พันธกุมภา
มีนา ถึง...พันธกุมภา ตั้งแต่ตกงาน พี่ยังไม่ได้หยุดงานเลย พี่พบว่าโลกปัจจุบันมีงานอยู่หลายประเภท ขึ้นอยู่กับว่าใครจะนิยามมันว่าเป็นงานอย่างไร สำหรับชีวิตพี่ตอนนี้ มีงานแบบที่ถูกให้คุณค่าทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม และงานที่ไม่ได้ถูกให้ค่าเชิงเศรษฐกิจแต่จำเป็นต้องทำ อันนี้ยังไม่ได้นับรวมเรื่องทางธรรมที่พี่ไปพบมา คืองานที่ทำแล้วไม่มีคุณค่าทางโลกแต่ได้ “บุญ” คิดดูสิว่า... ในโลกเรามีงานมากมายขนาดไหน งานที่พี่ลาออกมาเพื่อขอพัก พี่ยังไม่ได้พักเลยจนกระทั่งบัดนี้ เพราะพี่ทำแต่งานที่ไม่ให้ค่าทางเศรษฐกิจ อย่าง การดูแลแม่ งานบ้าน และการดูแลบ้าน และยังงานอื่นๆ ที่ต้องเกี่ยวข้องกับครอบครัว ไม่ได้อยู่ที่สำนักงาน ไม่ได้อยู่ที่เนื้องานที่ทำให้เราได้รับการชื่นชมในความเก่ง แต่อาจจะได้รับความชื่นชมในความดี ... ยังไงก็อย่าติดดีละกัน
พันธกุมภา
พันธกุมภา ถึง มีนา ผมขอแสดงความดีกับพี่สาวของผมด้วยนะครับ ที่มีโอกาสได้พักผ่อน แม้ว่าหลายคนจะบอกว่าการที่เราตกงานนั้นเปรียบเสมือนการพายเรือในมหาสมุทรที่กว้างใหญ่เคว้งคว้างไม่รู้ว่าจะมีหนทางในงานใหม่อย่างไรได้อีก ผมทราบดีว่าพี่คงจะเหนื่อยจากการทำงานมิน้อยเลย และเชื่อว่าการได้รับมอบหมายงานเยอะคงไม่ใช่สาเหตุของการออกจากงานหรอกใช่ไหมครับ ผมรู้ว่าจดหมายหลายฉบับที่พี่ได้เขียนมาบอกเล่านั้นมันสะท้อนให้เห็นถึงการต่อสู้กับวิถีชีวิตความเป็นคนในเมืองหลวง และรวมถึงการต้องสัมพันธ์กับคนมากหน้าหลายตา ที่มีตัวตนแตกต่างกันไป การที่เราทำงานที่เรารัก ถือเป็นสิ่งที่ประเสริฐอย่างยิ่งกับวิถีชีวิตของเรา บางครั้งเมื่อถึงจุดๆ หนึ่ง เราก็อยากจะพัก เพราะอะไร? ผมไม่รู้ แต่เรื่องบางอย่างมันก็ไม่ต้องการเหตุผล หรืออารมณ์ เพราะมันเป็นความรู้สึกยางอย่างที่บอกไม่ได้ บอกไม่ถูก ถามว่าทำไมต้องออกจากงาน? หลายคนอาจอยากได้ยินคำตอบและเหตุผลมากมาย แต่เราก็บอกไม่ค่อยจะได้ว่าทำไม เพราะใจเราเองนั้นแหละที่เป็นคนบอก และมันก็พูดออกมาไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร