ฉบับ14-15 : จดหมายจาก "เสรีปัญญาชน" เรื่องของคุณก็เรื่องของเรา

ฉบับ 14 – จดหมายจาก ‘เสรีปัญญาชน’

สวัสดีครับ พี่ดา ที่เคารพ

    
ผมเป็นนักศึกษา ชื่อไปป์ ผมก็ไม่มีอะไรจะให้ และ ช่วยได้ แต่ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้พี่ดาอยู่เสมอ ขอให้พี่ดารักษาสุขภาพกายให้ดีครับ และจะมีสักวันนึง วันที่มันเป็นของเรา แม้กำแพงที่ขวางกั้นที่บดบังแสงอาทิตย์ ขอให้พี่ดาเยาะเย้ยความลำบากเพื่อผงาดสู่ความหวัง แม้อิสรภาพถูกจองจำ แต่ความคิด จิตสำนึก ไม่สามารถปิดกั้นได้ ถ้าใจของพี่ยังคงเข้มแข็ง
                  
                            
                                               “แม้คนพัน บัญชา ชี้หน้าเย้ย
 
จงขวางคิ้ว เย็นชาเฉย เถิดสหาย
 
ต่อผองเหล่า นวชน เกิดร่นกราย
 
จงน้อมกาย ก้มหัว เป็นงัวงาน”
 
 
                          
                                จาก ตัวแทน องค์กรเสรีปัญญาชน
 
                                        “นักศึกษาผู้ยากไร้”

 

 

ฉบับบ 15 – เรื่องของคุณก็เรื่องของเรา
 
 
วันที่ 17 ตุลาคม 2552
ถึง   คุณดาที่นับถือเป็นอย่างยิ่ง
 
            ดิฉันได้ติดตามข่าวสารการต่อสู้ของกลุ่ม นปช.มาตลอด และได้ทราบข่าวของคุณดามาโดยตลอดด้วย แต่ข่าวที่ทราบส่วนมากก็มาจากข่าวสารทาง internet
 
        ดิฉันไม่แปลกใจเลยที่คุณดาถูกจองจำด้วยความคิดเห็นที่แตกต่างซึ่งประวัติศาสตร์ของบ้านเมืองเราก็เป็นอย่างนี้ ตั้งแต่ว่ากันว่าเริ่มสร้างบ้านแปงเมือง แต่สิ่งที่ดิฉันประทับใจและรู้สึกนับถือคุณดาเป็นอย่างยิ่งคือคุณดาประกาศจุดยืนในการต่อสู้ด้วยการไม่ยอมรับสารภาพและขอพิสูจน์ความจริงในสิ่งที่คุณดาพูด
 
         เรื่องราวของคุณดานั้น ทำให้ดิฉันถึง กาลิเลโอ ปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของโลก ผู้ซึ่งท้าทาย ศาสนจักรเมื่อหลายร้อยปีที่แล้ว โดยบอกว่าโลกเรานั้นกลม แต่ศาสนจักรแห่งศาสนาคริสต์ออกมายอมรับว่าสิ่งที่กาลิเลโอพูดเป็นความจริง หลังจากผ่านไปหลายร้อยปี โลกเรานี้ ช่างมีเรื่องพิลึกกึกกือนะคะ คุณดา
               
          ดิฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในไม่ช้าคุณดา คงจะได้ออกมาสัมผัสกับสิ่งภายนอกกับโลกภายนอก สัมผัสกับอิสระไปไหนมาไหนได้โดยไม่มีโซ่ตรวนรัดขาไว้ แล้วเราคงจะได้พบกันและอย่าสิ้นหวัง ขอให้คุณดามีพลังใจเข้มแข็งดิฉันเอาใจช่วยคุณดาอยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเรื่องของคุณดาเกี่ยวกับเรื่องของพวกเราเช่นกัน
               
 
                                                             ด้วยความนับถือเป็นอย่างยิ่ง
 
                                                                             ป่ากุหลาบ         
               

ความเห็น

Submitted by คนโบราณ on

คิดว่าวันเวลาที่คุณดาเข้าไปอยู่ในคุกคงจะทำให้คุณดาได้นึกไตร่ตรองเหตการณ์ที่ผ่านมาว่าสิ่งที่ได้ทำลงไปนั้นมันสมควรหรือไม่เดี๋ยวนี้คนที่มีอุดมการณ์แบบคุณน่ะมันแทบจะไม่มีอีกแล้วมีแต่พวกประจบสอพลอทำงานเอาหน้าไม่มีความจริงใจถ้าหากคุณมีเพื่อนที่มีอุดมการณ์เหมือนกันคุณคงไม่โดดเดี่ยวอยู่ในคุกคนเดียวอย่างนี้หรอก

Submitted by คงชาติ on

ได้โปรดอย่าได้ FORWARD จดหมายเวียน ที่ลบหลู่ให้ร้ายในหลวง (FORTUNE
> > magazine ลำดับกษัตริย์ ที่รวยที่สุดในโลก) ต่อไปอีก เพราะนอกจากจะเข้า
> > ข่ายร่วมกระทำการหมิ่น และให้ร้ายต่อในหลวงของเรา
> > แล้วยังร่วมกล่าวหาอย่างเป็นเท็จกับพระองค์ท่านอีกด้วย
> > โดยพระองค์ท่านเองไม่สามารถออกมาชี้แจง
> > หรือโต้ตอบอย่างใดได้เลย
> >
> > ท่านทราบไหมว่า วังที่ในหลวงพระทับ ที่สวนจิตร นั้น
> > เป็นบ้านที่เล็กกว่าบ้านของเศรษฐีไทยหลายพันคน
> > และเล็กกว่าแม้กระทั่งบ้านของอดีต รมต. หลายร้อยคน
> > วังสวนจิตรลดาถึงแม้จะมีบริเวณใหญ่ แต่ส่วนที่เป็นที่ประทับมีบริเวณเล็กมาก
> > ที่ดินส่วนใหญ่เป็น โรงเรียน โรงงานทดลองทำปุ๋ย เลี้ยงวัว ทดลองปลูกข้าว
> >
> > บุคคลทั่วไปก็เข้าไป รร.จิตรลดา ได้โดยขอแลกบัตร ได้ทุกคน
> > จากบริเวณโรงเรียน ก็มองเห็นอาคารที่ประทับได้ห่างออกไปไม่ถึง 100 เมตร
> > ใครอยากจะเห็นด้วยตาตนเอง ก็เข้าไปดูได้สะดวก ง่ายๆ
> > ผมเห็นว่าพระองค์ท่านกิน อยู่ แบบคนไทยชั้นกลางทั่วไป ไม่ใช่แบบเศ

Submitted by คงชาติ on

ผมเห็นว่าพระองค์ท่านกิน อยู่ แบบคนไทยชั้นกลางทั่วไป ไม่ใช่แบบเศรษฐีไทย
> > อย่างแน่นอน
> >
> > คนซ่อมรองเท้าของพระองค์ท่าน ได้เล่าให้พวกเราได้รับทราบว่า ท่านจะส่ง
> > รองเท้าเก่าท่านมาซ่อม ตลอด จนซ่อมไม่ไหว รองพระบาทเก่าคู่นั้น ช่างยังเก็บ
> > ไว้ให้เราไปดูได้
> >
> > สมาคมทันตแพทย์ไทย ไปเข้าเ ขอพระราชทาน หลอดยาสีฟันเก่า
> > ที่ทรงใช้ยาสีฟันได้จนหยดสุดท้าย โดยรีดจนหลอดแบนเป็นกระดาษ
> > ไปขอดูที่สมาคมได้
> >
> > เกี่ยวกับทรัพย์สินมูลค่ามาก ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตรย์
> > ที่ฝรั่งไปเอามูลค่าของบริษัท ในตลาดหลักทรัพย์ เช่น
> > บริษัทปูนซีเมนต์ไทย
> > ธนาคารไทย
> > พานิชย์ นั้นมารวมว่าเป็นทรัพย์สินของในหลวงด้วยนั้น ไม่ใช่ครับ
> > ที่เป็นของพระองค์ท่านส่วนพระองค์ มีครับแต่ไม่มาก เรียกว่า
> > ทรัพย์สินส่วนพระองค์ จะต้องเสียภาษีอากรภายใต้กฏหมาย เหมือนประชาชนทั่วไป
> > ทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์เดิม ส่วนที่ถูกยึดมาเป็นของรัฐ หลังปฎิวัติ
> > 2475 นั้น ต

Submitted by คงชาติ on

2475 นั้น ตกเป็นของรัฐทั้งหมด เห็นได้ว่าทรัพย์สินส่วนนี้จึงไม่ต้อง
> > เสียภาษี เหมือน
> > ส่วนที่เรียกว่า ทรัพย์สินส่วนพระองค์
> >
> > สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ จัดตั้งขึ้น
> > โดยรัฐบาลยุคเปลี่ยนแปลงการปกครอง2475 ให้
> > รมต.คลังของรัฐบาลเป็นประธานควบคุมดูแล ที่จริงก็คือทรัพย์
> > สมบัติของราชวงค์จักรีเดิม ถูกยึดมาเป็นของกลาง เป็นของรัฐฯ หมดแล้ว
> > หลังจากได้ยึดอำนาจจากระบบปกครองโดยกษัตริย์ มาเป็น โดยรัฐบาลใดๆที่ชนะการ
> > เลือกตั้งก็จะได้สมบัติที่ยึดมาทั้งหมดนี้ไปดูแล
> > ที่ดินของราชวงค์จำนวนมากก็ถูกยึดมาเรียกว่า ที่ดินราชพัสดุ
> > กระทรวงการคลังดูแล
> >
> > ธนาคารออมสิน ธนาคารที่ ร.6 ตั้งด้วยเงินส่วนพระองค์เริ่มต้นเอง
> > ปัจจุบันมีเงินเพิ่มพูนเป็นแสนล้าน ก็กลายเป็นธนาคารของรัฐ 100 เปอร์เซ็นต์
> > ใช้
> > ระเบียบที่ ร. 6 ท่านวางไว้เดิมให้ เสนาบดีพระคลัง เป็นคนดูแล ปัจจุบัน
> > รมต.คลังเป็นคนดูแลเอง ตั้งกรรมการได้เองทั้งคณะ รัฐบาลจึงเอาเงินไป
> >

Submitted by คงชาติ on

> ใช้ได้สะดวกมาก พระราชวงค์ไม่มีสิทธิ์ใดๆในธนาคารเลย
> >
> >
> > ผมเป็นคนไทย ธรรมดา มิได้เกี่ยวข้องเป็นราชนิกูลแต่อย่างใด
> > มีเชื้อสายบรรพบุรุษ เป็นมอญ ลาว จีน มีเชื้อสายไทยแค่ 1 ใน 4 เท่านั้น
> > แต่ก็ได้เกิดมาใน
> > ประเทศไทยที่มีความสุขและมีกษัตริย์ที่ดี ผมจึงรักในหลวงมาก
> > การใส่ร้ายพระองค์ท่านต่างๆในขณะนี้ ไม่ให้ความเป็นธรรมกับพระองค์ท่านเลย
> > และเริ่มมีคนหลง
> > ไหล และเชื่อคำให้ร้ายต่างๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
> > จึงต้องออกมาชี้แจง ข้อเท็จจริงมีอยู่ พิสูจน์ได้
> >
> > ใครยังไม่เห็นจริงก็ออกมาโต้ได้ อย่าเชื่อโดยไม่พิสูจน์ ก่อน
> >
> > ขอแสดงความนับถือ
> > รองศาสตราจารย์ ดร.ต่อตระกูล ยมนาค

Submitted by ประชาชนธรรมดา on

อยากจะให้อาจารย์ช่วยวิเคราะห์กฎหมายหมิ่นประบรมราชานุภาพว่าจำเป็นมากสำหรับเมืองไทยไหมครับ? ถ้าจำเป็น จะเหมาะกับระบบการปกครองประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขไหมครับ? และอาจารย์ช่วยกรุณาเปรียบเทียบกฎหมายดังกล่าวกับประเทศที่มีกษัตริย์เป็นประมุขโดยยกตัวอย่างจากประเทศที่เป็นประชาธิปไตยเช่นในยุโรปหรือญี่ปุ่น ดังนี้ผมว่าจะเป็นประโยชนฺกว่าผู้อ่านมากกว่าครับ เพราะในประเด็นนี้เรากำลังพูดกันถึงผู้ที่โดนติดคุกสิบแปดปีเพราะพูดจาพาดพิงถึงพระมหากษัตริย์อยู่กันครับ.

Submitted by ชิตชมม์ on

มีจริงหรือครับคนที่จะกล่าวร้ายพระองค์ ผมไม่เชื่อนะครับ พระองค์ยังไม่เคยทำร้ายประชาชนเลย มันไม่น่าเชื่อครับแต่ที่มีคนเชื่อเนี่ย ผมว่าเป็นเพราะละเอียดอ่อนครับ เหมือนอะไรที่ไวมากกว่าพริบตานะเข้าใจนะครับ คือหวังผลได้ว่างั้นเถอะถ้าทำสำเร็จนะครับ

Submitted by สาย on

“แม้คนพัน บัญชา ชี้หน้าเย้ย
...
จงน้อมกาย ก้มหัว เป็นงัวงาน”

ที่มา เป็นงานของหลู่ซิ่น แต่จำไม่ได้ชัดว่าใครเป็นคนแปล อาจจะเป็นจิตร ภูมิศักดิ์

Submitted by พรรคเพื่อ...ใคร on

แด่ เสรีปัญญาอ่อนผู้ว่าตนคือปัญญาชน สหายทั้งหลายหยุดเถอะ อย่าเลย อย่าเห็นว่าประเทศอื่นทำได้ แล้วคิดว่าจะทำให้ไทยเป็นเช่นนั้นได้ คิดก่อนทำ ประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดเช่นนั้นแน่นอน พวกเรารู้คุณคิดอะไร หากการศึกษายกระดับเพียงปัญญา มิใช่จิตใจก็อย่าเรียนเลย เข้าป่าไปเถอะ ในนั้นคุณคงเป็นใหญ่ก็ได้ แน่นอนเสรีภาพจะได้อยู่กับคุณ หรือถ้ากล้าก็ทำอย่างดา ไปนอนนับดาในคุกด้วยกันไปเลย

Submitted by ถึงประชาธรรมดา on

คุณคงเข้าใจคำว่าประชาธรรมดานะครับถึงได้ตั้งชื่อนี้ ทำไมหรือครับพยายามหาวิธีที่จะจาบจ้วงเบื่องสูงโดยไม่ติดคุกหรอ คิดว่าถ้าล้ม กมได้จะทำอะไรได้สะดวกขึ้นหรอ ว่างกันมานักหรือครับประชาชน อย่างนี้ต่อไปประเทศจะอยู่อย่างไรถ้าคิดเช่นคุณ

Submitted by ถึงชิตชมม์ on

มีจริงนะครับคุณได้ฟังเทปดาหรือยัง ฟังไม่ยากตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม เราต่างก็รู้พ่อหลวงเราเหื่อยมาเท่าไร ทำไมยังมีคนจำพวกนี้อยู่ในสังคม พวกผมละเอียดอ่อนและไวเหมือนกระพริบตา แต่คุณก็อย่ามัวหลับหูหลับตานะครับ

Submitted by Homo erectus on

ทำงานหนักจริงๆ คุณพรรคเพื่อใคร

ในโลกสมัยใหม่ที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย ไม่มีที่ไหนในโลก "ล้าหลัง" ยิ่งกว่าประเทศไทยที่ยังคงกฎหมาย 112 ที่มีโทษหนักถึง 15 ปี รุนแรงยิ่งกว่าการก่ออาชญากรรม

ไม่ต้องพูดถึงหลักเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการต่อต้านรัฐประหาร ซึ่งหากยึดหลักการนี้จริง สิ่งที่ดา และอีกหลายคนกระทำ ไม่ใช่เป็นความผิดเลย

มีแต่ประเทศตอแหล ดัดดาน กลัวหน้าตัวเองเท่านั้น ที่ยังคงกฎหมาย "ทาส" ฉบับนี้เอาไว้

ประชาธิปไตยจริง ทำไมจึงยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ได้

ในสมัย ร.7 ถวัติ ฤทธิเดช เคยวิจารณ์ฟ้องร้องว่า "กษัตริย์หมิ่นประชาชน" (ดูแรงงานวิจารณ์เจ้า-ศิโรตน์ คล้ามไพบูลย์) ....

สมัยนี้ แม้ไม่ได้เอ่ยนาม ก็ถูกจับติดคุกแล้ว และยังถูกกระทำจากสังคม โดยไม่เคารพความเป็นคนของผู้ต้องขังอีก ... สำนึกไพร่ไทยมันบัดซบเยี่ยงนี้นี่เอง

Submitted by พรรคเพื่อ...ใคร on

เราถูมิใจนะที่มีคนไทยอย่างคุณที่ออกมาด่าว่าประเทศของตนนั่นตอแหลดัดดาน ไม่แปลกที่มีคนอย่างคุณแล้วจะไม่มีขบวนการล้มเจ้าในไทย ไม่ต้องไปดูประเทศที่มันไกลๆนะเอาในแถบเพี่อนบ้านเรา ถามหน่อยประเทศไหนที่มีกษัตริย์ที่สามารถรวมใจคนทั้งประเทศบ้าง ตอบด้วยนะHomo แล้วเหลือกี่ประเทศที่ยังมีกษัตริย์แล้วที่ไม่มีประเทศเขาเป็นอย่างไรตอบด้วยนะHomo แล้วก็ไม่ต้องดัดจริตไปเทียบกับแถบอื่นนะต้องดูดการศึกษาและความคิด ทรรศนะของเราด้วยว่าควรไปเปรียบเทียบกับเขา จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากม.ที่ว่าถูกยกเลิก พวกคุณก็สามารถด่าว่า คนที่ทั้งประเทศเขารักเทิดทูลได้ง่ายไงละ ฐานะที่คุณเป็นคนไทยคุณรักพระเจ้าแผ่นดินหรือป่าวHomo อย่าหลอกตัวเองนะ ห้ามตอแหล ต้องจริงใจนะ ออลองเอาคำพูดนางดาไปพูดให้คนอื่นฟังที่ไม่ใช่สี ห. ด.ดูซิมีใครรับได้บ้าง

Submitted by Basenji on

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ดูประวัติได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
จริงอยู่ ปี 2475 เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล
แต่ปี 2479 กลายเป็น "นิติบุคคล" มี ร.ม.ต.คลัง เป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง
แล้วส่วนผู้บริหารที่เหลือมาจากไหน ?
ตัวแทนรัฐบาลเพียงคนเดียวจะทำอะไรได้บ้าง ?

อีกอย่างเราไม่เถียงว่า กษัตริย์องค์ปัจจุบันดำรงความดีงามไว้อย่างดี
แต่เราไม่รู้ว่ากษัตริย์องค์ต่อๆไปจะเป็นอย่างไร ?
และเราก็ไม่แน่ใจว่าเพียงความคิดเห็นเล็กๆน้อยๆเช่นนี้ เป็นสิ่งต้องห้ามหรือไม่ ?