Skip to main content

กรกช เพียงใจ

 

 
 
 
ใครบางคนบอกว่า “ข้อเท็จจริง” (fact) นั้นแตกต่างจาก “ความจริง” (truth)
บันทึกนี้จึงอาจกล่าวอ้างได้เพียงว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงอันมากมายมหาศาล
แต่ก็คือทั้งหมดที่ฉันเห็น สังเกต และรู้สึก ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง
มนุษย์ผู้ไม่ได้ไปอยู่ ณ จุดปะทะสำคัญใดๆ กับเขาเลย
หากใครคาดหวังเช่นนั้น ขออภัยล่วงหน้า ....

 
- - - - - - - - - - - -
 
 
 
 
ค่ำวันที่ 13 เมษายน 2552  
 
 
ถนนหน้าวัดเบญฯ เงียบสนิท มีแสงไฟรำไรๆ ส่องทางชวนหดหู่ บริเวณนี้มีทหารอยู่จำนวนหนึ่ง กระจายตัวถัดออกมาจากลานพระบรมรูปฯ ซึ่งมีทหารอยู่เยอะกว่า และเห็นรถพยาบาลเปิดไฟไซเลนเตรียมไว้อยู่ลิบๆ
 
ฉันเดินหมดแรงสะเปะสะปะผ่านเหล่าทหาร มองเห็นคนเสื้อแดงคนหนึ่งใส่หมวกแก๊ป กางเกงสามส่วนสีดำ รองเท้าเผ้าใบ กำลังยืนคุยกับทหาร 4-5 นาย นึกในใจว่าเขาช่างกล้าที่หลุดออกมายืนคุยในดงทหาร แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ เหล่าทหารจ้องฉันเป็นตาเดียว ชายคนนั้นก็เช่นกัน เขายืนเอามือไขว้หลังอยู่ต่อหน้าทหารที่ยืนค่อนข้างเรียบร้อย พวกเขาหยุดสนทนา เราจ้องกันพักหนึ่งแล้วฉันก็ตัดสินใจเดินต่อไปเฉยๆ เพราะถึงตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่าชายเสื้อแดงคนนั้นจะเป็นชาวบ้านธรรมดา
 
สภาพถนนตรงลานพระบรมรูปมีกองไม้ และอะไรต่อมิอะไรที่เคยใช้เป็นด่านกองสะเปะสะปะอยู่ บรรดานักข่าวจำนวนมากนั่งอยู่ที่นี่ คุยกันสนุกสนานระหว่างรอทำข่าว
 
ระหว่างเดินอยู่ก็เจอนักข่าวอีกกลุ่มใหญ่เดินมา นำหน้าโดนนักข่าวใหญ่แห่งสมาคมวิชาชีพ นักข่าวรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งอยู่ท้ายแถวทักฉัน
 
“ขอเบอร์หน่อยสิ จะส่งข่าวชาวบ้านไปให้ เรื่องเหมืองทอง”
 
ฉันให้เบอร์เขา เดินจากมา หัวสมองเบลอๆ คิดถึงแต่คำว่า “ชาวบ้าน” จะว่าไปฉันก็เพิ่งเดินผ่านชาวบ้านชายขอบอีกกลุ่มหนึ่งแต่เป็นชาวบ้านชายขอบทางการเมือง ที่ไม่ใช่ชาวเขา หรือเครือข่ายชาวบ้านที่เรียกร้องเรื่องทรัพยากร เลยไม่มีใครนับเขาเป็น “ชาวบ้าน” แล้ว เพียงเพราะพวกเขาเกี่ยวพันโดยตรงกับการเมืองอันโสโครก และ “ปีศาจ” ตนหนึ่ง
 
0000

 
เมื่อเดินเกือบถึงเทเวศร์ พี่สาวคนหนึ่งนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างมารับตัวฉัน เธอติดต่อว่าจะมาหาฉันในที่ชุมนุมตั้งแต่บ่าย และฉันคิดว่าเธอกลับไปนานแล้ว แต่เธอยังนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างตระเวนอยู่รอบนอกจากค่ำมืด
 
“พี่เข้าไปไม่ได้เลย ปิดหมดทุกทาง ออกได้แต่เข้าไม่ได้”
 
เรานั่งกินน้ำกันซักพักแล้วเธอจึงชวนให้ฉันไปอาบน้ำล้างหน้าที่ห้องพักของเธอก่อนจะไปต่อยังโรงพยาบาล เมื่อได้อาบน้ำฉันรู้สึกดีขึ้นมาก ระหว่างอยู่ที่ห้องพัก เธอเล่าถึงความอึดอัดคับข้องใจกับการนั่งดูทีวีที่รายงานข่าวเหตุการณ์ทั้งวัน สัมภาษณ์นักวิชาการ และผู้คนต่างๆ ซึ่งไม่มีใครให้ค่า ให้ราคากับคนเสื้อแดงมากนัก นอกจากการเป็นพวกป่วนเมือง เธอต่อว่าสื่อมวลชนและรู้สึก “เฮิร์ท” หนักกับสิ่งที่เรียกว่า “ภาคประชาสังคม”
 
อาการ “เฮิร์ท” นี้พอเข้าใจได้ แม้ว่าเธอจะอยู่ในแวดวงปัญญาชน เคยร่วมกับชาวบ้านต่อสู้กับรัฐบาลทักษิณในโครงการต่างๆ มามาก และไม่เคยไปร่วมชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง แต่อย่างน้อยเธอไม่มีอคติต่อคนจน (เช่น ซื้อได้ โง่ ถูกหลอก ฯ) และพยายามฟังพวกเขา ฉันค่อนข้างประหลาดใจเมื่อพบว่าเธอเปิดเว็บฟังดีสเตชั่นบ่อยๆ และถึงกับออกปากชมณัฐวุฒิว่าเป็นผู้ที่ปรุง หลักการ เข้ากับ ลูกเล่น ได้อย่างกลมกล่อม
 
ที่สำคัญ เธอยังเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์การนั่งมอเตอร์ไซด์ตระเวนรอบนอกว่า ในช่วงค่ำบริเวณสะพานขาว เธอเห็นประชาชนกลุ่มหนึ่งสวมเสื้อผ้าธรรมดา มีบางส่วนถือไม้ กำลังกรูเข้าไปที่สามล้อคันหนึ่ง ในนั้นมีคนนั่งอยู่สองสามคน เธอมองไม่เห็นอะไรชัดเจนนัก แต่ที่เห็นชัดที่สุดคือมีผู้หญิงผมยาวสวมเสื้อแดง กลุ่มคนกรูเข้าไปจดมิดรถทั้งคัน มีคนขึ้นไปยืนกระทืบหลังคารถด้วย เธอพูดเบาๆ ว่า “ไม่น่ารอด” และว่า มันเป็นภาพที่น่าสะพรึงกลัวอย่างมากเมื่อประชาชนรุมทำร้ายกันเอง โดยที่เธอก็ช่วยอะไรไม่ได้เลย มอเตอร์ไซด์รับจ้างที่เธอนั่งต้องรีบขับออกมาเพื่อเอาตัวรอด เธอยังขอร้องด้วยว่าหากเป็นไปได้ ขอให้ฉันช่วยตระเวนตามหาผู้หญิงเสื้อแดงที่สะพานขาวตามโรงพยาบาลต่างๆ ด้วย
 
0000
 
 
ช่วงค่ำ ฉันเห็นข่าวทีวีรายงานเรื่องคนชุมชนนางเลิ้งทุกยิงเสียชีวิตโดยกลุ่มคนเสื้อแดง ฉันนั่งรถไปยังโรงพยาบาลกลาง และโชคดีที่เห็นภรรยาของเขากำลังยืนให้สัมภาษณ์สื่อทีวีช่องหนึ่งอยู่ด้านหน้าโรงพยาบาล มีลูกสาววัยรุ่นยืนอยู่ด้วย เธอหน้าตาเคร่งเครียดและให้สัมภาษณ์ถึงความไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการกระทำของคนเสื้อแดง ฉันแอบเอามือไปตบไหล่ลูกสาวของลุงที่เสียชีวิต เพราะสงสารเธอ
 
จากนั้นพวกเขาจึงออกจากโรงพยาบาลเพื่อไปแจ้งความยังสถานีตำรวจ ฉันยังคงอยู่ที่นั่น ได้พบกับคุณหมอท่านหนึ่งในโรงพยาบาล ซึ่งเดินมาด้านหน้าพอดี คุณหมอให้ข้อมูลว่ามีคนบาดเจ็บ 3-4 ราย และเสียชีวิต 1 ราย ส่วนอีกคนหนึ่งที่โดนยิงที่นางเลิ้งเช่นกันอยู่โรงพยาบาลหัวเฉียว (และเสียชีวิตในเวลาต่อมา)
 
ระหว่างนั้นมีตำรวจเข้ามาเก็บข้อมูลพูดคุยกับคุณหมอ หมอบอกกับตำรวจ แต่ไม่ได้บอกกับนักข่าวว่า น่าจะเป็นอาวุธหนักเนื่องจากยิงทะลุลำตัวจากด้านหนึ่งไปด้านหนึ่ง
 
เมื่อออกมาหน้าโรงพยาบาลเจอน้าๆ ผู้หญิงยังนั่งอยู่ 2-3 คน ป้าคนหนึ่งบอกว่าเป็นคนนางเลิ้ง ฉันดีใจนึกว่าเป็นญาติผู้เสียชีวิต แต่เปล่า! เธอมาเฝ้าสามีซึ่งเป็นตำรวจ ฉันก็ยังดีใจ นึกว่าเจอญาติของตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุสลายการชุมนุม แต่เปล่าอีกอยู่ดี ปรากฏว่าสามีเธอประสบอุบัติเหตุขับรถชนรั้วก่อนหน้านี้แล้ว
 
อย่างไรก็ตาม เธอเล่าว่าชุมชนนางเลิ้งส่วนใหญ่เป็นคนจีน และแน่นอน ส่วนใหญ่เป็นพันธมิตรฯ “เขาเปิดเอเอสทีวีดูกันลั่นทั้งวัน” แต่ก็ไม่ทั้งหมดเสียทีเดียว มีเสื้อแดงอยู่บ้างบางส่วนเหมือนกัน
 
ระหว่างที่คุยกันอยู่ก็มีช่างภาพนายหนึ่งเดินทะเล่อทะล่าเข้ามาถามหาภรรยาผู้เสียชีวิตที่นางเลิ้ง ฉันบอกรายละเอียดทั้งหมดที่รู้และบอกว่าญาติๆ ไปแจ้งตำรวจแล้ว ไม่รู้จะกลับมาหรือไม่ เขาพยักหน้าและยังคงเดินไปถามพยาบาลถึงห้องเก็บศพ เขาบอกฉันว่าบก.สั่งให้มาถ่ายภาพศพไว้และกำลังไปห้องเก็บศพ ฉันขอไปด้วย
 
 “ดีเลย กลัวเหมือนกัน” เขาว่า
 
เราเดินกันไปด้านหลังโรงพยาบาล ซึ่งค่อนข้างมืด และมีของเหลือใช้วางเกะกะ ไปที่ห้องรอญาติ เจ้าหน้าที่ชายตัวโต มีรอยสักจนถึงต้นคออยู่ที่นั่น เขาอารมณ์ดีและพูดเยอะผิดกับบุคลิกของเขาโดยสิ้นเชิง ช่างภาพคนนั้นอ้างถึงรัฐมนตรีคนหนึ่งและทำให้ได้เข้าไปถ่ายภาพภายใน
 
ลุงป้อม ผู้เสียชีวิต เป็นชายร่างใหญ่ ลงพุง นอนนิ่งอยู่บนเตียงเหล็ก มีผ้าสีฟ้าของโรงพยาบาลคลุมไว้ทั้งร่าง เจ้าหน้าที่เปิดผ้านั้นออกเผยให้เห็นลำตัวที่ไม่ได้สวมเสื้อ มีแต่กางเกงขายาว เจ้าหน้าที่ไม่ได้เปิดใบหน้า ฉันยกกล้องขึ้นถ่ายแบบส่งๆ ไม่กล้ามองมากนัก แต่ก็แลเห็นข้างลำตัวมีผ้าพันแผลปิดบริเวณข้างราวนมทั้งด้านซ้ายและด้านขวา ช่างภาพคนดังกล่าวยังคงไม่พอใจและต้องการให้เจ้าหน้าที่เปิดใบหน้า แต่ฉันเห็นแย้งว่าควรขออนุญาตญาติเขาก่อน เราจึงตกลงกันว่าจะรอพบญาติอยู่ที่นั่น ซึ่งบรรยากาศวังเวงได้ใจ เราจุดบุหรี่ดูดและพูดคุยเรื่องประสบการณ์งานข่าว และเหตุการณ์การชุมนุมเพื่อฆ่าเวลา และนั่นก็ทำให้รู้ว่าสำหรับหนังสือพิมพ์ใหญ่ๆ แล้ว เฉพาะช่างภาพที่ลงสนามเก็บภาพเหตุการณ์การชุมนุมก็มีเกือบ 10 คนแล้ว
 
นั่งอยู่พักใหญ่ฉันจึงเดินออกมาโทรศัพท์ เข้าไปอีกทีปรากฏว่าช่างภาพหนุ่มได้ภาพที่เขาต้องการแล้ว เราจึงแยกย้ายกันกลับซึ่งต้องเดินมาไกลพอสมควรเพราะรถราค่อนข้างหายาก
 
 
 
.....โปรดติดตามตอนต่อไป

บล็อกของ The Thin Red Line

The Thin Red Line
ขอบคุณ นปช. และพรรคเพื่อไทย  สำหรับอิสรภาพชั่วคราวของ 13เสื้อแดงมุกดาหาร
The Thin Red Line
 จากบันทึกในเฟซบุ๊กของ 
The Thin Red Line
กรกช เพียงใจ     ใครบางคนบอกว่า “ข้อเท็จจริง” (fact) นั้นแตกต่างจาก “ความจริง” (truth) บันทึกนี้จึงอาจกล่าวอ้างได้เพียงว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงอันมากมายมหาศาล แต่ก็คือทั้งหมดที่ฉันเห็น สังเกต และรู้สึก ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ผู้ไม่ได้ไปอยู่ ณ จุดปะทะสำคัญใดๆ กับเขาเลย หากใครคาดหวังเช่นนั้น ขออภัยล่วงหน้า ....   - - - - - - - - - - - -     วันที่ 14 เมษายน 2552     ฉันกลับไปพักที่บ้านพี่สาวคนเดิม ได้นอนเต็มอิ่ม ตื่นอีกทีสายมากแล้วและดูข่าวทีวีเห็นว่าที่ทำเนียบฯ ประกาศยุติและสลายการชุมนุม เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม…
The Thin Red Line
กรกช เพียงใจ    ใครบางคนบอกว่า “ข้อเท็จจริง” (fact) นั้นแตกต่างจาก “ความจริง” (truth) บันทึกนี้จึงอาจกล่าวอ้างได้เพียงว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงอันมากมายมหาศาล แต่ก็คือทั้งหมดที่ฉันเห็น สังเกต และรู้สึก ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ผู้ไม่ได้ไปอยู่ ณ จุดปะทะสำคัญใดๆ กับเขาเลยหากใครคาดหวังเช่นนั้น ขออภัยล่วงหน้า ....
The Thin Red Line
กรกช เพียงใจ     ใครบางคนบอกว่า “ข้อเท็จจริง” (fact) นั้นแตกต่างจาก “ความจริง” (truth) บันทึกนี้จึงอาจกล่าวอ้างได้เพียงว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงอันมากมายมหาศาล แต่ก็คือทั้งหมดที่ฉันเห็น สังเกต และรู้สึก ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ผู้ไม่ได้ไปอยู่ ณ จุดปะทะสำคัญใดๆ กับเขาเลย หากใครคาดหวังเช่นนั้น ขออภัยล่วงหน้า ....   - - - - - - - - - - - -       เย็นวันที่ 13 เมษายน 2552     บรรยากาศในช่วงบ่ายแก่จนถึงเย็นค่อนข้างตึงเครียด เพราะมีข่าวมาตลอดทั้งวันเกี่ยวกับการปราบปรามกลุ่มคนเสื้อแดงที่สามเหลี่ยมดินแดง…
The Thin Red Line
กรกช เพียงใจ ความเดิมตอนที่แล้ว เสื้อแดงเดือนเมษา: ตอน 2 - การปราบที่สามเหลี่ยมดินแดง ปริศนารูกระสุน และหัวอกแม่ เสื้อแดงเดือนเมษา: ตอน 1 - ผู้คน ดินฟ้าอากาศ และการ์ดผู้แข็งขันรอบทำเนียบฯ ใครบางคนบอกว่า “ข้อเท็จจริง” (fact) นั้นแตกต่างจาก “ความจริง” (truth) บันทึกนี้จึงอาจกล่าวอ้างได้เพียงว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงอันมากมายมหาศาล แต่ก็คือทั้งหมดที่ฉันเห็น สังเกต และรู้สึก ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ผู้ไม่ได้ไปอยู่ ณ จุดปะทะสำคัญใดๆ กับเขาเลย หากใครคาดหวังเช่นนั้น ขออภัยล่วงหน้า .... - - - - - - - - - - - -
The Thin Red Line
   กรกช  เพียงใจ   ใครบางคนบอกว่า "ข้อเท็จจริง" (fact) นั้นแตกต่างจาก "ความจริง"  (truth)  บันทึกนี้จึงอาจกล่าวอ้างได้เพียงว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงอันมากมายมหาศาล  แต่ก็คือทั้งหมดที่ฉันเห็น สังเกต และรู้สึก ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง  มนุษย์ผู้ไม่ได้ไปอยู่ ณ จุดปะทะสำคัญใดๆ  กับเขาเลย หากใครคาดหวังเช่นนั้น ขออภัยล่วงหน้า ....  - - - - - - - - - - - -  วันที่ 13 เมษายน 2552  13 เม.ย. - เวลาประมาณ 4.00 น. ทหารได้เข้าสลายกลุ่มเสื้อแดงคนที่ปักหลักอยู่ที่สามเหลี่ยมดินแดง โดย น.พ.ชาตรี เจริญชีวกุล…
The Thin Red Line
 กรกช  เพียงใจ   ใครบางคนบอกว่า "ข้อเท็จจริง" (fact) นั้นแตกต่างจาก "ความจริง"  (truth) บันทึกนี้จึงอาจกล่าวอ้างได้เพียงว่า มันเป็นส่วนหนึ่งของข้อเท็จจริงอันมากมายมหาศาล แต่ก็คือทั้งหมดที่ฉันเห็น สังเกต และรู้สึก ในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง มนุษย์ผู้ไม่ได้ไปอยู่ ณ จุดปะทะสำคัญใดๆ  กับเขาเลย หากใครคาดหวังเช่นนั้น ขออภัยล่วงหน้า ....   - - - - - - - - - - - -   ค่ำวันที่ 12 เมษายน 2552 ไม่มีใครออกปากบอกให้ออกไปดูพื้นที่หรอก เพราะสถานการณ์ดูเหมือนรุนแรงขึ้นทุกขณะ ตลอดทั้งวันทีวีฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงเหตุการณ์คนเสื้อแดงบุกทุบรถที่คาดว่ามีนายกฯ นั่งอยู่ ทุบรถเลขานายกฯ…