โอ ไม้จัตวา
เริ่มคอลัมน์ใหม่หัวใจดวงเดิม ขอประเดิมด้วยการพาไปเดินเล่นตามประสาคนถ่ายภาพ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2550 ที่ผ่านมามีโอกาสนั่งเครื่องบินไปเกาะสมุย และช่วงเวลาที่อยู่บนเครื่องนั้น เป็นเวลาที่ข่าวเครื่องบินวันทูโกตกกำลังสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนไทย เครื่องลงปุ๊บเปิดโทรศัพท์ได้ก็มีสายเข้าและ miss call เต็มไปหมด กว่าจะไปถึงสมุยได้ในวันนั้นก็ทุลักทุเล เพราะน้องสาวเป็นคนจองตั๋วคืนก่อนที่จะมาหนึ่งวัน นัยว่าเป็นงานด่วนของเธอ ขอให้ฉันมาเป็นเพื่อน ตอนจองตั๋วฉันถามว่าขึ้นเครื่องที่ไหน ดอนเมืองหรือสุวรรณภูมิ เธอตอบว่ากำลังหาอยู่ น่าจะดอนเมือง พรุ่งนี้เธอจะโทรถามอีกครั้ง เราบินจากเชียงใหม่ไปลงดอนเมือง และน้องก็มั่นใจว่าต่อเครื่องที่ดอนเมือง อีกครึ่งชั่วโมงถึงเวลาขึ้นเครื่องไปสมุย เราพบว่าต้องไปสุวรรณภูมิ!!!นาทีนรกยิ่งกว่าเครื่องบินตกปรากฏอยู่ตรงหน้า เพราะเรามีญาติผู้ใหญ่ไปด้วย เธอไม่สามารถรอต่อเครื่องได้ และผิดหวังกับพวกเราสุด ๆ ที่ไม่รอบคอบ เราจับแท็กซี่มาสุวรรณภูมิก็ไม่ทันเที่ยวบินถัดไปที่เพิ่งปิดรับไปพอดี ต้องรออีกเที่ยวบินหนึ่งซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ ญาติของเราน็อคเรากลางสนามบินสุวรรณภูมิด้วยการประท้วงไม่ไปกับเรา เธอซื้อตั๋วเครื่องบินบินกลับเชียงใหม่ เพื่อให้เราจดจำไปจนตาย จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก เธอบอกว่าอย่าหมิ่นใจเธอ อยู่ขั้วโลกเหนือหรือใต้ ถ้าเธอจะกลับบ้านเธอก็จะกลับ!!!ระหว่างรอเครื่อง น้องก็เล่าว่า เช้านี้เธอพยายามโทรถามที่สายการบินในเรื่องนี้ หมายเลขโทรศัพท์ที่มีอยู่นั้นก็เป็นระบบตอบรับอัตโนมัติ และแจ้งให้เราโทรมาในเวลาทำการ เธอคิดว่ามีเพียงสายการบินสีแดงเท่านั้นที่ไม่ย้ายมาดอนเมือง และเรายังพบว่าสายการบินนี้ไม่รับโทรศัพท์ในวันอาทิตย์เลย เมื่อเราไปถึงสมุย เราพยายามโทรเข้าไปเปลี่ยนเที่ยวบินขากลับ เบอร์ที่สมุยสามเบอร์ โทรเข้ากรุงเทพ โทรเข้าเบอร์สายด่วน และพยายามเปลี่ยนเองทางอินเตอร์เน็ต แต่เมื่อเข้าไปถึงคำว่า Change flight ก็พบว่าปุ่มที่ควรกดได้ กลายเป็นปุ่มด้าน ๆ ที่ไร้ความหมายคืนนั้นฉันติดเกาะ เกาะที่เต็มไปด้วยข่าวเครื่องบินตก คนตาย คนบาดเจ็บ โรงแรมที่ไปพักมีคนพักอยู่สองคนคือฉันกับน้อง ฝนตกจนงานที่นัดไว้ต้องเลื่อนไป หิวจนไม่หิว เราเดินออกไปซูเปอร์มาร์เก็ตใกล้โรงแรม อาหารเย็นของฉันในคืนนั้นคือ เบียร์และเลย์ โหดร้ายที่สุดสำหรับคนกลัวความสูงอย่างฉัน คือต้องบินกลับอีกสองต่อ และเมื่อเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อให้มีเวลาพอไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง จากเครื่องใหญ่ก็กลายเป็นเครื่องเล็ก ที่เหมือนรถเมล์บินได้ ตกหลุมอากาศที่หัวใจฉันหล่นวูบ และเริ่มจินตนาการถึงท่าลงว่าจะเหมือนในหนังเรื่องไหนที่เคยดู ไปครั้งนี้ก็ไม่แย่จนเกินไปนัก ได้รูปสวย ๆ ที่ถูกใจมาก ๆ มาปลอบใจตัวเองว่า ชีวิตก็ไม่ว่างเปล่าจนเกินไปนักรอยเท้าบนผืนทราย ฝากไว้ให้ทะเลทางลงหาดเดินออกจากห้องพักมาหินตาคงหนักน่าดูต้นไม้รักกันชอบสมุยตรงที่ต้นมะพร้าวเยอะดีระหว่างนมัสการสุริยะ ก็มีเจ้าตัวนี้เดินมาด้อม ๆ มอง ๆฟ้ายามเช้าเสียงคลื่นซัดสาดภาพนี้ดูเป็นโปสการ์ดยังไงไม่รู้ท้องฟ้ายามตะวันตก ถ่ายบนเครื่องวันทูโกระหว่างกลับเชียงใหม่อยากไปเดินเล่นตรงแสงสีไกล ๆ ตรงโน้นได้ภาพชุดที่ชอบมากมาอวด ภาพนางแบบจริง ๆ ฟ้าชืด ทะเลชืด ไม่มีมิติ จับมาซ้อนกับท้องฟ้า ได้อารมณ์อีกแบบหนึ่ง