อยากให้พรรคเพื่อไทยมีคู่แข่ง

พรรคประชาธิปัตย์
เป็นพรรคการเมืองที่มีอายุยืนยาวที่สุดในประเทศไทย ก่อตั้งพรรคเมื่อ พ.ศ. 2489 มีอายุถึง 66 ปี มีชื่อเสียงมายาวนาน นักการเมืองดังในปัจจุบันหลายคน เคยสังกัดพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน เช่น นายสมัคร สุนทรเวช , นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ , ร.อ. เฉลิม อยู่บำรุง ฯลฯ บอกได้เลยว่า เป็นแหล่งสร้างนักการเมืองของไทย สัญลักษณ์พรรคเป็นรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผม เป็นพรรคที่มีนายกรัฐมนตรีมากที่สุดถึง 4 คนได้แก่ นายควง อภัยวงศ์ , ม.ร.ว. เสนีย์ ปราโมช , นายชวน หลีกภัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

พรรคไทยรักไทย
ก่อตั้งเมื่อ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2541 เป็นพรรคการเมืองแรก ที่ได้รับเลือกตั้งเกินครึ่ง
ของสภาผู้แทนราษฎร ในการเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. 2548 ได้รับเลือกตั้งถึง 370 ที่นั่ง จากที่นั่งสภาผู้แทนราษฎรทั้งหมด 500 ที่นั่ง ชนะพรรคประชาธิปัตย์ที่ได้เพียง 96 ที่นั่ง เป็นพรรคการเมืองแรก ที่สามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ จนถึงปี พ.ศ. 2550 ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินยุบพรรคไทยรักไทย ในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 กรณีถูกกล่าวหาจ้างพรรคการเมืองขนาดเล็กลงเลือกตั้ง เพราะต้องการหลีกเลี่ยงกฎ 20 เปอร์เซ็นต์ และได้มีการเพิกถอนสิทธิการเมืองกรรมการบริหารพรรคจำนวน 111 คน เป็นเวลา 5 ปี พรรคไทยรักไทยแก้ไขปัญหาโดยขอจดทะเบียนตั้งพรรคชื่อใหม่เป็น “พรรคพลังประชาชน” แต่ชื่อนี้อยู่ไม่นาน ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินยุบพรรคเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ.2551 ด้วยกรณีผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง มีการซื้อเสียง มีการจดทะเบียนชื่อพรรคใหม่เป็น “พรรคเพื่อไทย” ในปัจจุบัน และกลายเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มีคุณยิ่งลักษณ์
ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย สวยอดทนแต่ไม่โต้ตอบ

หนักใจ
แทนพรรคการเมืองอันดับสองคือพรรคประชาธิปัตย์ ขณะนี้คงยากจะเอาชนะพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งต่อไปได้ ขออภัยพูดแบบผ่าหมาก นโยบายพรรคอาจไม่ดึงดูดใจ บุคลากรมีคุณภาพแต่กระบวนทัศน์อาจไม่เหมาะกับยุคสมัย อุดมการณ์ของพรรคก็มีความสำคัญ อย่าลืมว่าประชาชนรับรู้ข่าวสารมากขึ้น รู้จักคิดวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์ อย่าได้ดูแคลนว่าบ้านนอกคอกนาเด็ดขาด ดังเช่นคำกล่าวของนักการเมืองฝีปากคมที่กล่าวว่า ความรู้และวุฒิการศึกษาอาจไม่เท่าเทียมกัน แต่สติปัญญาอย่างได้ดูแคลนกัน คงนึกออกใครพูดคำคมบาดลึกนี้ ในอนาคตอยากให้มีพรรคการเมืองใหม่อีกหนึ่งพรรคที่เข้มแข็ง มีนโยบายพรรคถูกใจประชาชน บุคลากรพรรคน่าศรัทธาเชื่อถือ ฮึม ! ถ้าได้บุคลากรจากบ้านเลขที่ 111 ซึ่งหมายถึงกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทยจำนวน 111 คน ที่กำลังพ้นโทษตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี ในวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 มาตั้งพรรคการเมืองใหม่อีกพรรคหนึ่ง โดยชูนโยบายประชานิยม การเมืองบ้านเราคงมีสีสันไม่น้อย ทว่าอย่างที่รู้กัน บุคลากรเหล่านี้คือคนแถวหน้าของพรรคเพื่อไทย คงรอเบียดเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนายกยิ่งลักษณ์แบบไม่ต้องเหนื่อยดีกว่า อีกประการหนึ่ง ตั้งพรรคการเมืองต้องใช้เงินมาก ไม่น้อยกว่า 5,000 ล้านบาท ใครจะกล้าให้ทุนถ้าส่องกล้องแล้ว มีแต่ขาดทุนเข้าเนื้อแทบหมดตัว.
 

ความเห็น

Submitted by น้ำลัด on

จริงๆแล้วคนไทยลืมง่ายครับ

เพียงประชาธิปัตย์เปลี่ยนหัวหน้าพรรค อะไรๆมันก็จะดีขึ้นเอง
ไม่ใช่มาทื้อดื้อดึงเสนอขายหัวหน้าพรรคและทีมงานเก่าที่เห็นฝีมือกันแล้ว
เหมือนเอาแก๊งเด็กอมมือมาเล่นการเมือง และมัวแต่ทะเลาะเล่นน้ำลายกันแบบเด็กๆ
การเมืองมันต้องใช้หัวใจ และแก่นแท้ของตัวเองเข้าเล่น
การไปชุบตัวเมืองนอกมา มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยจริงๆ

การจะเอาชนะพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่เรื่องยากเกินเอื้อม
และไม่จำเป็นต้องใช้วิชามารให้มากมาย จนตัวเองต้องกระอักเลือดเอง
ขอให้มีความคิดสร้างสรรค์นิดหน่อย ไม่ต้องอาศัยวาทกรรมมากเกินไป
ฐานเสียงเดิมของพรรคประชาธิปัตย์มีอยู่ทั่วประเทศ พร้อมจะพลิกขั้วได้ทุกเมื่อ

หากประชาธิปัตย์ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในพรรค
ก็ต้องรอไปจนกว่าคนเบื่อพรรคเพื่อไทย เมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น
ก็คงอีกนาน อีกนานจริงๆ ก็เป็นฝ่ายค้านอันดับหนึ่งไปเรื่อยๆแล้วกัน

อ้อ...อีกอย่างหนึ่ง
ไอ้พวกลูกหลานของคนสำคัญๆในพรรคประชาธิปัตย์
ที่อาศัยบารมีพ่อของตนเองเข้ามานั่งในสภาั้
เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สะท้อนว่า ประชาธิปัตย์ก็มีเจ้าของไม่ต่างกัน
เพียงแต่มีเจ้าของเป็นก๊วนภาคใต้ก๊วนหนึ่งที่มีอิทธิพลสูงในพรรค
แล้วมานั่งดูคลิปโป๊มั่ง มาโพสต์ด่าคนเลือกพรรคเพื่อไทยว่าเป็นพวกโง่มั่ง
ถ้ามองคนจนว่าโง่นั้น บังเอิญคนไทยส่วนใหญ่ยังรู้สึกว่าตัวเองจน
มันก็เลยเป็นจนกันทั้งแผ่นดิน และกลับกลายเป็นโง่ทั้งแผ่นดินไป
แล้วเสือกไปพุดแบ่งแยกแบบนั้น ประชาธิปัตย์ก็ยิ่งบรรลัยกันไปใหญ่
มันเสียหายอย่างร้ายแรงต่อพรรคนะรู้ไหม ควรจะประหารเจ็ดชั่วโคตรนะครับ

หรือว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการเสียงสนับสนุนจากคนรวยและฉลาดเท่านั้น
...บรรลัยกันพอดี ก็เป็นฝ่ายค้านตลอดไปก็แล้วกัน ถ้าคิดเช่นนั้น

Submitted by ทุ่งลมจอย on

คุณถนอมรักครับ ประชาธิปัตย์ เสี่อมโทรมมากแล้วครับ สมัยนี้การสื่อสารคมนาคมมันเจริญมาก ชาวบ้านได้รู้ฟังเบื้องหน้าเบื้องหลังของพรรคนี้กันมากตอนนี้ โดยเฉพาะตอนนายมารค๋เข้ามาเสียบเป็นนายกก็อยู่ภายใต้อำนาจนอกเหนือรัฐธรรมนูญมากเกินไป การสั่งยิงประชาชนด้วยอาวุธสงครามนั้นผิดมากครับแล้วตายเยอะด้วย จึงเสื่อมลงๆ ครับเกมส๋การเมืองก็ต้องดำเนินต่อไปภายใต้ปีกอินทรีใหญ่ต่อไป...ขอบคุณสำหรับบทความนี้ครับ คิดถึงคุณถนอมรักมากครับ.

Submitted by ถนอมรัก เดือนเ... on

คุณ น้ำลัดครับ เป็นข้อความที่ต้องอ่านหลายๆครั้ง...ตรงและกล้าหาญมากครับ.

Submitted by ถนอมรัก เดือนเ... on

คุณ ทุ่งลมจอยครับ ข้อมูลบางอย่างเราก็กระจ่างแจ้งกันถ้วนทั่ว การเมืองของทุกฝ่ายเขาไม่ได้ตั้งธงบนความถูกต้อง ความยุติธรรม และข้อเท็จจริง ทว่าต่างหาเหตุผล ข้ออ้างอิงมาสนับสนุ่นแนวทางของตน
แล้วอ้างประชาชน...คิดถึงเช่นกันครับ.

Submitted by น้ำลัด on

จริงแล้วการมองว่านักการเมืองค่ายไหนเก่งกว่ากันเป็นเรื่องไร้สาระ
เพราะการบริหารบ้านเมืองจริงๆแล้วมันอยู่ที่การเลือกใช้คนให้ถูกกับงาน

ผู้บริหารไม่จำเป็นต้องเก่งเลิศเลอ แต่ต้องรู้จักมองหาคนเก่งๆมาช่วยงาน
รัฐบาลชุดไหนจะดีกว่ากันหรือไม่ จึงอยู่ที่ความเป็นเอกภาพของทีมรัฐบาล
และที่สำคัญมากคือทีมงานที่ปรึกษาของรัฐบาล ไม่ได้อยู่ที่รัฐมนตรีรัฐมนโทคนใด

การจะชี้เป็นชี้ตายในอนาคตของประเทศนั้นอยู่ที่ความสามารถของทีมงานที่ปรึกษาครับ
และความสามารถของรัฐบาลที่จะเนรมิตสิ่งใดจากข้อชี้แนะของทีมงานที่ปรึกษา
ให้ได้ผลออกมาเป็นรูปธรรม โดยให้ใครผลักดันใครให้ได้ผลออกมาในทางปฏิบัติ

ผมไม่สนใจหรอก ว่าไอ้อีคนใดมันจะจบจากโรงเรียนวัด
หรือมันจะจบจากสถาบันการศึกษาชั้นนำแค่ไหนของโลก
มันเป็นเพียงภาพมายาทางสังคม ที่ไม่อาจหลงยึดติดอะไรกับมัน

เพียงโอกาสของคนเราในช่วงเริ่มต้นของชีวิตนั้นมันมีไม่เท่ากัน
สถานะในหลายสิ่งหลายอย่างมันจึงผันแปรแตกต่างกันไป
แต่เมื่อคนเราเติบโตกันมาถึงจุดๆหนึ่งของชีวิต
คนเราย่อมจะรู้ร้อนรู้หนาว รู้ว่าอะไรเป็นอะไรกันเองได้
โดยไม่ต้องรอให้สถาบันชั้นนำใดๆมาเสี้ยมสอน
หรือบางทีการเสี้ยมสอนนั้นอาจสอนกันผิดๆก็ได้ใครจะรู้
เหมือนยิ่งสอนกันมาก ก็ยิ่งทำให้ห่างไกลจากความเป็นคนมากขึ้น
จนวันหนึ่งอาจถึงขั้นลืมตัวไปว่าเราก็ยังเป็นคนเหมือนคนอื่นทั่วไปนั่นแหละ

Submitted by ถนอมรัก เดือนเ... on

คุณน้ำลัดครับ เห็นด้วยเกี่ยวกับเรื่องทีมงานของรัฐบาล รัฐบาลชุดนี้เห็นมีทีมงานหลายคณะ ใช่ ! หัวหน้ารัฐบาลต้องรู้จักเลือกคนมีคุณภาพมาทำงาน การตัดสินใจอยู่ที่ผู้นำ ต้องรู้แบบกว้างๆ ทุกเรื่องุทุกกระทรวง ไม่ต้องรู้ลึก เพราะมีเจ้าของเรื่องรับผิดชอบอยู่แล้ว เหตุการณ์เฉพาะหน้ากำลังเขม็งเกลียวเรื่องราคาอาหาร ก็เรียกเจ้ากระทรวงมาพูดคุยหารือ มีหน้าที่ประเมินผลงาน กำกับให้เดินไปกับนโยบาย คิดว่าน่าจะมาในแนวทางนี้...ขอบคุณที่มาขยายความคิด แลกเปลี่ยนกัน มีประโยชน์ครับ.

Submitted by โสมคาน on

พรรคเพื่อไทย วันนี้ มีคู่แข่ง
คือฝนแล้ง น้ำท่วม ร่วมกันแฉ
สามร้อยบาท ไม่จ่าย ไว้ลอยแพ
จอดป้ายแน่ ของแพง ขอแจ้งความ

Submitted by น้ำลัด on

น้ำจะท่วม ฝนจะแล้ง ไม่เกี่ยวอะไรกันกับพรรคการเมือง
น้าท่วมชาวบ้านก็สร้างบ้านยกสูงเอาก็พ้นน้ำแล้ว
ฝนแล้งชาวบ้านก็แห่นางแมวกันไปตามประสา

อ๊ะๆๆๆ อย่าดูถูกนางแมวมันนะ...
เห็นนางแมวมันตัวเล็กละซี้...เลยไม่เกิดศรัทธา
ตัวไม่ใหญ่โตเหมือนพระโคนี่...ใช่ไหมละ
ถ้านางแมวตัวโตขึ้นเมื่อไหร่ละก็...ฮึ่ม

ของแพงมันก็ไม่เกี่ยวกับพรรคการเมือง
จะเป็นพรรคไหน หรือไม่มีพรรคการเมืองเลย
ของมันก็ขึ้นราคากันได้ทั้งนั้น
แค่จิ้งจก ตุ๊กแก ร้องไม่กี่ที ของมันก็แพงได้ทันที

สมัยก่อนไม่เห็นมีพรรคเพื่อไทย
ของมันก็แพงขึ้นมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

เอางี้สิ...อีกแปดปีข้างหน้า
ค่อยมาแข่งกันว่าพรรคไหนได้เป็นรัฐบาลแล้วของแพงกว่ากัน
เดี๋ยวเลือกตั้งคราวหน้าจะได้ช่วยเลือกประชาธิปัตย์ให้เป็นรัฐบาลมั่ง...ตกลงไหมครับ

ล้านนาในอ้อมแขนแห่งขุนเขา(7)


                                                                                                                ถนอมรัก  เดือนเต็มดวง