ในห้วงคำนึงขบถโรม๊านซ์๑๔ตุลาฯ๖ตุลาฉันรักเธอ



{  กลอนเปล่าอิสรา  }
@  ลมหนาวเหนือ พัดโชยมา…
ยามต้องไล้ผิวกาย

ร้อนที่รุ่มก็คลาย
กลิ่นอายเหมันตฤดู …ไม่รู้ลืม @

@ นกน้อยๆสีเหลืองเรืองเรื่อ
โบยบินมาทุกแหล่งหล้า มิรู้หน
โผร่อน จับเกาะกิ่งก้าน ต้นมะขามสนามหลวง – สนามราษฏร์
ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว ถามไถ่ทักทายกัน
โอ… ก็นานนักแล้ว สิหนอ
ที่พวกเจ้า มิได้มาพบกัน @
@ ณ เบื้องฟ้าบน…
นกพิราบขาวพราวอันมิถ้วนนับ
สะพรึบสะพรั่ง ราวจักข่ม คคนานต์
โบยบินฉวัดเฉวียน เวียนว่อน
เริงรำร่อน  จับเกาะกอด โดมแดนธรรม…ธรรมศาสตร์ !“
โอ…ดูช่างงามเกลื่อนกลาดนัก เจ้านกเสรี
…นกเสรี @
@ ณ ลานโพธิ์ เล่า ?
ใบโพธิ์ก็  พลิกพลิ้ว ระริกริก ระเริงร่า …แกร่งกล้า – กล้า
โห่ร้อง ขานรับกัน กรูกราวกรูเกรียว
… ใบโพธิ์ ก็ โห่ร้องขานรับ กันกรูกราว – กรูเกรียว

…ยามเมื่อพระพาย รำเพยพัด @
@  ยังเย็นยะเยียบเยือกแห่งสายน้ำ เจ้าพระยาเล่า ?
แม่ก็ ถะถั่งหลั่งไหลล้น มิสุดสิ้น
ถั่งโถมคลื่น อย่างครืนเครง ทุกวันคืน
ไม่รู้รา – ไม่รู้เลือน @


@ โอ… ๔๒ ปี ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖
อา… ๓๙ ปี … ๖ ตุลา ๒๕๑๙
เรายังจำกันได้
ยังจำได้  รู้  ลืม   …  ไม่รู้เลือน @
@- - -  ไม่โกรธ !
---  ไม่เกลียด !
--- ไม่เคืองเคียดแค้น ใดๆ ต่อไปอีกแล้ว !

…ให้กาลเวลา วัดคุณค่า
… ให้ สัจธรรม – ธรรมชาติชีวิต … ตัดสิน
โอ…สิบสี่ตุลาฯ

อา…หกตุลาฯ

ฉัน รัก เธอ…                                                                                                                                                         
ฉันรักเธอ  …
We  Love  You !!!                                                                                                                 


“ แสงดาว  ศรัทธามั่น “

เหมันตฤดู …ล้านนาอิสระ ,เชียงใหม่@

@--- ขอก้มค้อมคารวะ รักรำลึก วีรชนเดือนตุลาฯ

ที่เสียสละชีพ และที่ยังอยู่

“ การต่อสู้ “ เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม เพื่อประชาธิปไตย เพื่อสังคมใหม่ที่ดีงามที่แท้จริง

ยังคงดำรงอยู่ต่อไป… ตราบกาลถึงกาล

ขอเพียงเรา และพี่น้องประชาชนผอง ยืนหยัดมั่นใน อุดมการณ์ ที่งดงาม พิสุทธิ์ใส

แล้ว” ชีวิตความใฝ่ฝัน ของประชาชน “ จักต้อง “เป็นจริง “ !

เราผอง พึง “   *จงใฝ่ฝัน แต่ อย่า เพ้อฝัน “

**”ฝันให้ไกล …ไปให้ถึง “ @

หมายเหตุ ๑ : ภาพที่นำมาประกอบนี้ไม่ได้ต้องการตอกย้ำความความเกลียดแค้น แต่อย่างใด

เพียงแต่ ต้องการให้พี่น้องประชาชนได้สรุปบทเรียนของประวัติศาสตร์ และตระหนักว่า

…” ความรุนแรง การสูญเสียเลือดเนื้อ “ ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน ฝ่ายใดๆ

มีแต่จักทำให้เกิดโศกนาฏกรรม มิสิ้นสุด

--- หากเป็นการ”ต่อสู้” เพื่อให้บังเกิด”สังคมใหม่ที่ดีงาม เป็นธรรม” ในสมรภูมิ ณ ปัจจุบันนี้

ประชาชนเราต้องต่อสู้ด้วย “อหิงสา – สันติวิธี “

และประชาชนผู้รักชาติ รักประชาธิปไตย รักความถูกต้องเป็นธรรม…                                                                                       

จักต้องต่อสู้กันต่อไป ไม่ท้อถอย

ส่วนผลจักเป็น เช่นไร ?  นั้น…

ให้”กาลเวลา” และ “สัจธรรมแห่งความเป็นจริงของสังคมที่ดำรงอยู่ “…

จักเป็นผู้พิพากษา ตัดสิน ที่เที่ยงธรรม ที่สุด ! @

หมายเหตุ ๒ :

---  *  “ จงใฝ่ฝัน แต่อย่า เพ้อฝัน “… คือถ้อยวลีในหนังสือ “ ชีวิต กับความใฝ่ฝัน “

ของ “ บรรจง  บรรเจิดศิลป์ “  หรือ “ อุดม  ศรีสุวรรณ “ … นักคิด นักเขียน นักปฏิวัติของประชาชน! @

--- ** “ ฝันให้ไกล … ไปให้ถึง “ คือ ชื่อหนังสือบทกวีของ “ วัฒน์  วรรยางกูร”…กวี  ศิลปิน  …นักคิด … นักเขียน …นักปฏิวัติ ฯลฯ ของประชาชน ! @

หมายเหตุ ๓ : ภาพประกอบ… เครดิตจาก internet…ขอขอบพระคุณ

ในห้วงคำนึงขบถโรม๊านซ์ ::: เสียงประชาชน

 

{ (  กลอนลูกทุ่งกรุงไท    )  }
@ “ประชาธิปไตย “  ก็คือ  “ ประชาธิปไตย “
“ ประชาชน “ เรา  ต้องเป็นใหญ่ ในชีวิต
“เผด็จการ” ที่เป็น “ธรรม” หรือ  หรือ พึงอย่าคิด
ขำ… ขรรรม … ล้วนดัดจริต อำมหิต มิผ่องอำไพ