ผมบ้าหรือเปล่า

ที่ ESCUDERO, ประเทศ Philippines
“ไปทานข้าวกันเถอะ!”..............
เธอเป็นคนค่อนข้างอ้วนท้วน  ยักไหล่เบาๆ...ปล่อยคำทักทายเหมือนกับเธอมีอำนาจสูงสุด ใช่จริงด้วยเพราะเวลานี้มันเลยเที่ยงไปแล้ว หลายคนท้องร้อง คอยให้ผู้รับผิดชอบงานสัมมนาบอกให้หยุดพักได้

“วันนี้ไปรับประทานอาหารในสถานที่แปลกๆ กันนะ”....
เธอร้องบอก ขณะที่ทุกคนเร่งเดินออกจากห้องประชุมมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหาร......

1

“เขาบอกว่าจะทานข้าวบนผิวน้ำ!”....
หนุ่มฟิลิปปินส์คนหนึ่งเดินเข้ามาพูดกับผม
“อ้าว! จะไปทานได้ไงล๋ะ?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน”

ผมมองหน้าเขา แล้วหนุ่มคนนั้นก็มองหน้าผม ในที่สุดเราทั้งสองก็หัวเราะ เพราะไม่รู้จะพูดอะไรอีก เมื่อมันแปลกถึงขั้นนั้น. ผมและเขาเดินขนานกันไป แล้วผมก็เลี้ยวช้าย เขารีบมาดึงแขนผมไว้

“ไม่ใช่ที่ร้านอาหาร...ไปทางนี้”
แกบอกพร้อมดึงมือผมไปเบาๆ.......

ที่นั้น....
ต้องเดินลงตามบันไดคอนกรีต พอถึงริมน้ำ ผมทอดสายตามองรอบๆ นี่คือลานหินที่กว้างมาก โดยเจ้าของร้านใช้ไม้มาทำเป็นเสาค้ำ ด้านบนมีแผ่นสี่เหลี่ยมรองพื้นเพื่อใช้วางจานอาหาร ผู้คนที่มาทานอาหารจะต้องเดินค่อยๆ เดินอย่างระมัดระวังไปตามลานหินที่มีน้ำไหลลื่น...

ผมถอดรองเท้าออก ค่อยๆ เดินลงสู่ผิวน้ำบนลานหิน ค่อยๆ ทอดน่องไปข้างหน้า จิกนิ้วเท้าลงกับลานหินเพื่อกันลื่น เมื่อได้อาหารแล้วก็ค่อยๆ เดินไปหาที่นั่ง ทานอาหารไป สายตาก็มองไปรอบๆ  หลายคนหัวเราะเบาๆ....บางคนหัวเราะชอบใจเมื่อมองเห็นคนลื่นลงไปที่พื้นลานหินใต้ผิวน้ำ

2

ผมทานข้าวไป นึกถึงภาพของหลายๆ คนที่ลื่น หลายคนล้มลง แขนกระแทกกับหินทำให้แขนหัก หลายคนล้มหัวกระทบกับหินจนหัวแตก มองดูสายน้ำที่มีหยดเลือดสีแดงเข้มปะปน เพื่อนบางคนต้องช่วยเพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ช่วยอยู่นั้นตัวเองก็ล้มลง เข่ากระแทกกับหินจนเข่าแตกไปอีก...

“นี่...คุณคิดอะไรถึงดูเศร้าสร้อยขนาดนั้น?”
“ไม่มีอะไรหรอก......” ผมเงยหน้ามองเพื่อนแล้วตอบเหมือนร่างที่ไร้วิญญาณ
“มองดูหน้าคุณ มันฟ้องให้เห็นว่า คุณกำลังมีปัญหา...”
“โอ...งั้นหรือ?”...

ผมเดินออกจากร้านอาหารบนผิวน้ำ โดยไม่รอใครเลย แม้กระทั้งเพื่อนชาวอินโดนีเซียที่สนิทที่สุด เดินไปก็คิดไปด้วย

3

“เอ่อ....กูบ้าหรือเนี่ย.....ทำไมต้องคิดอย่างนั้นด้วย”
“ไม่....กูไม่ได้บ้า....”  คิดตอบเอง
“ถ้างั้น....ผมบ้าหรือเปล่า?.......”

ความเห็น

Submitted by nara on

ตอบ: ไม่รู้ใครบ้ากว่าใคร ระหว่างเจ้าของร้านกับลูกค้า (คนอ่านด้วย) :)

Submitted by แสงพูไช on

nara
ผมเห็นด้วยน๋ะ.......
ผมยังไม่รู้เลยว่าตัวเองบ้า หรือเปล่า.....แต่จริงๆให้ตายเถอะเวลาที่ผมนั่งทานอาหารไป ผมคิดอย่างงั้นจริงๆ
ผมคิดไปว่าทว่าคนล้ม หัวกระแทกลานหีนอะไรจะเกีดขื้น? ในนั้นรวมทั้งตัวผมด้วย
ขอบคุณมาแวะเยี่ยมครับผม

Submitted by wadwalee on

ดูภาพแล้วคิดว่า ถ้าไปนั่งทานข้าวตรงนั้นจะเป็นยังไง ก็คงเย็นๆ สดชื่นดี
แต่ถ้าต้องเดินฝ่าไปด้วยความเสี่ยง หัวทิ่มคะมำคงไม่เอาด้วยคนค่ะเพราะกลัวการเดินในที่ลื่นมาก แบบนี้คงต้องมีศูนย์พยาบาลตั้งไว้ข้างๆ เลยสินะคะ : D

Submitted by noona on

สงสัยคนเขียนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จะติดใจ หรือไม่ก็อาจจะไม่ไปอีกเลย

ดูแลรักษาสุขภาพด้วยเด้อค่ะ

Submitted by อ้ายแสงดาวฯ on

อ้ายแสงพูไซ ดูภาพแล้วก็อยากไปจับต้องดู แต่ ถ้าต้องตากหงาย หกล้มลื่นแล้ว ข้อย บ่ เอา เด้อ

รำลึก อ้ายแสงฯ คับ

อยู้ดีมีแฮง เด้อ

Submitted by เงาศิลป์ on

ต้งใจว่าจะตอบว่า "บ้าค่ะ" ตั้งนานแล้ว
แต่พอดีตัวเอง "โง่" เลยไม่สามารถโพสต์ได้
ต้องเมลล์ไปถามน้องซัง จึงรู้วิธีโพสต์ ว่าต้องใส่วันที่ (เฉพาะวันที่นะ เดือนไม่ต้อง ปีต้องจำเป็น)

กว่าจะหายโง่ เล่นเอาอ้ายแสง หายบ้าไปแล้ว

ฮ่า ฮ่า คิดฮอดเด้อ

Submitted by หมี่เกี๊ยว on

แล้วเขามีประกันชีวิตไหมนั่นน่ะ
เป๋นตางืด และ เป๋นตาย่านหลายน้อ
ข้าเจ้าขอเอาเท้าแช่กะละมังอยู่บ้านดีกว่า
ทำสปาเท้าไปด้วย หุหุ

เป็นอะไรไป บ่คุ้มเด้ ยิ่งงามๆอยู่ ฮ่า ๆๆๆๆๆ

Submitted by แสงพูไช on

สวัสดีครับคุณหมี่เกี๊ยว......
ดีใจมากและขอบคุณมากที่เข้ามาเยี่ยม.......
ข้าพระเจ้าบ่ฮู้ว่าจอู๋จะใด การบริการมีความต้องการให้ผู้ใช้บริการถูกใจมากเกีนไป หรือมั้ย บางทีการบริการให้ความแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยสนใจเรื่องความปลอดภัยเท่าไร......
ใช่ เห็นด้วยกับคุณสปาเท้าอยู่บ้านดีกว่า.....ฮาๆ

Submitted by หมี่เกี๊ยว on

อ้ายแสงพูไชเจ้า
ข้าเจ้ามาอ่านงานเขียนอ้ายแสงเป็นประจำ แต่ด้วยข้าเจ้ามีความรู้ทางวรรณคดี เท่าหางอึ่ง
เลยบ่สามารถแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็นได้เจ้า เลยได้แต่รับเก็บข้อมูลเข้าพุงเอาไว้ก่อน อิอิ สะสมเป็นการใหญ่ ข้าเจ้าได้เรียนรู้หลายอย่างมากมายจากงานเขียนอ้ายแสงพูไช เปิดมุมมองหลากหลายมากมายเจ้า
ยินดีมากมายเจ้า

รักของเราสองคน

 
น้องกล่าวว่าสะพานข้ามของโยงใจรัก
เชื่อมสัมพันธ์แน่นหนักสองฝั่งของ
แต่อ้ายว่าสะพานขัวนั้นมันเชื่อมโยง
สองฝั่งของของน้องพี่คู่เคียงกัน

ส่งพรปีใหม่

 
 
 
สุขลุลาภได้.....................ชัยประเสริฐยอถืง
เลิงๆเบยบานสุข...............ทุกข์อย่าเวินมาต้อง
ความหมองเหยหายเสี้ยง....เหลือเพียงความซ้อยชื่น
หมื่นปีสุข์อยู่สร้าง..............ปางฟ้าสหง่างาม....ท่านเอ๋ย
 

ความคิดของคนสมัยใหม่

 

คนสมัยนี้ ช่างแปลกดี เปลี่ยนแปลงไป
ลบทิ้งได้ ความดีงาม ที่มีอยู่
ความดีแท้ เขาสร้างสรรค์ ครารุ่นปู่
ไม่เหลืออยู่ คนรุ่นนี้ ลบทิ้งไป