กะลาแลนด์.....
อนาคตอันใกล้
หลังจาก 30 องค์กรสื่อและไม่รู้อีกกี่สมาคมสื่อต่อต้านกฎหมายปฏิรูปสื่อของสภาตรายางเผด็จการทหารไม่สำเร็จ คนไทยทุกคนที่อยากประกอบอาชีพนักข่าวก็ต้องสอบผ่านข้อสอบเพื่อให้ได้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
ใครจะไปรู้ คำถามอาจคล้ายสิ่งที่เห็นข้างล่างนี้
1. หน้าที่หลักของสื่อคืออะไร ?
ก. รายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมาและตั้งคำถามกับผู้มีอิทธิพล ไม่ว่าจะมาจากการเลือกตั้งหรือไม่
ข. รับใช้ประชาชนและให้ข้อมูลเท่าทันเหตุการณ์ต่างๆ
ค. รับฟังคำสั่งจากรัฐและช่วยเป็นพีอาร์ให้รัฐในทุกเรื่อง
ง. รับใช้บริษัทและเขียนข่าวกึ่งพีอาร์ให้ผู้ลงโฆษณา
2. หากเกิดรัฐประหารอีก นักข่าวควรปฏิบัติตัวเช่นไร ?
ก. รายงานอย่างตรงไปตรงมาและเป็นธรรม รวมถึงสัมภาษณ์ผู้ที่ถูกยึดอำนาจ และความเห็นนานาชาติ
ข. เขียนคอลัมน์หรือบทบรรณาธิการ ประณามการยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญ
ค. รอคำสั่งคณะรัฐประหารว่าควรทำเช่นไรต่อ
ง. กดดันให้นักข่าวที่ไม่เห็นด้วยกับรัฐประหารออกจากองค์กร เพื่อองค์กรจะได้ไม่เดือดร้อน
3. หากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของไทยขโมยของในต่างประเทศระหว่างไปประชุม และสำนักข่าวต่างประเทศรายงาน คุณควรทำอย่างไร ?
ก. รายงานตามความเป็นจริงและขยายประเด็นว่าทำไมเขาถึงทำเช่นนั้น
ข. ตรวจสอบกับรัฐบาลว่าควรรายงานข่าวนี้หรือไม่
ค. ปกป้องข้าราชการผู้นั้น มันย่อมชัดเจนว่านี่เป็นผลงานของต่างประเทศที่ต้องการทำให้ประเทศไทยเสื่อมเสียชื่อเสียง
ง. ไม่รายงานและฟันธงได้เลยว่าเป็นข่าวปลอม เพราะคนไทยทุกคนเป็นคนดีมีศีลธรรม
4. สื่อต่างประเทศองค์กรไหนน่าเชื่อถือ ?
ก. The Guardian แห่งลอนดอน
ข. New Light of Myanmar
ค. CCTV ของรัฐบาลจีน
ง. KCNA (สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือ)
5. คุณคิดอย่างไรกับกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ม 112)?
ก. เป็นกฎหมายล้าหลังที่ขัดกับเสรีภาพการแสดงออกขั้นพื้นฐาน สมควรแก้ไขหรือยกเลิก
ข. หนึ่งในกฎหมายที่ดีที่สุดในโลก สามารถประกันได้ว่าจะมีการเซ็นเซอร์ตัวเองอย่างสมบูรณ์และผู้ที่อยากพูดจะมีอาการหวาดกลัว
ค. ข้าพเจ้าอาจไม่เห็นด้วย แต่เรามีทางเลือกด้วยหรือ
ง.สามารถทำให้กฎหมายดีกว่านี้ได้ พวกที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดกฎหมายนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักข่าวหรือนักการทูตควรจะถูกประหารชีวิต
6.คุณคิดอย่างไรกับ พ.ร.บ.คอมฯ?
ก. ชักไม่แน่ใจว่าหมายถึง พรบ.คอมมิวนิสต์หรือคอมพิวเตอร์
ข. ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล ตราบใดที่คุณเป็นพลเมืองดีเชื่อฟังกฎหมาย
ค. ลองถามพลเอกประยุทธ์ดู
ง. ลองถามประยุทธ์ซ้ำ ถ้าถามรอบแรกแล้วอธิบายไม่เข้าใจ หรือไม่ก็ถามผู้ช่วยประยุทธ์หลังจากนั้น
7.ควรจัดการอย่างไรกับองค์กรสื่อและนักข่าวที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ (ร่าง)พ.ร.บ.สื่อฯ โดยกล่าวว่า พ.ร.บ.นี้จำกัดเสรีภาพสื่อ?
ก. ไม่ต้องทำอะไร เพราะนั่นเป็นการแสดงความเห็นโดยสุจริต
ข. เพิกถอนใบอนุญาต 6 เดือนเพื่อทำโทษ
ค.พวกเขาทำให้สังคมเข้าใจผิด ต้องปรับทัศนคติคนเหล่านี้ เพื่อให้พวกเขาจะได้มีความเป็นไทยมากกว่านี้
ง. พวกเขาควรถูกสอบสวนว่ารับเงินจากทักษิณหรือไม่
8. นักข่าวควรเชื่อฟังผู้ใด?
ก. ฟังมโนสำนึกของตัวเอง
ข. เชื่อฟังบรรณาธิการ
ค. เชื่อฟังเจ้าของสื่อ
ง. เชื่อฟังรัฐบาล เพราะหากไม่เชื่อฟัง คุณอาจไม่ได้รับการต่อใบอนุญาตสื่อ
9. หากรัฐบาลต่างชาติและกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างชาติวิพากษ์วิจารณ์ พ.ร.บ.สื่อว่าจำกัดสิทธิ,เสรีภาพสื่อ โดยการให้สื่อมวลชนต้องสอบใบอนุญาตและมีกรรมการที่ประกอบด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ดูแล คุณจะว่าอย่างไร ?
ก. เขาก็พูดถูกต้องแล้วมิใช่หรือ
ข. บอกพวกเขาไปว่า พวกเขาไม่เข้าใจประเทศไทยและสื่อไทย
ค. บอกพวกเขาไปว่า พวกเรากำลังคืนความสุขภายใต้การชี้นำระยะยาวววววว ของท่านผู้นำ
ง. บอกพวกเขาไปอย่างสุภาพว่า กรุณาอย่าเสือก
10. หากคุณสอบตกไม่ได้ใบอนุญาต คุณจะทำอย่างไรต่อ ?
ก. สรุปว่าตนเองไม่เหมาะที่จะเป็นนักข่าวในกะลาแลนด์
ข. ไปหาศาลเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์กว่านี้ และบนบานพร้อมทั้งสาบานว่าจะแก้บนให้หนักขึ้น
ค. ลองติดสินบนกรรมการสื่อหรือใช้บริการเส้นสาย
ง. ลองเข้าสอบและโกง หรือจะให้ดีกว่านั้น จ้างคนที่มีทัศนคติ “ที่ถูกต้อง” ไปเข้าสอบแทน
ปล.บทความนี้ถอดความจากคอลัมน์ในข่าวสดอิงลิช Khaosod English “ARE YOU QUALIFIED TO PRACTICE JOURNALISM IN JUNTALAND? ” วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2560