@ อ่าน ข่าว ๒ ข่าว … ที่พาดหัวข่าว…
๑ . “ แม่แจ้งจับครูประจำชั้น ประจานลูก ว่าเป็น กระเทย จนคิดสั้น ” ( นสพ . มติชนรายวัน ๘ มกราคม ๒๕๕๕ หน้า ๙ ) … ข่าว บอกว่า… แม่ซึ่งเป็นพิธีกรสถานีโทรทัศน์ฯช่องหนี่ง ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ ขอให้ตรวจสอบอาจารย์ใหญ่ และ อาจารย์ประจำชั้นโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัด นครปฐม พูดจากับบุตรชาย อายุ ๑๔ ปี ที่ถูกครูประจำชั้นผู้หญิงต่อว่า ประจานหน้าห้องว่าเป็นกระเทย นอกจากนั้นยังตบศีรษะลูก เพราะไม่ไปเรียนพิเศษ และข่มขู่ลูกอีกว่า ให้เลิกเป็นกระเทย ไม่งั้นจะจับแก้ผ้า ประจานหน้าเสาธง ทำให้ลูกคิดสั้นกินยาหมายฆ่าตัวตาย แต่หมอช่วยชีวิตไว้ได้ …
- - - กรณีนี้ ฉัน ว่าครูช่างปัญญาอ่อนเหลือเกิน และใช้อำนาจเผด็จการ ไม่รู้ว่าติดเชื้อมาจากพวกเผด็จการทหาร อ๊ะ เป่า ? … คุณครู สุภาพสตรีคนนี้ อย่าโกรธ ที่ฉันว่าปัญญาอ่อน แล้วไปฟ้องศาลโลกเน้อ เจ้า ในฐานะที่ฉันเคยเป็นครูสอนหนังสือเด็กมาเกือบ สามสิบปี แต่พออายุห้าสิบขวบ ฉันก็ลาออกจากระบบราชการเจ้าขุนมูลนาย เพราะโคตรเบื่อระบบราชการ แต่ฉันไม่เบื่อเด็กดอก เด็กสะอาด บริสุทธิ์ (เอกชนก็เหมือนกันนั่นแหละ ติดเชื้อเดียวกัน คือติดเชื้อซาดิสม์ ชเลียร์ เจ้านาย คำนี้มาจาก “ เชียร์ ” บวก “ เลีย ”เจ้านาย … ป๊าด ฉันชอบคำนี้มาก ใครเป็นผู้บัญญัติศัพท์นี้จ้า ขอคารวะ หมื่นจอก … ครูสาวคนนั้น( สาวไม่สาวไม่รู้เรียกไว้ก่อน ชเลียร์ ไว้ก่อน) นอกจากมีความคิดเป็นเผด็จการ กะเด็กที่ไม่มีทางสู้ เธอก็ยังละเมิดสิทธิมนุษยชนของเด็กๆด้วย โอ้มนุษย์ที่กำเนิดมา เขาจะเป็นอย่างไรก็ตาม หากไม่ไปทำความเดือดร้อนให้ใคร เราจักไปแส่เสือกยุ่งกะเขาทำไม? และคุณเป็นถึงครู ไม่รู้หรือว่า ที่ไปเรียกเขาว่า กระเทย ตุ๊ด ทอม ดี้ ฯลฯ อะไรหน่ะ เขามีสิทธิใน Anatomy ในสรีระร่างกายของตัวเขาเอง คงอาจจะเกี่ยวกะฮอร์โมนก็ได้ (ใครรู้ กรุณาช่วยบอกเป็นวิทยาทานหน่อย เจ้าค่ะ (นี่ฉันเป็นผู้ชายสมมุติ ใครที่จิตบอก จิตไม่ไพศาล อาจ ว่าฉันเป็นกระเทยก็ได้ แต่ฉันไม่โกรธดอกเจ้า คับ ) … คือผู้ชายสมมติ ที่เกิดมา อาจมี ฮอร์โมน ของเพศหญิง สมมุติ มากกว่าก็ได้ จึงมีวัตรปฏิบัติ คล้าย ผู้หญิงสมมติ ! หรือ ถ้าเกิดมาเป็น ผู้หญิง สมมติ เขาอาจมีฮอร์โมนของเพศชายสมมติ มากก็ได้ ก็เลยมีวัตรปฏิบัติ คล้ายผู้ชายสมมติ! ( ที่ฉัน ใช้คำว่า “สมมุติ” นั้น ฉันว่า คำว่า“ หญิง – ชาย ” มันเป็นเรื่องสมมติที่บัญญัติศัพท์เรียกกันเอง แต่ที่ทุกคนที่คลอดจากครรภ์มารดา ล้วน เป็น “ มนุษย์ ” เป็น “ คน ” ด้วยกันทั้งนั้น เจ้า )
ขอความกรุณา คุณครู ท่านนี้ ปรับปรุงตัวเองได้แล้ว อย่าเป็นคน “ ล้าหลัง - คลั่งเพศ สมมติเลย “ อายเขา และทำบาป ต่อเด็ก ถ้าเป็นลูกของคุณครูหล่ะ ถ้ามีครูคนอื่นมากระทำต่อลูกของคุณ คุณจะว่ากระไร?
พาดหัวข่าว กรณี ที่สอง
๒. “ ครูพละเตะเด็ก ม. ๒. แขนเดี้ยง ” ( จากหนังสือพิมพ์ มติชนรายวัน ฉ. ๗ กรกฏาคม ๒๕๕๕ หน้า ๕ )
ครู พละชายคนนี้ก็ โคตร ซาดิสม์ ไปทำร้ายร่างกายเด็ก อย่างน่าอาย เด็กเขาเป็นเด็ก จะไปสู้ เอ็งได้ไงวะ เจ้าครูขี้ขลาดเผด็จการตาขาว (ขอโทษ ขอใช้คำพูดแบบ นักเลง กะ ไอ่น้องครูพละคนนี้หน่อย เพราะเป็น “ผู้ชายสมมติ” เหมือนกัน … )
- - - ข่าวบอกว่า … พ่อแม่ของเด็กชายคนนั้น เป็นชาวบ้านบ้านห้วยใต้ อำเภอลับแล อุตรดิตถ์ เข้าแจ้งความตำรวจว่าลูกชายอายุ ๑๔ ปี นักเรียนชั้น ม. ๒ / ๒ โรงเรียนเทศบาลศรีพนมมาศพิทยากรระบุว่าถูกทำร้ายร่างกายมีแผลฟกช้ำที่แขนซ้าย ให้ดำเนินคดี กับ นาย จิรภัทร สารทวอน ( นามสกุล มีคำว่า “สาท” ด้วย ไม่รู้ว่าเป็นโรคประสาท หรือเปล่า ? ) … ผู้ปกครองแจ้ง ว่าช่วงเย็น หลังเลิกเรียน วันที่ ๔ กค เพื่อนลูกชายได้เล่าให้ฟังว่า ลูกชายถูกครูพละเตะ โดยหลังเกิดเหตุผู้บริหารโรงเรียนสั่งห้ามไม่ให้บอกพ่อแม่( เป็นหยั่งเงี้ย ไอ้ผู้บริหารจิตหยาบจิตเผด็จการก็เข้าข้างด้วย เอ็งกลัวเสียชื่อเสียงของโรงเรียนเรอะ มันเสียตั้งแต่เอ็งเข้าข้างลูกน้องเอ็งแล้ว … ต้องขอ ประทานโทษ ขอพระอภัยมณี ท่านผู้อ่านมากหน่อย ที่ฉันดูเกรี้ยวกราดฟาดไฟ มันเกิดอารมณ์ อันสุนทรีย์เจ้า ฉันเองก้อลีลาทำเป็น งั้นๆ แหละจ้า แท้จิง ใจดีจะตายไป แหะ แหะ ) … ข่าวครูรังแกเด็ก ลงโทษเด็ก เกินแบบซาดิสม์ มันมีมานานแล้ว และก็ครูไม่ถูกลงโทษเด็ดขาดซะที มัวแต่ให้ผู้ปกครองรอมชอม ให้ปรองดองสามัคคี ประเทศชาติจักได้เจริญรุ่งเรืองโชติช่วงชัชวาล ย์ ไช ซะ โย้ … (แล้วปล่อยให้ครูเผด็จการ ทำการ “กระชับพื้นที่” ทำร้ายร่างกายเด็ก… มันก็เหมือนข่าวเรื่องมอดไม้ ที่ลักลอบตัดไม้ พยุง ไม้กฤษณา และไม้ต่างๆในป่า แต่โคตร จับนายทุนใหญ่ไม่ได้ซักกะที มันเป็นไงวะ ทั้งๆที่พี่ตำรวจไทย เก่งในด้านสืบสวน สอบสวนจะตายไป แต่เรื่องพรรค์นี้จับมือตัวการใหญ่ดมไม่ได้ซักที มันน่าอับอายขายหน้า … แต่ แต่ พี่น้องเอ๋ย เกิดถ้าโคตรพ่อโคตรแม่ ของผู้มีอิทธิพล ของนักการเมืองใหญ่ ของทหารตำรวจใหญ่บางคน หรือใหญ่ กว่านั้น ถูกลักพาตัว ถูกอุ้มฆ่า ตัวอย่างดังเช่น “ทนง โพธิอ่าน“ ผู้นำกรรมกร ที่หายไปสมัยรัฐบาลเผด็จการทหาร รสช. หายแซ่บไปเลยเพราะเขาต้านทหารไม่เป็นลูกที่ดีของทหารเผด็จการ หือไม่ก็กรณี “ทนายสมชาย นิลไพจิตร” ทนายของพี่น้องมุสลิม ก็หายแซ่บ ในสมัยรัฐบาลเผด็จการ รัฐสภาอ้ายทักษิณ ชินวัตร (และก็อยากรู้ว่าในสมัยรัฐบาลน้องปูจ๋า จักมีใครหายแซ่บ ไปแหม เจ้า ) เชื่อหัวไอ่ปื๊ด เหอะ ว่า ตำรวจไทยต้องสะดุ้งวิ่งเต้นเป็นเจ้าเข้า รีบสืบสวน สอบสวน หาตัวการมาลงโทษได้ ก้อพี่คร๊าบ ในทางวิทยาศาสตร์ ไหนว่า สสารไม่มัวันสูญหายไปจากโลก แล้ง ไย อ้าย ทนง โพธิอ่าน และอ้าย สมชาย นิลไพจิตร ตลอดจนคนอื่นๆที่ถูกอุ้มฆ่า ฯลฯ สรีระร่างกายของผู้รักธรรม หายปายยย หนายยยย? นี่แหละก็คือ doubble standard … สองมาตรฐานเฉกเช่นกัน…
เอ๊า ยาวววไป สรุป เรื่องคุณครูซาดิสม์โหด(ใครว่าบ่โหด ก้อบ่เป็นหยัง) ที่ทำร้ายร่างกายลูกศิษย์ของตัวเองแท้ๆ นั้น เราจะทำฉันใดกะพวกครูอวิชชา พวกนี้? สำหรับตัวฉันเอง ความคิดของฉานเองคนเดียว(กระทรวงศึกษาธิการเต่าพันล้านปี ล้าหลังกรุณาโปรดรับฟังไว้ จากครูแก่ๆคนหนึ่ง (แต่หัวใจวัยสะรุ่นเสมอ) วิธีแก้ก็คือ…
๑. ลงทัณฑ์ ลงโทษบันทึกไว้ว่าต่อไปอย่าทำอีก
๒. ทำการขอโทษผู้ปกครองของนักเรียน และขอโทษลูกศิษย์ ของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเอาดอกไม้ธูปเทียนไปกราบไว้ เพียงแค่ กล่าวคำ apologise ขอโทษ ก็ เพียงพอแล้ว อย่าเขิน อย่าอาย ต้องหาญกล้า
๓. ผู้บริหารโรงเรียนด้วยต้องกล่าวคำขอโทษ
๔. ผู้บริหารระดับสูงสุด เช่นกระทรวงศึกษาธิการ ต้องออกกฎให้เป็นอย่างทางสากล เช่นพักการสอน หรือไล่ออก เชิญออก เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างอย่าเด็ดขาดต่อไป!
ฯลฯ ฯลฯ ฯลฯ
นอกนั้นเรียนเชิญ ท่านผู้อ่าน นักรบไซเบอร์ ทั้งหลาย เสนอทางออกมา คับ เพราะเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย นาค่ะ มันเป็นเรื่องของเผด็จการ ไม่แตกต่างจากพวกเผด็จการทุกสายพันธุ์ ดอก เจ้า !
10 กรกฏาคม 2555 , กลางฤดูฝน, ล้านนาอิสระ เชียงใหม่ .