ของขวัญวันปีใหม่

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เพิ่งจบลงเมื่อวานนี้ ตอนค่ำ ผลสรุปจากการกากบาทลงคะแนนให้กับคนที่รัก พรรคที่ชอบ ได้ผลออกมาอย่างไม่เป็นทางการ บางคนอาจถูกใจ บางคนอาจไม่ถูกใจ

หลังจากลงคะแนนเสียงเสร็จ ผมได้เดินทางไปยังเขตชายแดนอำเภอแม่สายกับพี่ๆ เจ้าหน้าที่ศูนย์เพื่อน้องหญิง เพื่อจับจ่ายซื้อของและเดินเล่นไปมาตามประสาคนที่อยากพักผ่อนเที่ยวท่องให้คล่องใจ

เวลาในการเดินทางไป การเดินทางจับจ่ายซื้อของ และการเดินทางกลับ เริ่มจากตอนสาย จนถึงตอนหัวค่ำ ระหว่างที่อยู่เขตอำเภอแม่สาย ผมแยกตัวจากพี่ๆ เจ้าหน้าที่อีก 4 คน เดินเล่นเองคนเดียว เพียงเพื่อจะหาร้านกาแฟสดดีๆ ที่มีหนังสืออ่านและมีเพลงฟัง

ผมเดินไปทั่ว สองข้างทางมีของขายวางเรียงรายไปหมด ทั้งอาหาร ขนมกิน เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องนอน เสื้อผ้า ฯลฯ พ่อค้าแม่ค้าทั้งคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านต่างหวังจะขายของของตนให้ได้มากที่สุด

ผมไม่ได้ซื้ออะไรเลย นอกจากมุ่งเดินตามหา ร้านหนังสือ-ร้านกาแฟ เพื่อพักผ่อนและนั่งสงบตามลำพัง, เวลา 2 ชั่วโมงผ่านไป ผมยังไม่เจอร้านหนังสือและร้านกาแฟที่ปรารถนา จนเมื่อเดินกลับไปยังจุดจอดรถ ที่เรียกว่า “สายลมจอย” ก็พบร้านกาแฟร้านหนึ่ง อยู่ไม่ไกลจากกัน และเมื่อพบผมก็เข้าไปยังร้านสั่งกาแฟสดคาปูชิโน พร้อมกับหยิบโปสการ์ดและหนังสือขึ้นมาอ่านและเขียนสลับกัน

“ที่จริงร้านกาแฟพี่น่าจะมีโปสการ์ดขายด้วยนะครับ” ผมเสนอกับพี่ผู้ชายที่ชงกาแฟสดให้ ซึ่งคิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของร้าน และบอกอีกว่า “ผมเดินไปทั่วแม่สายไม่เห็นร้านกาแฟสดเลย ไม่มีร้านค้าขายโปสการ์ดด้วย บางคนที่เดินทางท่องเที่ยวอาจจะอยากซื้อของตามวิธีปกติแต่บางคนก็เลือกที่จะเขียนโปสการ์ดส่งให้คนที่ตัวเองคิดถึงหรือเขียนไปที่ไหนสักแห่งก็ได้นะครับ”

พี่ผู้ชายไม่ตอบอะไร เพียงแต่พยักหน้าแล้วส่งถ้วยกาแฟให้ผม

สำหรับผมแล้ว ท่ามกลางความวุ่นวายของฝูงชนที่เดินจับจ่ายซื้อของไปมาตามบริเวณเขตชายแดนแห่งนี้ ยังมีจุดเล็กๆ อีกหลายแห่งที่เราไม่ค่อยได้คิดคะนึงถึง เช่น ความเรียบง่ายของการนั่งพัก ร้านค้านั่งจิบชา กาแฟ ฟังเพลงเพราะๆ หรือแม้แต่บนสะพานข้ามชายแดนที่มีเด็กน้อยวิ่งเข้ามาขอเงินจากผู้เที่ยว เป็นต้น

ท่ามกลางเข็มนาฬิกาที่หมุนไป เราต่างสนใจสิ่งใหญ่ๆ ใกล้ตัวจนหลงลืมไปว่ามีสิ่งเล็กๆ ที่สำคัญปรากฏอยู่ แต่เราเผลอใจให้กับเรื่องบางอย่างที่คนส่วนมากสนใจ จนเราก็สนใจตามกระแสไปกับเขา

เรื่องนี้เกิดขึ้นกับผมอยู่เสมอ....

บ่อยครั้งที่ผมสนใจเรื่องการเลือกตั้ง จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วประชาธิปไตยไม่ใช่แค่การเลือกตั้งเพียงอย่างเดียว
บ่อยครั้งที่ผมสนใจการทำงานเชิงนโยบายระดับชาติ จนลืมการขับเคลื่อนงานนโยบายระดับพื้นที่
บ่อยครั้งที่ผมพูดเรื่องงานจนลืมไปว่าคนในครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะพูดฟังหรือสนทนา
บ่อยครั้งที่พรรคการเมืองสนใจการได้มาซึ่งอำนาจจนลืมนึกถึงนโยบายสำหรับคนที่ด้อยโอกาสในสังคม
บ่อยครั้งที่สื่อนำเสนอเรื่องเยาวชนเป็นปัญหา จนลืมนำเสนอเยาวชนที่ทำดีเพื่อสังคม

ฯลฯ อีกมากมาย ที่เราหลงลืมไป แม้ว่าสิ่งนั้นจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ หรือได้รับความสนใจแต่มันก็เป็นสิ่งสำคัญและมีคุณค่า ทว่าอาจยังไม่ได้เป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปก็เป็นได้

ร้านกาแฟเล็กๆ ในแม่สายอาจไม่สามารถอยู่ได้ หากผู้คนที่มาเพียงหวังจะเดินทางมาซื้อของราคาถูกๆ แล้วเดินทางกลับ โดยที่ไม่ได้พักนั่งนิ่งฟังลมฟ้าอากาศ

สิ่งเล็กๆ อุปมาคล้ายดั่งเช่นเด็กๆ ที่ผู้ใหญ่มักหลงลืมหรือมักคิดคำนึงถึงเป็นอันดับท้ายๆ ทั้งๆ ที่หลายคนบอกว่าเด็กสำคัญแบบนั้น เด็กสำคัญแบบนี้ แต่การกระทำแล้ว กลับสวนทางอย่างสิ้นเชิง

เขาบอกว่าต้องมีสื่อเพื่อเด็ก แต่รายการทีวียังหาเงินกับเด็กอย่างไม่หยุดนิ่ง
เขาบอกว่าต้องให้เด็กมีส่วนร่วม แต่ผู้ใหญ่ยังให้เด็กๆ ทำกิจกรรมได้เท่าที่ผู้ใหญ่ต้องการ
เขาบอกว่าปัญหาเรื่องเพศของวัยรุ่นสำคัญ แต่ไม่เห็นมีนโยบายป้องกันและให้ความรู้อย่างแท้จริง
เขาบอกว่าต้องมีวาระเพื่อเด็ก แต่ไม่รู้ว่าเด็กได้มีส่วนร่วมจัดทำมากเพียงใด
เขาบอกว่าเยาวชนเป็นวิกฤติสังคม แต่ไม่มีหนทางการพัฒนาเยาวชนในเชิงบวกแม้แต่นิด

คำพูดที่ยิ่งใหญ่กับการกระทำที่เล็กน้อย ตรงข้ามกันเช่นนี้นั้น ที่ผ่านมาถือว่าเป็นสิ่งที่ปรากฏให้เห็นอยู่ร่ำไป (บางครั้งเด็กๆ เองก็หวังกับผู้ใหญ่มากจนเกินไป เรียกร้องผู้ใหญ่จนเกินไป แต่ไม่ได้มองถึงศักยภาพตัวเองที่มีอยู่ว่าแท้จริงแล้วไม่ต้องไปเรียกร้องอะไรมากมาย เพียงแต่เราอาจจะเริ่มต่อสู้ด้วยตัวเอง พัฒนาตนเอง เรียนรู้จากตัวเอง ฝึกคิด ฝึกทำด้วยตนเอง จะหวังพึ่งพิงผู้ใหญ่อย่างเดียวก็คงทำได้ยากนัก)

ปีที่ผ่านมานี้ เกิดเรื่องราวมากมายกับเยาวชน ทั้งที่เรียนหนังสือ ไม่ได้เรียนหนังสือ เป็นคนที่ถูกละเมิดสิทธิ เป็นคนที่ด้อยโอกาสทางสังคม เป็นคนที่ยังเข้าไปถึงสวัสดิการพื้นฐาน เป็นคนที่สุขภาพไม่ได้ และอื่นๆ อีกมากนั้น ยังคงได้รับความสนใจค่อนข้างน้อย เพราะผู้ใหญ่ โดยเฉพาะรัฐนั้น สนใจแต่เรื่องใหญ่ๆ สนใจแต่การขจัดขั้วอำนาจเก่า สนใจแต่เรื่องผลประโยชน์ อำนาจ จนลืมนึกถึงคนตัวเล็ก ลืมเด็ก ลืมเยาวชนไป

ของขวัญสำหรับปีใหม่นี้ ผมคงไม่ขออะไรมากครับ – เพียงแต่ว่าหากจะคิดถึงเรื่องอะไรที่มันใหญ่โตแล้ว ขอให้คิดถึงทรัพยากรของแผ่นดินอย่างเช่นพวกเรา เด็กและเยาวชน เพียงรับฟังเสียงเราอย่างแท้จริง สนับสนุนการมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง ปกป้องคุ้มครองสิทธิอย่างแท้จริง และคิดคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดที่พวกเราจะได้รับด้วย ก็น่าจะเพียงพอ

ไม่ได้ขอจากดวงจันทร์
ไม่ได้ขอแก้วแหวนเงินทอง
แต่ขอร้องมายังผู้ใหญ่ทุกคน

หมายเหตุ:
เนื่องจากผมสนใจเรื่องใหญ่ๆ มามากจนลืมนึกถึงเรื่องเล็กของตัวเองไป จึงได้ให้ของขวัญตัวเองด้วยการหยุดพักจากการทำงานต่างๆ ในระหว่างท้ายปีปีนี้และต้นปีหน้า ด้วยมุ่งจะพักจิต ชำระใจ ด้วยการเจริญสติวิปัสสนา ทั้งนี้หากที่ผ่านมาผมได้ล่วงเกินพี่ๆ ผู้อ่านด้วยวาจา ข้อเขียน และความคิดใดๆ ก็ตาม ผมขออโหสิกรรมมา ณ โอกาสนี้ และขอให้ทุกๆ ท่าน มีความสดชื่น สมหวัง อยู่อย่างมีความสุขทุกลมหายใจ อยู่อย่างมีความหมายกับชีวิตที่งดงาม

ความเห็น

Submitted by เว้นไว้สักคน on

ยังไงหนูเต้าก็ต้องไปเลือกตั้ง และแปรงฟันก่อนนอนนะ เลิกประชัดผู้ใหญ่ได้แล้ว
สุขสันต์วันคริสมาสต์

Submitted by เกรียนสาด ชามะนาว on

ใช่ครับ ของขวัญปีใหม่ชิ้นที่วิเศษที่สุดของคนไทย
พรรคพลังประชาชนได้รับเลือกมากที่สุด
หวังว่าท่านบรรหารคงเห็นแก่บ้านเมือง มาอยู่กับ พปช
อย่าไปอยู่กับพรรคแมงสาปเลย

Submitted by ท่านโอยาชิโร่ on

ดีคะ ฉันรักเด็กทุกคน
แต่ถ้าเด็ก วัยรุ่น เยาวชน อยากจะได้อะไรมา
บางทีขออย่างเดียวไม่ได้หรอกคะ
ต้องมีวิธีการฉกชิงมาจากผู้ใหญ่บ้าง

Submitted by กิตติพันธ์ on

เว้นไว้สักคน - ครับ, นู๋เต้า แปรงฟันก่อนนอน และไปใช้สิทธิเลือกตั้งมาแล้ว ส่วนไอ่ที่จะเลิก "ประชด" ผู้ใหญ่หรือไม่นั้น อันนี้ขอกลับไปนอนคิดก่อน

บางทีประชด มันก็เหมือนเราเป็นเด็กขี้น้อยใจ
แต่พอพูดจาภาษาผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่บางคนก็บอกว่าเราไม่ใช่เด็ก
ฮ่าๆ สรุปแล้ว เด็กคืออะไรกันแน่ งง?

เกรียนสาด ชามะนาว - ผมเห็นมาเม้นท์บ่อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเรื่องท่าทักษิณและการเมืองที่ยังไม่นิ่งทั้งหลาย ผมว่าไม่ว่าพรรคอะไรได้มาเป็นรัฐบาลก็ควรจะใส่ใจคนเล็กคนน้อยในสังคมบ้าง อย่ามัวแต่แสวงหาประโยชน์แก่กันเลย (ไม่รู้จะมีไหม)

แต่ผมก็ยังไม่ชอบพปช. อยู่ดี ผมว่าการเมืองนอกสภาน่าจะมีพลังมากขึ้น สาธุๆ

ท่านโอยาชิโร่ - ผมก็เชื่อว่าเราต้องฉกชิงมาในบางที และบ่อยครั้งที่มันก็มาโดยที่เราไม่ได้ร้องขอ....ยังไงก็ตามผมยังเชื่อว่าสักวันผู้ใหญ่จะเข้าใจเด็ก

ทุกท่านครับ - ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมเยียนนะครับ, ปีใหม่หน้าผมคงจะเปลี่ยนท่าทีของตัวเองให้เป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีเหตุผล มากขึ้นแหละครับ

Submitted by Chihaya on

หวัดดีค่ะ เปงเด็กน้อยอีกคนหนึ่งที่คอยอ่านเรื่องราวต่างๆ ของพี่เต้ามา
คิดว่าสิ่งที่พี่เต้าเขียนคือสิ่งที่ตรงกะใจเหมือนกันนะ

-------
ถ้าเราไม่ "ประชด" แล้วเมื่อไหร่หล่ะ
ผู้ใหญ่จะรู้ว่าเรารู้สึกอย่างไร
ถึงมันจะเป็นเพียงความน้อยใจของเด็กก็ตามที
------

พรรคการเมือง ก็คือการเมืองอยู่วันยังค่ำ
เคยเข้าใจว่าการเมืองคือเรื่องของประเทศไทยในทุกส่วน
แต่สุดท้ายสิ่งที่ปรากฏ ก็คือ เด็ก ก็ คือ เด็ก ที่ ยัง อยู่ ห่าง จาก การเมือง ของ ไทย เรา

*หวังว่า.. สิ่งที่พี่เต้าเขียนจะถึงสายตาของผู้ใหญ่ทางการเมือง...บ้าง

Submitted by คอมมิวนิสต์รุ่น... on

อยากได้แนวราดิเคิล ...

จัดให้ จะได้เลือกอ้อนวอนผู้ใหญ่และเพ้อฝันแบบโรแมนติกเสียที

http://en.wikipedia.org/wiki/Red_Brigades

http://www.radicalyouth.org.nz/Get-Informed/Marxism/

http://www.marxists.org/reference/archive/dimitrov/works/1935/09_25.htm

เพศวิถีมีชีวิต : การเปลี่ยนแปลงจากภายใน อะไรที่ท้าทายเรา?

จากที่ข้อเขียนเรื่องเพศวิถีมีชีวิตทั้งหมดที่ได้กล่าวมานั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การวางความคิด เรื่องการเปิดใจคุยเรื่องเพศของตนเอง เรื่องความหลากหลายในรักและความสัมพันธ์ ความรักต่างเพศนิยม เรื่องกระแสสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นความพยายามที่จะมาสรุปในตอนท้ายของบทความนี้ว่า หากเราจะคุยเรื่องเพศวิถีจากมุมมองภายในจากชีวิตของเรานั้น เพื่อสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายในตัวเอง อะไรที่เป็นความท้าทายที่จะนำไปสู่การจุดประกายให้แต่ละคนได้กลับมาสำรวจ ตั้งคำถาม และสร้างการเรียนรู้เรื่องต่างๆ เหล่านี้ได้โดยอาศัยทั้งปัจจัยภายในและปัจจัยภายนอกของแต่ละคน

เพศวิถีมีชีวิต : เพศวิถีของวัยรุ่นในวันที่โลกหมุนเปลี่ยน

โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกขณะ ความสัมพันธ์ทางเพศของมนุษย์มีหลากหลายรูปแบบมากขึ้น ในสังคมสมัยก่อน เช่น ในภาคเหนือ การจีบสาวของคนล้านนาจะมีการค่าว (คล้ายลำตัดของภาคกลาง) ตอบโต้กันไปมา การจีบกันต้องให้เกียรติผู้หญิงเป็นคนเลือกคู่ หรือหากจะแต่งงานก็ต้องมีการใส่ผี คือการวางเงินสินสอดจากฝ่ายชายเพื่อบอกกับผีปู่ผีย่าของฝ่ายหญิงให้ทราบว่าจะคบกันแบบสามีภรรยา

เพศวิถีมีชีวิต: เคารพในความหลากหลาย รักเลือกได้อย่างมีศักดิ์ศรี

ความคิด ความเชื่อเรื่องเพศที่หล่อหลอมเรามาว่า ควรมีชายกับหญิงเท่านั้นที่คู่กัน สิ่งนี้เป็นความคิด ความเชื่อที่ฝังหัวเรามาตลอดจนเราไม่ได้ตั้งคำถามกับตัวเองเลยว่าทำไมเราจึงต้องรักเพศตรงข้าม และการที่เรารักเพศเดียวกันนั้นจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งไม่ได้เชียวหรือ

เพศวิถีมีชีวิต: ชีวิตทางเพศ เริ่มคุยจากตัวเอง

สำหรับชีวิตส่วนตัวแล้ว ผมเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่เติบโตมาท่ามกลางการเลี้ยงดูของแม่และพี่ๆ ที่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผู้หญิง เห็นการทำงานของผู้หญิงที่ “ศูนย์เพื่อน้องหญิง” จ.เชียงราย เห็นความเข้มแข็งในการทำงานของแม่ของพี่ๆ แต่ละคนแล้ว ทำให้ผมเห็นว่าความเป็นหญิง ความเป็นชาย แท้จริงแล้ว ทุกคนก็สามารถทำอะไรได้เหมือนกัน แต่ทว่าการเลี้ยงดูหล่อหลอมของสังคมกลับบอกว่าแบบนี้ผู้หญิงควรทำ แบบนี้ผู้ชายควรทำ

เพศวิถีมีชีวิต: การเปลี่ยนแปลงจากภายใน

เปิดใจเรียนรู้ประสบการณ์ภายในตน

ผมเริ่มต้นทำงานในประเด็นเรื่องเพศ ตอนอายุน้อยๆ จากวันนั้นมาวันนี้ ระยะเวลาหลายปี ที่อยู่บนเส้นทางนี้ได้เจออะไรหลายอย่าง ได้เรียนรู้ ประสบการณ์ทำงานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบทบาทหน้าที่ใด ความรับผิดชอบแบบไหน องค์กรระดับชุมชนหรือเครือข่ายก็ตาม งานต่างๆ เหล่านี้ทำให้ได้ทำประโยชน์ต่อตนเองและคนอื่นไปพร้อมๆ กัน

ผมไม่อาจเรียกตัวเองได้อย่างเต็มปากว่าเป็นคนทำงานเพศวิถี เพราะเข้าใจว่าเรื่องเพศวิถีนี้มีอะไรหลายอย่างที่ต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และไม่อาจจะบอกได้ว่าตัวเองเป็นนักพัฒนาสังคม เพราะบ่อยครั้งก็ยังมีคำถามเกิดขึ้นมากมายกับตัวเองว่าที่ว่าเป็นนักพัฒนาสังคมนั้น แน่นอนว่าเราต้องทำประโยชน์เพื่อคนอื่นๆ ที่กำลังเผชิญกับปัญหา เผชิญกับความทุกข์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเพศ สุขภาพ สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ทรัพยากร ดิน น้ำ ป่า หรือแม้แต่เรื่องสื่อและโลกาภิวัตน์