ขอเพียงเรา...เน้นที่ภารกิจแห่งศรัทธาเหล่านี้

 


"นางแบบ มาลานชา ตากล้อง Tou paycheck"
 

ในกาลครั้งหนึ่ง
มีชายคนหนึ่งหลงทางอยู่ในทะเลทราย น้ำในกระติกได้หมดไปเมื่อสองวันที่แล้ว เขารู้ดีว่า ถ้ายังหาน้ำไม่ได้ภายในเร็วๆนี้ เขาต้องตายแน่ๆ
 
ชายคนนั้น ได้เห็นกระท่อมอยู่เบื้องหน้า เขาคิดว่าเป็นภาพลวงตาหรือเกิดอาการประสาทหลอน แต่ไม่มีทางเลือก จึงมุ่งตรงไปที่กระท่อมนั้น เมื่อเข้าใกล้จึงแน่ใจว่าเป็นความจริง เขาได้ลากสังขารที่อิดโรยไปยังประตูด้วยกำลังเฮือกสุดท้าย
 
ที่กระท่อม
ไม่มีคนอยู่และดูเหมือนได้ถูกปล่อยร้างมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ชายผู้นั้นเดินเข้าไปด้วยความหวังริบหรี่ว่าอาจจะเจอน้ำอยู่ข้างใน
 
หัวใจเขาเต้นไม่เป็นจังหวะ เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ภายในกระท่อม มันคือเครื่องสูบน้ำที่มีท่อต่อลงไปใต้พื้นกระท่อม คงใช้สำหรับเครื่องสูบน้ำจากแหล่งน้ำที่ใต้ดิน
 
เขาเริ่มทำการสูบน้ำ แต่ไม่มีอะไรออกมา หลังจากพยายามอยู่หลายครั้งก็ไม่บังเกิดผล ในที่สุดต้องยอมแพ้ เพราะหมดแรงและล้มเหลว เขายอมแพ้อย่างสิ้นหวัง ดูประหนึ่งกำลังจะตายในที่สุด
 
ทันใดนั้น เขาพลันเหลือบไปเห็นขวดใบหนึ่งวางอยู่ที่มุมกระท่อม บรรจุน้ำอยู่เต็มและมีจุกปิดเพื่อกันระเหย
 
เขาเปิดจุกขวดออกและกำลังจะดวดให้สมอยาก แต่สังเกตเห็นฉลากที่ติดขวด เขียนด้วยลายมือว่า “จงใช้น้ำนี้ในการเริ่มต้นสูบน้ำ เมื่อใช้แล้วอย่าลืมเติมให้เต็มขวด”
ชายคนนั้นตกอยู่ในสภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
จะทำตามคำแนะนำด้วยการเติมน้ำเข้าไปในเครื่องสูบน้ำดี
หรือว่าดื่มมันโดยไม่ต้องสนใจดี
 
จะทำอย่างไรดี
ถ้าเติมน้ำลงไปในเครื่องสูบน้ำ แล้วใครจะรับประกันว่ามันจะทำงานได้ ถ้าเครื่องสูบน้ำมันเสียไปแล้วล่ะ ถ้าท่อน้ำที่ต่อไว้มันรั่วล่ะ ถ้าน้ำใต้ดินมันหมดไปแล้วล่ะ
 
ทว่าบางทีคำแนะนำอาจจะถูก ลองเสี่ยงดูดีไหม ถ้ามันผิดก็เท่ากับโยนน้ำขวดสุดท้ายทิ้งไป
 
เขาเทน้ำลงเครื่องสูบน้ำด้วยมือสั่นระริก จากนั้นหลับตา สวดวิงวอน แล้วเริ่มสูบน้ำ ได้ยินเสียงโครกคราก แล้วมีน้ำไหลพุ่งออกมา มันมากจนเหลือใช้ เขาเพลิดเพลินอยู่กับกระแสน้ำที่เย็นและสดชื่น เขายังมีชีวิตอยู่ !
 
หลังจากดื่มน้ำจนอิ่มและรู้สึกสดชื่นดีแล้ว ได้มองไปรอบๆกระท่อม จึงพบดินสอและแผนที่แสดงปริมณฑลที่บอกให้รู้ว่า ยังอยู่ห่างไกลจากบริเวณที่มีอารยธรรม แต่อย่างน้อยที่สุด เขาก็ได้รู้ว่ากำลังอยู่ที่ไหน และควรจะไปทางไหน
 
เขาเติมน้ำใส่กระติกจนเต็ม เพื่อใช้ในการเดินทาง จากนั้นได้เติมน้ำใส่ขวดและปิดจุกไว้อย่างเดิม ก่อนออกจากกระท่อม เขาได้เขียนข้อความต่อท้ายคำแนะนำว่า
“เชื่อเถอะ, มันใช้ได้!”
 
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
ในการดำเนินชีวิตนั้น เราจะต้องให้ก่อน...จึงจะได้รับอย่างเหลือเฟือ ที่สำคัญคือ สอนให้รู้ว่า ความเลื่อมใสศรัทธามีบทบาทที่สำคัญในการให้ ชายผู้นั้นไม่รู้ว่าทำไปแล้วจะได้รับค่าตอบแทน แต่เขาได้ดำเนินต่อไปโดยไม่คำนึงถึง เขาโดดเข้าใส่ด้วยความศรัทธา
 
น้ำ ในนิทานเรื่องนี้
เป็นตัวแทนของสิ่งดีๆในชีวิต มันเป็นพลังงานทางบวกที่ทำให้เกิดรอยยิ้มบนใบหน้า มันอาจเป็นรูปธรรมหรือนามธรรมก็ได้ อาจเป็นตัวแทนของเงิน ความรัก มิตรภาพ ความสุข ความนับถือ หรืออะไรก็ได้ที่ท่านเห็นว่ามีคุณค่า
 
เครื่องสูบน้ำ
แทนลักษณะการทำงานของกลไกแห่งกรรม จงให้น้ำ (สิ่งดีๆ) แก่มัน เพื่อให้มันทำงาน แล้วมันจะตอบสนองให้มากกว่าที่ท่านป้อนเข้าไป กลไกนี้จะดำเนินไปเป็นลักษณะวงกลมขนาดใหญ่ เป็นวิถีที่ต่อเนื่องไม่ขาดสาย ซึ่งในที่สุดจะกลับมาสู่จุดกำเนิด พลังของการหมุนเวียนนี้จะเก็บรวบรวมพลังเอาไว้ขณะที่มันเคลื่อนที่ไปเป็นวงกลม ดังนั้น ในที่สุดมันจึงย้อนกลับมาด้วยขนาดที่ขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
 
ถ้าวงกลมนั้น
เป็นปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ เหมือนกับวงจรของดาวนพเคราะห์ หรือวงจรของฤดูกาล เราจะสามารถติดตามวิถีของมัน สังเกตความก้าวหน้าของมัน และพยากรณ์ได้...ก่อนที่วงจรจะสมบูรณ์ แต่เราไม่สามารถทำเช่นนั้นกับกลไกแห่งกรรม เพราะมันเป็นลักษณะทางอภิปรัชญา คลื่นกรรมนั้นวิถีของมันสามารถเข้าๆออกๆ โลกทางรูปธรรมได้อย่างง่ายดาย และเมื่อมันเข้าสู่อาณาจักรทางนามธรรม เราจะมองไม่เห็นมัน
 
นี่คือทำไมตามปรกติ เราจึงไม่สามารถเห็นความสัมพันธ์ระหว่างเหตุและผล ถ้าท่านทำกรรมแล้วได้รับผลเป็นการสรรเสริญทันที ความสัมพันธ์ของกรรมเช่นนี้ เข้าใจได้ง่าย เพราะในกรณีนี้วงกลมค่อนข้างเล็ก
 
แต่ส่วนมากแล้ว
วงกลมจะใหญ่โตมาก ทำให้เราขาดเบาะแสของมัน บางทีท่านอาจสร้าง กรรมดี เอาไว้โดยไม่มีใครรู้ ดังนั้น ท่านจึงสันนิษฐานว่า จะไม่มีผลเกิดขึ้นร่วมกับสาเหตุที่กระทำ ความจริงแล้วมีผลเกิดขึ้น แต่เป็นเพราะท่านได้เริ่มนำกลไกแห่งกรรมเข้าสู่อาณาจักรแห่งจิตใจ ท่านจึงไม่สามารถเห็นมันได้
มันทั้งหมดอยู่ที่นั่น
กำลังรวบรวมพลังงาน
และกำลังหาทางกลับมาหาท่าน
ซึ่งจะมาถึงในไม่ช้านี้
 
ณ ที่บางจุดในอนาคต
กรรมชนิดบวกที่มองไม่เห็นนี้ จะปรากฏในโลกทางรูปธรรม เมื่อวิถีแห่งวงกลมของมันกลับมาถึงท่าน เมื่อปรากฏเช่นนั้น มันจะดูประหนึ่งว่า ความลี้ลับได้ปรากฏให้เห็นจริง มันเหมือนกับว่าเป็นผลที่ปราศจากสาเหตุ ท่านอาจสงสัยเกี่ยวกับ โชคดี เช่นนั้นว่า มันมาโดยบังเอิญ หารู้ไม่ว่าความจริงแล้ว ตัวท่านเองนั่นแหละ เป็นแหล่งกำเนิดเดิมแท้ของมัน
 
ทีนี้ท่านคงจะพอมองเห็นแล้วว่า ทำไมเหลาจื๊อจึงเรียกสิ่งนี้ว่า “คุณความดีอันล้ำลึก” การทำงานของมันลึกลับและไม่สามารถอธิบายได้จริงๆ ถ้าเราเอาอย่างเต๋าด้วยการสร้างพลังทางบวก ด้วยการให้โดยปราศจากความมุ่งหวัง จักรวาลจะตอบแทนด้วยสิ่งของจำนวนมาก สิ่งนี้จะเป็นจริงเสมอ ถึงแม้เราจะไม่สามารถเห็นการเชื่อมโยง ระหว่างการให้แต่เดิมกับการตอบแทนที่ตามมาภายหลัง
 
ถ้าท่านพบว่า
หลักการนี้ยากที่จะยอมรับ จะนำแนวความคิดพื้นฐานมาใช้ก็ได้ ตามความเป็นจริงระดับพื้นฐานกล่าวว่า สรรพสิ่งล้วนเชื่อมโยงกัน มิได้มีการแยกออกจากกันอย่างแท้จริง ไม่มีเส้นแบ่งเขตที่ถูกจำกัดวงไว้อย่างชัดเจนในสรรพสิ่ง ถ้าเรายึดถือหลักการนี้ “คุณความดีอันล้ำลึก” อาจไม่ดูประหนึ่งเป็นของแปลกเหมือนก่อน ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นส่วนหนึ่งของความเป็นหนึ่งเดียวที่เราเรียกว่า “เต๋า” การแยกกันอยู่ที่เราสัมผัสรู้ในโลกทางรูปธรรมนั้นล้วนเป็นมายา
 
ตามในนิทาน
ชายคนนั้นได้เติมน้ำลงไปในเครื่องสูบน้ำ โดยไม่รู้ว่าความพยายามของเขาจะได้รับผลตอบแทน ในทำนองเดียวกัน เมื่อเราเอาอย่างเต๋าด้วยการบำรุงเลี้ยงผู้อื่น เราจะต้องกระทำไปโดยไม่มุ่งหวังที่จะได้รับรางวัลใดๆด้วย
 
ข้าพเจ้ายังจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน เคยมีเพื่อนคนหนึ่งบ่นให้ฟังเสมอว่า เขาให้ผู้อื่นตลอดเวลา แต่ไม่เคยได้รับผลตอบแทนเลย เขาผิดหวังและขมขื่น ในขณะนั้นข้าพเจ้าไม่เข้าใจปัญหาของเขา แต่บัดนี้ข้าพเจ้าเข้าใจแจ่มแจ้งแล้วว่า ในขณะที่เขาให้ผู้อื่นนั้น เขาทำไปด้วยความคาดหวังและด้วยความขมขื่น นี่เป็นวิธีที่เป็นผลให้เกิด การลัดวงจร ของกลไกแห่งกรรม เขาไม่เข้าใจหลักการนี้ จึงได้รับแต่ความคาดหวังและความขมขื่นเป็นรางวัล
 
หลักการนี้
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทุกเรื่อง ตัวอย่าง เช่น
เมื่อท่านต้องการได้รับความเคารพนับถือจากผู้อื่น
ท่านจะต้องเริ่มต้นด้วยการให้ความเคารพนับถืออย่างเหมาะสมแก่ผู้อื่นเสียก่อน
โดยไม่พูดจาบ่ายเบี่ยงหรือมีความแคลงใจ
 
ถ้าท่านต้องการให้ผู้อื่นยอมรับผลงานของท่าน
ท่านจะต้องเริ่มต้นด้วยการยอมรับในความสำเร็จของทุกคนที่อยู่รอบตัวท่าน
เมื่อท่านยอมรับด้วยความจริงใจว่าผู้อื่นสมควรได้รับการยอมรับ
ความเคารพนิยมในตัวท่าน
จะเพิ่มขึ้นราวปาฏิหาริย์
 
ถ้าท่านต้องการมิตรภาพในการดำเนินชีวิต
ท่านจะต้องเริ่มต้นด้วยการทำตัวเป็นมิตรกับผู้อื่นโดยไม่หวังอะไรตอบแทน
แล้วท่านจะประหลาดใจที่ไมตรีจิตและความนิยม
จะไหลบ่ามาหาท่านอย่างน่าภูมิใจ
 
ถ้าท่านอยากให้ผู้อื่นเห็นความงามในตัวท่าน
ท่านจะต้องเริ่มต้นด้วยการเห็นความงามที่มีในตัวผู้อื่นเสียก่อน
มันง่ายมากที่จะเห็นเมื่อท่านให้ความสนใจ
ทุกๆคนรอบๆตัวท่าน
ล้วนมีความงามตามธรรมชาติอยู่แล้ว
ซึ่งเป็นความงามที่อยู่เหนือความงามทางร่างกาย
 
เมื่อท่านสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ และเริ่มต้นเห็นคุณค่าของมัน การเปลี่ยนแปลงก็จะเกิดขึ้น ท่านจะเป็นผู้ที่มีความงามอย่างแท้จริง
 
โดยทั่วไปแล้ว
ความดีงามอะไรก็ตามที่ท่านต้องการได้รับจากการดำเนินชีวิต จงให้สิ่งนั้นแก่ผู้อื่นเสียก่อน ให้ด้วยความเบิกบานใจและด้วยความจริงใจ ปราศจากการคำนวณ ผลได้ - ผลเสีย ดุจทำบัญชีงบดุล เพราะเมื่อเริ่มต้นวงจรแลกเปลี่ยนกันแล้ว กระบวนการแห่งเต๋าไม่เคยคดโกงใคร
 
ณ จุดนี้ ท่านอาจสงสัยว่า หลักการนี้ดูประหนึ่งเป็นคำพูดที่ขัดแย้งกันเอง เพราะถ้ารู้ว่าเราจะได้รับรางวัลตอบแทนมากมายอย่างแน่นอน ด้วยการสร้างสรรค์สิ่งที่เป็นบวก นั่นมิใช่การมุ่งหวังหรือ และจะไม่เป็นความมุ่งหวัง ที่ทำให้ขบวนการเกิดลัดวงจรหรือ
 
ลองนึกถึงการเพาะเมล็ดไม้ดอกในสวน ที่อุปมาเหมือนกลไกแห่งกรรม แต่ละเมล็ดที่ท่านเพาะปลูก เป็นหนึ่งกระบวนการ ที่ท่านได้ลงมือกระทำ ท่านเข้าใจหลักการที่ควบคุมการเจริญเติบโตของพืช และรู้ว่าที่ดินนั้นอุดมสมบูรณ์ดี ดังนั้น จึงรู้ว่าจะต้องเห็นผลเมื่อถึงเวลา แม้ท่านไม่รู้อย่างแน่ชัดว่า เมื่อไหร่ หรือดอกไม้จะออกมาเป็นอย่างไร และนั่นคือความปรอดโปร่งสบายใจอย่างแท้จริง
 
การมีความมุ่งหวังในที่นี้หมายถึง การเปลี่ยนเป็นติดยึดกับสิ่งที่จะเกิดตามมาโดยเฉพาะเจาะจง ถ้าท่านยืนกรานว่า ดอกไม้จะต้องบานในเวลาที่แน่นอน มีรูปดอกเป็นลักษณะอย่างนั้นแน่นอน ท่านจะต้องผิดหวังแน่ๆ ถ้าในภาวะที่ความคิดหนึ่งครอบงำจิตใจของท่าน โดยที่ท่านไม่สามารถสลัดออกไปได้ ท่านก็จะนั่งอยู่ที่นั่น เพื่อเฝ้าดูไม้ดอกต้นนั้นเจริญเติบโต ส่วนที่เหลือในสวนของท่าน ต้องถูกปล่อยปละละเลยอย่างแน่นอน
 
กรรมก็เช่นเดียวกัน
เมื่อท่านได้เริ่มต้นด้วยพลังด้านบวก โดยไม่รู้แน่ชัดว่าผลจะปรากฏออกมาเมื่อไหร่ และอย่างไร เนื่องจากท่านเข้าใจกลไกแห่งกรรม และตระหนักรู้ว่ามันจะให้ผลในทางที่ดี ไม่ช้าก็เร็ว อย่างไรก็ดี ท่านไม่ติดยึดกับผลที่ตามมาอย่างเฉพาะเจาะจง เพราะฉะนั้นจึงไม่มีความมุ่งหวังเป็นพิเศษ
 
ขอเพียงเรา
เน้นที่ภารกิจแห่งศรัทธาเหล่านี้ คือ แค่รู้ว่าในสวนมีความอุดมสมบูรณ์ มีความศรัทธาในเมตตาที่เป็นมูลฐานแห่งจักรวาล เต๋าบำรุงเลี้ยงและปกป้องเรา โดยนัยที่แท้จริงแล้ว โลกปรารถนาให้เราประสบความสำเร็จ
สิ่งเดียวที่จำเป็นคือ
กล้าที่จะรับผิดชอบ
และเริ่มเดินเครื่องสูบน้ำ...
เชื่อเถอะ, มันใช้ได้!  
 
หมายเหตุ ; นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งจากหนังสือ “อยู่อย่างเต๋า” ของ เกรียงไกร เจริญโท ที่ผมชอบไม่ยิ่งหย่อนกว่าเรื่องที่ผมนำมาเสนอแนะนำในตอนที่แล้ว แม้งานนี้คุณเกรียงไกรจะนำเขียนในเชิงนิทานสาธก และอธิบายหลักการของเต๋าโดยอาศัยเรื่องในนิทานเป็นตัวแทนคำสอนของเต๋ามาอธิบายให้เราเข้าใจได้ง่าย และสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต แต่เนื้อหาของเต๋าก็เป็นงานที่หนักสำหรับคนส่วนใหญ่ในสังคมบ้านเรา ที่ชอบบริโภคเรื่องที่ให้ความสนุกเพลิดเพลิน มากกว่าเรื่องที่ประเทืองสติปัญญา
 
ผมเกรงว่า คนที่มาเปิดอ่าน เรื่องที่ดีและมีประโยชน์ต่อทุกท่านเรื่องนี้ จะถูกเปิดผ่านไปอย่างน่าเสียดายแทน เมื่อนำเรื่องนี้มาเสนอ ผมจึงลดทอนเอาบทเกริ่นนำที่เป็นปรัชญาคำสอนล้วนๆของเต๋า พร้อมด้วยคำอธิบายย่อๆของคุณเกรียงไกรออก เพราะผมเชื่อว่า ทันทีที่มีคนเปิดพบพารากราฟ หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า หก ของงานชิ้นนี้ ที่เป็นปรัชญาล้วนๆ (แบบเนื้อดิบๆที่ยังไม่ได้ปรุงเป็นอาหาร) ยากที่จะมีคนหยุดอ่าน และถึงแม้ผมจะลดทอนส่วนนั้นออกไป แล้วนำเสนอเพียงแค่นี้ (แต่ก็ยาวเหยียดสำหรับสื่อออนไลน์) ก็สามารถเข้าใจได้อย่างลึกซึ้ง ถ้าคุณอ่านอย่างใคร่ครวญและพินิจพิเคราะห์
 
เช่นเดียวกับชื่องานที่ชื่อว่า “เครื่องสูบน้ำ” ก็ยากที่จะดึงดูดความสนใจ ผมจึงขออนุญาตคุณเกรียงไกร ทั้งการลดทอนข้อความที่เป็นอุปสรรคต่อการได้รับความสนใจออก และขอใช้ชื่อใหม่จากประโยคแรกในพารากราฟสุดท้ายที่ว่า ขอเพียงเรา...เน้นภารกิจที่เป็นศรัทธาเหล่านี้ มาแทนชื่อเก่า (เครื่องสูบน้ำ) ในการนำมาเสนอเฉพาะในพื้นที่แห่งนี้ เพราะประโยคนี้ ฟังดูโรแมนติก...ชวนให้ติดตามค้นหาความหมายที่อยู่เบื้องหลังถ้อยคำ และเป็นการย้ำว่าหลังจากการเรียนรู้แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การลงมือปฏิบัติ นั่นเอง เราจึงจะพบกับพลังการทำงานอันลึกลับของเต๋า
 
และสุดท้าย ผมขออนุญาตคุณ มาลานชา นำภาพอีกภาพหนึ่งของเธอ ที่ถ่ายโดยฝีมือคุณ Tou Paycheck มาเป็นภาพประกอบเรื่อง ซึ่งก็เป็นภาพที่อยู่ในชุดเดียวกันกับที่ผมนำมาลงในบทความที่ชื่อว่า “ความอ่อนแอ” ที่คุณ Tou ถ่ายในคราวที่คุณมาลานชาไปร่วมอ่านบทกวีชื่อ “เธอ” ของผมในงาน “น้อยแต่พองาม” ของชมรมสถาปนิกล้านนาที่ท่านอาจารย์ ดร.กาญจน์ นทีวุฒิกุล ประธานกรรมาธิการสถาปนิกล้านนา ได้เชิญผมไปเล่นดนตรีและอ่านบทกวีในรูปแบบดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 มกราคม 54 ที่คุ้มเจ้าบุรีรัตน์ สี่แยกกลางเวียงเชียงใหม่
 
 ด้วยเชื่อมั่นว่า ภาพรอยยิ้มอันเบิกบานแลดูเป็นธรรมชาติของเธอในภาพนี้ จะช่วยเบรกรูปแบบงานที่มีเนื้อหาอันหนักอึ้งและจริงจังนี้ให้ผ่อนคลายลง รวมทั้งทำให้คนที่เปิดดูหน้าคอลัมน์แล้วพบภาพที่สวยงามนี้ เกิดความสนใจและหยุดอ่านเรื่องนี้ แม้เพียงแค่...คนสองคน ผมก็ดีใจและพอใจแล้ว ขอบคุณครับ
 
ปล.สำหรับท่านที่สนใจหนังสือ “อยู่อย่างเต๋า” ของคุณเกรียงไกร เจริญโท เชิญคลิกกลับไปดูรายละเอียดที่หมายเหตุท้ายเรื่องตอนก่อนหน้านี้ได้เลยนะครับ
 

1 มีนาคม 2554
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่
 

 

 

 

ความเห็น

Submitted by มาลานชา on

เรื่องของบาปของกรรมอันเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์นั้น
มีสอดแทรกอยู่ในทุกคัมภีร์ของศาสนาไม่ว่าศาสนาใดในโลก

ในพระคัมภีร์ไบเบิล มีพระธรรมกาลาเทีย(ขอโทษค่ะ ที่จำไม่ได้ว่าบทไหนข้ออะไร)
แต่จำได้แม่น -- บอกเอาไว้ว่า
"อย่าหลอกลวงพระเจ้าของเจ้า เพราะเมื่อเจ้าหว่านเมล็ดพันธ์ุ์ใดลงไป
เจ้าก็ต้องเก็บผลผลิตของพืชพันธ์นั้น"

ปล.ขอบคุณค่ะที่ได้รับการโปรโมทอีกครั้ง โดยส่วนตัวแล้วชอบรูนี้มากค่ะ ดูไม่ลอย มีมิติ และมิมีที่ติ

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

มาลานชา ขอบคุณครับที่โพสต์เข้ามาเป็นสิริมงคลเป็นท่านแรก และขอบคุณสำหรับพระวจนะของพระคริสต์ที่แถมมาให้ ถ้าTou paycheck รู้คงชื่นใจ ขอให้โชคดีในชีวิตตลอดฤดูร้อนนะเจ้า

Submitted by Tou Paycheck on

ไม่มีปาฏิหาริย์..ให้เราได้สัมผัสได้ด้วยกายหยาบ.....
แต่..มีปาฏิหาริย์เสมอ.....ในความรู้สึก..ว่าโลกนี้มีปาฏิหาริย์..

ไม่มีปาฏิหาริย์หรอก...ในสิ่งที่มุ่งหวัง..
แต่...มักมีปาฏิหาริย์เสมอ...ในสิ่งที่เราไม่คาดคิด...

ไม่มีปาฏิหาริย์....ในการกระทำทุกอย่างที่ตรงกันข้ามกับสิ่งที่มุ่งหวัง...
แต่..จะมีปฏิหาริย์.....เมื่อมีการไหล..วน..ย้อนกลับตามสิ่งที่ได้กระทำไว้...

ไม่มีปาฏิหาริย์...ที่ผลของการย้อนกลับจะแตกต่างหลุดวงจรจากสิ่งที่เริ่มต้น..
แต่...จะมีปาฏิหาริย์....เมื่อผลจากจุดเริ่มต้นได้ไหลเวียนย้อนกลับ...

บางสิ่งในบทความของอ้ายหนอมบทนี้...
มันกำลังทำให้รู้สึกสัมผัสได้กับบางสิ่ง.....ที่ไม่น่าเชื่อ..

สิ่งที่ไม่น่าเชื่อ..มัก..จะมาพร้อมๆกับ..สิ่งที่ไม่เคยคาดคิด....

หรือว่า....ปาฏิหาริย์..จะมีจริง....ว่ามั๊ย..มาลานชา...
.............................................................................

เป๊ะ!เลย...อ้ายหนอม....เรื่องราวบางอย่างของชีวิต
การเสี่ยงในบางเรื่องอาจถึงกับต้องใช้ชีวิตที่มีทั้งหมดลงทุน..
แต่..ผลของการลงทุนนั้น..อย่ามองอะไรในระยะสั้นๆ...
ผลของการตอบแทนนั้นมักจะสะท้อนกลับมาในระยะยาว..เสมอ...
การเสี่ยง..มันนำพาให้เราร่อนเร่เดินทางไกลแสนไกล...
จนกระทั่งมาพบกับสิ่งที่เราหวังไว้....อย่างไม่คาดคิด..

จากประสบการณ์..หากถามว่าพึงพอใจกับสิ่งที่ได้ที่มีในปัจจุบันไม๊..
ที่กล้าลงทุนเสี่ยงชีวิตไปขนาดนั้น...

คำตอบคือ...มันมีความสุขอย่างบอกไม่ถูกเมื่อผ่านจุดเหล่านั้นมาได้
เมื่อเราหันมองกลับไปทุกครั้ง...เราจะถามตัวเองว่า..เราผ่ามมันมาได้อย่างไรกันนะ..
แต่อย่างไรก็ตาม..ตอนนี้เราก็ได้ผ่านมันมาแล้ว...มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว..

และเมื่อมองไปข้างหนัาอีกครั้ง..
ประสบการณ์อีกนั่นแหละ..ที่คอยกระซิบบอกกับเราว่า...
ความหวังใหม่ๆนั้น...จะมีที่มาเสมอ....

ไม่ว่าผลของมันในเส้นทางข้างหน้าออกมาจะเป็นเช่นไร...
คำว่า..ปาฏิหาริย์...จะเกิดขึ้นพร้อมกับความไม่คาดคิด..อีกครั้ง...
เมื่อเราได้เริ่มต้นจากจุดที่ยืนในปัจจุบัน
ได้ทำในสิ่งที่..เรามองเห็น..เหตุ..และ..ผล...ที่จะตามมา..
มองมัน..เรียนรู้มัน...จากประสบการณ์ที่เคยผ่าน...

อย่างน้อย..ที่เห็นๆ..
เหตุ..เพราะเริ่มต้นจากจุดที่น้องสาวสองคนเคยเป็นเพื่อนกันมา..
ตั้งแต่..วันวาน...อันนานแสนนาน..
บนทางชีวิตของเราสองคนที่โลกพาเราให้ต่างคนต่างเดินห่างกันไปไกลแสนไกล..
เหมือนๆว่า...ไม่มีวันที่จะหวนกลับมาพบกันได้อีก...

ผล...หากไม่มีวันเวลาในอดีตเหล่านั้น..วันนี้ก็จะไม่ภาพนี้ของมาลานชา..แบบนี้..
อย่างนี้..เขาเรียกว่า..ราว..ปาฏิหาริย์..รึปล่าว..

ปาฏิหาริย์...จะมีจริง..จะเกิดขึ้นได้...จะสัมผัสได้จริงๆ...
ก็เพราะ..มันเกิดขึ้นจากตัวเรานี่แหละ..ที่เป็นจุดกำเนิด.......
ทุกสิ่ง.ในโลกนี้..มีที่มา และ มีที่ไปเสมอ...^ ^

คอนเฟิร์ม!

Tou paycheck

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

Tou paycheck ครับ นี่เป็นอ่านของคนที่เข้าใจอย่างซาบซึ้ง จากคนที่มีประสบการณ์ พบและผ่านสันดอนชีวิตมาแล้วอย่างเข้มข้นมากมายหลายเรื่องราว และได้มองเห็นสิ่งที่ไม่เคยมองเห็นด้วยตา และช่วยต่อยอดความคิดที่เราช่วยกันทำความเข้าใจให้กระจ่างชัด และมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น ขอบคุณ Tou มากๆครับ

Submitted by โสมคาน on

ผมฉุนจัด....

ช่วงไปเยี่ยมอ้ายแสงดาว ดูคลื่นถาโถมของมหาประชาชน คนมากันเยอะ เลยมีบ้าง ฟัดกันเหมือนหมา ผมลงไปแจมกับเขาด้วย

ลองตาม กลุ่มเพื่อนพม่า ไปไหว้พระ ดันไปเจอ เทพทันใจ คงเป็นผีพื้นเมืองที่ได้รับการนับถือกันอยู่ในวัด แถวบ้านเรา เรียก พระเจ้าทันใจ คือเอาผีจับบวชเป็นพระ เรียบร้อยไปแล้ว แต่ในพม่ายังทิ้งร่องรอย ไว้ให้เห็น..
...ผมบาป.. คิดมาก...พระุุุพุทธรูปแย่งที่อยู่ของผี...ผมปรามาททุกนาม ที่มีสันดาน นักการเมือง..ชอบแย่งเก้าอี้
มีวาระซ่อนเร้น

(ไม่มีใครด่าพระพุทธรูป แต่งานนี้ ผมอยากอัด คนหล่อพระ ฉิบหาย..ไม่ฮา)

เวรกรรม ..อุทาน รายสะดวก

เหมือนได้น้ำดื่ม เมื่อมาดู งานโปรโมทมาลานชา ของคุณ... ผมเย็นลง จนนึกเปรี้ยวปาก ไม่มีกับแกล้มไม่เป็นไร
ผมขู่ความคิดให้นั่งลง แล้วรอยกจอก

ผมคงตาย ...ความคิดผุดลุกยืนอีกแล้ว...จะมีสักกี่คน ที่โชคดี มีจิตสาธารณะ เชื่อฉลากน้ำข้างขวด ไม่ยอมดื่มแม้คอแห้งผาก

ผมจะฟื้น หากมีปาฏิหารย์ จากคุณตุ๊

ผมจะตายอีก.. มาลานชา หากคุณไม่ไปแก้คำผิด ในบรรทัดสุดท้าย ก่อนที่ไม่มีใครหาญบอกอีกแล้วว่า

ชอบรูปคุณ แม้แต่ผมก้อไม่เว้น

ขอขอบคุณ...อ้ายหนอม โปรดิวเซอร์
...บริษัท เกรียงไกร เจริญโท สปอนเซอร์
...Tou Paycheck ตากล้อง

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

โสมคาน ครับ ผมโปรดิวเซอร์ทุกท่านที่สร้างงานออกมาดีมีคุณค่าแก่ผู้อ่าน (และท่านผู้ชม) และทำมานานแล้วนะครับ (เป็นการตอบแทนที่ผมได้รับสิ่งดีๆจากงานของเขา) กรณีของคุณตุ๊ ผมเข้าใจว่าเธอได้พบปาฏิหาริย์แล้วหละ ส่วนกรณีความผิดพลาดของ มาลานชา ผมถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องแก้ไขก็ได้ เพราะพออนุมาณจากบริบทที่แวดล้อมคำนี้ แต่คนที่ควรแก้ไขก็คือคนที่อ่านแล้วเกิดความคิดแบบซุกซน ประมาณชักใบให้เรือเสีย (อย่างที่คุณเป็นห่วงแทนมาลานชา) ต้องแก้ไขความคิดของตัวเอง อันนี้ต้องขอขอบคุณแทนมาลานชาด้วยนะครับ อือม์...การใช้ภาษานี่ไม่ใช่ของเล่นเนาะ ผิดไปคำเดียวความหมายก็อาจถูุกตีความเป็นไปอื่นได้

เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม ผมขอแก้ให้น้องเขาเลยนะครับ
ที่มาลานชาเขียนมาว่า "โดยส่วนตัวแล้วชอบรู...นี้มากค่ะ"
ที่ถูกคือ"โดยส่วนตัวแล้วชอบรูปนี้มากค่ะ"

มีเรื่องเล่านานมาแล้วจากวงการหนังสือยุคใช้อักษรตัวตะกั่ว พระองค์เจ้าองค์หนึ่งถึงกับสั่งปลดกองบรรณาธิการ คนตรวจบรู้ฟ และช่างเรียงพิมพ์ออกทั้งชุด เพราะปล่อยให้คำโฆษณาหีบญี่ปุ่นตัวเบ้อเริ่ม ที่ตัลงตีพิมพ์ด้วยข้อความโฆษณาว่า "ที่นี่มีหีบญี่ปุ่นขนาดใหญ่ขาย" แต่ช่างเรียงเรียงคำว่า "หีบ" ตกตัว บ ใบไม้ไป ก็เลยถูกไล่ออกจากงานกันแบบยกทีม เพราะมารู้ความผิพลาดอันใหญ่หลวงหลังจากหนังสือออกไปวางตลาดแล้ว

ครับ ขอบคุณอีกหลายเรื่องที่คุณโสมคานคอมเม้นท์มาให้ฟัง ผมว่าโลกนี้มันมีสีสัน ก็เพราะคนเราแต่ละคน แต่ละกลุ่ม แต่ละพวก ล้วนแล้วแต่นานาจิตตังให้เราได้เรียนรู้และศึกษา นั่นแล ขอบคุณครับสำหรับ "ไดอะลอก" ที่สนุกสนานจากคุณโสมคาน สวัสดี

Submitted by มาลานชา on

55555++++
ขออนุญาตขึ้นต้นคอมเมนต์นี้ด้วยเสียงหัวเราะค่ะ
การผิดพลาดคือเรื่องธรรมดาของมนุษยชาติ..นี่คือคำแก้ตัวอย่างพื้น ๆ ที่สุด

และเป็นอาการธรรมดาของมาลานชา
อันสืบเนื่องมาจากคืนหลังจากปาร์ตี้งานเปิดตัวหนังสือ กำสรวลกรุงสยาม
ของ อ้ายไพฑูรย์ พรหมวิจิตร ที่สุดสะแนนในคืน วันที่ 1 มีนา
ทั้งที่อยา่กว่าให้ยาว ๆ กว่านั้น แต่ก็ได้เพียงเท่านั้น ซ้ำมีข้อผิดพลาดให้ฮาได้อีก

ขอขอบพระคุณ..คุณโสมคานที่ท้วงติง และขอบพระคุณ..อ้ายหนอมที่ช่วยแก้ไขให้เรียบร้อยแล้ว

หนทางของเต๋า ในหนังสือ"อยู่อย่างเต๋า"ของคุณเกรียงไกร เจริญโท ที่อ้ายหนอมยกมาวางไว้ด้านบนนี้เป็นการสอดแทรกวิธีการคิดอย่างเต๋า แบบง่าย ๆ ใช้ภาษาเข้าใจได้ไม่ซับซ้อน

มองได้อีกนัย เรื่องนี้เป็นเรื่องของการลงทุน การเสี่ยง เหมือนการซื้อล๊อตเตอรี่
น้ำอาจจะไม่มีใต้ดินสักนิด มันคือเรื่องโกหก มันคือการเช็คดวง คือการลุ้น
คือการคาดหวัง ซึ่งผลที่ตามมา ก็ต้องมีทั้งสมหวังและผิดหวัง

แต่เมื่อคิดอย่างเต๋า เป็นการคิดทางบวกว่า...

"โดยนัยที่แท้จริงแล้ว โลกปรารถนาให้เราประสบความสำเร็จ
สิ่งเดียวที่จำเป็นคือ
กล้าที่จะรับผิดชอบ
และเริ่มเดินเครื่องสูบน้ำ...
เชื่อเถอะ, มันใช้ได้! "

เขาจึงทำมันด้วยพลังศรัทธา และเฝ้ารอคอยสิ่งที่เรียกมันว่า"ปาฏิหาริย์"

"ปาฏิหาริย์" คือ-สิ่งที่น่าอัศจรรย์
"อัศจรรย์" คือ--แปลก ประหลาด (บทอัศจรรย์ คือบทแปลกประหลาด -ฮา!)

เรื่องราวของปาฏิหาริย์ จึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพียงแค่มันคือเรื่องแปลก ๆ อีกหนึ่งเรื่องที่ผ่านมากระทบคุณ
และเรื่องแปลก ๆ ในโลกใบนี้ก็มีอยู่มากมาย--
ฉันมายืนอยู่ข้างหน้าเธอ ให้สัมผัสได้นั้น จึงไม่ใช่ปาฏิหาริย์ ไม่ใช่เรื่องอัศจรรย์เลยสักนิด
เพราะเราต่างถูกวางรากฐานแห่งความเป็นเพื่อนเอาไว้แล้วนานแสนนาน
พระเจ้ากระมัง ที่ทำให้ฉันและเธอแยกจากกัน เพื่อพบกันอีกครั้งในวันนี้
เพื่ออะไรสักอย่าง เราต้องช่วยกันหามันให้ได้ ตามให้เจอ ว่าเค้าส่งให้ฉันมาเจอเธออีก--ทำไม?

ว่ามั๊ย Tou Playsex เอ๊ย! Paycheck

Submitted by โสมคาน on

อ้ายหนอม

OK รูปนี้มี ปอปลา
ไม่มีใคร ไม่เคย ไม่ให้อภัย

ห้าม.. ห้ามความรู้สึก

ความเดิมจากตอนที่แล้ว… “ความดำ” ถูกกล่าวหา ว่าเป็นจิ๊กโก๋ไร้สี มันหยั่งรากลึก ขายตรง สู่ทุกหมู่บ้านตำบล แห่งประเทศ มาลานชา

ลองกลับไปดู ความอ่อนแอ (กล้ากล้า หน่อย) คุณอาจจะบอกว่า เป็นสีซีเปีย คนบอดสีอย่างผม ยังด้าน..เห็นเป็นขาวดำ ถ้ารูปชุดนี้ทยอยออกมาอีก ผมจะบอดอีก จนกว่าจะมีปาฏิหาริย์

ลองเทียบกับ รูปที่มีปอปลา ใหม่นี้

เหมือนได้ชัยจากสงคราม ขยายอำนาจ มาลานชา ดูกว้างขึ้น ชนส่วนน้อย สีขาว คล้าย คลื่นถาโถมแห่งมหาประชาชน กระจัดกระจาย โผล่ออกมาสมทบ รายเรียงใต้ไรฟัน… ประเทศนี้ยิ้มแล้ว ยังมีอีกกลุ่ม หลีกเร้นอยู่ หลังต้นคอ อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นตุ้มหู มันเพียงขาว ที่เข้ามาข้างหลัง

แสงโค้ง หลังซี่โครง ข้อมือซ้าย อนุมานว่าเป็นผลิตภัณฑ์จากร้านชมพูเชียงดาว ที่สตรีทั่วไป นิยมเอาโลหะชาวเขามาทำสวมเป็นกำไร

สีขาวตรงกรอบซ้าย ทะลักเข้ามาเยอะ แน่นอน …. จากประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาหางานทำ

ยังไงประเทศนี้ ก้อยังมืดอยู่ดี…สวยอีกแบบ

ฝากถาม คุณตุ๊.. คุณถ่ายรูป.. ในรู .. หรือไง?

Submitted by Tou Paycheck on

ขออนุญาต...โผล่ออก..รู..มาหนึ่ง..กั๊ก!...เอ๊ยยย...ก๊ากกกก.......

ด้วยว่ารูมีความกว้างสุดแค่..เอฟ ๓.๕ หน่วย ตามมาตราประสาคนเล่นกล้อง..

หากคิดครอบครองพื้นที่...

โดยยอมเปิดศึกรบเพื่อแย่งชิงดินแดนและสลายกำลังของฝ่ายมืดแล้ว...

หาสมควรใช้..เอม เจ็บสิบเก้า....ไม่..

แต่คงต้องรีบไปหัด..ขยายรู....ถึงเอฟ ๑.๔ หน่วย ในมาตราเดียวกัน...

พร้อมคว้าแค่..เอม ร้อยห้าสิบ..ติดมือเพื่อป้องกันตัวไปก่อน...ก็น่าจะพอ..

ว่าแล้ว...สมควรหลบเข้ารู....เพื่อซุ่ม..ฝึกวิชา...

เมื่อเกิดปาฏิหาริย์แล้ว..ค่อยออกมาให้ท่านโสม....ได้ตั้งปุจฉา..(มหาสนุก)กันอีก

ในโอกาสอันเป็นมงคล...ต่อไป...

ปล.คนทำรูปยังมึนๆอยู่..ตกลงมัน..สี....อะไร...

ไม่ขาว ไม่ดำ ไม่เปีย.......ไม่..........

เพราะปกติ...ไม่ค่อยชอบเล่นสีเย๊อะๆ.....

มันเลอะเทอะ...

อิอิ!

Submitted by มาลานชา on

เมื่อ ป.ปลาได้รับการอภัย
การณ์เปลี่ยนไป "รูป"ใช่"รู" เลยรับรู้
ดำ-ขาว หรือ ซีเปีย เนี่ยลองดู
นั่นตุ้มหู นี่ขาวอยู่ หลังต้นคอ

โน่นแสงโค้ง หลังซี่โครง ข้อมือซ้าย
อันนันน่ะ กำไร ใช่เลยหนอ
ส่วนขาวตรงกรอบซ้ายคล้ายเคลียคลอ
คือเก้าอี้ที่คอยรอ ระดะไป

หากสรุปรวม ๆ แล้วว่า "สวย"
ก็ขอบพระคุณด้วย - ช่วยรับไหว้
ให้อ้ายหนอมพร้อมโปรโมท กันต่อไป
ส่งแรงใจสู่ทุกทุกแรงเชียร์..เอยยยยย

ขอบคุณค่ะ

Submitted by โสมคาน on

มาลานชา

ความผิดพลาดมีบ้าง ให้อภัย
ด้วยมีใจแบ่งปันในกันจ้า
รูปเธอสวยนะเนียะ เชียร์อีกครา
แหม เข้าตากรรมการข้างบ้านเลย

ขอฝากถาม Tou playcheck หน่อยได้ไหม
ไม่เข้าใจ เรื่องรู โปรดเฉลย
จะปิดเปิด แคบกว้าง ยังไม่เคย
คนมันเชย อยากจับกล้อง ลองสักที

หากขยายอาณาเขตประเทศใหม่
ตุ๊ ห้ามใช้ เอม เ จ็ บ สิบเก้านี่
ผมเลย เพิ่ม อีกเจ็บ คงเข้าที
เป็นยี่สิบ ก้อไม่ดี มันยังไง

หรือพลาดพลั้งบอกผิดลองคิดดู
พอกันทีเรื่องรู เธอว่าไหม
ก่อนมีเรื่องมีราว ก้าวไปไกล
ให้อภัยล่วงหน้าไม่ว่ากัน

Submitted by โสมคาน on

อ้ายหนอม

พรายกระซิบ... ว่า นักรบแสงดาว มุ่งหน้าข้ามทะเลทราย ผ่านลิเบีย มาแล้ว แห้งผากทั้งริมปาก และลำคอ ในถุงย่าม มีขวดบรรจุ ของเหลว สีใสเหมือนน้ำ ผีพรายมุดหัวลงไปดูฉลาก ยังอ่านไม่ได้ ผีพรายไม่รู้หนังสือ

เห็นหยุดนั่งจิบ เป็นพักๆ คงกลัวหมด ก่อนเห็นกระท่อม

เป้าหมายของมันคือ โจมตีประเทศมาลานชา เพื่อนบ้านของคุณ

กรุณาอย่าเหลือไว้ในกระท่อม ไม่ว่า เอมร้อย หรือ เอมห้าร้อย ด้วยเลื่องลือว่า ฝีมือฉมังนัก

โปรดกรุณา อย่าสับสนอย่างยิ่ง เอาขวดน้ำ สลับ กับ ขวดเหล้าเสรี

อ้ายแสงดาว เป็นคนมีจิตสาธารณะ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นมา

ผมขี้เกียจสร้างแก่งเสือเต้น ในทะเลทราย

Submitted by มาลานชา on

อ้ายหนอมหายไปไหน หายไปเมิน
ฤา อ้ายระหกเหิร ณ แดนไผ
ลืมเลือน comment ตอบประชาไท
เหตุอันได ทำอ้ายห่าง ราร้างเกิน

โอ้! อกเรา ก็เฝ้า เหงาหาอ้าย
พะวงซ้าย หมายขวา ต้องหน้าเขิน
บ่ะหมีซักมอกเงา เศร้ากว่าเพลิน
อ้ายมัวเดินม่วนตางไดไม่โผล่ jam

Submitted by ถนอม ไชยวงษ์แก้ว on

ขออภัยทุกท่านที่คอมเม้นท์เข้ามา เน็ตของผมเสีย บริษัทที่ผมใช้บริการเพิ่งมาแก้ไขใช้ได้ในวันนี้ ผมจะตอบทุกคอมเม้นท์ที่เข้ามาในคราวเดียวกันก็ไม่ไหว เพราะตอนนี้ผมต้องดูแลแขกที่มาพักที่บ้านด้วย อีกอย่างหนึ่ง ผมอ่านๆและตั้งข้อสังเกตดูแล้ว แต่ละท่านดูล้วนแล้วแต่มีคำตอบให้แก่ตัวเอง แม้แต่เรื่องรู...ที่น่าหวาดเสียว ก็ทำให้คนที่ผิดพลาดในการเขียนผ่านวิกฤตไปด้วยดี ขอบคุณครับ ตอนต่อไปกรุณารออีกนิดหนึ่ง เพราะผมยังทำงานถนัดๆไม่ได้ เนื่องจากยกบ้านและที่ทำงาน (ที่อยู่ในห้องนอน) ให้แขกครอบครอง (ส่วนตัวไปนอนเรือนหลังใหญ่ที่พ่อกับแม่ทิ้งไว้) จะเข้ามานั่งทำงานอย่างจริงจังก็เกรงใจเขา กลัวจะทำให้เขาอึดอัด

ครับ ผมกลับมาแล้ว ขอรายงานตัวเพียงแค่นี้ก่อน นะครับ