วิพากษ์

เชียร์บอลไทย ... เชียร์สังคมไทย ให้ก้าวไปข้างหน้า (อีกสักครั้ง)

 

คิม ไชยสุขประเสริฐ

 

ข่าวคราวในวงการกีฬา เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา คงเป็นที่จดจำสำหรับคนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลหรือเป็นนักเชียร์ตัวยงสำหรับกีฬาต่างๆ ที่ลงท้ายด้วยทีมชาติไทยพ่ายทีมชาติเวียดนาม 1-2 ประตู ในฟุตบอลอาเซียน ซูซูกิ คัพ 2008  รอบชิงชนะเลิศนัดแรก ซึ่งจัดขึ้นที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน โดยเกมนี้มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมตรี เดินทางไปเชียร์ทีมไทยถึงขอบสนาม

 

เรียกได้ว่าเป็นการแพ้กันคาบ้าน

 

 

เริงรมย์ที่ไม่ราบรื่นของ ตาอยู่ (คนที่มาเดี๋ยวเดียว คว้าพุงเพียวๆไปกิน)

25 December, 2008 - 00:00 -- thanorm


ฮะฮ้า ทักษิณ ชินวัตร

เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา

เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา

เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา

เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา เวลา

แห่งการเสพ...

กำสรวล ทักษิณ ชินวัตร 15 ธันวาคม 2551

18 December, 2008 - 00:00 -- thanorm

โอ้ การเมือง

ใช่ซินะ

ไม่มีใครเป็นมิตร

ไม่มีใครเป็นศัตรูกันอย่างแท้จริง

นอกจากผลประโยชน์ที่แปลว่า เงิน

เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน

เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน

เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน

เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน เงิน

ที่ติดตามมา...

ในนามของตำแหน่ง อำนาจ ยศถาบรรดาศักดิ์ เท่านั้น

ในห้วงคำนึงขบถโรมานซ์ : *1 "ร า ษ ฏ ร์ เ ดิ น นำ"...ร า ษ ฏ ร์ ดำ เ นิ น

"รา ษ ฏ ร์ เ ดิ น นำ"

บ่งบอกย้ำ

มาทุกยุค

เพลิงเปลว ที่ ลามรุก

คือไ ฟ ลา ม อันปลอบปลุก

ให้ผ อ ง ช นได้ห ยั ด ยื น

_ _ _ คือเ ป ล ว ไ ฟ ป ลุ ก ค น ตื่ น

ต้านอ ธ ร ร ร ม ที่พลิกฟื้น

เพลิงแ ผ ด เ ผาอ วิ ช ชา

... "ลุ ก ขึ้ น สู้" ทุกกระบวนท่า

พรั่งพร้อมลีลา

ให้ผู้ก ด ขี่มึนงง

**2 "กี่กัป กี่กัลป์ มั่นคง

เบิกทาง โบกธง

บนถนนคนหาญ สะท้านสะทึก"

โ อ ... เ พื่ อ น

ม นุ ษ ย ชา ติ รำลึก

ย่ำย่าง ตรองตรึก

ยุ ติ ธ ร ร ม นำ ทา ง

โอ ... นั่น ด ว ง ตะ

วั น ก ระ จ่า ง

คืนเ ดื อ น-ดา ว เบิ ก ทา ง

ยลยิ้มให้ป ระ ชา ชั ย


โ อ ... วาดฝัน ฤา ไฉน?

เบิกสร้างทา ง ไ ท

สืบทอดอุ ด ม กา ร ณ์ นิ รั น ด ร์ !!!

อรุณรุ่ง ณ ดินแดนล้านนาอิศรา,
10
..51

*1 และ **2 คือ ถ้อยกวีของอ้าย "เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์" เขียนใน นสพ.เดลินิวส์ ฉบับวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม (วันครบรอบ 66 ปี พคท.)

มีแต่ก้าว...ไปข้างหน้า

11 December, 2008 - 11:51 -- maythas

 

เป็นการพังทลายลงของสถาบันตุลาการโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของความน่าเชื่อถือ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิพากษายุบพรรคการเมืองซีกรัฐบาลรวดเดียว 3 พรรค อย่างรวบรัดตัดความ เร่งร้อนลนลานและผิด ๆ ถูก ๆ

นักวิชาการผู้เคารพในหลักการ และคอการเมืองทั้งหลายพากันวิพากษ์วิจารณ์กันขรมถึงสิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญได้ทำลงไป เริ่มตั้งแต่ประเด็นเรื่องคุณสมบัติของตุลาการผู้เอาตัวรอดด้วยการท่องคาถาคุณธรรม จริยธรรม เป็นนิจสิน อย่างนายจรัล ภักดีธนากุล ไปจนถึงการย้ายสถานที่พิจารณาตัดสินคดีอย่างปุบปับ รวมไปถึงการนำทหารป่าหวายเข้ามาอารักขาตุลาการ แทนที่จะหยุดยั้งเหล่ามารพันธมิตร

บางคนต่อรองไว้ว่าร้อยนึงเอาบาทเดียว ทายว่าพรรคการเมืองจะต้องโดนยุบแน่ ๆ เพียงแต่จะช้าหรือเร็วเท่านั้นซึ่งผลก็ออกมาดังที่รู้กัน

ในห้วงคำนึงขบถโรมานซ์ : เ พื่ อ ผ อ ง เ พื่ อ น ม นุ ษ ย ช า ติ - ม นุ ษ ย ช น

*@ "บงเนื้อก็เนื้อเต้น

พิศสะเส้นสรีรัว

ทั่วร่างและทั้งตัว

ก็ระริกระริวไหว ฯลฯ"

มองตาก็เห็นตา

ผองประชาผู้ยากไร้

หมดสิ้นความเป็นไท

ด้วยมารร้ายกดขี่คน

นานเนิ่นนักนานแล้ว

พี่น้องแก้วทุกแห่งหน

ก่อเกิดแสนทุกข์ทน

การกดขี่คงนิรันดร์

สงคราม (จากมุมมองของ กฤษณะมูรติ)

4 December, 2008 - 00:00 -- thanorm


เราจะแก้ปัญหาความยุ่งเหยิง วุ่นวาย ทางการเมืองในปัจจุบัน

และวิกฤติการณ์ในโลกได้อย่างไร มีอะไรที่ปัจเจกบุคคลจะสามารถทำได้ เพื่อหยุดยั้งสงครามที่กำลังจะเกิดขึ้น

สงคราม

เป็นการแสดงออกที่มีขอบข่ายกว้างขวาง และทำให้สูญเสียเลือดเนื้อของชีวิตประจำวันของเราใช่หรือไม่ สงครามเป็นเพียงการแสดงออกภายนอกของสภาพภายใน เป็นส่วนขยายของการกระทำของเราในชีวิตประจำวัน สงครามมีขอบเขตกว้างขวางกว่า นองเลือดกว่าและสร้างความพินาศได้มากกว่า แต่มันก็เป็นผลรวมของกิจกรรมแต่ละอย่างของเรา

อย่าอ่อนข้อให้พันธมิตร

2 December, 2008 - 00:00 -- maythas

ไม่กี่วันที่ผ่านมาเราคงได้เห็นกันแล้วว่าลัทธิพันธมิตรสามารถทำอะไรได้บ้าง ลัทธิพันธมิตรทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นถ้าอยากทำ ตั้งแต่การปิดสี่แยกเพื่อให้การจราจรเป็นอัมพาต ยึดรถเมล์ ล้อมรัฐสภา ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ไปจนถึงการปิดสนามบินเพื่อทำให้ผู้อื่น-ชาวต่างชาติ เดือดร้อนอย่างจงใจ

บัดนี้ ใครที่ยังเชื่อว่าลัทธิพันธมิตรชุมนุมแบบอหิงสาอันหมายความว่าไม่เบียดเบียนผู้อื่นนั้นคงจะปัญญาอ่อนเต็มที ใครที่ยังเห็นว่าลัทธิพันธมิตรเป็นการเมืองภาคประชาชนในระบอบประชาธิปไตยคงจะเป็นคนโง่ดักดาน และดังนั้นเพื่อชีวิตจะได้กลับสู่ความปกติ จึงควรหยุดให้ท้ายลัทธิพันธมิตรในทุกทาง

เมื่อความขัดแย้งงวดขึ้นและการชุมนุมที่ยาวนานไร้ผล ลัทธิพันธมิตรได้เปิดเผยโฉมหน้าด้านมืดของระบอบอมาตยาธิปไตย ด้านที่เป็นความรุนแรงโหดร้าย ด้านที่ไม่ยอมฟังเสียงใคร ด้านที่ไร้เหตุผล ทุ่มทุนล้มกระดานอีกครั้งหนึ่ง

บางคนเรียกลัทธิพันธมิตรว่าเป็นกลุ่มฟาสซิสต์ แต่ฟาสซิสต์แบบพันธมิตรนั้นได้รับการหนุนหลังจากอำนาจนอกรัฐธรรมนูญที่แตะต้องไม่ได้ (เพราะถ้าแตะต้องได้ ลัทธิพันธมิตรก็จะถูกแตะต้องไปตั้งนานแล้ว) เป็นฟาสซิสต์รูปแบบใหม่ที่จับมือกับอำนาจศักดินากลายเป็นกลุ่มกองโจรก่อการร้าย

กบฏสัญจร: ภายใต้ลมหนาว ความคับขันของบ้านเมืองและทุกชีวิตที่ต้องเดินต่อไป

พิชญ์ รัฐแฉล้ม

            นานมากแล้วที่ “ประเทศของเรา” ประสบกับสภาพความมั่นคงและเสถียรภาพที่แหว่งวิ่นเต็มทน และตอนนี้ก็ดูเหมือนว่าความหวังในความสำเร็จของการจัดการกับปัญหายิ่งเลือนรางไปทุกที ทุกเรื่อง ทุกราว กำลังถาโถมเข้ามาจากทุกสารทิศเพื่อมารวมศูนย์ ณ เมืองหลวงมิคสัญญีแห่งนี้ จนกระแสข่าวรายวันจากปักษ์ใต้ อีสาน...แผ่วและเบาเหมือนลมต้นฤดูหนาว

 

 สื่อต่างๆ ทั้งไทย-ต่างประเทศ ประโคมข่าวจากเมืองหลวงกระจายสู่ทุกอณูเนื้อโลก ช่างน่าตกใจ! ภาพแห่ง “ความรุนแรง” ของฝูงชนขาดสติและไม่เหลือแม้สายใยในความเป็นมนุษย์ร่วมกัน ถูกกระจายออกไป ควบคู่ไปกับความพยายามในการโปรโมตหนทางสู่  “สันติ”... สลับกันไปมาเหมือนนั่งดูเทนนิส เพื่อที่สุดท้ายจะสรุปบอกตัวเองว่า เรื่องราวทั้งหมดคือสินค้ายอดฮิตที่สร้างอารมณ์ร่วม (อันหม่นเศร้า) ของผู้บริโภคสื่อกระแสหลัก

เมื่อไม่นานมานี้เอง จอทีวีที่บ้านมีแต่ภาพการเสนอข่าวการจัดสานเสวนา การหาหนทางสันติ และการระงับความรุนแรงที่บานปลายอยู่ในขณะนี้เพื่อให้เข้ามาเป็นทางเลือกต่อการตัดสินใจของบรรดาผู้ (แกน) นำ โดยหวังว่าปัญหาที่เกิดขึ้นนี้จะสิ้นสุดและจบลงอย่างสวยงามโดยเร็วที่สุด แต่ภาพแบบนั้นห่างหายไปแล้ว ณ วินาทีที่ผู้คนกำลังพากันสิ้นหวังลงเรื่อย ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมามีแต่ภาพของความรุนแรง การใช้อำนาจ อาวุธ การขาดสติและเหตุผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้มีอะไรมากไปกว่า การที่ต่างฝ่ายต่างพยายามขุดคุ้ยขยะของฝ่ายตรงข้ามออกมาประจานจนล้นเมือง... !

เราปฏิเสธไม่ได้ว่า เหตุการณ์ความขัดแย้งของกลุ่มฝูงชน การปะทะกับกับเจ้าหน้าที่ หรือการปิดล้อมสถานที่เพื่อเอาคนอื่นๆ เป็นตัวประกันต่อรอง สิ่งเหล่านั้นได้สร้างความเสียหายต่อประเทศ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม รวมไปถึงสภาวะจิตใจพลเมืองของชาติด้วย

 

กลิ่นอายสังคมไทย….. กลับสู่ภาวะปกติแล้ว???

 

ธวัชชัย ชำนาญ

ช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นห้วงเวลาที่คนไทยทั่วทุกสารทิศ เดินทางเข้ามาร่วมเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ "พิธีพระราชทานเพลิงพระศพ สมเด็จพระพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ" ความยิ่งใหญ่อลังการที่ทุกคนคงรู้ดีที่ไม่จำเป็นต้องสาธยายเยอะ  แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ ความสงบเงียบของบ้านเมืองที่ดูเหมือนมีพลังอำนาจอะไรบางอย่างมากดทับกลิ่นอายของสังคมไทยที่เคยเป็นอยู่

กลิ่นอายที่ว่านั้น..เป็นกลิ่นอายของความขัดแย้ง ความเกลียดชังของคนในสังคมที่ถูกกดทับมาตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ฟังดูแล้วเหมือนว่าอยากให้อำนาจแบบนั้นกดทับความขัดแย้งที่มีอยู่ในสังคมตลอดไป

แต่ในที่สุดช่วงเวลาที่สงบเงียบก็ผ่านพ้นไป เพียงอึดใจเดียว สถานการณ์บ้านเมืองของเราก็กลับมาเข้าสู่ภาวะปกติ เช้าวันที่20 .. เหตุระเบิดก็เกิดขึ้นที่หน้าเวทีพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตามข่าวที่ออกมาบอกว่า M 79 ถูกยิงออกมาทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 23 ราย

หลังจากนั้นทางแกนนำพันธมิตรก็มีแถลงการณ์ออกมา เพื่อรวมพลกองทัพเสื้อเหลืองทั่วประเทศบุกรัฐสภาในวันที่ 23 ..2551  โดยหวังเป็นหมัดสุดท้ายหวังน๊อกคู่ต่อสู้ให้คาเวที

................................................................................

 

Pages

Subscribe to วิพากษ์