ฉบับ 8-9: คุณทำให้ผมยืนหลังเตาแก๊สไม่ได้แล้ว - มาดูทะเลด้วยกัน

 ฉบับ 8  -  คุณทำให้ผมยืนหลังเตาแก๊สไม่ได้อีกแล้ว!

 

เขียนที่บ้าน

 

วันนี้

 

ถึงคุณ ดา ตอบิโด

 

จดหมายฉบับนี้ไม่ใช่จดหมายตอบแฟนคลับ แต่ คือจดหมายที่เพื่อนเขียนถึงเพื่อน เพื่อนที่ถึงจะไม่เคยได้พบเจอกันมาก่อน แต่ ก็รู้สึกสนิทสนมราวกับเพื่อนที่รู้จักกันมานาน

 

อาจจะเพราะเคยได้เห็นรูปของคุณดามามากจึงทำให้รู้จักหน้า มากไปกว่านั้นเมื่อได้ยินเรื่องราวการต่อสู้ของคุณดาแล้ว ยิ่งรู้สึกเข้าใจ และ รู้จักหัวใจของผู้หญิงตัวเล็ก ๆคนหนึ่ง ที่กล้าเดินหน้าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย อย่างเด็ดเดี่ยว ที่สำคัญกว่านั้น ยังรู้สึกสำนึก เมื่อเพื่อนที่ไม่เคยพบหน้ากันคนนี้ ต่อสู้ เพื่อ เรา จนต้องพบกับความลำบาก

           

           เมื่อคำว่าประชาธิปไตยมีความหมายเป็นถึงเสรีภาพ และ ความเท่าเทียมกันของคนในชาติแล้ว สิ่งที่คุณดาทำนั้นก็คือการเสียสละเพื่อคนส่วนใหญ่ คือเพื่อคนไทย ทั้งที่รู้และไม่รู้ ทั้งที่ชอบ และ ไม่ชอบ สุดท้ายคุณดาได้ทำเพื่อผมและ ครอบครัว นั่นคือที่มาของความรู้สึกสำนึก ซาบซึ้ง ในสิ่งที่คุณดาได้เสียสละ

          

           สิ่งที่คุณดาทำไปแล้วไม่สูญปล่าวครับ แต่เป็นแรงขับดันให้ผมออกมาเปิดหน้าสู้ มากกว่าเลือกที่จะสู้อยู่หลังเตาแก๊ส อย่างที่คุณณัฐวุฒิ ค่อนขอด

 

            การที่ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างคุณดา อย่างหมวดเจี๊ยบ ยังกล้าหาญเอาตัวออกมาท้าทายกับอำนาจที่ ยิ่งใหญ่ มันทำให้ชายตัวโต ๆ อย่าผม อยู่หลังเตาแก๊สไม่ได้อีก “ ผู้หญิงยังออกมาสู้เพื่อให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น แล้วทำไมผมจึงไม่ออกมาสู้เพื่อตัวเองและคนอื่นบ้าง “ นั่นคือคำพูดในมโนสำนึกก่อนที่จะก้าวขึ้นเวทีคนเสื้อแดงครั้งแรกครับ และ ทำให้เมธี ตามมาในอีกเวลาต่อมา

 

           ไม่เหงานะคับคุณดา คุณยังมีเพื่อนๆ เสื้อแดงอีกนับล้านรับช่วงต่อ การต่อสู้ของคุณครับ


 

ด้วยความนับถือครับ

อรรถชัย อนันตเมฆ

 

 

ฉบับ 9 - แล้วมาดูทะเลด้วยกัน  

                                      

 

 

"แล้วมาดูทะเลด้วยกัน"
 

 

พี่ดารณี,
จดหมายฉบับนี้...เขียนที่ทะเล
ในคืนจันทร์เสี้ยว
ดวงดาวว้าเหว่
ลมตะเภาร้างเร่
บอกกับทะเลว่า “เหงา”

พี่ดารณี,
ทะเลที่นี่...คืนนี้มันเศร้า
ขอบฟ้ากว้างไกล
ไม่เคยกักขังเรา
เพียงคนนั้นเล่า
ที่เฝ้ากักขังคน

พี่ดารณี,
บทเพลงแห่งเสรี...คืนนี้ทำนองหมองหม่น
ทะเลเริ่มหนาว
ดวงดาวทอแสงยากจน
ในบางซอกหลืบสับสน
พี่คงหาคนเข้าใจ

พี่ดารณี,
หน้าหนาวปีนี้...(พี่) คงหนาวกว่าปีไหนไหน
หลังม่านเหล็กกั้น
สายลมแทงผ่านผิวกาย
ผ้าห่มเนื้อหนาผืนใด
คงไม่ผ่อนคลายเพียงพอ

พี่ดารณี,
กว่าจะ (ได้) เห็นทะเลอีกที...นานไหมหนอ
น้ำขึ้นน้ำลง
กี่ฤดูกาลจะเพียงพอ
ต้องทุกข์อีกกี่ท้อ
ต้องรอกี่แดดฝน

พี่ดารณี,
ลมโศกคืนนี้...โลกที่เราฝันแตกหล่น
เป็นผงธุลี
จมหายในสายน้ำวน
พี่คงจมทุกข์ท่วมท้น
ถูกขังหลังม่านเดียวดาย

พี่ดารณี,
สิบแปดปียาวนานแค่ไหน
กาลเวลาถูกขโมย
ไปโดยปีศาจตนใด
คืนวันถูกกลืนกินหาย
ร้องไห้บ้างไหม...ในค่ำคืน

พี่ดารณี,
ถนนสายนี้มันขมขื่น
ทะเลหลับแล้ว
จันทร์เสี้ยวถูกเมฆกินกลืน
รอวันทะเลฟื้นตื่น
แล้วมานอนดูดาวด้วยกัน

...แล้วมาดูทะเลด้วยกัน...

...คงได้มาดูทะเลด้วยกัน...
...
เนิ่นนานเพียงใด...จะรอ...

 

เพียงคำ ประดับความ

 

 

 

 
“อิสรภาพก็คือคุก ตราบเท่าที่ยังมีคนอยู่เยี่ยงทาสแม้แต่เพียงคนเดียวในโลก”
อัลแบร์ กามู นักเขียนรางวัลโนเบลชาวฝรั่งเศส
 
สมัชชาสังคมก้าวหน้าขอเชิญท่านผู้รักประชาธิปไตยร่วมโครงการ
“เขียนจดหมายรักถึงนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย”
 
ที่มาของโครงการ
 
สมาชิกของสมัชชาสังคมก้าวหน้าได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจคุณดารณี ชาญเชิงศิลปกุล  (ดา ตอร์ปิโด) นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยคนหนึ่ง ที่ถูกข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ณ เรือนจำคลองเปรม จากนั้นเรามองว่า ควรทำกิจกรรมให้กำลังใจคุณดาต่อไป จึงได้ริเริ่มโครงการ“เขียนจดหมายรักถึงนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย” ซึ่งมีคำขวัญของโครงการนี้ว่า “เราจะไม่ทอดทิ้งกัน”  โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
 
1.     มนุษย์ตามระบอบประชาธิปไตยย่อมมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ไม่ควรถูกรังแกและถูกคุมขังในระหว่างที่ถูกกล่าวหา เพราะถือว่าบุคคลนั้นยังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ว่ามีความผิดจริง  
 
2.     กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพได้ถูกนำมาใช้ลงโทษผู้มีความเห็นต่างทางการเมือง โดยเฉพาะผู้รักประชาธิปไตย ซึ่งต้องมีการทบทวนกฎหมาย  ดังนั้นผู้ถูกกุมขังในขณะนี้จึงเป็นเพียงเหยื่อทางการเมือง  กรณีคุณดา ตอปิโดได้ถูกพิพากษาจำคุกถึง 18 ปีไปเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2552
 
สมัชชาสังคมก้าวหน้าจึงขอเป็นหัวขบวนเปิดโครงการ  โดยจะเขียนจดหมายส่งคุณดาอย่างน้อยสัปดาห์ละ1 ฉบับอย่างต่อเนื่อง  และท่านผู้รักประชาธิปไตยสามารถเขียนจดหมายรักหรือส่งโปสการ์ด ตามเงื่อนไข ดังนี้
 
1.     ห้ามเขียนหรือกล่าวถึงเรื่องการเมืองและห้ามส่งภาพถ่ายจากกล้องถ่ายรูปเนื่องจากเป็นระเบียบของเรือนจำ
2.     เขียนด้วยลายมือ เพื่อแสดงมิตรไมตรีระหว่างคนกับคน เพราะคุณดาและผู้ถูกกุมขังอื่นถูกลดฐานะความเป็นมนุษย์  จึงต้องการแสดงออกที่เป็นการคงสถานะความเป็นมนุษย์นี้ไว้
3.     ระบุที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล์ของท่านเพื่อที่เราจะติดต่อกลับไป หากมีจดหมายตอบกลับจากคุณดา
4.     สมัชชาสังคมก้าวหน้าขอเปิดจดหมายของท่านก่อนที่จะส่งต่อถึงคุณดา เพื่อถ่ายสำเนาจดหมายของท่านไว้และนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ เช่น ในบล็อกาซีน ประชาไท และให้คุณดาตอบจดหมายท่านผ่านตู้ ป.ณ.ของเรา ซึ่งเราก็จะขอเปิดจม.ก่อนนำส่งต่อ เพื่อสำเนาไว้เช่นเดียวกัน
เนื่องจากเราจะรวบรวมสำเนาจดหมายทั้งหมดไปแสดงนิทรรศการงานศิลปะเพื่อประชาธิปไตย ในวันที่ 6 ตุลาคม 2552   ซึ่งจะประชาสัมพันธ์งานนี้อีกครั้งหนึ่ง ท่านสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ ไชยวัฒน์ 0851883102 โบ 0834430758 หรืออีเมล์ patchanee.k@gmail.com
 
กรุณาส่งมายัง  ตู้ ปณ. 58 ปณศ. (พ) พระโขนง กรุงเทพฯ 10110   (ไม่ต้องระบุชื่อผู้รับ)
 
หมายเหตุ - ผู้ที่ต้องการสนับสนุนค่าครองชีพของดารณีในเรือนจำ สามารถส่งธนาณัติโดยตรงถึงเธอได้ที่  ทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำกลางคลองเปรม ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ระบุมุมซองว่า 1/3 อาคารเพชร
 

 

ความเห็น

Submitted by Homo erectus on

พี่ดารณี
ประเทศอัปรีย์นี้ช่างหมองหม่น
เราทุกผู้ต่างอยู่อย่างยอมจำนน
เสรีชน...ท่องบ่นอย่างดักดาน

พี่ดารณี
ชีวิตคนหากไร้เสรีน่าสงสาร
ตอแหลแลนด์แผ่นดินพิศดาร
ยิ่งกราบกรานยิ่งคล้ายเราเพียงละออง

พี่ดารณี
นักสู้อย่างพี่ไม่มีสอง
คือ ผองชนมุ่งมั่นในครรลอง
ยืนหยัดปกป้องศักดิ์ศรีคน!

Submitted by ผีบ้า on

ทุกวันเรามีชีวิตอันเป็นปกติสุข ไม่เดือดร้อน เพราะเราไม่สนใจสิ่งรอบตัวหรือความทุกข์ยากของผู้อื่น ดาเป็นอีกอย่างหนึ่ง เธอทนไม่ได้ต่อความอยุติธรรมที่แอบแฝงมาโดยใช้ความรักประชาชน รักชาติมาบังหน้า เธอออกมากระชากหน้ากากปีศาจร้ายให้พวกเราได้เห็นกัน ผลที่ได้รับก็คือต้องติดคุกทนทรมานเพราะกฎหมายป่าเถื่อนที่ไม่เป็นที่ยอมรับในอริยะประเทศ นี้แหละคนของประเทศของเรา ประเทศประชาธิปไตยที่มีคนเป็นเพียง ข้าแผ่นดิน.

Submitted by คนโบราฌ on

คนเรามีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็นแต่ก็ไม่ควรไปละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นด้วยเสรีชนคิดอย่างหนึ่งแต่ชาวบ้านธรรมดาๆก็คิดอีกอย่างหนึ่งคนบางคนอาจบอกว่าประเทศนี้ไม่น่าอยู่แต่ยังมีคนอีกจำนวนมากที่บอกว่าประเทศนี้น่าอยู่เพราะฉะนั้นเราอย่ามองคนที่ความคิดเห็นไม่เหมือนกับเราเป็นศัตรูกันไม่ได้น่ะครับความคิดแตกต่างกันได้แต่อย่าแตกแยก