Skip to main content

พาไปเดินเล่นข้างเครือกล้วยดีกว่า ที่ร้านจะมีกล้วยน้ำว้าเป็นเครือแขวนไว้หน้าร้านตรงประตูทางเข้า เดินเข้ามาจะเห็นกล้วยก่อนอื่น เจ้าของร้านเธอเห็นกล้วยลูกอวบอ้วนเป็นเครือดูงามนัก เธอก็เลยซื้อมาแขวนไว้ เผื่อให้แขกที่มา หรือเด็ก ๆ ในร้านได้กินกัน

กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้บ้าน ๆ ให้ความรู้สึกเป็นบ้าน เป็นความธรรมดา แต่เมื่อนำมาแขวนไว้หน้าร้านอาหารก็ไม่ค่อยจะธรรมดา คำถามเกิดขึ้นจนเบื่อจะตอบ และจนตอบเป็นความเคยชิน ว่ากล้วยมีไว้ให้กิน ไม่ได้ขาย พอมีไว้ให้กิน เราก็เว้นวรรคไว้โดยไม่บอกว่ากินแต่พออิ่ม พอคนเท่านั้น กินข้าวเสร็จเดินออกมาเจอกล้วยน้ำว้าล้างปากช่วยท้องเป็นสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มีให้โดยไม่คิดอะไร

เรื่องไม่จบเท่านั้น วันเวลาผ่านไปสิบกว่าปี กล้วยน้ำว้าธรรมดา ๆ กลายเป็นกล้วยโชว์นิสัยของคน บางคนถามแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ว่ากล้วยนี้กินได้ หรือนำมาขาย เมื่อเราตอบว่ากินได้ เขาก็ปลิดไปหนึ่งลูกเดินกินกล้วยออกจากร้านไป เป็นภาพน่ารักดี บางคนกินสองลูก บางคนปลิดสามอุ้มกล้วยออกจากร้าน บางคนห้าลูก บางคนเด็ดเอาไปเป็นหวีก็มี

ทั้งนี้ทั้งนั้นเจตนาของคนต่อกล้วยล้วนแตกต่างกันไป บางคนอยากได้ไปฝากลูกที่บ้าน บางคนอยากได้เพราะเห็นเป็นของฟรี บางคนขออย่างสุภาพ บางคนเกรงใจอยากได้เป็นหวีก็ขอแบ่งซื้อ บางคนเหลียวซ้ายเหลียวขวาหอบกลับไป

บางวันลูกค้ากลุ่มใหญ่ซื้อของที่ระลึกจากฉันแล้วเดินไปรอรถ ระหว่างรอก็จับกลุ่มกินกล้วย ฉันได้ยินเสียงแว่ว ๆ จากเพื่อนของเธอว่ากล้วยนี่เค้าให้กินฟรี แล้วซีดีนี่เค้าไม่แจกเหรอ เธอรีบวิ่งกลับมาหาฉัน ถามว่ากินอาหารในร้านแล้ว ตรงนี้ยังต้องซื้ออีกเหรอ ซีดีนี่ไม่แถมเหรอ ฉันอึ้งเงยหน้า น้องจี๊ดวิ่งปรี๊ดขึ้นมาหาพี่อารมณ์ ชักสีหน้าสั่นศีรษะอย่างเร็วคิ้วขมวดตอบไปว่า "190 บาทเนี่ยนะ แถมเข้าไปยังไงคุณ"

หลายวันก่อนมีกล้วยสีดำแขวนไว้หน้าร้าน เจ้าของร้านเธอชอบสีดำ เธอภูมิใจเสนอกล้วยสีดำเครือนี้มาก แขกไปไทยมาล้วนแต่หยุดลูบคลำถามไถ่ว่ากล้วยอะไรหนอ เป็นกล้วยต้นที่บ้านและเธอตัดมาแขวนไว้เพราะความงามและสีสัน สั่งพนักงานต้อนรับไว้ว่าห้ามใครเด็ด เพราะกล้วยยังไม่สุก ยังกินไม่ได้ ขอแขวนไว้ชื่นชมก่อน สองวันผ่านไปกล้วยยังไม่สุก แต่หายไปหนึ่งลูก เธอเริ่มหงุดหงิดเหมือนมีใครมาเด็ดกระดุมเสื้อออกไปหนึ่งเม็ด หลายวันต่อมา กล้วยหายไปครึ่งเครือ เธอสั่งให้เด็กยกขึ้นบ้านด้วยความงุนงงว่า กล้วยยังไม่สุก กินไม่ได้แล้วคนเด็ดไปทำไม ฉันแนะนำเธอให้เขียนติดไว้ว่า "กล้วยมีพิษ"

ร้านอาหารที่มีกล้วยน้ำว้าให้แขกกินนั้น บางเวลาฉันก็รู้สึกเป็นกล้วยท้าทายทางธุรกิจ หลายคนเข้ามาเจอกล้วย ก็กินกล้วยก่อนลูกสองลูก แล้วจึงเข้าไปสั่งอาหารกิน มีกล้วยเข้าไปขวางทางอาหารในท้องแล้วจะสั่งอาหารกินได้น้อยลงหรือเปล่า หรือประชากรกล้วยเหล่านี้ล้วนแต่เป็นค่าใช้จ่าย เดือนหนึ่งจะว่าน้อยก็น้อย จะว่ามากก็มากขึ้นอยู่กับเดือนไหน เดือน low season ต้องตัดค่าใช้จ่ายทุกอย่าง แต่กล้วยยังอยู่ ดอกไม้สดยังมี พนักงานบางคนแอบบ่นเสียงดังว่า ร้านบอกให้ประหยัด แล้วดอกไม้นี่ซื้อมาทำไม เดือนนึงตั้งหลายพัน บางเดือนเป็นหมื่น

พนักงานที่ทำงานโดยไม่เคยซึมซับว่า อาหารที่เขาทำนั้นให้ชีวิต แต่ดอกไม้นั้นให้เหตุผลที่จะมีชีวิต เขาจึงต้องออกไปใช้ชีวิตในแบบของเขา ร้านที่ไม่มีดอกไม้ทำให้นักร้องไม่มีอารมณ์ร้องเพลง ร้านมีชีวิตเพราะไม่ได้เปิดซีดีให้แขกฟัง แต่มีดนตรีและเสียงเพลงที่ร้องสด ๆ มีอารมณ์ที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ บางวันนักร้องทำโทรศัพท์หาย คิดถึงข้อความหวานซึ้งที่ลูกชายส่งมาทิ้งไว้ให้อ่านยามเหงา เธอก็ร้องเพลงเศร้าแล้วร้องไห้เพราะคิดถึงโทรศัพท์!! จนแขกงงว่ามีใครเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมนักร้องร้องเพลงไปร้องไห้ไป

กล้วยก็เช่นกัน ฉันคิดว่ากล้วยไม่ใช่แค่กล้วย แต่เป็นอาหารสำหรับหัวใจบางห้องที่ต้องแบ่งปัน และมีความสุขเมื่อเห็นคนกินอิ่มแล้วกินกล้วยเดินออกไปจากบ้านของเรา บ้านที่คนซื้อไม่ชอบกินกล้วยน่ะ!

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
  แผนการเดินทางครั้งนี้เริ่มจากการคุยเรื่องทำหนังสือไกด์บุ๊คของฉันกับน้องแอน น้องแอนเธอเพิ่งกลับจากหลวงพระบางมา เธอไปอยู่ 15 วัน และรู้สึกประทับใจประกอบกับเธอมีสต๊อครูปในมือ และข้อมูลจำนวนหนึ่ง ความที่ฉันชอบจับแพะชนแกะอยู่แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า มีเพื่อนอีกคนเคยบอกให้ทำไกด์บุ๊คหลวงพระบาง อิฉันเลยจับเพื่อนชนน้อง แต่น้องแอนบอกว่าทำคนเดียวว้าเหว่เกินไป จึงชวนอิฉันทำด้วยกัน ช่วยกัน ทั้งเรื่องข้อมูลและภาพถ่าย โดยน้องแอนจะเน้นทำภาษาอังกฤษ
โอ ไม้จัตวา
 
โอ ไม้จัตวา
  เมื่อคืนดูรายการเดอะ สตาร์ ปีหก หลังจากที่เป็นแฟนติดตามดูการแข่งขันมาตั้งแต่ปีที่สอง ชอบลุ้นเหมือนพนันกับตัวเองว่าใครจะได้และใครจะดัง ปีนี้เป็นปีที่หก นักร้องแต่ละคนหน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคืนมีแขกรับเชิญคือน้องแก้ม นักร้องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศปีที่แล้ว เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้
โอ ไม้จัตวา
  ประโยคชื่อเรื่องนั้นเป็นคำพูดคำแรก ๆ ที่ใช้สอนหนังสือ เวลาสี่เดือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละชั่วโมง เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลสรุปได้ประโยคเดียวคือ ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร คนส่งสารจะใช้ภาษาอย่างไรนั้น มีหลายอย่างเป็นปัจจัย
โอ ไม้จัตวา
  ผู้หญิงเศร้ามักจะสวย ลองสังเกตดูสิ เป็นความสวยแบบลึกซึ้งหรืออาจเรียกได้ว่า”งาม”  เป็นความงามที่ฉายออกมาทางความรู้สึก  ผู้หญิงที่กำลังมีความรักในระยะเริ่มต้น ก็มักจะสวยเช่นกัน ความสุขจะฉายออกมาทางแววตาวิบ ๆ  ละอองของความสุขดูจะเป็นสีสันที่มองไม่เห็น เปล่งออกมาจากทุกอณูความรู้สึก
โอ ไม้จัตวา
    ชอบคำนี้ “คนขายโชค” เป็นภาษาลาวใช้เรียกคนขายลอตเตอรี สังเกตว่าคนขายโชคในเมืองไทยมักถามคนซื้อมา เอาโชคไหม เอารางวัลสักใบไหม แต่ฉันไม่ซื้อสักทีเพราะไม่เคยมีโชค ไม่ว่าจะทางซื้อหรือทางขาย ป้าที่เห็นในรูปนี้ขายโชคอยู่ที่หน้าศาลเจ้าหลังตลาดวโรรส ดูรอยยิ้มของเธอแล้วรู้สึกว่าเธอเป็นคนมีโชค
โอ ไม้จัตวา
      ช่วงนี้จำศีลหลบลมร้อนที่บ้านด้วยการช็อปหนังราคาถูกจากฝั่งพม่าท่าขี้เหล็กมาดู เริ่มจากซีรี่หนังเรื่องเฟรนด์ ที่ดูเป็นครั้งที่ 2  
โอ ไม้จัตวา
  เจ้านายเก่าคนหนึ่งเคยพูดถึงทางออกในชีวิตเมื่อครั้งที่เขาประสบปัญหา ที่ทุกคนคิดว่า “ทางตัน” เขาบอกว่า ถ้าสถานการณ์ขังเขาไว้ในห้อง แล้วล็อคกุญแจ อย่าคิดว่าเขาไม่มีทางออก เพราะถ้าประตูปิดเขาก็จะเปิดหน้าต่างแล้วปีนออกไป ฟังดูดีหากห้องนั้นมีหน้าต่าง  
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาพร้อมกับสัญญาณบอกว่าดอกไม้หลากสีได้เวลาเบ่งบานอีกแล้ว เดือนพฤศจิกายนคือฤดูกาลดอกบัวตองสีเหลือง หากมีเวลาฉันก็ไม่รอช้าที่จะไปเยี่ยมเยียนภูเขาสีเหลืองสุดลูกหูลูกตาที่ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากดอกไม้ยามเช้าแล้วสิ่งที่น่าสัมผัสมากที่สุดสำหรับการเยือนที่นี่คือการดูดาวยามค่ำคืน กลางขุนเขาที่มีแสงสว่างเพียงน้อยนิด ทำให้ที่นี่เป็นสวรรค์สำหรับการดูดาว แผนที่ดูดาวช่วยให้การดูดาวสนุกมากขึ้น
โอ ไม้จัตวา
  ลมหนาวมาแล้ว ปีนี้อากาศผันผวนจนหลายคนป่วยไข้ แมวในบ้านนอนกกกันรับความอบอุ่น บ่ายวันนี้ฉันขับรถออกจากบ้านมุ่งหน้าสู่ชุมชนเล็ก ๆ ในหุบเขาสูงชันที่อำเภอสันกำแพง ชื่อว่าบ้านแม่กำปอง หมู่บ้านโฮมสเตย์ที่มีการจัดการโดยชุมชนอย่างดี ฉันไม่เคยมาที่นี่ จึงชวนเพื่อนที่เคยมาบ่อย ๆ มาด้วย เธอบอกว่าครั้งแรกเธอขับรถเล่นกับสุนัขตัวโปรดของเธอ ขับรถเล่นถึงแม่กำปองเนี่ยนะ!
โอ ไม้จัตวา
  เช้าวันหนึ่ง...อากาศสดใส เพื่อนชวนไปหาหลินปิง รับปากโดยเร็ว หลังจากที่แอบดูสองแม่ลูกทางอินเตอร์เน็ตอยู่นาน หลินปิงโตขึ้นเยอะ ดูแล้วก็อดยิ้มไม่ได้ หลินฮุ่ยยังหวงห่วงลูกดูแลอยู่ใกล้ ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะวันนี้ ผู้มาเยือนเป็นเด็กเล็ก ๆ จำนวนสองร้อยคน ทำให้ผู้คนแออัด เมื่อถึงเวลาออกมาเดินเล่น เด็ก ๆ กรี๊ดกร๊าดมีเสียงพอสมควร ทำให้หลินฮุ่ยไม่ยอมออกมาตรงบริเวณกลางสวน หลินปิงก็พาลไม่ยอมออกมาด้วย  
โอ ไม้จัตวา
  ไปขุนช่างเคี่ยนคราวนี้ผิดหวังกับสภาพอากาศที่ทำให้ดอกไม้บานน้อยไปนิด ได้ภาพนี้มาแทนใจได้หน่อยนึง ไปถึงยามเช้า นักท่องเที่ยวที่กางเต็นท์นอนที่นั่นกำลังก่อกองไฟ จุดที่เรายืน ควันไฟ แสงอาทิตย์ มาบรรจบกันพอดี มุมนี้ถ่ายมาหลายรูป แต่ได้เพียงรูปเดียว เป็นเรื่องปกติธรรมดาของการถ่ายภาพ บางครั้งกดชัตเตอร์ฟุ่มเฟือยมาก แต่ได้ภาพเพียงภาพเดียว