จะอยู่ด้วยความกลัว หรือความรัก

ฉันเป็นคนขี้ขลาด ขี้กลัว จึงสร้างเกราะกำบังด้วยภาพของผู้หญิงปากไวใจหมาไว้ป้องกันตัวเอง เพราะรู้ว่าลึกลงไปที่กลางใจนั้น ฉันกลัวเมื่อเกิดเหตุการณ์วิกฤติ

ฉันค้นพบเมื่อปีที่ผ่านมานี้เอง เมื่อคราวที่คนกลุ่มหนึ่งนำพี่ของฉันไปกักตัวไว้ และฉันบังเอิญต้องติดตามไปด้วย  เพื่อความปลอดภัย เขาว่างั้น ขณะอยู่ในรถรักษาความปลอดภัยนั้น เสียงโทรศัพท์ประสานงานไปมา สติเริ่มมาแทนที่ความกลัว ปัญญาเริ่มวิ่งพล่าน กำโทรศัพท์แน่น ในความมืดฉันแอบโทรออกจากในรถหาเพื่อนร่วมบ้านซึ่งกำลังรอฉันอยู่ ฉันป้องปากกระซิบเบาที่สุดขณะเสียงที่ดังขึ้นข้างหน้า บอกเพื่อนว่า “ฟัง” แล้วซ่อนโทรศัพท์ลงต่ำ ไม่ให้แสงไฟหน้าจอลอดออกมาได้

อย่างน้อย ณ เวลานั้นก็มีคนรู้ว่าฉันอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้

ฉันกลัวความปลอดภัยแบบนี้ หนาวเยือกเข้าไปในจิตใจเมื่อคิดว่าเสร็จศึกแล้วเขาจะเป็นฝ่ายแพ้ แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากผู้ชนะค้นพบว่าเราอยู่ในสถานที่ของผู้แพ้

ฉันกลัวเมื่อรถถูกทุบกระจก คนทุบรถถืออิฐจังก้าเขวี้ยงเข้าไปที่หน้ารถ ชี้หน้าด่าว่าฉันจอดรถกีดขวางหน้าบ้านเขา ทำให้เขาเลี้ยวเข้าบ้านไม่ได้ เขาเมา ทำให้ทุกอย่างดูน่ากลัวมากขึ้น จำได้ว่าเดินไปบอกพี่ว่า รถโดนทุบ พี่หันมามองเฉยแล้วบอกว่า ก็แจ้งความสิ เรียกตำรวจมา แล้วหันไปคุยกับลูกค้าต่อ ฉันอึ้ง งง แล้วทำตามอย่างว่าง่าย จากนั้นก็เป็นเรื่องของกฎหมาย  สถานีตำรวจยามดึก การเจรจาต่อรองของคนที่ก้าวร้าวรุนแรงต่อฉันสักครู่  เขายืนกุมเป้าอยู่ที่หน้าสถานีตำรวจอย่างหวาดกลัว แล้วปล่อยให้ภรรยาตัวเองมาต่อรองค่าเสียหายกับฉัน

ฉันกลัวการทำร้ายร่างกาย กลัวเจ็บ กลัวการบังคับ ข่มขู่ ทำให้เจ็บ ทำให้อาย ที่สำคัญคือกลัวการสูญสิ้นอิสรภาพ  นั่นนำพาให้ต้องหลีกเลี่ยงการทำสิ่งผิดกฎหมายทั้งปวง เริ่มตั้งแต่ขี่มอเตอร์ไซด์ต้องใส่หมวกกันน็อค

ความกลัวหลายอย่างเกิดขึ้นก่อนอารมณ์อื่น ๆ ที่ตามมาเมื่อตั้งสติได้แล้ว สมาธิ และปัญญากลับมาแล้ว ฉันเริ่มกลับเข้าสู่เส้นทางของเหตุผล กฎเกณฑ์  และกฎหมาย

ในหนังสือสนทนากับพระเจ้า แปลโดย รวิวาร มีตอนหนึ่งถามฉันว่า เธอจะอยู่ด้วยความรักหรือความกลัว คำเดียวแต่ชี้นำความคิด และวิถีชีวิตอีกยาวไกล มันบอกหนทางภายภาคหน้า เส้นทางของหัวใจ แน่นอนฉันย่อมเลือกการอยู่ด้วยความรัก ฉันรักการถ่ายภาพ รักโลก ทำให้สายตาของฉันมองเห็นสิ่งที่ฉันอยากเห็น 

ผู้ปกครองบ้านเมืองบอกว่าบริหารบ้านเมืองด้วยความรัก  รักชาติ รักประชาชน รักพระเจ้าอยู่หัว ขณะที่การกระทำหลายอย่างบ่งบอกว่าออกมาจากความกลัว  เช่น กลัวความยากจน จึงต้องสร้างความร่ำรวย แล้วบอกว่าจะแก้ปัญหาความยากจนซึ่งไม่แน่นักว่าแก้ให้ใคร

ข้าราชการหลายคนจำนองบ้านและที่ดินนำเงินไปซุกไว้ใต้โต๊ะข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เพื่อให้ได้มาซึ่งระดับขั้นและตำแหน่งที่สูงขึ้น  ด้วยเหตุผลว่า มันเป็นระบบถ้าเราไม่ทำคนอื่นก็ทำ ลูกน้องก็ทำ และสักวันหนึ่งลูกน้องก็จะแซงหน้าตนขึ้นไป เงินหนึ่งล้านบาทสำหรับผู้นำในระดับเล็ก ๆ ของสังคม เงินหลักแสนในระดับเล็กลงมา “ปีเดียวก็คืนทุน”  หรือ “น้ำท่วมครั้งเดียวก็คืนทุน” 

น้องคนหนึ่งถูกคุกคามจากคนที่เคยร่วมงานด้วย  ประสบการณ์และวัยทำให้เธอหวั่นไหว แม้หัวใจเธอบอกว่าไม่กลัว แต่เมื่อพบข้อความที่เต็มไปด้วยเหี้ยห่าและสารพัดสัตว์ที่เขาส่งก็อดเครียดไม่ได้ 

ความกลัวเหมือนยาลดกำลังใจ ขณะความรักเหมือนยาให้กำลังใจ

ในเวลาวิกฤติของเพื่อนมิตร ฉันไม่รีรอที่จะเอ่ยคำว่า ฉันเป็นห่วง และให้กำลังใจ เพราะไม่มีสิ่งใดจริงแท้และทรงพลังมากเท่ากับกำลังจากหัวใจของตัวเอง แต่การให้กำลังใจจากคนรอบข้าง บางเวลาก็เหมือนจุดประกายถ่านที่กำลังจะมอดดับให้ลุกโพลงขึ้นมาสู้กับปัญหาได้เช่นกัน

ฉันบอกน้องไปว่าอย่ากลัว ถ้าเรากลัว สิ่งแรกที่จะทำร้ายเราคือความกลัว  ถ้าเธอกลัวคนรอบข้าง พ่อ แม่ พี่ ก็จะกลัวกับเธอ โชคดีที่พ่อและแม่ของเธอมีวุฒิภาวะและมีหัวใจที่เข้มแข็งอยู่ข้างกายลูกตลอดเวลา เมื่อมีปัญหาวิกฤติอย่างน้อยหัวใจที่อบอุ่นก็นำพาเส้นทางที่อบอุ่นมาให้
ฉันให้น้องดูตัวแม่ของเธอซึ่งมีชีวิตอยู่ด้วยความรัก  เธอรักโลก รักผู้คน รักธรรมชาติ  ทำให้การกระทำที่ออกมานั้นออกมาด้วยความรัก แม้แต่การแสดงออกทางการเมืองก็ยังออกมาจากความรักบ้านเมือง ไม่ใช่ความกลัวว่าผู้ปกครองจะโกงกิน เมื่อรักโลก โลกก็รักเรา สิ่งที่แม่ของเธอกลัวคืออะไรรู้ไหม ฉันถามน้อง เธอไม่รู้

สิ่งที่แม่กลัวที่สุดก็คือความกลัวของเธอ

นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ฉันกลั่นออกมาจากหัวใจ และทำให้เธอ “พลันคิดได้” ก้าวเดินออกจากเส้นทางเดิมด้วยหัวใจที่แข็งแรงมากขึ้น
 

1

2

3

4

5

6

ความเห็น

Submitted by aaa on

เรามักเข้ามาอ่านหน้านี้เสมอในวันหยุดวันเสาร์ซึ่งเป็นวัน Sabbath และเลย sun down warship ไปแล้ว เหลือบเห็น IP คล้ายกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อน ก็เลยอยากแสดง ความคิดเห็นของตัวเองในเรื่องนี้ แม่มักจะสอนเราเสมอว่า ชีวิตมันสั้นนัก ให้เรารู้จักรักตัวเอง และรักคนอื่น เหมือนในพระธรรมคัมภ๊ร์ที่วา รักเพี่อนบ้านเหมือนรักตัวเอง แน่นอนเพี่อนบ้านย่อมหมายถึงพ่อแม่พี่น้องทุกๆคนด้วย แต่ความที่เราต้องจากพี่ๆมาไกล ความกลัวก็ต้องมีบ้างเมื่อคบกับคนแปลกหน้า ความรักเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อน มันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆแบบเด็กนักเรียน ความรักที่เกิดขึ้นโดยทันทีก็ย่อมร่วงโรยเมื่อพบว่าคนๆนั้นไม่ได้อยู่ในระบบของเราเลย ผิดกับความรักที่มีเยื่อใยต่อกันมานานๆ สาวไทยส่วนมากมักจะกลัวขึ้นคาน แต่ถ้ามันเกิดขึ้นจริงในชีวิตเรา ก็ยังดีกว่ารักแล้วเลิก หรือทำผิดประเพณี ทำผิดต่อพระเจ้า ใครก็ตามที่เป็นคนเขียนเรื่องนี้คงเป็นคนที่ดี และรักเพี่อนอยากให้เพี่อนหลุดพ้นจากความกลัว มาเป็นตัวของตัวเอง

Submitted by aaa on

อ้อ อยากถามว่าทำไม IP จึงเหมือนกันได้ ไม่เข้าใจเลย แล้วการใช้ IP คนอื่น มันน่าจะอันตรายนะ เพราะถ้าหากเขาออกความเห็นที่ผิดกฎหมาย เจ้าของ IP มิต้องรับผิดชอบหรือ
ขอความกรุณาช่วยชี้แจงด้วย จะขอบคุณมาก อ้อแล้ว IP 66.214.148.96 ตามที่ระบุไว้ในนี้หมายความว่าอะไร มาจากไหน

Submitted by aaa on

เรางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง กับIP ที่ปรากฏอยู่ในนี้ มีใครอยู่ไหม ช่วยบอกที

Submitted by โอ ไม้จัตวา on

ไอพี่ที่เห็นเป็นไอพีของคุณเองนี่คะ

Post new comment
ในการแสดงความคิดเห็น จะมีการแสดงหมายเลข IP
IP ที่จะปรากฎในความเห็นของคุณคือ 61.91.39.145

นี่ไงของเราโปรแกรมคงเช็คอัตโนมัต
ของคุณโพสกี่ครั้งก็อันเดิม

คอมแต่ละเครื่องก็จะมีเลขไอพีของตัวเอง เหมือนบ้านเลขที่น่ะค่ะ

Submitted by aaa on

ทุกครั้งที่เข้า blogazine ip ของเราเองจะปรากฎขึ้นบนจอตรง post new ccomments ขอบคุณมาก เข้าใจแล้วค่ะ

Submitted by aaa on

ทุกครั้งที่เข้า blogazine ip ของเราเองจะปรากฎขึ้นบนจอตรง post new ccomments ขอบคุณมาก เข้าใจแล้วค่ะ

Submitted by iPhone on

ตอบข้อสงสัยเกี่ยวกับ IP

ที่ โอ ไม้จัตวา บอกก็เกือบถูก ว่า IP เป็นเหมือนเลขที่บ้าน แต่ไม่ใช่เลขประจำคอมพิวเตอร์นะ แต่เป็นเลขประจำโทรศัพท์มากกว่า ซึ่ง IP จะบอกว่าเราใช้โทรศัพท์เครื่องไหน (ผู้ให้บริการรายไหน) เวลาไหน ในการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต

สำหรับที่คุณ aaa สงสัยเกี่ยวกับว่า "ถ้าหากเขาออกความเห็นที่ผิดกฎหมาย เจ้าของ IP มิต้องรับผิดชอบหรือ" ถูกต้องแล้วครับ ในอินเตอร์เนต หลายคนคิดว่าตัวเองเป็นนินจา พิมพ์/พูด/โพสต์อะไรก็ได้ โดยไม่รับผิดชอบต่อความเห็นของตัวเอง ซึ่งแบบนี้ไม่ดีแน่ IP ก็จะเป็นพยานตัวหนึ่งถ้าหากมีการฟ้องร้อง หรือตำรวจต้องการติดตามว่าใครเป็นคนใช้งาน IP นั้น เมื่อเวลานั้น

เพิ่มเติมเกี่ยวกับ IP ถ้าหากเราใช้งานอินเตอร์เนตผ่านโมเด็ม (ซื้อชั่วโมงทั่วไป) IP ของเราจะเป็น IP เดียวทุกครั้งที่ต่ออินเตอร์เนต

แต่ถ้าใช้งานไฮสปีดอินเตอร์เนต IP ของเราจะเปลี่ยนทุกครั้งที่เราเชื่อมต่อ (อันนี้เป็นเทคนิคไม่ขออธิบาย) แต่... ไม่ว่า IP เราจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ หากมีการฟ้องร้องกันจริง ตำรวจและผู้ให้บริการอินเตอร์เนต ก็สามารถระบุได้ว่า มีการเชื่อมต่อจากหมายเลขโทรศัพท์ไหนอยู่ดี

โชคดีครับ ;)

Submitted by surangrut on

ชอบที่คุณขียนออกมามากและมีความรู้สึกอย่างมากกับภาพที่เห็นโอยเฉพาะ
"ไป ถ้าคิดจะไป"

ด้วยความชื่นชม

เจี๊ยบ

เดินทางหน้าร้อน : ลาว

 

แผนการเดินทางครั้งนี้เริ่มจากการคุยเรื่องทำหนังสือไกด์บุ๊คของฉันกับน้องแอน น้องแอนเธอเพิ่งกลับจากหลวงพระบางมา เธอไปอยู่ 15 วัน และรู้สึกประทับใจประกอบกับเธอมีสต๊อครูปในมือ และข้อมูลจำนวนหนึ่ง ความที่ฉันชอบจับแพะชนแกะอยู่แล้ว นึกขึ้นมาได้ว่า มีเพื่อนอีกคนเคยบอกให้ทำไกด์บุ๊คหลวงพระบาง อิฉันเลยจับเพื่อนชนน้อง แต่น้องแอนบอกว่าทำคนเดียวว้าเหว่เกินไป จึงชวนอิฉันทำด้วยกัน ช่วยกัน ทั้งเรื่องข้อมูลและภาพถ่าย โดยน้องแอนจะเน้นทำภาษาอังกฤษ

น้องแก้ม เดอะ สตาร์ เธอชนะ แต่พิธีกรติดลบ

 

เมื่อคืนดูรายการเดอะ สตาร์ ปีหก หลังจากที่เป็นแฟนติดตามดูการแข่งขันมาตั้งแต่ปีที่สอง ชอบลุ้นเหมือนพนันกับตัวเองว่าใครจะได้และใครจะดัง ปีนี้เป็นปีที่หก นักร้องแต่ละคนหน้าตาดีเป็นส่วนใหญ่ เมื่อคืนมีแขกรับเชิญคือน้องแก้ม นักร้องที่ได้รับรางวัลชนะเลิศปีที่แล้ว เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้รับรางวัลนี้

ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร

 

ประโยคชื่อเรื่องนั้นเป็นคำพูดคำแรก ๆ ที่ใช้สอนหนังสือ เวลาสี่เดือน ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ วันละชั่วโมง เนื้อหาทั้งหมดทั้งมวลสรุปได้ประโยคเดียวคือ ภาษาเป็นเครื่องมือของการสื่อสาร คนส่งสารจะใช้ภาษาอย่างไรนั้น มีหลายอย่างเป็นปัจจัย

งามในความเศร้า

 

ผู้หญิงเศร้ามักจะสวย ลองสังเกตดูสิ เป็นความสวยแบบลึกซึ้งหรืออาจเรียกได้ว่างาม  เป็นความงามที่ฉายออกมาทางความรู้สึก  ผู้หญิงที่กำลังมีความรักในระยะเริ่มต้น ก็มักจะสวยเช่นกัน ความสุขจะฉายออกมาทางแววตาวิบ ๆ  ละอองของความสุขดูจะเป็นสีสันที่มองไม่เห็น เปล่งออกมาจากทุกอณูความรู้สึก