นายหมูแดงอวกาศ
กาลครั้งหนึ่ง..ณ ..เมืองปาย
"กาลครั้งหนึ่ง..ณ ..เมืองปาย จากขุนเขาสู่เมืองใหม่ "
ผมเขียนบทความนี้อีกครั้งเพราะเห็นหนังเรื่องหนึ่งที่เผอิญท่องโลก www. และไปเห็น เลยเอามาเขียน ปายอินเลิฟ และ ผมเองก็คิดถึงปายที่ผมไปเที่ยวมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักปายเลยแหละครับ(อ้วก เมา หลับคือปาย) และไปเที่ยวปายอีกหลายๆครั้งต่อมาเรื่อยๆเพราะหลงมัน เหมือนการเสพย์ติดเมืองปายเข้าไปแล้ว มีเวลาว่างหน่อยไม่ได้เป็นอันแบกกระเป๋ามาปายทุกทีซินะครับ เฮ้อเที่ยวมากก็หมดเงินไปมากโขอยู่แต่ไงได้มันอยากไป
วันแรกที่ผมไปเมืองปายเป็นวันที่ผมแอบลาหยุดพักร้อนที่ยาวเป็นประวัติการ ไม่ได้หวังโบนัสสิ้นปีแต่ขอโบนัสชีวิตตัวเองดีกว่า ไม่ได้ร่ำรวยอะไรกับเขาหลอกครับเงินก็มีแค่นี้เที่ยวก็เล่นเอาตังที่เก็บมาแฟบไปหลายเดือนทีเดียว เหอๆๆ ผมเดินทางโดยรถตู้ขาว ส้ม เชียงใหม่-ปาย มีขนมและน้ำให้กินด้วยนะครับ คำเตือนของผมอย่าเผลอกินเชียว เพราะตอนที่คุณเค้าโค้งวกวนเหมือนงูเป็นร้อยๆ โค้งนั่นแหละ ที่คุณกินเข้าไปจะพุ่งออกมาเป็นพลุเพราะเวียนหัวมากๆๆ ไม่ได้ขู่นะครับไม่เชื่อลองดูก็ได้ แม้คนล้านนาอย่างผมยังอ้วกพุ่ง ผมไปทำงานเมืองกรุงมาหลายปีดีดักเห็นปายเข้าปุ๊บก็หลงปั๊บเลยครับ เพราะช่วงที่ไปเดือนพฤศจิกายน หนาวๆๆๆๆๆ เข้ากระดูก หมอกสีขาว ยิ่งไปเห็น และยิ่งเช่ามอเตอร์ไซด์ขับไปที่พักบอกได้อย่างเดียวครับ ม่วนขนาดอากาศหนาวไปเจอที่พักเป็นกระท่อมไม้ไผ่เล็กๆ มีมุ้งกางให้ พอตกกลางคืนจิ้งหรีด จักจั่นร้องกันดังระงมไปหมด เพราะผมอยู่กรุงเทพฯ ผมฟังแต่เสียงแตรรถ แป้นๆๆๆ ไม่งั้นก็เสียงเครื่องยนต์ของรถเมล์แหละครับ เฮ้อแทบเป็นบ้าแต่ละวัน เหนื่อยแทบลากเลือด เล่าต่อ!!!! เมื่อไปถึงที่พักผมไม่อาบน้ำ อิอิ ซกมกก็ช่างเพราะนอนคนเดียวกลัวไร เพราะหลัง 4 โมงเย็นผมไปจับน้ำนะครับ น้ำเหมือนน้ำแข็งเลยไม่ไหวๆๆ เลยนอนเลยนี่จบภารกิจวันแรกของผม
วันต่อมา ผมกะแผนไว้ในใจมากมายเพราะเวลาเที่ยวผมที่อยู่เมืองปาย กะ ไว้ประมาณ 2-3 วัน ก่อนจะไปลอยกระทงที่เชียงใหม่ วันนี้ผมกะไปที่มองทุกที่เห็นวิวเมืองปายคือ พระธาตุแม่เย็น ร้านกาแฟสุดนิยม coffee in love แล้วก็ตบด้วยไปเดินสบายๆๆตามแบบผมที่ถนนคนเดิน เริ่มที่แรกเลยครับ
พระธาตุแม่เย็น ซึ่งเชื่อไหมครับเห็นเมืองปายเลยวิวสวยมากๆๆ เพราะเห็นทุกทิศทุกทางรอบไปหมด แต่ที่ผมแปลกใจ ภุเขาหัวโล้นทำไมมันมากจัง และรีสอร์ท บ้านพักมากมายไปหมด บางครั้งผมว่ามันมากกว่าบ้านชาวบ้านของคนปายที่อยู่จริงๆนะ นี่เป็นคำถามของผม และอาจเป็นบทความเกี่ยวเนื่องของผมอีกก็ได้ ถ้าผมมีอารมณ์เขียนอีกครั้ง
Coffee in love หนังไปถ่ายตั้งหลายเรื่อง ผมยอมรับเลยว่า วิวสวยตกแต่งได้ดี ยังกะเมืองในนิยายเลยครับ ผมสั่งกาแฟมา 1 แก้ว และไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่หรอกครับ เพราะมันหวานมากๆๆ เลย ผมจึงตั้งหน้าตั้งตาเอาแต่ถ่ายรูป และนั่งอ่านหนังสือที่ผมพกมา 1 เล่ม เป็นนิยายแปลที่ผมซื้อมาเพราะมันคล้ายชีวิตผมเมื่อก่อนหรือปัจจุบันด้วยหรือเป่าหว่า the devil wear of prada ครับ หรือชื่อไทย นางมารสวมปราด้า ผมคงนั่งไปแป๊บเดียวนะครับ 2 ชั่วโมงนี่แหละแป๊บ จำได้ว่าอ่านนิยายไปได้ประมาณ 60 หน้า เลยแหละครับ แต่ก็เอาเถอะน่าไม่ได้เร่งรีบอะไรไปเรื่อยๆ นี่แหละที่นี่ร้านกาแฟแห่งความรักที่คุณค่าของที่นี่คือ วิวและบรรยากาศมากกว่ารสชาตกาแฟ ครับ
และผมเองก็มีมอเตอร์ไซด์คู่ใจที่เช่ามาขับโต๋เต๋ไปเรื่อยๆ สักพักเวลาหัวค่ำเพื่อไปเดิน ถนนคนเดินเมืองปาย ไปกินข้าวปุกปิ้ง ข้าวพันผักรสชาติเหมือนกินสุกี้นะครับ และที่มากกว่านั้นไปดูเสื้อเมืองปายที่คนเขานิยมซื้อกัน เขียนว่า ไปปายมาบ้าง เที่ยวปายหรืออะไรประมาณนี้นะครับ ผมเห็นเต็มไปหมดและขายดี ตรงกันข้าวผมกลับไม่ได้อะไรติดมือมานอกจากขนมเส้นน้ำเงี้ยวที่แม่อุ๊ยแก่ๆ นั่งขาย 1 ชุดครับ และไปมาของสวยๆงานๆมาตื่นตาตื่นใจดีครับ ของเยอะไปหมด ที่สำคัญของฝากแพงมากขอบอกครับ มีอีกอย่างบอกก่อนว่าไม่ให้ลอกเลียนแบบนะครับ เพราะไปจิบเหล้าปั่นที่ร้านสถานีเหล้าปายมา อร่อยมากๆๆ หอมๆนุ่มๆ ผมว่าบรรยากาศนี่มันก็ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างดีได้สวยงามไปหมด ผมขอชมเลยว่าเมืองปายเป็นเมืองแห่งการจัดการ ที่มีทั้งกึ่งชนบทปนความทันสมัย สงสัยคนที่ช่วยกันเนรมิตเมืองคงเอา 4 Ps มาจับ บวก imagination เข้าไปด้วยครับ แล้วก็หมดเป้าหมายของผมแล้ววันที่ 2
วันสุดท้าย ณ เมืองปาย การท่องเที่ยวของผม และการนั่งย้อนคิดไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว วันสุดท้ายนี้ผมกะไปไหนดี เพราะมีเวลาแค่ช่วงเช้าก่อนที่จะต้องนั่งรถกลับไปเชียงใหม่ไปหาป้าเพื่อลอยกระทงกัน เพราะนัดกันไว้แล้วไม่ไปผมคงโดนด่าใช่ย่อย ผมจึงตัดสินใจเอาว่าเวลาที่เหลือไปไหว้พระอีกครั้งหนึ่ง ที่วัดพระเจ้าพาราแบ่งจำชื่อเต็มๆไม่ได้ครับ แต่เอาเป็นว่าเป็นพระที่สวยมากๆๆเลยครับ ไหว้พระก่อนกลับเชียงใหม่และเป็นวันที่สิ้นสุดทริปนี้ของผมก็เดินทางของหมูแดง
ปล. บททิ้งท้าย ผมเขียนบทความนี้เพราะผมนั่งเฉยๆในวันปีใหม่และนึกย้อนกลับไปเมื่อผมไปปายมาครั้งแรก ไม่รู้ด้วยเหตุผลอันใดเลยเอามาแบ่งปันอีกครั้งหนึ่ง แต่เกร็ดประเด็นที่เป็นปัจจุบันที่ผมจุดประเด็นคือว่า ปายทุกวันนี้เปลี่ยนไปแค่ไหน ปายเมืองในฝัน ที่ผู้จัดการเก่งมากทำได้ไง เอาความโรแมนติก + วัฒนธรรม + การตลาด+ และวัฒนธรรมใหม่ๆ เหล่านี้ เล่นเอาคนกรุงหลงไปตามๆกัน เพราะเชื่อไปสัมผัสบรรยากาศชนบทแบบคนเมืองกัน เห็นได้จากไปปายช่วงเทศกาลระวังไม่มีที่เติมน้ำมัน เพราะน้ำมันหมด ร้านข้าวคนแน่นเอี๊ยด จากหน้าหนาวเป็นหน้าร้อนไปทันใด ฝากศัพท์เล็กๆไว้ ที่เห็นเขาเขียน(จำขี้ปากฝรั่งมาบ้าง) PAI is a cultural invention of tradition for nostalgia