Skip to main content

ในคืนอันเฉอะแฉะของปลายฤดูร้อน มีคนเข้ามาคืนความสุขให้คนไทยพักผ่อนกันถ้วนหน้า หลังจากล้าเพราะสงครามมากึ่งปี

แต่ทว่าความสุขที่ได้มาพร้อมเงื่อนไข ไม่เปิดโอกาสให้แสดงออกเต็มที่

หลบไปแสวงหาความสุขด้วยมหกรรมกีฬาระดับโลกแล้วก็หายไป ต้องกลับมาอยู่กับวันใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม

ใช่ ทุกวันไม่เหมือนเดิม เราหวังว่ามันจะดีขึ้น เพื่อยืนหยัดพัฒนาชีวิตพรุ่งนี้ให้ดีกว่าที่ผ่านมา

เพราะหากรู้ว่าพรุ่งจะเลวร้ายกว่าก็ว่าจะหลับลึกไม่ตื่นไปเลยเสียดีกว่า

 

เกือบสามสิบปีที่ปัญหา "สมองไหล" ออกจากประเทศไทยไม่ใช่ปัญหาใหญ่ กลับกัน แรงงานไทย ช่างฝีมือ และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางกลับมารับกระแสความร้อยแรงทางเศรษฐกิจที่เติมโต และร้อนแรงของเอเชีย แม้จะมีสะดุดให้เสียจังหวะไปบ้าง แต่ก็ค่อนข้างปลอดภัย หากจะฝากชีวิตตนและครอบครัวไว้ในอนาคต

สังคมที่ป่าเถื่อนเลื่อนลอย จ้องจะสอยกันด้วยกฎหมายดิบ กฎหมายเถื่อน เพียงแค่เอื้อนเอ่ยภาษาไทยไม่ถูกใจฝั่งตรงข้าม ตามมาหลอกหลอน

ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน คือ สายตาจับผิดที่จ้องปลิดชีวิตหากผลีผลามย่ามใจแสดงออกไปว่า ไม่เอาเว้ย!!! อาจได้เผยตัวต่อฝูงกาประชาทัณฑ์

 

มากเกินกว่าจะพรรณาได้หมด คือ การกดความรู้สึกจินตนาการ และสุนทรีย์ในชีวิต   ทุกอย่างถูกตัดสิน ผิด ถูก ดี เลว ชั่วชาติ ขาดความหวังดี เพิ่มทวีความหม่นหมอง

หากตรองดูให้ดี ชีวิตนี้เกิดครั้งเดียวตายครั้งเดียว หากต้องเคี้ยวหญ้าที่เขาป้อน สู้หอบผ้าหอบผ่อนไปหย่อนกายใจไว้ที่อื่นมิดีกว่าหรือ

เพราะนี่คือ โลก เกือบไร้พรมแดน   ไม่ใช่ว่าจะไปไหนมาไหนได้ตามใจ แต่คนที่มีทุน ก็มีโอกาสจะย้ายไปโตที่อื่นได้ แล้วแต่ว่ากระถางใหม่จะเปิดกว้างยอมรับ

 

กลับมาที่คำถามพื้นฐาน โลกต้องการอะไร? ชาติไทยต้องการอะไร?  เรามีชีวิตทุกวันไปเพื่ออะไร?

กิน ขี้ ขยี้ นอน พอแล้วหรือ?!!!   สังคมขับเคลื่อนไปเพื่อสิ่งนี้เท่านั้น หาได้ฝันใฝ่ถึง "ความหมาย" อื่นใดในชีวิต นอกจากตอบสนองความจำเป็นพื้นฐาน

ความต้องการ ความปรารถนา ความฝัน มีหลายขั้นหลายต่อ อยู่ที่ระดับสติปัญญาและจินตนาการจะพาก้าวผ่านข้ามไป

ไม่ต้องแปลกใจหากสังคมและเศรษฐกิจไทย ยังไปไม่ไกลกว่าการผลิตสินค้าและบริการขั้นพื้นฐาน

อาหารเอาแค่อิ่ม เสื้อผ้าเอาแค่คนอื่นว่าดี ยาแก้อาการ ที่ซุกหัวนอนไปวันๆ ทั้งที่เพลงดังและละคร พูดถึง "ความฝัน" เต็มไปหมด

อืมมมมม... บันไดแห่งความฝัน คงมีขั้นต่างๆกว่าจะเหยียบย่างไปไม่ง่ายสินะ   จะง่ายได้อย่างไร หากต้องจ่ายหลายๆต่อ

จะเปิดร้านก็ต้องเสียค่าคุ้มครอง   จะขายของก็ต้องเสียค่าอนุญาต   จะขายบริการก็ต้องผ่านการรับรอง  คิดอะไรใหม่ก็โดนตัวใหญ่ขโมยโปรเจ็คไป จบข่าว!!!

หากใครคิดว่า มาบ่นเรื่องปากท้องทำไม ใครๆก็ปากกัดตีนถีบทั้งนั้น   เปล่าเลย มันไม่ใช่เรื่องเศรษฐกิจ มันเป็นเรื่องของอำนาจ

 

สงสัยไหมว่า ทำไมคนขยันเท่ากันแต่ก้าวไปถึงเป้าหมายได้ต่างกัน

มันคือ เกมส์ชีวิต ไงล่ะ   เกมส์ที่ชนชั้นนำ และมวลชน คิดต่างกัน

มวลชนส่วนใหญ่ใช้เวลาไปกับการคิดว่า จะทำงานอะไรเพื่อให้มีกินมีใช้ มีความมั่นคง

แต่ ชนชั้นนำครุ่นคิดว่าจะนั่งกินนอนกินได้อย่างไร โดยไม่ต้องใช้เวลาไปกับการทำงาน

แค่นี้ก็ต่างกันอักโข

 

บางคนบอกว่า อย่าคิดมากเลยน่า คิดไปก็ทำไม่ได้    แล้วที่ชนชั้นนำไทยคิด มันหรูหราพิศดารและพิเศษมากเลยหรือ 

คำตอบก็คือ ไม่! แต่เขามีแผน และลงมือทำกันต่อเนื่องยาวนาน   จนสร้างบ้านวิมานลอยให้กลายเป็นฝันที่ทุกคนอยากจะสอยมาเป็นของตน

ฝันที่ว่า คือ การประสบความสำเร็จส่วนบุคคลได้หากขยันตั้งใจทำงานอย่างกตัญญูรู้คุณคน หรือพูดง่ายๆ ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟ้องนาย ไม่ขายเพื่อน

ทุกคนอยู่ร่วมในวงศาคณาธิปไตย ที่จะรักษาความยิ่งใหญ่ไว้ในหมู่พรรคพวกเพื่อนฝูง แล้วจูงลูกหลานมาสืบต่อโครงการต่อ

 

พอมีคนรู้ทันชี้ให้เห็นว่า การขายฝันนั้นเลื่อนลอย ก็ถูกปล่อยเกาะให้รับเคราะห์ไปโดยไม่เหลียวแล

กลายเป็นผู้แพ้ที่ไม่มีใครร่วมแชร์ความรู้สึกและประสบการณ์ ประชาธิปไตย และสังคมเสรีจึงไม่มีวันมาถึง เพราะนักล่าฝันล้วนไม่ "ถึง" ด้วยด้อยประสบการณ์

ใครเก่งหน่อยมีความสามารถเก่งกาจในระดับโลก ก็โยกย้ายไปพำนักและปักหลักในแดนไกลได้

บรรยากาศช่วงไหนไม่ดี ก็ค่อยหนีออกไป พอไม่เป็นไรก็กลับเข้ามาพักผ่อน เพราะอย่างที่รู้กันว่าที่นี่มันคือแดนสวรรค์ แต่ดันมีคนผู้ขาดไว้ไม่กี่กลุ่ม

 

หากยังปล่อยให้คนทำมาหากินต้องอยู่กับการจ่ายหลายต่อ   แรงงานต่างด้าวถูกไถหลายช่วง พ่วงด้วยค่าต๋งหลายชั้น

ไปจนถึงขั้นต้องรีดภาษีจากชนชั้นกลาง เพื่อเอาไปเจือจานชนชั้นนำ   วันนั้นคงไม่เหลือความหวังใดให้ก้าวต่อ

พอคนหนึ่งเลิกฝัน คนที่เดินตามกันพลอยล้มครืน แล้วต้องตื่นมาพบกับความจริง

สิ่งที่ไขว่คว้า ไม่อาจเป็นจริงได้หากไม่คลานเข่าเข้าหาเหล่าคนชรา   ที่รู้ว่านี่คือผืนดินสุดท้ายที่ไม่อาจพ่ายแพ้ จึงยักแย่ยักยันเหนี่ยวรั้งไว้ไม่ให้คนรุ่นใหม่

 

คลื่นลูกหลังที่มีไฟและฝีมือยังมีทางออก คือ ข้ามพรมแดนรัฐ ไปวัดความสามารถ แม้จะต้องวาดลวดลายให้เป็นที่หมายปองมากหน่อย

แต่ก็คงดีกว่า ต้องคอย สะกดจิตตามใจผู้ใหญ่ แล้วโยนทิ้งความสร้างสรรค์ลงไปในถังขยะ

 

นี่คือ สงครามแห่งเจเนอเรชั่น (Generation Struggle)   ที่เหล่านักล่าฝันรุ่นใหม่ ต้องเผชิญการตอบโต้จากผู้ใหญ่วัยเก๋า ที่อาจจะด้อยฝีมือในการงาน แต่ถือประสบการณ์ในการรบพุ่งเอาไว้ พ่วงด้วยเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ยอมออกแทนกัน เพื่อรักษาฐานที่มั่นสุดท้าย   ไม่งั้นจะกลายเป็น คนชราไร้ความหมาย

สุดท้าย คนที่ตายหยังเขียด คือ คนที่ต้องเบียดเสียดอยู่ในสังคมที่ยัดเยียด "ความสุข" จนเกินงาม เพราะผู้อาวุโสที่กุมอำนาจไม่อาจตามโลกได้ทัน


ที่พูดมาทั้งหมดนั้น เพราะสังคมไทยขาดหลักประกันความมั่นคงให้กับ คนชรา ว่าเมื่อหมดยศถาบรรดาศักดิ์ หรือทำงานไม่ได้ แล้วจะยังมีความหมายให้สังคมสนใจอยู่อีกหรือ?!!!

 

สิ่งที่แสดงออกมาก็คือ การสู้เฮือกสุดท้ายของเฒ่าชราฝืนชะตากระแสโลกเพื่ออุปโลกน์ รัฐแห่งความสุขขึ้นโอ๋เอ๋ลูกหลานให้หมอบคลานตามหลังมาหย๋อยๆ หรือไม่ก็ออกไปจากเขตแดนซะ!!!

บล็อกของ ยาจกเร่ร่อน

ยาจกเร่ร่อน
ในสังคมไทยปัจจุบันการทำงานของคนเน้นไปที่การแข่งขันกันทำงานเพื่อสะสมเงินไว้สร้างทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อตัวเอง ตั้งแต่การทำมาหากินเพื่อเลี้ยงปากท้องไปวันๆ การอดออมไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน รวมไปถึงเก็บหอมรอมริบไว้ทำทุนในอนาคต  หรือพูดง่ายๆก็คือ ทุกคนต้องสะสมทุกอย่างเพื่อตัวเอง   เพราะสังคมไทยไ
ยาจกเร่ร่อน
คนในโลกปัจจุบันเริ่มไม่รู้หน้า รู้หลัง ไม่รู้ว่าปัจจุบันกำลังทำอะไร เพื่ออะไร หรือควรจะทำอย่างไรต่อไปกับชีวิตเพราะคุณค่า ความหมาย ในหัวที่ถูกกดดัน บีบคั้น เพราะสิ่งที่ถูกสั่งสอนมา มันขัดแย้ง ยอกย้อนกันเอง มาตลอด
ยาจกเร่ร่อน
หลังๆ คงได้ยินคนบ่นว่า "เบื่อคนต่างด้าวที่เข้ามาแย่งงานคนไทย" หรือ "รำคาญนักท่องเที่ยวที่ทำอะไรตามใจตัวเอง" หรือที่เคยกระหึ่มเป็นพักๆ ก็คือ  "ต่อต้านบรรษัทข้ามชาติ"   เรื่องเหล่านี้ใกล้ตัวเรามากขึ้นเรื่อยๆ
ยาจกเร่ร่อน
หากจะลองค้นหาดูว่าในสังคมไทยเรารักเทิดทูนบูชาอะไร เป็นสิ่งสูงสุดในชีวิต อาจทำได้ด้วยการหาหลักฐานมาบอกว่าเราแสดงความรักกับอะไรมากที่สุด   มูลค่าและราคาของสิ่งที่เรารักจนยอมเสียเงินซื้อหามา น่าจะเป็น "ตัวชี้วัดที่ดี" ได้อย่างหนึ่ง  
ยาจกเร่ร่อน
สิ่งที่ยังยืนยันว่า คนจีนยังมีรากเหง้าอยู่ คือ พิธีไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษในช่วงตรุษจีน และเช็งเม้ง  แต่สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน คือ ความทรงจำของคนจีน ที่ผ่านคำบอกเล่าของบรรพบุรุษที่อพยพมากจากเมืองจีน
ยาจกเร่ร่อน
การชุมนุม เป็นเครื่องมือของใคร?หากยึดตามรัฐธรรมนูญ และกฎหมายต่างๆ ประชาชนทุกคนย่อมมีสิทธิในการชุมนุมเพื่อแสดงออกได้อย่างเสมอภาคกัน
ยาจกเร่ร่อน
แด่ พ่อแม่พี่น้องและเพื่อนที่เสนอให้ Respect your Tax ขอพูดง่ายๆ นะครับ สาเหตุที่ต้องเอาการเมืองเรื่องสิทธิการเลือกตั้ง 1 คน 1 เสียง มาใช้ ก็เพื่อมาแก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมทางเศรษฐกิจ เพราะ  ต้นทุนในชีวิตของแต่ละคนในการเริ่มต้นมันไม่เท่า
ยาจกเร่ร่อน
แรงงานพลัดถิ่น คือใคร
ยาจกเร่ร่อน
ใคร คือ แรงงานอารมณ์?
ยาจกเร่ร่อน
แม่ครัว เด็กเสิร์ฟ หาบเร่แผงลอย ช่างนวด คนขับรถรับจ้าง แม่บ้าน คนทำความสะอาด ยาม เป็น "ตัวแทนสาขาอาชีพ" ได้ไหม?