26 ก.พ. 53 พรุ่งนี้ ของ ทักษิณ ชินวัตร และ ความยุติธรรม

25 February, 2010 - 08:49 -- thanorm




 

26 .. 53

พรุ่งนี้

พรุ่งนี้

พรุ่งนี้

พรุ่งนี้

พรุ่งนี้ ของ ทักษิณ ชินวัตร

คน

คน

คน

คน

คนทั้งประเทศต่างเฝ้ารอดู

ชะตากรรม

ชะตากรรม

ชะตากรรม

ชะตากรรม

ชะตากรรม ของ ทักษิณ ชินวัตร

ภายใต้อำนาจศาลสถิตยุติธรรมของสังคมไทย

ว่าเขาจะถูกศาลพิพากษาตัดสินอย่างไร

ถูกยึดเอาทรัพย์ทั้งหมด ถูกยึดเอามากเหลือไว้แต่น้อย ถูกยึดเอาไปเพียงบางส่วน

หรือไม่ถูกยึดเลยแม้แต่สลึงเดียว...

คน คน คน คน คนทั้งประเทศต่างเฝ้ารอดู

\<\/--break--\>

 

ใช่

แต่ที่ผู้คนทั้งประเทศต่างเฝ้ารอดู

ยิ่งกว่าชะตากรรม ของ ทักษิณ ชินวัตร

ภายใต้อุ้งมือของอำนาจศาลสถิตยุติธรรม

ก็คือชะตากรรมของคำว่า ความยุติธรรม

ที่กำเนิดจากคำพิพากษาตัดสิน ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

ผู้ที่ตกเป็นจำเลยคดีซุกหุ้นและถูกพิจารณายึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท

ว่าเป็นความยุติธรรมที่แท้จริงแก่ ทักษิณ ชินวัตร หรือไม่

จากฝูงชนที่รัก ทักษิณ ชินวัตร

จากฝูงชนที่เกลียด ทักษิณ ชินวัตร

และจากคนที่ไม่รักไม่เกลียด ทักษิณ ชินวัตร

แต่รักความถูกต้องและความยุติธรรมที่แท้จริง

ที่มอบให้แก่ใครในโลกนี้ก็ได้

โดยไม่จำเป็นต้องเป็นปัจเจกบุคคลที่ชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร

 

โอ

พรุ่งนี้แล้วซินะ

ที่ใครต่อใครต่างก็จะได้เห็น

โฉมหน้าและชะตากรรมของความยุติธรรม

ที่กำเนิดจากคำพิพากษาตัดสินความผิดความถูกต้อง ของ ทักษิณ ชินวัตร

โดยสถาบันศาลสถิตยุติธรรมของสังคมไทย

ที่ต้องเผชิญหน้ากับพลังอำนาจของฝูงชน

ระหว่างสีเหลืองกับสีแดง

ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง

ที่จะต้องไม่พึงพอใจในคำพิพากษาตัดสิน

ทันทีที่คำพิพากษาตัดสินได้ถูกประกาศออกมาในวันพรุ่งนี้

และตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป

สังคมไทยจะมีนักคิดทางสังคมที่เปรื่องปราด

ไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่ง - ระหว่างสีเหลืองกับสีแดง

ที่ไม่ได้ดั่งใจ

ไม่ได้ดั่งสติปัญญาและความรอบรู้อันสูงส่งของตัวเอง

พากันเชื่อว่า

วาทะที่อัลแบร์ กามูส์พูดว่า “ฉันรักแม่ยิ่งกว่าความยุติธรรม”

เป็นความจริง.

 

24 กุมภาพันธ์ 2553

กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

 

 

ความเห็น

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

ด่วนจ้า ! บก. ในบทสุดท้าย จากบรรทัดที่พี่เขียนว่า "ที่กำเนิดจากคำพิพากษาตัดสิความผิดความถูกต้อง ของ ทักษิณ ชินวัตร" ขอความกรุณา เติมลงไปอีกประโยคหนึ่ง ถัดจากบรรทัดนี้ลงไปว่า "โดยสถาบันศาลสถิตยุติธรรมของสังคมไทย" ขอบคุณคร้าบ อ่ะจ๊าก !!!!

Submitted by ป. on

."....ภายใต้อุ้งมือของอำนาจศาลสถิตยุติธรรม..."
??

ขอให้เป็นเช่นนั้นเถิด

ขอให้เป็น"อุ้งมือ"เถิดเจ้าประคุณ

ขอให้สถิตยุติธรรมเถิดเจ้าประคุณ

(จะพยายามกลั้นใจเชื่อ)

Submitted by แสงพ่วง on

อ่ะจ๊าก !!!!

ผมว่า 7,6000 ล้านไม่ใช่เรื่องสำคัญเสียแล้วครับตอนนี้อ้ายหนอม

แต่เรื่องที่สำคัญตอนนี้ก็คือหลังวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้จะเป็นอย่างไร

ผมอยากให้เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ไม่มีวันที่ 26 ฮะ ฮา

คิดแล้วเจี๋ยว(เจ้าประคู้นนนนน)

ฮะ ฮา

Submitted by พรุ่งนี้ on

อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะรู้แล้วว่าประเทศไทย จะมีความยุติธรรมหรือไม่?

Submitted by น้ำปิง on

ความชอบธรรมถ้ำโจรคือปล้นเกลี้ยง
หายิลเสียงเถียงถูกผิดชนิดไหน
วัฏจักรถักทอกงล้อเมตตาอภัย
มิดบอดใดไบ้บ้าห่อนหาเห็นธรรมฯ

Submitted by กาน on

"คันฉ่องเฉิดเด่นเห็นไหม
เงาใคร................"
ตนผู้กระทำย่อมรู้ดีว่า ตนทำอะไร คิดอย่างไร
แต่การเสแทร้ง แสดงให้รอบข้างรู้เป็นการโกหกตัวเอง ใครทำได้เนียน จะด้วยองค์ประกอบใดเป็นตัวช่วย มันคุณสมบัติที่ถูกถ่ายทอดจากสวรรร์

เงาในแว่นส่อง มันตัวของผู้ส่อง
ว่าแต่เจ้าของเงา จะมองตัวเงาตัวเองแล้วคิดแบบไหน

คนดูไม่สามาร และไม่ควร เอาวามรู้สึกตัวเอง ไปวัดความคิดคนอื่น
อ้านหนอมว่าแม่นบ่แม่น

ได้อ่าน บทบรรนาธิการ หนังสือ ที่อ้ายหนอมเขียนแล้ว (เรื่องเกี่ยวกับตำรวจช่วยคนพิการ จำชื่อหนังสือบ่ได้ ) น่าทึ่งนะ

Submitted by กาน on

สูมาตวย เขียนหนังสือบ่ถูก
เอาประโยคอ่านคำ เอาก็ได้เน๊อะ
หูต๋า กับนิ้ว บ่ไปตวยกั๋น

Submitted by น้ำลัด on

ผมว่าคำศัพท์ "ยุติธรรม" มันดูแปลกๆในความหมายของมันเอง
มีความรู้สึกเหมือนว่า "ความเป็นธรรม" มันได้ถึงจุดจบ (ตายไปแล้ว)
ผมเพียงรู้สึกว่ารากศัพท์ความหมายดั้งเดิมของ "ยุติ" และ "จุติ"
น่าจะมาจากความหมายเดียวกันคือ "จุดจบ" ตั้งแต่แรก
เพียงแต่คนไทยนำมาแยกใช้คนละความหมายในภายหลัง

ส่วน "ความเป็นธรรม" มันจะถึงจุดที่ต้องยุติหรือไม่
มันก็คงต้องบอกว่า "ให้มันเป็นไป" (let it be)

ถ้าเป็นคนจีนก็ต้องบอกว่าแล้วแต่ "ฟ้า" จะตัดสิน
แต่วันนี้ในเมืองไทย..."ฟ้า" ที่ยังเป็น "ฟ้า" นั้นหายากยิ่ง

ว่าแต่ว่าเขาเป็น "ฟ้าเหลือง" หรือ "ฟ้าแดง" ?

Submitted by Basenji on

อยากถามคุณว่า

ใคร ? ซื้อชินคอร์ป
ใคร ? ถือหุ้นในเทมาเส็ก

ขณะซื้อขายชินคอร์ป "ชุมพล ณ ลำเลียง" นั่งอยู่ที่ไหน ?
(อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่เครือซีเมนต์ไทย)

ถ้าคุณเป็นเจ้าของกิจการที่ยังทำกำไรได้อยู่ คุณจะขายมันไหม ?
โดยที่ขายแล้วเอาเงินไปกองไว้เฉยๆในธนาคาร ในภาวะที่ดอกเบี้ยต่ำติดดิน

แล้วธนาคารที่เงินกองอยู่ เป็นธนาคารของใคร ?
เพียงแค่เอาเงินไปหมุน ก็จะทำให้ธนาคารนั้นผงาดขึ้นมาเป็นเบอร์หนึ่งโดยไม่ยาก
ทายสิ...ธนาคารไหนมีสาขาทำการมากที่สุดในไทย ?
ทายสิ...ธนาคารไหนมีตู้เอทีเอมมากที่สุดในไทย ?
มันเพิ่มจำนวนอย่างรวดเร็วตอนไหน ?
แล้วเขาจะไม่ยึดได้อย่างไร ? จะเอาเงินที่ไหนมาคืน ?

มันเกิดอะไรขึ้น ?
บางทีอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้หัวสมองคิด
ใช้หัวเข่า หรือหัวแม่ตีนคิดแทนก็ได้
คำตอบในใจที่ได้มันคงไม่ต่างกันนัก

เรื่องราวข่าวสารในสื่อต่างๆมันเป็นแค่ข้อมูลขยะ
ที่โปรยให้เหล่าสุนัขอวดรู้ทั้งหลายที่โหยหาข่าวสาร
เมื่อเสพข่าวสารเสร็จก็เห่าหอนไปตามฤิทธิ์ของขยะที่เขาโปรยให้

Submitted by น้ำลัด on

แค่เรื่องของ "ชินคอร์ป" อ่านสคริปต์กันไปได้ 7-8 ชั่วโมง
ถ้าเรื่องของ "เทมาเส็ก" กับ "กุหลาบแก้ว" คงต้องอ่านกัน 70-80 ชั่วโมง

เราภูมิใจในการทำตัวเป็น "ควาย" ทั่วแผ่นดิน

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

ครับ เชิญทุกท่านแสดงความเห็นกันตามมุมมอง ข้อมูล และความเชื่อของแต่ละท่าน หลายๆมุมมองที่ช่วยกัน เราจะคงได้ข้อสรุปที่ดียิ่งๆขึ้น ขอบคุณครับ

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์ก้ว on

คุณน้ำลัด ก็ใจเย็นๆหน่อยน่า...

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

basenji ใจเย็นๆครับ โลกของสื่อคงไม่เลวร้ายเป็นขยะไปหมดหรอกครับ อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งละครับ (ฮา)

Submitted by Basenji on

ผมไม่ได้มองว่าคุณถนอมเป็นสื่อหรอกนะครับ
แต่ผมมองคุณถนอมว่าเป็นคนคัดแยกสิ่งดีๆออกจากขยะมานำเสนอ
หรืออาจจะหาอะไรๆที่ไม่ใช่ขยะมาแบ่งปันกัน

อันที่จริงสื่อดีๆเขาก็มีครับ แต่สื่อขยะมันทำให้สื่อดีๆติดร่างแหไปด้วย
พวกสื่อขยะมักจะมีลีลาดี สร้างความมั่งคั่งโดยไม่สนใจถูกผิด
และผลกระทบจะเป็นอย่างไร ขอกูมีรายได้เป็นพอ
ขอกูรอดพ้นจากการล้มละลายเป็นพอ มี่ทั้งข่าวจริง ข่าวปลอม ข่าวแปลง คละเคล้ากันไป
ส่วนคนบริโภคข่าวก็คิดว่า ถ้าเข้าใจสิ่งที่เขาว่ามาก็ถือว่าัตัวเองฉลาดแล้ว
โดยไม่ฉุกคิดถึงความเป็นไปได้ ความสมเหตุสมผลของเนื้อเรื่องนั้นๆ

Basenji เป็นชื่อหมาพันธุ์หนึ่งครับ ราคาแพงมาก
แต่อนิจจา Basenji หน้าตาคล้ายหมาไทย
มันอาจจะถูกนำเสนอว่าเป็นหมาไทยที่มีลักษณะพิเศษ

พอแค่นี้ก่อนครับ อย่าใ้ห้หมาต้องมาสอนคนเลยครับ..แฮ่..แฮ่
(Basenji ไม่เห่าครับ เอาแต่ขู่ และกัดเลย ไม่มีกลิ่นตัวด้วยครับ)

Submitted by น้ำปิง on

ความชอบธรรมถ้ำโจรคือ..ปล้นสิ้น
ทั่วแผ่นดินรินน้ำตา....เขา..ชาเฉย
มาตรฐานการยุติธรรมคว่ำแล้วเฮย
ประชาเอ๋ยเอ่ยคำใดสิ้นไร้พึ่งพิง ฯ

ปล้นต่อหน้าคาจอ...กล้าก่อเหตุณ์
โลภกว่าเปรตเพศสูรกายน่าอายยิ่ง
มันสูบเลือดเชือดท้ารุกกล้าช่วงชิง
กลับกลอกลิ้งลิงแก่ยักแย่ยักยันฯ

น่าเป็นห่วงช่วงนี้ราวี.....หนักหน่วง
พราง ลับ ลวง ข่วงพิฆาตอำนาจลั่น
แย่งชิงทรัพย์ สลับตัว อึงมั่ว พัลวัล
อายุสั้นนั่นของแน่ตัวแปร "ยุติธรรม" ฯ

สิ้นหน้านา"ฆ่าควาย" นิยายต่อสู้
องค์ความรู้ สู้แม้ผิด จักติดถลำ
อันตราชูกู้ศักดิ์ พิทักษ์คุณธรรม
ตราชูดำคว่ำหงายกลับป้ายตราฯ

เผด็จศึกคึกคนองประลองเดช
น่าสมเพชเหตุณ์จากนี้มักพลีฆ่า
เคยเกิดก่อนร่อนชะไรแต่ใดมา
ยอมเป็นข้าล่าเขา มัก(กลับ)เข้าตัว ฯ

นิยาม....อมตะสถิติเส้นทางอำนาจชั่ว
เสร็จนาฆ่าควายถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

basenJi ขอบคุณคร้าบ ที่ทำให้ผมเป็นปลื้มจนคับอก แต่แหม จะเล่นตลกคาเฟ่กันทั้งที ทำไมต้องทำให้ผมเสียวน่องด้วยก็ไม่รู้

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

น้ำปิง ขอบคุณครับ สำหรับฝีมือเขียนบทกวีอันยอดเยี่ยม และทัศนะอีกมุมมองหนึ่งที่คุณสื่อแสดงมาอย่างมีศิลปะ

มันน่าจะรู้กันตั้งแต่แรกแล้ว ไม่เห็นแปลกใจเลย มันก็แค่ว่าเมื่อไหร่จะท่าเท่านั้นเอง
แล้วก็หวานคอแร้งไปเลย เอาเถิดวันพระคงไม่มีหนเดียวแน่ ก้มหน้าก้มตาทำเอาใหม่เถิด
ทีนี้ก็อย่าโง่ไปให้เขายึดอีกหละ อ้อ! รายการต่อไปยังมีอีกนะ รู้จักคำว่า "ล้างบาง" ไหม รู้ตัวหรือเปล่า คนที่ดีกว่าคุณน่ะตายหะไปหลายคนแล้ว ไม่ได้กลับมาหรอก

Submitted by น้ำลัด on

ประเทศไทยมี 3 อำนาจจริงหรือ ?

สมัยเรียนหนังสืออยู่ผมเกลียดวิชาสังคมศึกษามาก
อย่างหนึ่งที่พอจะจำได้คือประเทศเราปกครองด้วย "ประชาธิปไตย"
มีอำนาจอยู่ 3 อย่าง คือ
๑) อำนาจนิติบัญญัติ
๒) อำนาจบริหาร
๓) อำนาจตุลาการ
สองอำนาจแรกก็พอจะเข้าใจว่ามาจากการเลือกตั้งทางตรง + ทางอ้อม
แต่อำนาจที่สามนั้นผมไม่เข้าใจหรอกว่าเป็นอำนาจจากปวงชนอย่างไร ?
แล้วถ้าอำนาจที่สามกลายมาเป็นอำนาจสูงสุด ผมก็รู้สึกว่าบ้านเมืองอาจจะเอียงเสียแล้ว

แต่เท่าที่ดูๆมันน่าจะมากกว่านั้น
น่าจะมี "อำนาจที่มองไม่เห็น" อยู่เพียงหนึ่่งเดียว
ใช้อำนาจผ่านหลายเส้นทางเช่น

- อำนาจทางทหาร คุมได้เบ็ดเสร็จแบบเห็นๆ
- อำนาจทางฝ่ายบริหาร โดยที่ "อำนาจที่มองไม่เห็น" สนับสนุนใ้ห้เกิดขึ้น
- อำนาจนิติบัญญัติ อาจจะคุมไม่เบ็ดเสร็จแต่ก็มีส่วนหนึ่งได้รับการแต่งตั้งเข้ามาป่วน
- อำนาจตุลาการ อำนาจนี้คุมได้ไม่ยากอยู่แล้ว
- อำนาจสื่อ สามารถผลิตรายการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆนานาตลอดเวลา ทำให้ผู้คนเชื่อตามนั้น

ใช้อำนาจเพียงแค่นี้ "อำนาจที่มองไม่เห็น" ก็สามารถอยู่ได้ยืนยาวหมื่นๆปี

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

อนัตตา ขอบคุณครับสำหรับความเห็นที่น่าใคร่ครวญ

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

น้ำลัด ขอบคุณครับ สำหรับความรู้และทัศนะเกี่ยวกับอำนาจรัฐ ที่ช่วยให้ผมเขียนตอนต่อไปด้วยความมั่นใจ ว่าจะเป็นข้อเขียนที่เต็มไปด้วยความปลอดภัยของผู้เขียน และผู้อ่าน (ฮา)

Submitted by ป. on

คนที่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม
เชื่อเรื่องชีวิตหลังความตาย
เชื่อเรื่องตายแล้วเกิด
ตามคติทางพระพุทธศาสนา
มักเป็นคนดี
ด้วยเกรงกลัวบาปกรรม

ผู้มีความเพียร
มีความแก่กล้าทางสมาธิภาวนา
ได้เคยบอกเล่าไว้พอสมควร
ยืนยันว่าอาชีพที่ตกนรกมากที่สุด คืออาชีพทางกฎหมาย
เพราะเคยไปเห็นมาแล้ว
เมื่อมาคิดถึงเหตุถึงผลความเป็นจริงน่าเป็นไปได้
เช่น............................................................. (เซนเซอร์)
ฯลฯ
(ตอแหลแลนด์พูดความจริงไม่ง่าย)

คนที่เป็นพุทธมามกะขนานแท้
ย่อมมีหิริ โอตตัปปะ
คือความละอายและเกรงกลัวต่อบาป
เว้นแต่คนที่ละ(แล้วซึ่งความ)อาย

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

ป. จริงของคุณความเชื่อเรื่องกรรม ถือเป็นเรื่องที่ดีนะครับ ส่วนเรื่องอาชีพนักกฏหมาย ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้นทั้งหมดนะครับ แต่การที่นักกฎหมายเอาคนดีๆเข้าคุก ผมว่าเป็นบาปกรรมที่ร้ายแรงมาก ขอบคุณครับที่เข้ามาสนทนา

Submitted by แสงพ่วง on

ผมว่าน่าจะมากกว่า20%ที่ในคุกไทยมีคนไม่ผิด "แป๊ะ,แพะ" อยู่

อ้ายว่าไดพ่อง อะจ๊าก!!!
........

ซำบายดีเมืองฝัง

Submitted by คนโบราณ on

การตัดสินคดีย่อมมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยฝ่ายที่ชนะก็จะบอกว่ายุติธรรมแล้วส่วนฝ่ายที่พ่ายแพ้ก็จะออกมาพูดว่าทำไมถึงไม่มีความยุติธรรมเลยหากคนเราคิดได้แค่นี้แล้วกฏหมายของบ้านเมืองจะมีไว้ทำไม