้วย แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าไม่มีเลย เพราะเร็วๆ นี้ จะมีการนำเสนอผลการสำรวจที่เรียกว่า “ตัวชี้วัดการสร้างเสริมศักยภาพเยาวชนไทย Developmental Asset” ที่ดำเนินการศึกษาโดย นายแพทย์สุริยเดว  ทรีปาตี  ผู้จัดการแผนงานสุขภาวะเด็กและเยาวชน (สสส.)  คือ มีหัวใจคือ มองว่าวัยรุ่นเป็นวัยที่มีพลังความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพมาก และเป็นการค้นหาปัจจัยเสริมหรือจุดบวกของวัยรุ่น ครอบครัวและแหล่งชุมชน และการแก้ปัญหาได้โดยการสร้างทางออกที่หลากหลายแก่วัยรุ่นมากกว่าการมองว่า วัยรุ่นเป็นวัยที่มีความเสี่ยงและเป็นปัญหา

กลยุทธ์ในการสร้างคุณลักษณะที่ดีของเยาวชนไทย มีหลายประเทศให้ความสำคัญโดยเฉพาะประเทศสหรัฐสหรัฐอเมริกา ซึ่งกำหนด 40 ดัชนีชี้วัดคุณลักษณะที่ดีของเยาวชนไทย พร้อมๆ กับสร้างเทคนิคให้กับผู้ที่ดูแลเยาวชนให้มีทักษะในการสร้างประสิทธิผล ให้เยาวชนผ่านเกณฑ์ให้มากที่สุด เครื่องมือนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในสหรัฐสหรัฐอเมริกา เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 โดยสถาบันวิจัยในสหรัฐอเมริกาสำรวจในเยาวชนราว 3-4 แสนคน และพัฒนาขึ้นมาเป็น40 ดัชนีตัวชี้วัดคุณลักษณะที่ดีของเยาวชน

ในหลายรายงานการศึกษาของสหรัฐอเมริกาพบว่าเยาวชนหรือครอบครัวที่ผ่านเกณฑ์เกิน 20 ตัวชี้วัด โอกาสที่เยาวชนจะล่อแหลมต่อพฤติกรรมเสี่ยงก็จะยิ่งน้อยลง และหากผ่านเกณฑ์เกิน 30 ตัวชี้วัด แทบจะสรุปได้เลยว่า ครอบครัวเข้มแข็ง เยาวชนแข็งแรง ลดปัญหาสังคมได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ

น่าสนใจที่เร็วๆ นี้ คุณหมอสุริยเดว  ทรีปาตี จะนำเสนอผลที่ได้ดำเนินการ ซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตวัยรุ่นไทย และหวังว่าข่าวดีๆ เช่นนี้คงจะเกิด ปรากฏขึ้น และได้รับการนำเสนอเพื่อให้เกิดความสมดุลของงานศึกษา สำรวจ วิจัย เกี่ยวกับวัยรุ่นบ้างนะครับ...

-----------------------------------
* รวมข่าว
1. แฉคลิปนร. อมนกเขา โชว์มั่วเซ็กซ์บนรถปอ.
 http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=78825
 
2. เข้มวาเลนไทน์ กันเด็ก-มั่วเพศ   http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=78827
 
3. เตรียมเสนอศาล เคอร์ฟิวเด็กแว้น กลุ่มที่เพิ่งโดนจับ
http://www.thairath.co.th/offline.php?section=hotnews&content=78829
 
4. "ระเบียบรัตน์" ค้านแจกถุงยางวันวาเลนไทน์
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=154661&NewsType=1&Template=1
 
5. "ว.วชิรเมธี"เตือนสติหนุ่มสาวต้องรักด้วยสมอง
 http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=154660&NewsType=1&Template=1
 
6. 'กามเทพไฮเทค' บูม ! 'หาคู่ออนไลน์' สาวไทยติดโผ 'ใจถึง'
http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?ColumnId=52880&NewsType=2&Template=1
 
7. ซัดผู้ใหญ่ทำร้ายเด็ก
 http://www.thaipost.net/index.asp?bk=xcite&post_date=14/Feb/2551&news_id=154505&cat_id=200100
 
8. บริษัทจัดหารัก... เอาใจคนไร้คู่รับวันวาเลนไทน์
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01lad01140251&day=2008-02-14&sectionid=0115
 
9. เด็กหญิงลับแลทำสถิติ"ท้อง"
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pro03140251&day=2008-02-14&sectionid=0112
 
10. 14 วิธีสุขสันต์วันวาเลนไทน์ สำหรับวัยรุ่น
http://www.matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01act02140251&day=2008-02-14&sectionid=0130
 
11. ฟุ่มเฟือยพิสูจน์รัก จีนรุ่นใหม่วิวาห์โชว์ออฟ
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROc1lXUXdNVEUwTURJMU1RPT0=&sectionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4TkE9PQ==
 
12. สวนดุสิตถกปัญหาเพศ-"วาเลนไทน์" สื่อมีส่วนหรือไม่-นิมนต์พระมาเทศน์แก้ไขปัญหาวัยรุ่น
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROeVlXb3dNVEUwTURJMU1RPT0=&sectionid=TURNek1RPT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4TkE9PQ==
 
13. เตือนผู้ปกครองดูแลเด็กช่วงวาเลนไทน์
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdNVEUwTURJMU1RPT0=&sectionid=TURNeE5RPT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4TkE9PQ==
 
14. เสมา1ขอคิดก่อนแยกประถม-มัธยม
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TURObFpIVXdNakUwTURJMU1RPT0=&sectionid=TURNeE5RPT0=&day=TWpBd09DMHdNaTB4TkE9PQ==
 
15. สพฐ.ล้อมคอกคัดตัวแทนเขต ตั้งสภา นร.แก้ปัญหาเด็กแว้น-เด็กสก๊อย http://www.banmuang.co.th/education.asp?id=133704
 
16. เปิดคลินิกวัยรุ่นบางรัก บริการดูแลสุขภาพทางเพศ
http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9510000018638
 
17. รองอธ.มสด.ฟันธง! เอกชนเน้นวาเลนไทน์ลืม มาฆบูชา เหตุเด็กตามก้นฝรั่ง http://www.manager.co.th/Campus/ViewNews.aspx?NewsID=9510000018591
 
18. ตะลึงวาเลนไทน์/วัยรุ่นหญิงคะนอง/ซื้อยาคุม-ถุงยาง
  http://www.siamrath.co.th/UIFont/NewsDetail.aspx?cid=56&nid=7306

ความเห็น

ผมเห็นว่าปัญหาความวุ่นวายในสังคมไทย เกิดขึ้นเพราะเราปล่อยสังคมให้เปลี่ยนแปลงแบบมีวิวัฒนาการ หาได้จัดระเบียบของสังคมอย่างเป็นพัฒนาการไม่ นั่นคือขาดการวางแผนระยะยาว ถ้าจะต่อว่ากันก็ต้องพูดว่าเมื่อก่อนที่ประชาชนยังมีจำนวนน้อยทำไมปล่อยปละละเลยเสียได้ ตอนนี้ประชากรมีมากขึ้น ทุกคนต้องแข่งขันกันทำมาหากิน อีกทั้งการสัญจรไปมาก็ไม่สะดวก จะแก้ไขได้อีกครั้งคงต้องรอการขนส่งมวลชนที่รัฐบาลทำ ให้สำเร็จเป็นรูปเป็นร่างก่อน แต่ในระหว่างที่รอ ควรให้ความสนใจต่อการจัดระเบียบสังคมไปพลางๆ นานาอารยประเทศเขาใช้ภาษาเป็นเครื่องมือ สำหรับประเทศไทยก็ควรทบทวนเรื่องการเรียนการสอนภาษาไทยสำหรับคนไทยกันเสียใหม่ เพราะที่แล้วมานั่นมันผิด ทำให้ผู้เรียนที่เป็นเด็กเล็ก ได้เรียนแล้วเกิดปมในจิตใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสอนอ่านหนังสือไทยนั้นเริ่มผิดเพราะใช้หนังสือประถม ก กา เป็นแบบสอนอ่าน ใครสนใจใคร่รู้กรุณาตามอ่านข้อเขียนในเว็บต่างๆที่ผมเข้าไปจุดประเด็นไว้ http://groups.google.co.th./group/-kontaikidpen และที่ http://vanchana.blogspot.com/ และ http://sermpunyabychacrit.space.live.com/ ผมเสนอว่าควรทำภาษาไทยให้เป็นสินค้าเพื่อส่งออก

Submitted by เกรียนสาด ชามะนาว on

เรื่องของเยาวชน ถ้าไม่ได้อธิบายด้วยแนวการเมือง แนวชนชั้น มันก็กลายเป็นขบวนการปัญญาอ่อนน่ะ เอาเด็กไปเข้าค่าย ตบหัวไหล่ตูด เขียนโครงการขอเงินมาผลาญกันไปวันๆ

การประท้วงใหญ่ของนักศึกษาฝรั่งเศส 1968 (ที่ถูกตั้งฉายาว่า Almost Revolution) นั้นปารีสและอีกหลายเมืองกลายเป็นอัมพาตและก็เป็นผลทำให้นายพล (เหล็ก) เดอโกลล์ ไม่สามารถจะอยู่ในอำนาจได้อีกนานต่อไป ในทำนองเดียวกันนักศึกษาอเมริกันก็ทำให้ลินดอน จอห์นสัน ไม่กล้าที่จะสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสมัยสอง (1968)

ของไทยแค่ตอนนี้แค่ต้านเรื่อง ม ออกนอกระบบ พวก ngo มันยังไม่ประสีประสาเรื่องการต่อสู้กับเสรีนิยมใหม่เลย แค่กลัวค่าเทอมแพง แล้ว ngo เด็กมันน่าจะสร้างขบวนการแข็งขันมากที่สุด แต่ไม่มีเหรี้ยไรเลย

ตอนนี้ส่วนขบวนการหนุ่มสาวบ้านเราตอนนี้ไม่มีเหรี้ยไรเลย สนใจแต่สิทธิเสรีภาพการมีผัวมีเมีย วิธีรณรงค์ให้เด็กเอากันถูกวิธี วิธีการเที่ยว ทำกิจกรรมปัญญาอ่อนไปวันๆ

เยาวชนคือพลังสำคัญที่สุดในการเปลี่ยนแปลงโลก ซึ่งเยาวชนต้องเคลื่อนไหวประเด็นการเมือง ประเด็นชนชั้น แบบ จีน ฝรั่งเศส รัสเซีย เมกา ฯลฯ

Submitted by เกรียนสาด ชามะนาว on

ปัญหาที่เยาวชนโดนด่า เด็กแว้น เด็กแกงค์ เด็กติดยา ไอ้พวกนี้ก็จะอาศัยคำน้ำเน่าแบบผู้ใหญ่ปัญญาอ่อนนักสังคมสงเคราะห์ อาทิ พ่อแม่ไม่มีเวลาให้ เกิดจากการละเลยเด็ก ขาดความอบอุ่น เด็กต้องการแสดงออก บลาๆๆๆๆ

ถูกต้อง แต่มันก็จะจบที่ว่า ดังนั้นเราควรเข้าใจพวกเขา หยิบยื่นโอกาส ไรพวกนี้ จบได้สั้นตรีนมาก

มันต้องแก้ปัญหาทางชนชั้น พ่อแม่ต้องหาเช้ากินค่ำ ใครจะมามีเวลาให้เด็กฟระ ต้องทำให้พ่อแม่ทุกคนเท่าเทียมมีรัฐสวัสดิการ อะไรแบบนี้พวกมันไม่เคยพูดถึง ไอ้พวก ngo เด็กน่ะ

เด็กอยากแสดงออก ที่ต้องไปแข่งรถ ดมกาว เล่นม้า ก็เพราะพวกเขาไม่สามารถไปเล่นกอล์ฟ เล่นโกคาร์ท ท่องเที่ยวล่องแก่งในยุโรป เที่ยวแบบชนชั้นกลางได้ เพราะส่วนใหญ่มันจนกัน

ก็ต้องทำให้หายจน รณรงค์เรื่องการเมืองแบบเยาวชนทั่วโลกในขนาดนี้ที่เขาสู้ประเด็นการเมืองกันหมดแล้ว

เยาวชนปัญญาอ่อนไทยที่นำด้วย ngo แมร่งไม่มีเหรี้ยไรเลย โดนครูพละเฆี่ยนก็เรียกร้องกันจะเป็นจะตายไปหาสรยุทธ ออกทีวี ถุย เหยียบขี้ไก้ไม่ฝ่อ เทียบกับทหารเด็กของฉานสเตทไม่ได้

สภาเด็กก็เป็นที่เอาไว้หัดให้ ngo เด็กกลายเป็นอำมาตย์ในอนาคต (ทั้งนักการเมือง อำมาตย์ ngo )

Submitted by เกรียนสาด ชามะนาว on

ยิ่งงบประมาณทำค่ายเด็ก แมร่งเยอะมาก

แต่เอาเด็กไปเข้าป่า เข้าค่ายในที่บรรยากาศธรรมชาติ (แอบแดกเหล้ากันด้วย) ไปอบรมความโรมานติคของชีวิต ความซึ้งของชีวิต เล่นกิจกรรมหัวไหล่ตูดกัน ส้นตรีนจริง

เราจะได้เยาวชนส้นตรีนจากค่ายนั้น มองปัญหาด้านเดียว หาความงดงามของชีวิต เป็นศิลปินไม่รับใช้สังคม เพิ่มมาให้หนักโลกอีก

ทำค่ายแบบเอาเด็กไปดูไซต์งานก่อสร้าง ไปดูแรงงานข้ามชาติในโรงงานฆ่าไก่ ไปดูชีวิตในสลัม ไปดูพี่น้องชนเผ่าโดนโครงการ Big โครงการหญ้าแฝก(ของท่านผู้นั้น)กระทำย่ำยี หรือเอาไปดูชีวิตในคุก ไปดูห่าเหวต่างๆ บ้างดิ

นี่แหละโลกอีกด้านที่ต้องการพลังเยาวชนมาช่วยเปลี่ยนมันให้ดีขึ้น ...ถ้ามันยังมีนะ ไอ้พลังเยาวชนส้นตีนที่เอามาอวดอ้างกันอย่างสวยงามเนี่ย!!

Submitted by KATAPO on

เราไม่ไ้ด้เจอแต่ "ผู้ใหญ่แอบมองแล้ววิพากษ์เด็กเท่านั้น"

ในสังคมปกติ ถ้าเรามองดีๆเราก็จะพบว่า เด็กเองก้เห็นเรื่องเหลานี้เป็นเรื่องเคยชินและปกติ
และพวกเขาเองก็กร่นด่า คนที่ทำแบบนี้ด้วยเหมือนกัน

ในค่าย เวิร์คชอบ หนึ่งค่ายที่นำเอาวัยรุ่นจาก ร.ร.ต่างๆมาประกวดทำหนังกัน
จากกิจกรรมชวนคิด ชวนคุย...เราพบคำจำนวนหนึ่งหลุดออกมาเป็นคำปกติ
"ละครไทยน่ะ มีแต่ฉากตบจูบๆ เด็กชอบเลียนแบบ"
"เด็กไทยเลียนแบบวัฒนธรรมต่างชาติ เลียนแบบหนังโป๊"
"ไอ้พวกชอบแข่งรถ มันไม่รักพ่อแม่ ไม่รักครอบครัว"
"หนูไม่รู้ว่า ทำักนไปได้ยังไง ไม่รู้จักรักพ่อแม่ ไม่ตั้งใจเรียน ไม่รักตัวเอง"
ฯลฯ

ทายสิ ประโยคเหล่านี้ คนอายุเท่าไหร่พุด
15-18 ไม่เกินนี้

ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่หรอก ที่จับผิดเด็กๆ
แต่มีบางอย่างในสังคมที่สอนให้คนยกตน แล้วก็ตัดสินคนอื่นที่ไม่เหมือนตัวเอง

ประเด็นอยู่ที่ "บางอย่าง" ฝังราก เจาะลึกแล้วดูเหมือนจะกลายเป็นธรรมชาติของโลกนี้ไปแล้ว

Submitted by เกรียนสาด ชามะนาว on

เด็กอย่างที่ไอ้ KATAPO วิจานนั้น
มีสิทธิ์เปนใหญ่เปนโตได้ รู้จักพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น
เหนด้วยกับเอ็งมาก ไอ้ KATAPO

ไอ้เด็กที่ทำตัวเท่แบบว่าพูดคนอื่นเรวหมด อนาคตมันสดใส ถ้าก้าวสู่หนทาง NGO's
เพราะมีราศรีจับ จได้เป็น ขุนนาง NGO's รุ่นต่อไป

KATAPO เขียนได้ดี เขียนได้ถูกต้อง เราอ่านแล้ว เราชอบมาก

เพศวิถีมีชีวิต : การเปลี่ยนแปลงจากภายใน อะไรที่ท้าทายเรา?

จากที่ข้อเขียนเรื่องเพศวิถีมีชีวิตทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การวางความคิด เรื่องการเปิดใจคุยเรื่องเพศของตนเอง เรื่องความหลากหลายในรักและความสัมพันธ์ ความรักต่างเพศนิยม เรื่องกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นความพยายามที่จะมาสรุปในตอนท้ายของบทความนี้ว่า หากเราจะคุยเรื่องเพศวิถีจากมุมมองภายในจากชีวิตของเรานั้น เพื่อสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในตัวเอง อะไรที่เป็นความท้าทายที่จะนำไปสู่การจุดประกายให้แต่ละคนได้กลับมาสำรวจ ตั้งคำถาม และสร้างการเรียนรู้เรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้โดยอาศัยทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของแต่ละคน

เพศวิถีมีชีวิต : เพศวิถีของวัยรุ่นในวันที่โลกหมุนเปลี่ยน

โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ ความสัมพันธ์ทางเพศของมนุษย์มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ในสังคมสมัยก่อน เช่น ในภาคเหนือ การจีบสาวของคนล้านนาจะมีการค่าว (คล้ายลำตัดของภาคกลาง) ตอบโต้กันไปมา การจีบกันต้องให้เกียรติผู้หญิงเป็นคนเลือกคู่ หรือหากจะแต่งงานก็ต้องมีการใส่ผี คือการวางเงินสินสอดจากฝ่ายชายเพื่อบอกกับผีปู่ผีย่าของฝ่ายหญิงให้ทราบว่าจะคบกันแบบสามีภรรยา

เพศวิถีมีชีวิต: เคารพในความหลากหลาย รักเลือกได้อย่างมีศักดิ์ศรี

ความคิด ความเชื่อเรื่องเพศที่หล่อหลอมเรามาว่า ควรมีชายกับหญิงเท่านั้นที่คู่กัน สิ่งนี้เป็นความคิด ความเชื่อที่ฝังหัวเรามาตลอดจนเราไม่ได้ตั้งคำถามกับตัวเองเลยว่าทำไมเราจึงต้องรักเพศตรงข้าม และการที่เรารักเพศเดียวกันนั้นจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ

เพศวิถีมีชีวิต: ชีวิตทางเพศ เริ่มคุยจากตัวเอง

สำหรับชีวิตส่วนตัวแล้ว ผมเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่เติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูของแม่และพี่ๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้หญิง เห็นการทำงานของผู้หญิงที่ “ศูนย์เพื่อน้องหญิง” จ.เชียงราย เห็นความเข้มแข็งในการทำงานของแม่ของพี่ๆ แต่ละคนแล้ว ทำให้ผมเห็นว่าความเป็นหญิง ความเป็นชาย แท้จริงแล้ว ทุกคนก็สามารถทำอะไรได้เหมือนกัน แต่ทว่าการเลี้ยงดูหล่อหลอมของสังคมกลับบอกว่าแบบนี้ผู้หญิงควรทำ แบบนี้ผู้ชายควรทำ

เพศวิถีมีชีวิต: การเปลี่ยนแปลงจากภายใน

เปิดใจเรียนรู้ประสบการณ์ภายในตน

ผมเริ่มต้นทำงานในประเด็นเรื่องเพศ ตอนอายุน้อยๆ จากวันนั้นมาวันนี้ ระยะเวลาหลายปี ที่อยู่บนเส้นทางนี้ได้เจออะไรหลายอย่าง ได้เรียนรู้ ประสบการณ์ทำงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบทบาทหน้าที่ใด ความรับผิดชอบแบบไหน องค์กรระดับชุมชนหรือเครือข่ายก็ตาม งานต่างๆ เหล่านี้ทำให้ได้ทำประโยชน์ต่อตนเองและคนอื่นไปพร้อมๆ กัน

ผมไม่อาจเรียกตัวเองได้อย่างเต็มปากว่าเป็นคนทำงานเพศวิถี เพราะเข้าใจว่าเรื่องเพศวิถีนี้มีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และไม่อาจจะบอกได้ว่าตัวเองเป็นนักพัฒนาสังคม เพราะบ่อยครั้งก็ยังมีคำถามเกิดขึ้นมากมายกับตัวเองว่าที่ว่าเป็นนักพัฒนาสังคมนั้น แน่นอนว่าเราต้องทำประโยชน์เพื่อคนอื่นๆ ที่กำลังเผชิญกับปัญหา เผชิญกับความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า หรือแม้แต่เรื่องสื่อและโลกาภิวัตน์