Skip to main content
Carousal
คุณเคยคิดบ้างไหมคะว่า มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนไม่เพียงแต่สิ่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจนอย่างระบบโครงสร้างของร่างกายที่ตั้งฉากกับพื้นโลก  ซึ่งแตกต่างจากสัตว์มีกระดูกสันหลังส่วนใหญ่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสิ่งที่มองไม่เห็นอย่างระบบสมอง การรับรู้ และความรู้สึกนึกคิดอีกด้วย การทำงานของเซลล์ประสาทสีเทานับล้าน ๆ เซลล์ที่กระจุกตัวรวมกันอยู่ใต้กระโหลกของเรา ทำให้มนุษย์สามารถแปลผลและวิเคราะห์สิ่งต่าง ๆ ที่ได้พบเป็นข้อมูลที่ลึกซึ้งได้และด้วยความซับซ้อนของสมองนี้เอง เมื่อมันต้องทำงานภายใต้สภาวะที่ไม่เหมาะสมกับตัวมัน เช่นมีความกดดันหรือความเครียด การประมวลผลและการสั่งการของมันก็ย่อมจะผิดเพี้ยนไปเรามาทำความเข้าใจความซับซ้อนของมนุษย์ให้มากขึ้นอีกนิด ผ่านทางการ์ตูนเรื่องนี้กันเถอะค่ะPsycho Doctor เป็นผลงานการเขียนของอาจารย์ TADASHI AGI ที่ถูกนำมาถ่ายทอดในรูปแบบการ์ตูนโดยนักวาดการ์ตูนฝีมือเยี่ยมสองท่าน บงกชคอมมิคส์จัดจำหน่ายโดยแบ่งออกเป็นสองภาค ภาคแรกในชื่อ Psycho Doctor - คุณหมอจอมเจ๋อ โดยฝีมือการวาดของอาจารย์  KEN MATOBA (8 เล่มจบ) และภาคสอง Psycho Doctor Kai Kyosuke – คุณหมอยอดนักสืบ  โดยอาจารย์ SHU OKIMOTO (4 เล่มจบ)เนื้อหาของ Psycho Doctor นำเสนอเรื่องราวของเหล่าผู้คนในสังคมยุคปัจจุบัน ที่เมื่อเมืองเจริญก้าวหน้าขึ้น จิตใจอันเปราะบางของคนเราก็ยิ่งต้องแบกรับสภาวะที่เคร่งเครียดมากยิ่งขึ้น และในที่สุดก็แสดงออกในรูปของบุคลิกภาพที่สับสนแปรปรวน ไปจนกระทั่งก่อความวุ่นวายและอาชญากรรม โดยการ์ตูนจะนำเสนอแบบเป็นตอน ๆ ตามกรณีศึกษาแต่ละกรณีที่คุณหมอไค เคียวซึเกะ จิตแพทย์อิสระที่เปิดสถาบันให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาอยู่ที่อพาร์ทเมนต์โทรม ๆ แห่งหนึ่งในโตเกียว ได้ประสบพบมาสิ่งแรกที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้น่าสนใจ คือทฤษฎีและข้อมูลเกี่ยวกับจิตวิทยาที่สอดแทรกอยู่ในเนื้อเรื่องแต่ละตอนค่ะ ตั้งแต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน อย่างจิตวิทยาในการพูดเพื่อโน้มน้าวจิตใจคน การจับความรู้สึก หรือจับโกหกคนที่กำลังพูดด้วยจากกิริยาอาการเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ดูเหมือนจะไม่มีความสำคัญซึ่งเขาเผลอแสดงออกมา ไปจนกระทั่งถึงอาการทางจิตที่รุนแรงจนเรียกได้ว่าเป็นโรคที่ต้องเข้ารับการรักษา เช่นฮิคิโคโมริ (พวกที่ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องของตัวเองโดยไม่ยอมออกมาพบหน้าใครเลยแม้แต่ครอบครัวนานเป็นปีๆ), บุคลิกภาพซ้อน (มีสองคนในร่างเดียว เหมือน ดร. แจ็คคิลกับมิสเตอร์ไฮด์) และฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง เป็นต้นคุณเคยเข้ารับการทดสอบทางจิตวิทยาไหมคะ? ถ้าคุณเคยเลือกคณะแพทย์ตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัย คุณต้องเคยได้ทำข้อสอบที่เรียกว่า ‘ความถนัดทางแพทย์’ ข้อสอบชุดนี้แหละค่ะคือบททดสอบทางจิตวิทยา เพื่อให้แน่ใจว่า คุณเป็นผู้ที่มีสุขภาพจิตปกติ ก่อนที่จะรับคุณเข้าเรียน ในการ์ตูน Psycho Doctor จะเฉลยแบบทดสอบบางชุดว่ามันใช้วัดอะไร และแสดงอะไรออกมา ที่เราเคยเห็นและคุ้นเคยกันพอสมควรคงจะเป็นโบมเทสต์ เป็นการทดสอบที่ให้คุณวาดรูปต้นไม้และบ้าน ต้นไม้แสดงถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคนรอบข้าง บ้านแสดงถึงตัวตนที่แท้จริงและครอบครัวของคุณ ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณวาดลงไป ทิศทางของกิ่งก้าน ขนาดของลำต้น ผลไม้และสัตว์ที่เกาะอยู่บนต้นไม้ ขนาดของพื้นดิน ประตู หน้าต่าง ทุกอย่างล้วนมีความหมายซุกซ่อนอยู่ ซึ่งจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะสามารถวิเคราะห์ออกมาเป็นสุขภาพจิต ณ เวลาปัจจุบันของคุณได้ค่ะอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ คือสารที่การ์ตูนเรื่องนี้ต้องการจะสื่อค่ะ ผู้เขียนต้องการที่จะบอกเราว่า ผู้ป่วยที่เป็นกรณีศึกษาเหล่านี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวการ์ตูนสมมติที่ไม่มีชีวิตจิตใจ แต่เป็นคนจริง ๆ ที่เราสามารถพบได้ทั่วไปในสังคมยุคปัจจุบัน หากมองย้อนกลับไปถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขาเกิดความผิดปกติทางจิต เราจะพบว่า ปัจจัยโน้มนำต่าง ๆ ที่กดดันบีบคั้นพวกเขา ล้วนเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และไม่ได้เป็นเรื่องที่ไกลตัวเลย ตั้งแต่ปัญหาพื้นฐานอย่างครอบครัวที่แตกแยก พ่อแม่หย่าร้าง เด็ก ๆ ต้องเติบโตมาภายใต้การดูแลที่ไม่เหมาะสม (ซึ่งหากคุณเคยศึกษาภูมิหลังของฆาตกรฆ่าต่อเนื่อง คุณจะพบว่าส่วนใหญฆาตกรเหล่านั้นล้วนเคยมีปัญหาหรือปมในจิตใจเนื่องจากการขาดความอบอุ่น และการสั่งสอนเลี้ยงดูที่ถูกต้องในวัยเด็ก) ความเครียดจากการงาน การปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม ความเครียดจากการคาดหวังของทางบ้าน สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เต็มไปด้วยความแข่งขันเช่นในปัจจุบันการบ่มเพาะค่านิยมที่ให้ความสำคัญเฉพาะกับผู้ชนะ และไม่มีที่ยืนสำหรับผู้พ่ายแพ้ ทำให้ผู้ที่ไม่สามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ จะกลายเป็นคนที่หมดกำลังใจต่อสู้ คิดว่าตัวเองไร้ค่า ในขณะที่ผู้ที่ทำได้ทุกอย่างกลายเป็นคนที่แพ้ไม่เป็น เมื่อมีเหตุให้ต้องประสบกับความผิดหวังเข้าสักอย่าง ก็จะยอมรับไม่ได้ ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ญี่ปุ่น ที่มีการแข่งขันและความกดดันที่สูงกว่าบ้านเรามาก มีฮิคิโคโมริขึ้นมาค่ะ ฉันไม่รู้ว่าในประเทศไทยมีฮิคิโคโมริแล้วหรือยัง แต่เด็กที่ป่วยเพราะไม่อยากไปโรงเรียนมีแล้วแน่ ๆ เด็กพวกนี้ไม่ได้แกล้งป่วยนะคะ เขามีอาการจริง ๆ ไม่ว่าจะปวดท้องหรือคลื่นไส้อาเจียน แต่สาเหตุไม่ได้มาจากสุขภาพทางกายบกพร่อง สิ่งที่มีปัญหาคือสุขภาพจิตของเขาต่างหากการที่ Psycho Doctor นำปมปัญหาเหล่านี้มาเรียบเรียงเป็นเรื่องราว ก็นับว่าเป็นอีกสื่อหนึ่งที่นอกจากจะเตือนให้เราตระหนักถึงความเจ็บป่วยของสังคม และเร่งเร้าให้หันกลับมาเผชิญหน้ากับปัญหาเพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขแล้ว ยังบอกให้เรารู้อีกด้วยว่า แม้จะไม่รู้ตัว แต่มนุษย์ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่บอบบาง ละเอียดอ่อน และต้องการความเข้าอกเข้าใจมากกว่าที่คิดถ้าเราเริ่มต้นด้วยการมองคนรอบข้างจากมุมมองของเขา ด้วยความตั้งใจจริงที่จะทำความเข้าใจ ก็จะไม่มีใครที่ถูกทอดทิ้งไว้ในโลกนี้อย่างเดียวดาย ไม่มีใครที่ต้องร้องไห้อยู่ในมุมมืดคนเดียว เพราะว่าไม่มีใครเลยที่อยู่เคียงข้างถ้าใครที่ชอบเรื่องแนวจิตวิทยา ลองหาการ์ตูนเรื่องนี้มาอ่านกันนะคะ รับรองว่าคุณจะต้องทึ่งกับความซับซ้อนของจิตใจมนุษย์ อ่านจบแล้ว อย่าลืมสำรวจตัวเองและคนรอบข้างด้วยนะคะ ว่ามีใครบ้างที่แสดงอาการเข้าเค้าแบบเดียวกับตัวละครในเรื่อง เผื่อว่าคุณจะได้ช่วยเขาแก้ไขปัญหาทางจิตใจได้ทันเวลาไงล่ะ