๑๔ มีนา วันหยุดเขื่อนโลก

16 March, 2010 - 00:00 -- sumart

แดดร้อนของเดือนมีนาคมแผดเผาหญ้าแห้งกรัง หน้าร้อนปีนี้ร้อนกว่าทุกปี เพราะฝนไม่ตก ยอดมะม่วงอ่อนจึงไม่ยอมแตกช่อ มะม่วงป่าเริ่มออกดอกรอฝนพรำ เพื่อให้ผลได้เติบโต ความร้อนมาพร้อมกับความแห้งแล้ง ในความแห้งแล้ง ดอกไม้ป่าหลากสีกำลังผลิบาน มีทั้งดอกสีส้ม แดง ม่วง ความแห้งแล้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง

ใช่ว่าอากาศจะร้อนเพียงอย่างเดียว ทิศทางการเมืองก็กำลังเริ่มร้อนขึ้นเป็นลำดับ และเมื่อเดือนมีนาคมมาถึง วันหยุดยาวของเด็กๆ ก็ใกล้เข้ามา

ผมจำได้ลางๆ ว่าเมื่อวันนี้ของปีก่อนตัวเองอยู่ที่ไหนสักแห่งริมฝั่งแม่น้ำสายหนึ่ง เพื่อร่วมรำลึกถึงวันหยุดเขื่อนโลก ทำไมต้องมีวันนี้ คำตอบที่แสนง่ายคือ ใน ๓๖๕ วันน่าจะมี ๑ วันที่เราจะได้พูดถึงเรื่องราวเกี่ยวกับเขื่อน และผลกระทบจากเขื่อน วันหยุดเขื่อนโลกถูกก่อตั้งขึ้นมาจากกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อน จึงสมควรอย่างยิ่งว่า เราน่าจะได้ระลึกถึงผู้คนเหล่านั้น ที่เสียสละให้เราได้มีไฟฟ้าใช้ แม้บางครั้ง พวกเขาเองต้องพลัดที่นา คาที่อยู่ก็ตามที

ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ร้อนระอุ สถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงก็ร้อนขึ้นเป็นลำดับเช่นกัน การเมืองที่กำลังกล่าวถึง ไม่ใช่ระบอบการปกครอง แต่เป็นการเมืองเรื่องสิ่งแวดล้อม

การเมืองเรื่องแม่น้ำโขงแห้ง!!...

หลังจากจีนเริ่มสร้างเขื่อนแห่งแรกบนแม่น้ำโขง ประเทศท้ายน้ำก็เริ่มประสบปัญหาต่างๆ ทั้งปลาหาได้น้อยลง อันเนื่องมาแต่ความเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำที่ไม่คงที่ เพราะแม่น้ำโขงขึ้นลงราวกับน้ำทะเล เมื่อ ๔ ปีที่ผ่านมา องค์กรพัฒนาเอกชนหลายองค์กรได้เฝ้าติดตามสถานการณ์เรื่องผลกระทบข้ามพรมแดนที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำโขง และมีการรณรงค์กันอย่างแพร่หลาย เพื่อให้ผู้คนได้ตระหนักถึงผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นกับแม่น้ำโขง แต่การรณรงค์บางครั้งก็มีเสียงตอบรับจากสังคม แต่บางครั้งราวกับเป่าปุยนุ่นในลมแรง

มีนาคมปีนี้ ผู้คนเริ่มตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นกับแม่น้ำโขงอย่างกว้างขวาง ส่วนหนึ่งน่าจะมาจาก แม่น้ำแห้งลงมากกว่าปกติในรอบหลายสิบปี ผู้คนจึงเห็นว่าเป็นปัญหาร่วมกันที่ต้องช่วยแก้ไข ดูเหมือนว่ารัฐบาลก็เริ่มจะเอาจริงในเรื่องของการแก้ไขปัญหานี้ แต่สุดท้ายการพูดคุยหรือแม้แต่เชิญประเทศต้นน้ำคือ จีน เข้าร่วมประชุมเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหา ตัวแทนจากจีนยังแบ่งรับแบ่งสู้ในเรื่อง

จีนยังไม่เคยยอมรับว่า เขื่อนบนแม่น้ำโขงในประเทศจีนสร้างผลกระทบกับแม่น้ำโขง และประเทศท้ายน้ำ (หรือว่าทางการจีนยอมรับ แต่แอบเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ เพราะไม่ยอมตกเป็นจำเลยในเรื่องนี้) แต่จีนแอบป้องปากบอกว่าจะปล่อยน้ำจากเขื่อน ๒-๓ วัน เพื่อให้เรือสินค้าสัญชาติจีนที่ตกค้างอยู่ท่าเรือเชียงแสนเดินทางกับประเทศได้ หลังจากนั้นแม่น้ำโขงก็จะเป็นเช่นเดิมคือ น้ำแห้งลง และแห้งลง ไม่แน่ว่าในปีนี้ เราอาจได้เห็นชาวบ้านริมฝั่งโขงเดินข้ามแม่น้ำไปเยี่ยมยามมิตรสหายอีกฟากฝั่งของแม่น้ำก็เป็นได้

ในวันที่แม่น้ำโขงแห้งลงใช่ว่าผลกระทบต่างๆ จะเกิดกับแม่น้ำเพียงอย่างเดียว ผลกระทบยังได้ส่งมายังผู้คนริมฝั่งน้ำด้วย การทำมาหากินของผู้คนที่ขึ้นอยู่กับแม่น้ำก็ย่อมได้รับผลกระทบตามไปด้วย โดยเฉพาะคนวิ่งเรือโดยสาร เรือบรรทุก ตลอดจนคนทำการเกษตรริมฝั่งโขง

แม่น้ำแห้งลงไม่ใช่ความเป็นไปตามธรรมชาติ แต่เป็นความแห้งของใจคนล้วนๆ คนผู้มองเห็นผลประโยชน์ของตนเองแต่ฝ่ายเดียว....

วันหยุดเขื่อนโลกเวียนมาอีกปีหนึ่งแล้ว ถึงเวลาหรือยังที่เราจะร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาผลกระทบที่เกิดจากการสร้างเขื่อนอย่างจริงจัง และเป็นระบบ ไม่ใช่แก้เป็นครั้งคราว และเราในฐานะประเทศท้ายน้ำต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพื่อจะบอกกับประเทศต้นน้ำว่า หยุดสร้างเขื่อนบนแม่น้ำอีกต่อไป ปล่อยให้แม่น้ำได้ไหลอย่างอิสระ เพื่อการดำรงอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ...เราเตือนคุณแล้ว!!!

 

 

 

ความเห็น

Submitted by หลานลุงสุพา on

ครับรู้สึกถึงความเดือดร้อนของพี่น้องริมโขงอย่างจริงใจ และผมก็ผิดหวังส้งคมนิยมจีนมานานแล้ว เขาสร้างตนเองให้แข็งแรงขึ้นมาด้วยระบบสังคมนิยม เขาช่วยปลดแอกเกาหลีเหนือ ช่วยเวียตนามระยะแรก แล้วต่อมาเขาก็มาหักหลัง พ.ค.ท. ตอนหลังเขาก็หักหลังประชาชนของเขาเองโดยปล่อยให้พวกทุนนิยมเข้ามาครอบครองวิถีความเป็นอยู่ของประชาชน จากประสพการณ์ที่เคยข้องเกี่ยวกับพี่น้องชาวลาวผู้อยู่อาศัยริมแม่น้ำโขง (ซึ่งมีจำนวนมากเหลือเกินในลาว) ถ้าแม่โขงแห้ง พวกเขาจะลำบากมากๆครับ.

Submitted by แสงพูไชย อินทะวีคำ on

สบายดีท่านท้าว
อยากเห็นหน้าเดน้อ
เห็นแล้วบ่อบทความที่ส่งให้นั้น บอกแด่หากได้รับ หรือมั้ย

Submitted by ทรายโขง on

เมื่อสายน้ำโขงถูกกั้นการไหลอย่างอิสระ
เมื่อหมู่ปลาไร้ซึ่งแม่น้ำโขงจะแวกว่าย
เมื่อผู้คนทั้งสองฝั่งโขงไร้ซึ่งการมีส่วนร่วมในการปกป้องน้ำโขง
เมื่อนั้นความตายกำลังจะมาเยือนผู้ลุ่มแม่น้ำโขง

เสียงแคน มิตรภาพ และความหวัง

1 April, 2010 - 00:00 -- sumart

สายลมเริ่มพัดเปลี่ยนทิศจากเหนือลงใต้ ฤดูฝนใกล้พ้นผ่านแล้ว ฤดูหนาวกำลังเดินทางมาแทน ขณะอาทิตย์ใกล้ลับฟ้าถัดจากกระท่อมหลังสุดท้ายตรงหาดทรายไปไม่ไกล คนจำนวนมากกำลังวุ่นวายอยู่กับการเก็บเครื่องมือทำงาน หากนับตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ก็ล่วงเข้าไป ๔ วันแล้วที่ช่างในหมู่บ้านถูกไหว้วานให้มาช่วยกันทำเรือไฟ เพื่อให้ทันใช้ในวันออกพรรษา หลังจมอยู่กับงานมาทั้งวัน เมื่อโรงงานต่อเรือไฟปิดประตูลงในตอนเย็น โรงมหรสพริมฝั่งน้ำก็เข้ามาแทน

พญามังกร แม่น้ำ และความตาย

23 March, 2010 - 00:00 -- sumart

แม่น้ำนิ่งงันลงชั่วการกระพริบตาของพญามังกร ชาวบ้านริมฝั่งน้ำไม่มีใครรู้ว่า พญามังกรกระพริบตากี่ครั้ง หรือด้วยอำนาจใดของพญามังกร แม่น้ำจึงหยุดไหล ทั้งที่แม่น้ำเคยไหลมาชั่วนาตาปี วันที่แม่น้ำหยุดไหล คนหาปลาร้องไห้ปานจะขาดใจ เพราะปลาจำนวนมากได้หนีหายไปจากแม่น้ำ

๑๔ มีนา วันหยุดเขื่อนโลก

16 March, 2010 - 00:00 -- sumart

แดดร้อนของเดือนมีนาคมแผดเผาหญ้าแห้งกรัง หน้าร้อนปีนี้ร้อนกว่าทุกปี เพราะฝนไม่ตก ยอดมะม่วงอ่อนจึงไม่ยอมแตกช่อ มะม่วงป่าเริ่มออกดอกรอฝนพรำ เพื่อให้ผลได้เติบโต ความร้อนมาพร้อมกับความแห้งแล้ง ในความแห้งแล้ง ดอกไม้ป่าหลากสีกำลังผลิบาน มีทั้งดอกสีส้ม แดง ม่วง ความแห้งแล้งดูมีชีวิตชีวาขึ้นมาบ้าง

ความแห้งจะไม่ใช่ภัยพิบัติอีกต่อไปหากเราเข้าใจในธรรมชาติ

7 March, 2010 - 00:00 -- sumart

ย่างเข้าเดือนห้า น้ำท่าก็เริ่มขอดแล้งคนแก่บางคนว่าอย่างนั้น (ถ้าผมจำไม่ผิด) คำพูดนี้ได้สะท้อนบางอย่างออกมาด้วย นั่นคือสิ่งที่ผู้คนในยุคสมัยก่อนเห็น พอถึงเดือนห้า น้ำที่เคยมีอยู่ก็แห้งขอดลงเป็นลำดับ ผู้คนในสมัยก่อนที่จะก้าวเข้าสู่สังคมเกษตรอุตสาหกรรมเช่นทุกวันนี้ทำอะไรบ้าง ในสังคมภาคกลางยุคที่ทำการเกษตรไม่ใช่อุตสาหกรรม หน้าแล้งไม่มีใครทำนา เพราะทุกคนต่างรู้ว่า หน้าแล้งแล้วนะ น้ำท่าจะมาจากไหน แต่พอยุคอุตสาหกรรมเกษตรเรืองอำนาจ หน้าแล้งผู้คนก็ยังคงทำนา เพื่อตอบสนองอุตสาหกรรมการเกษตรกันอยู่