Skip to main content

กฏหมายอุ้มบุญ ทางแพร่งที่ต้องเลือกเดิน

เกริ่นนำ  บทความชิ้นนี้เคยเขียนเพื่อเผยแพร่ครั้งหนึ่งแล้วที่ www.prachatai.com และ www.thaingo.org เพื่อเปิดประเด็นกับสังคมเรื่องกฏหมายรับจ้างตั้งท้องแทน เพื่อขยายมุมมองมากขึ้น ผู้เขียนพยายามวิเคราะห์แนวคิดตนเองลงไปในบทความและนี่ยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมด เพราะยังมีประเด็นที่มีความแตกต่างหลากหลายอยู่

ภาพจาก http://babyhothit.blogspot.com/2...399.html

     "โดยที่เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธ์ในปัจจุบันได้เจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและได้ช่วยคู่สมรสฝ่ายหญิงซึ่งไม่สามารถตั้งครรภ์ให้สามารถมีบุตรได้ด้วยการให้หญิงอื่นตั้งครรภ์แทน แต่การดำเนินการให้มีการรับตั้งครรภ์แทนอาจก่อให้เกิดการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากหญิงที่รับตั้งครรภ์แทน หรือจากเด็กที่เกิดจากการรับตั้งครรภ์แทน ประกอบกับสถานภาพทางกฎหมายของเด็กที่รับตั้งครรภ์แทนยังขาดความชัดเจน ดังนั้น เพื่อควบคุมมิให้มีการแสวงหาประโยชน์จากการรับตั้งครรภ์แทนโดยมิชอบ และกำหนดสถานภาพทางกฏหมายของเด็กที่เกิดจากการรับตั้งครรภ์แทนให้มีความชัดเจนและเหมาะสมจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้" (ร่างหลักการและเหตุผล พระราชบัญญัติการรับตั้งครรภ์แทน พ.ศ. ....) 

     ท่ามกลางกระแสสังคมที่เร่งรีบและสับสนสังคมที่มุ่งสู่กระแสแห่งความโดดเดี่ยวที่ต้องทุ่มเทให้ทั้งเวลาการงานการดำรงชีพนั้น บางคู่บางครอบครัวถึงกับไร้ซึ่งเวลาที่จะอยู่ร่วมกันและทำให้สุขภาพทางใจ สุขภาพทางกาย รวมถึงสุขภาพทางเพศ อ่อนแรงและไร้พลังจนยากที่จะมีบุตรหลาน เพื่อยืนยันถึงความเป็นครอบครัวในฝัน ทางออกของบางคู่จึงเป็นต้องใช้กรรมวิธีช่วยการเจริญพันธุ์ (Reproductive) หรือ เทคโนโลยีช่วยเจริญพันธุ์ (Reproductive Technology) เพื่อให้ได้ทายาทสัญลักษณ์ความเป็นครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่ว่าการที่จะได้ครอบครัวที่สมบูรณ์นั้นได้มาอย่างไร? เป็นคำถามที่น่าคิด เมื่อเกิด "ร่างพระราชบัญญัติการรับตั้งครรภ์แทน พ.ศ ...." อันเป็นเสมือนหนึ่งเครื่องมือที่สร้างเพื่อให้ตอบปัญหาดังกล่าว ในขณะที่ร่างพระราชบัญญัติกำลังเกิดขึ้นประเด็นอีกมุมมองหนึ่งก็เป็นภาพที่ควรถูกหยิบยกมานำเสนอ เพื่อหาช่องว่างและร่วมแก้ไขไปพร้อมกัน

เมื่อผู้หญิงเป็นเครื่องมือเพื่อการสืบพันธุ์

ประเด็นดังกล่าวนอกจากเป็นสิทธิทางการอนามัยเจริญพันธุ์แล้ว ยังถือเป็น "สุขภาพทางเพศ (Sexual Right) และ สิทธิอนามัยเจริญพันธุ์ (Reproductive Right)" ซึ่งหมายถึง สิทธิในร่างกาย สิทธิความเป็นบุคคลและสิทธิที่จะตัดสินใจอย่างเป็นอิสระได้ด้วยตัวเอง อันเป็นหลัการที่มีความหมายมหาศาลภายใต้สังคมที่ถือความสำเร็จของครอบครัวคือการมีทายาท ข้อท้าทายในร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวคือ เมื่อการตัดสินใจอุ้มบุญ (อุ้มท้อง) ให้ใครคนหนึ่งมันยากเพียงไร เพราะการที่จะตัดสินใจได้นั้นต้องประกอบด้วยการที่เข้าถึงและการับรู้ข้อมูลอย่างรอบด้าน (Right to Information and Education) ทั้งผลที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ผลที่เกิดขึ้นต่อสถานะทางสังคม หรือเรื่องอื่นๆ หากการรับข้อมูลที่ไม่รอบด้านสิ่งอันตรายที่ตามมาคือ การตัดสินใจที่ผิดพลาด และผลที่ตามมานั้นอาจเป็นทั้งประเด็น การไม่อยากรับตั้งท้องต่อไปหรือแม้กระทั่งการทำแท้งเป็นต้น รวมถึงข้อมูลที่รอบด้านนั้นจำเป็นที่ต้องยังต้องคำนึงถึงหญิงที่รับจะมาตั้งครรภ์ที่ต้องดูสภาวะการตัดสินใจ โดยตัวแปรหนึ่งที่สำคัญมากก็คือ การศึกษา อายุ และวุฒิภาวะทางอารมณ์ เช่น เด็กหญิงที่อยู่ในระดับเยาวชน วันหนึ่งคิดอยากรับตั้งท้องโดยได้ข้อมูลต่างๆ มา แต่อีกวันไม่คิดสิ่งตามมาเป็นอย่างไร และการที่ยังต้องเรียนและยังต้องดำเนินชีวิตในสังคมเด็กหญิงหรือเยาวชนเหล่านั้นจะรับปัญหาได้หรือไม่ เป็นประเด็นที่น่าห่วงและจำเป็นหรือต้องระบุอายุของผู้ที่จะรับตั้งครรภ์แทน โดยร่างพระราชบัญญัติฯ ดังกล่าวระบุไว้เพียง (มาตรา 10 (2) หญิงที่รับตั้งครรภ์แทนมีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์)

ลูกของเรา (แต่) พ่อแม่เขาเป็นใคร?

     ท่ามกลางการตั้งท้องอย่างยากลำบากมานาน 9 เดือนเต็ม ของคุณแม่อุ้มบุญ (คุณแม่จำเป็น) พร้อมกับการยกลูกน้อยให้ พ่อแม่ (เจ้าของไข่และอสุจิ) คำที่ได้มานั้นเป็นเพียงการขอบคุณและสัญญาที่ทำไว้เป็นกระดาษเปล่าแต่เหมือนเครื่องพันธนาการแห่งพันธสัญญา เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าคิดถึงแม้ว่าจะคิดมากยังไง แต่สายสัมพันธุ์ที่หญิงคนหนึ่งต้องอุ้มท้องมา 9 เดือน คงยากมากกับการที่จะยกลูกตนให้ใคร และคงจะยากยิ่งกว่าเมื่อความรู้สึกของคนเป็นแม่นั้นได้เกิดขึ้นแล้ว การกระดาษสัญญาเพียงแผ่นเดียว (สัญญาอุ้มบุญ) เป็นเครื่องมือเพียงไรในการประกันความรู้สึก หรือ แม้กระทั่งกันความสัมพันธ์ของคำว่า "แม่" ให้เหลือแต่เพียงคำว่า "แม่อุ้มบุญ" แม่ที่ผู้ที่เขาได้อาศัยท้องเกิดมาเพื่อการดูโลกและเป็นสิ่งที่เติมเต็มให้กับบางครอบครัว หรือ ชายหญิงคู่หนึ่งเท่านั้น

อุ้มบุญเมื่อความรักกลายเป็นธุรกิจ

     "อุ้มบุญ" ชื่อที่เปี่ยมไปด้วยความรักและความห่วงใย แต่เมื่ความรักความห่วงใยภายใต้อุ้มบุญโอบอุ้มแห่งความรัก มีธุรกิจแอบแฝง แต่เมื่อร่างพระราชบัญญัติรับตั้งครรภ์แทน พ.ศ. .... (มาตรา 7 หญิงที่รับตั้งครรภ์แทนมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนหรือสิทธิประโยชน์อื่นที่จำเป็นตามสมควร และไม่มีลักษณะเพื่อความประสงค์แห่งการค้า ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดหรือ มาตรา 10 (6) การรับตั้งครรภ์แทนมิได้เป็นไปดพื่อประสงค์แห่งการค้า) ที่บอกว่าการอุ้มบุญหรือการับจ้างตั้งครรภ์แทนนั้นต้องมิได้เป็นไปเพื่อการค้า หรือแม้กระทั่งการหวังซึ่งผลประโยชน์ อามิสสินจ้าง การกระทำนั้นมีความผิด เป็นเรื่องที่น่าคิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะเป็นไปได้อย่างไรกระทั่งว่าระบบการตรวจสอบดังกล่าวจะเป็นแบบไหน เพราะการที่จ้างบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาตั้งท้องนั้น ต้องตรวจสอบเขาก่อนหรือไม่ว่าเขามีเงินเพียงไรก่อนท้อง หรือ กระทั่งขณะ ท้องหลัง เงินทองและทรัพย์สินมีมากขึ้นจนเป็นที่ผิดปกติหรือไม่ ประเด็นมิได้อยู่เพียงคำตอบเดียวเมื่อมันกลายเป็นคำตอบที่เป็นธุรกิจมนุษย์ แล้วผลที่ร้ายแรงตามมาจะเป็นอย่างไร หรือกระทบแบบไหน

ทางเลือก (ทางเสี่ยง) ที่ต้องระวัง

     ร่าง พระราชบัญญัติการรับตั้งครรภ์แทน พ.ศ. .... เป็นเสมือนหนึ่งเปลวเทียนที่เติมเต็มนิยามของครอบครัวที่หลากหลายคู่ใฝ่ฝัน แต่ท่ามกลางความฝ่ฝันของใครหลายคนก็เป็นความเสียงที่ต้องตามดู ทั้งความหมิ่นเหม่ต่อเรื่องศีลธรรม สายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก หรือแม้กระทั่งอาชีพ "อุ้มบุญ" ที่อาจเป็นอาชีพยอดนิยมที่ทำรายได้งามอนาคตก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นท่ามกลางทางเลือกต้องคำนึงถึงความเสี่ยงอย่างรัดกุมที่ต้องติดตามดูจาก ร่างพระราชบัญญัติการรับตั้งครรภ์แทน พ.ศ. ....

หมายเหตุ ภาพประกอบจาก www.thaingo.org

บล็อกของ นายหมูแดงอวกาศ

นายหมูแดงอวกาศ
สวัสดีครับ ทุกท่าน และสวัสดีครับกอง บก.ประชาไท สวัสดีปีใหม่ครับ 2555 
นายหมูแดงอวกาศ
" ผมอยากบอกว่าชีวิตผมช้าลง  และชีวิตผมเองเป็นของผม" "ผมอยากบอกว่า ผมนิ่งและได้นั่งคิดอะไรมากขึ้น" "ผมอยากบอกว่า เวลาที่เราว่างบ้างดูตัวเองก็ดีนะ"
นายหมูแดงอวกาศ
     เมื่อวันที่ 28 ตุลา ที่ผ่านมาผมได้เดินทางมาจากต่างจังหวัดและเสร็จภาระกิจการทำงาน  กำลังภารกิจการใช้ชีวิตตัวเองทั่วไป นั่นหมายถึงผมอยากดูหนังสักเรื่อง กินอะไรที่ผมอยากจะกินสักอย่
นายหมูแดงอวกาศ
       ก่อนอื่นผมบอกก่อนนะครับผมอ่านบทความเรื่อง การล้มโต๊ะจีนพี่จินตนา แห่งบ่อนอกหินกรูด ถ้าใครทำงานเคลื่อนไหวคงรู้จักพี่คนนี้ดี  ผมเองก็เคยเห็นพี่หลายครั้ง นับเป็นแกนนำที่แน่วแน่และนักเลงคนหนึ่งเลยครับ ตรงไปตรงมา เอาไงเอากันไปเลย นี่แหละพี่น้องเรา 
นายหมูแดงอวกาศ
     เพื่อนวันนี้เครียดวะมาเมากันไหม....เพื่อนผมก็รับทันทีไปกันไปไหนก็ไปผมเลยตกลงกับเพื่อนมานั่งที่สุดสะแนน  สั่งมาทั้งหลายเมนู เมนูโปรดพวกเราทุกทีที่ไปคงเป็นผัดเผ็ดกบ เกาเหลาแห้ง และที่สำคัญเมรัยสักกลมคงดี
นายหมูแดงอวกาศ
เล่าเรื่องหนังThe battleship potemkin  
นายหมูแดงอวกาศ
step up 3 เต้นไปตามจังหวะชีวิต   (-เต้นไปตามจังหวะชีวิต-)ZZZZZ  
นายหมูแดงอวกาศ
ความทรงจำบางๆ ที่เมืองเชียงตุง     ครั้งหนึ่งผมยังจำได้ผมได้ไปเที่ยวเมืองเชียงตุง  เมืองแห่งประวัติศาสตร์ที่สัมพันธ์กับคนเมือง ชาติพันธุ์ไทเขิน ไทยอง คนเมือง หรืออื่นๆ  แต่บอกได้คำเดียวเชียงตุงยังคงเป็นเมืองที่บริสุทธ์มาก ทั้งธรรมชาติวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของคนท้องที่ที่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
นายหมูแดงอวกาศ
ปล.ผมเอางานเก็บข้อมูลที่ผมไปลงพื้นที่มาร่วมแลกเปลี่ยนครับ วันนี้อาจเปลี่ยนไปบ้างเพราะเอาเนื้อหามาล้วน "น่าคิดว่าสวัสดิการมีคนพูดเยอะหลายเครือข่ายไปเคลื่อนทางนโยบาย แต่ต้องถามแล้วรูปธรรม (อันที่จับต้องได้คืออะไรหน้าตาแบบไหน) เลยลองเอามาแลกเปลี่ยนกันครับ" ว่าจากการทำงานของเครือข่าย จันทรบุรี ตราด ที่เอาทุนทางสังคมมาจับและเป็นตัวเล่นนั้น ฐานการเงินสัจจะออมทรัพย์ พัฒนาเป็นกองทุนสวัสดิการช่วยเหลือคนในชุมชน พระสงฆ์คือนักจัดสวัสดิการ   "เครือข่ายพระสงฆ์เพื่อสวัสดิการผนึกพลังเพื่อการขับเคลื่อนสวัสดิการชุมชน จากหลักธรรมนำมาสู่หลักการเงินเพื่อการพัฒนาชุมชนอย่างเข้มแข็ง"  
นายหมูแดงอวกาศ
กาดคนเตว ถนนคนเดินเมืองลำปาง.....   เรามักคุ้นๆ ถนนคนเดินของเชียงใหม่เป็นหลักใช้ไหมครับ วันนี้เลยนำเสนอถนนคนเตว(ถนนคนเดินเมืองลำปาง) ที่บรรยากาศดีไม่แพ้ใคร และที่สำคัญยังคงประวัติศาสตร์กลิ่นอายเก่าของเมืองลำปางอยู่ ทั้งบ้านเรือน อาหาร และอื่นๆที่บางคนเห็นแล้วประทับใจ ผมเองก็ยังประทับใจมากๆเลย (ปล.เพราะเป็นบ้านเกิดตัวเองไงครับ 555) แต่จะหาว่าผมโม้ลองชมภาพที่ผมถ่ายมาให้ทุกท่านและบรรยายในแต่ละภาพไปแล้วกันนะครับ ไม่รู้ทุกท่านจะรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า จะทำหน้าที่ฉายภาพถนนคนเดินเมืองลำปางให้ดีที่สุดครับ
นายหมูแดงอวกาศ
เอ็นจีโอ สายพันธุ์ใหม่ 2010 ภาพจาก desertpeace.wordpress.com             หลายครั้งผมเคยถามตัวเองว่าผมคืออะไร  ผมคือนักพัฒนา ผมคือภาคประชาสังคม หรือผมก็คือเอ็นจีโอนั่นแหละ  เอาเป็นว่าผมก็คงเป็นได้ทุกอย่างที่ผมอยากจะเป็นและก็คงเป็นทุกอย่างที่ผมสามารถทำงานได้เพื่อ..... ที่ผมตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ขึ้นมา ยอมรับว่าต้องใช้ความกล้าหาญหลายครั้ง แต่ก็ยอมรับต้องถึงเวลาออกมาพูดคุยกันสักที เพราะช่องว่างระหว่างรุ่นพี่และรุ่นน้องเริ่มขยับไกลออกจากกันไปทุกที ความคิดความเชื่อกลวิธีก็ต่างกันไปตามลำดับของกาลเวลา แต่ต้องบอกและต้องเน้นย้ำตรงกัน "…
นายหมูแดงอวกาศ
    อ.ไพบูลย์..เล่าให้ฟังหนังเรื่องอวตาร   "ผมว่ามนุษย์มีหางนี่แปลกนะ ที่แปลกกว่านั้นมันเสียบปลั๊กกับต้นไม้ได้มันเหมือนมีเส้นประสาทอยู่"   อ.ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม 4 กพ. 2553       รูปจาก http://gotoknow.org/file/suthepkm  ขอยืมรูปของ พี่สุเทพ จาก พอช.ก่อนนะครับ           วันนี้(4 กพ. 2553) อ.ไพบูลย์ วัฒนศิริธรรม ได้เข้าร่วมประชุมที่ พอช. ในฐานะประธานคณะทำงานอนุฯกรรมการสภาองค์กรชุมชน ผมเห็นท่านวันนี้ท่านร่าเริงแจ่มใสยังโอบอ้อมอารีอยู่เสมอ ระหว่างรอประชุมนั้นอาจารย์ได้เล่าให้ฟังเรื่องต่างๆมากมาย…