เซ็กส์เพื่อขายและกลายเป็น 'การบริการ'

เมื่อความคิดความเชื่อและความเข้าใจต่องานบริการทางเพศในสังคม มักถูกนำเสนออยู่อย่างซ้ำๆ และอย่างต่อเนื่องว่าเป็น “อาชญากรรม และ ผิดศีลธรรม” เราคงไม่อาจปฏิเสธถึงการธำรงอยู่ของ “การตีราคา ตัดสินคุณค่า” คนทำอาชีพบริการทางเพศนี้ได้

เหตุผลที่ว่า “งานบริการทางเพศ” เป็นธุรกิจที่เต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบ ก็เป็นชุดเหตุและผลหลักที่มีอำนาจต่อความคิดความรู้สึกของผู้คน หากเราก็เคยได้ยินเรื่องเล่าที่แตกต่างหลากหลายเกี่ยวกับบริการทางเพศทั้งจากสื่อกระแสหลัก จากบทเรียนการทำงานขององค์กรและเครือข่ายคนทำงาน และจากคำบอกเล่าของพนักงานบริการทางเพศว่า

...มีผู้หญิงและคนอีกจำนวนมากที่ทำงานบริการทางเพศต้องตกอยู่ใน “สถานการณ์และสิ่งแวดล้อมในการทำงานที่เป็นอันตราย “
...
มีผู้หญิงและคนอีกจำนวนมาก “ได้เลือกและตัดสินใจ” เข้าสู่อาชีพบริการทางเพศในต่างกรรมต่างวาระโดยสมัครใจ
...
มีผู้หญิงและคนอีกจำนวนมาก “ถูกชักชวน ถูกหลอก” ให้เข้าสู่อาชีพ และมารู้ในภายหลังว่าผลตอบแทนและเงื่อนไขในการทำงานไม่ได้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
...
มีผู้หญิงและเด็กผู้หญิงอีกจำนวนมาก “ถูกขบวนการค้ามนุษย์” นำเข้าสู่ธุรกิจทางเพศ
...
มีผู้หญิงจำนวนมากที่เป็นคนทำงานบ้าน ถูกข่มขืนโดยนายจ้างและกลายเป็นทาสทางเพศในที่สุด
...
ฯลฯ

โดยส่วนตัวเราเห็นด้วยกับการที่คนทำงานไม่ว่าจากภาครัฐ ภาคประชาสังคมและขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิผู้หญิง จะต้องร่วมกันคิดอ่านหาหนทางที่จะทำให้งานบริการทางเพศมีมาตรฐานที่ดีขึ้น เพื่อประโยชน์ของคนที่ “ตัดสินใจเลือก” หรือ “จำต้องเลือก” ประกอบอาชีพดังกล่าวในต่างกรรมต่างวาระ และปรับเปลี่ยนมุมมองเชิงเดี่ยวต่องานบริการทางเพศว่าเป็นอาชญากรรมและผิดศีลธรรม

ความเชื่อที่รองรับมาตรการ “การจับกุมผู้ซื้อบริการทางเพศ ว่าเป็นหนทางที่จะแก้ปัญหาธุรกิจบริการทางเพศ” ดูจะสอดรับกับทางออกที่นักสตรีนิยม หรือ นักต่อสู้เพื่อสิทธิผู้หญิงบางกลุ่มพยายามรณรงค์อยู่ แทนที่จะทำความเข้าใจว่าอะไรเป็นที่มาของปัญหาซึ่งทำให้ธุรกิจบริการทางเพศกลายเป็น “สิ่งอันตราย” และหรือ “ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เป็นอันตราย”

มีข้อมูลเชิงประวัติศาสตร์หลายแหล่งอรรถาธิบายว่า “การบริการทางเพศ” เป็นรูปแบบหนึ่งของการทำมาหาเลี้ยงชีพซึ่งเกี่ยวข้องกับเซ็กส์มาเป็นเวลาเนิ่นนานแล้ว (อ่านเพิ่มเติมได้ใน “รัชกาลที่ห้าทรงเที่ยวกลางคืน”)

หากเราได้ใคร่ครวญอย่างปราศจากอคติทางเพศ ...เมื่อเซ็กส์ถูกนำมาขาย มันได้กลายสถานะเป็น “การบริการ” ไม่ได้หมายถึง “เรือนร่างที่ถูกขาย” ดังนั้นจะมีชุดเหตุและผลอะไรที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะนำมายับยั้งหรือต่อต้านการที่จะทำให้บริการดังกล่าวผิดกฎหมาย เหตุผลเพียงเพราะว่า “อวัยะเพศถูกใช้เป็นเครื่องมือสร้างรายได้” คงฟังไม่ขึ้นอีกต่อไป!


การสร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในงานบริการทางเพศมากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ต่างหาก เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องสิทธิของผู้หญิงและผู้คนที่ยังคง “ทำมาหาเลี้ยงชีพ” ด้วยงานบริการทางเพศ

ตราบใดที่ความไม่เท่าเทียมทางชนชั้นยังคงดำรงอยู่ และได้รับการค้ำจุนอย่างดีด้วยโครงสร้างสังคม-วัฒนธรรมแบบชายเป็นศูนย์กลาง แม้ว่ารัฐ และขบวนการเคลื่อนไหวทางสังคมจะผลักดันและบัญญัติกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานบริการทางเพศออกมาบังคับใช้ ผู้หญิง ผู้ชาย กะเทย ฯลฯ ก็คงยังขายบริการทางเพศอยู่ดี

น่าจะถึงเวลาที่เราต้อง “รับฟังเสียง” ของผู้หญิงทุกคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการบริการทางเพศ ไม่ใช่รับฟังแต่เฉพาะเสียงของคนที่มุมมองต่อเรื่อง “งานบริการทางเพศ” ในระนาบเดียวกับเรา

ถ้าหากนักสตรีนิยม หรือนักต่อสู้เพื่อสิทธิผู้หญิง กลับกลายเป็นผู้ที่ไม่ฟังเสียงหรือไม่เคยเปิดใจที่จะรับฟังเสียงของ “คนทำงานบริการทางเพศ” นอกจากเสียงของตนและจุดยืนทางแนวคิดของตน นักสตรีนิยมหรือนักต่อสู้เพื่อสิทธิผู้หญิง อาจต้องหันมาทบทวนและตรวจสอบความคิดความเชื่อและความหมายเรื่องเพศของตนเองอย่างจริงจังแล้วกระมัง!

ความเห็น

Submitted by ตะวา on

คุณมลฤดี ถูกของคุณ วาทกรรมตายด้านซ้ำๆซากๆของสังคมที่ตัดสินผู้หญิงขายบริการว่าเป็น " อาชกรรม ผิดศีลธรรม " เป็นวาทกรรมที่ซ้ำเติมคนที่เขาเคราะห์ร้ายอยู่แล้ว ให้เลวร้ายลงไปอีก แบบไม่ให้ผุดให้เกิด เศร้ามากนะ
คุณใช้คำว่า " ธำรงอยุ่ " ในโทนภาษาเขียนแบบนี้ อ่านแล้วสะดุดครับ คำที่เหมาะน่าจะเป็น " ดำรงอยู่ " มากกว่าครับ ขอบคุณที่เปิดให้เห็นมุมมองใหม่ เกี่ยวกับผู้หญิงนอกกรอบความดีงามของสังคมที่เลวร้ายนี้.

Submitted by นกเอี้ยงนครเจดีย์ on

ควรจะยอมรับกันมาตั้งนานแล้วละครับ....การบริการมีมาตั้งเป็นพันปีแล้ว....ไม่แน่ใจว่าจะแก็ไขได้อย่างไร.....หัดยอมรับกันบ้าง เหมือนเรื่องเขาพระวิหารนั่นแหละ.....พวกนักสังคมสงเคราะห์ทั้งหลาย ขอถามว่าจะมีสักกี่คนที่เคยขายบริการ หาได้สักคนหรือเปล่า แล้วรู้ได้อย่างไร.....พวกคุณจะไปรู้เรื่องความจำเป็น เรื่องที่ไม่สามารถจะบรรยายได้อีกหลายเรื่อง.....อย่าต่อสู้เพียงเพราะแค่มองเห็นว่ามันไม่สวยงามเหมือนชีวิตของนักต่อสู้เองเท่านั้น......ชีวิตยังมีเบื้องหลังอีกมากนัก....ก่อนจบขอถามอีกครั้งว่าพวกคุณเคยขายบริการหรือ.....แล้วพวกคุณจะไปรู้ดีกว่าคนที่เขาเป็นได้อย่างไร....งงงงงงงงงงง

Submitted by มะเฟือง on

เมื่อประมาณอาทิตย์ก่อนได้มีโอกาสต้องไปทะธุระที่หลังกระทรวง หลังจากที่ลงจากเรือ ฉันและเพื่อนๆ เราก็เดินไปจนถึงจุดที่ต้องไปทำธุระ ระหว่างทางเพื่อนได้สะกิดให้ฉันสังเกตอะไรบางอย่าง แล้วฉันก็เริ่มเห็นว่าผู้หญิงขายบริการกำลังประกอบอาชีพของเธออยู่ แล้วฉันก็เจอผู้หญิงคนนึงอายุน่าจะมากว่าแม่ของฉัน เธอก็กำลังทำงานเหมือนกัน แต่ดูจากร่างกายโรยราตามวัย ฉันก้มหน้าเดินโดยไม่มองหน้าเธอ ฉันรู้สึกหดหู่ และก็มีเธฮอีกหลายคน

Submitted by มลฤดี ลาพิมล on

ขอบคุณ “คุณตะวา” ที่สะท้อนความเห็นและช่วยแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้คำ

“คุณเอี้ยงนครเจดีย์” ไม่ควรลืมว่า "ความสัมพันธ์ทางเพศของเราทุกคนก็เป็นความสัมพันธ์แบบเพื่อแลกเปลี่ยน" –บ้างก็เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความรัก เกียรติและศักดิ์ศรี วัตถุ และเงิน ฯ สิ่งที่นำมาแลกเปลี่ยนกันในคู่ความสัมพันธ์ทางเพศทั่วไป อาจไม่ได้อยู่ในรูปแบบที่จับต้องได้ เป็นสัญลักษณ์ของ "การแลกเปลี่ยนผลประโยชน์"

เราต่างก็ได้ขายบริการทางเพศให้ “แขกประจำ” ซึ่งก็คือคู่ความสัมพันธ์ทางเพศของคุณ แฟน คนรัก สามี ภรรยา กิ๊ก รับค่าตอบแทนเป็น "เงิน" รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน รายปี หรือไม่ได้รับเลย และในขณะที่หลายคนซึ่งยังอยู่ในความสัมพันธ์กับคู่ประจำ ก็ได้เลือก หรือ จำใจเลือกที่จะขายบริการให้ “แขกขาจร” และนำรายได้มาใช้จ่ายในการดำรงชีวิต ดำรงสถานะทางสังคมและบทบาทความเป็นหญิงเป็นชายของตน หรือเลี้ยงดูแขกประจำ

ถ้าการบริการทางเพศ คือ "การมีเซ็กส์เพื่อแลกเปลี่ยน" คนขายบริการจึงอยู่ในทุกบริบทของสังคม อยู่ในชนทุกกลุ่ม ผู้เขียนก็ขายบริการทางเพศ และ "ความเชื่อในควา

Submitted by มลฤดี ลาพิมล on

ถ้าการบริการทางเพศ คือ "การมีเซ็กส์เพื่อแลกเปลี่ยน" คนขายบริการจึงอยู่ในทุกบริบทของสังคม อยู่ในชนทุกกลุ่ม ผู้เขียนก็ขายบริการทางเพศ และ "ความเชื่อในความรักและความรู้สึกมั่นคงในชีวิตคู่" คือสิ่งที่ตอบแทน

Submitted by หวย โปรแกรมเจ้า... on

หวย โปรแกรมเจ้ามือหวย คลิ๊ก http://www.baby500.com
โปรแกรมหวยไต้ดิน
อันดับ 1 ดีที่สุดในประเทศไทย ใช้งานง่าย ลงเลขเร็ว สะดวกมาก ทำมานานโปรแกรมสำหรับเจ้ามือหวยเป็นโปรแกรมหวยที่ทำจากมืออาชีพ ทันสมัย คุ้มค่า ที่สุด รับประกันยินดีคืนเงินหากพบโปรแกรมอื่นที่ดีกว่า โปรแกรมมีทั้ง ระบบเช่ารายเดือน และ ซื้อขาด ฟรีเซ็ก น่ารัก เด็ก เซ็กซี่

Tel 035-251708

Submitted by te on

หวย โปรแกรมเจ้ามือหวย คลิ๊ก http://www.baby500.com
โปรแกรมหวยไต้ดิน
อันดับ 1 ดีที่สุดในประเทศไทย ใช้งานง่าย ลงเลขเร็ว สะดวกมาก ทำมานานโปรแกรมสำหรับเจ้ามือหวยเป็นโปรแกรมหวยที่ทำจากมืออาชีพ ทันสมัย คุ้มค่า ที่สุด รับประกันยินดีคืนเงินหากพบโปรแกรมอื่นที่ดีกว่า โปรแกรมมีทั้ง ระบบเช่ารายเดือน และ ซื้อขาด ฟรีเซ็ก น่ารัก เด็ก เซ็กซี่

Tel 035-251708

Submitted by คนขายตัว on

“การสร้างมาตรฐานความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในงานบริการทางเพศมากที่สุดเท่าที่จะทำได้” ต่างหาก เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยปกป้องสิทธิของผู้หญิงและผู้คนที่ยังคง “ทำมาหาเลี้ยงชีพ” ด้วยงานบริการทางเพศ

ชอบคำนี้

Submitted by มีน on

อยากเธอมา........เ
...ย็...ด

ย่างก้าวของความสำเร็จของสารป้องกันการติดเชื้อ-ไมโครบิไซด์

นับเป็นครั้งแรกที่การวิจัยสารป้องกันการติดเชื้อ (ไมโครบิไซด์) รายงานผลความสำเร็จถึงประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ของคู่เพศสัมพันธ์หญิงชาย

แม้ว่าการนำเสนอผลการวิจัยสารป้องกันการติดเชื้อ (ไมโครบิไซด์) ที่ชื่อ โปร 2000 (PRO 2000) ต่อสาธารณะจะออกมาล่าช้ากว่ากำหนดการเดิม แต่นักรณรงค์เคลื่อนไหวเรื่องสารป้องกันการติดเชื้อ (ไมโครบิไซด์) ต่างขานรับอย่างยินดีถึงผลการวิจัยโปร 2000 (PRO 2000) ที่เผยแพร่ออกมา เพราะมีนัยยะสำคัญอย่างยิ่งต่อกระบวนการพัฒนาสารป้องกันการติดเชื้อ (ไมโครบิไซด์) ในลำดับต่อไป

เซ็กส์เพื่อขายและกลายเป็น 'การบริการ'

เมื่อความคิดความเชื่อและความเข้าใจต่องานบริการทางเพศในสังคม มักถูกนำเสนออยู่อย่างซ้ำๆ และอย่างต่อเนื่องว่าเป็น “อาชญากรรม และ ผิดศีลธรรม” เราคงไม่อาจปฏิเสธถึงการธำรงอยู่ของ “การตีราคา ตัดสินคุณค่า” คนทำอาชีพบริการทางเพศนี้ได้

เหตุผลที่ว่า “งานบริการทางเพศ” เป็นธุรกิจที่เต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบ ก็เป็นชุดเหตุและผลหลักที่มีอำนาจต่อความคิดความรู้สึกของผู้คน หากเราก็เคยได้ยินเรื่องเล่าที่แตกต่างหลากหลายเกี่ยวกับบริการทางเพศทั้งจากสื่อกระแสหลัก จากบทเรียนการทำงานขององค์กรและเครือข่ายคนทำงาน และจากคำบอกเล่าของพนักงานบริการทางเพศว่า

พูดเรื่องเพศ: ความชอบธรรม (ทำ) โดยรูปแบบ

“เรื่องโจ๊ก เรื่องเจี้ย”  ซึ่งมีลักษณะสองแง่สองง่ามเกี่ยวข้องกับ “เรื่องทางเพศ” ที่เราๆ ท่านๆ นำมาเล่า เอามาบอกต่อ หรือนำมาแบ่งปันกันในที่ทำงาน ในงานแต่งงาน ในงานวันเกิด ในงานขึ้นบ้านใหม่หรืองานอะไรก็แล้วแต่นั้น  ยิ่งถ้าเรื่องเล่าทางเพศเหล่านั้นเจือปนด้วยความดุเด็ด เผ็ดมัน ขำขัน ตลกโปกฮา สนุกสนานมากเท่าไหร่ ผู้คนในสังคมก็ดูเหมือนจะเปิดใจ อ้าแขนรับ มีอารมณ์สนุกสนานคล้อยตาม และเปิดพื้นที่ให้เกิดการพูดคุยเรื่องเพศนั้นๆ ได้อย่างเต็มที่โดยมิได้ฉุกคิด ตั้งข้อสังเกต และแม้กระทั่งตั้งคำถามด้านผลกระทบต่อความเสื่อมทางศีลธรรมจริยธรรมของสังคม หรือความกังวลว่าจะเป็นเยี่ยงอย่างที่ไม่ดีต่อเด็กและเยาวชนแต่อย่างใด

เราคงไม่ปฏิเสธว่า ในการดำเนินชีวิตประจำวันของเราในแต่ละวันนั้น เรามีเรื่องเล่าเรื่องตลกขำขันที่มีเนื้อหาสาระเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ...มากมายและหลากหลายรูปแบบตามยุคสมัยและวัฒนธรรมการบริโภคของผู้คนในสังคม ไม่ว่าจะมาในรูปแบบหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ ซีดี/วีซีดีการแสดงของคณะตลก  เพลงไม่ว่าจะเป็นเพลงแรพ เพลงป้อบ หรือลูกทุ่ง ภาพวาดล้อเลียน  ริงโทนโทรศัพท์มือถือ ฯลฯ

เมื่อไม่นานมานี้ประมาณต้นปี ๒๕๕๐ ผู้เขียนมีโอกาสได้ยินริงโทนโทรศัพท์มือถือของเพื่อนผู้เข้าร่วมหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้นเรื่องเพศภาวะ เพาวิถีและสุขภาพทางเพศสำหรับไทย-ลาว ครั้งที่ ๓  ตอนที่ได้ยินผ่านหูครั้งแรกก็ถึงกับทำให้ต้องหูผึ่งและหันขวับมาถาม “เฮ้ย! มันพูดว่าไงนะ ขอฟังอีกทีได้ไม๊?”  

ผู้เขียนยังจำอารมณ์ ณ ขณะได้ฟังได้ยินริงโทนนั้นในครั้งแรกได้อย่างชัดเจนว่า ผู้เขียนเริ่มด้วยอาการตั้งอกตั้งใจฟังมากๆ เริ่มอมยิ้ม และยิ้ม เริ่มยิ้มกว้างขึ้น เริ่มมีเสียงหัวเราะคิกคักเบาๆ  และจากนั้นผู้เขียนก็เก็บกดอารมณ์ไม่ไหว จึงปล่อยเสียงหัวเราะดังลั่นด้วยความที่เนื้อหาของริงโทนมันช่าง “โดน (ใจ)” มากๆ เสี่ยนี่กระไร ทั้งๆ ที่ท่วงทำนองของริงโทนก็ธรรมดาเอามากๆ เหมือนการท่องจำแบบอาขยานอย่างไรอย่างนั้น ไม่ได้มีความโดดเด่นทางท่วงทำนองเลยสักนิด แต่ “เนื้อหา/ข้อความ” ของริงโทนเวอร์ชั่นนี้กลับไม่ธรรมดาเอาซะเลยสำหรับผู้เขียน (สำหรับคนอื่นๆ ที่มีริงโทนซึ่งเด็ดกว่านี้อาจจะคิดอยู่ในใจว่า “แค่นี้ จิ๊บ จิ๊บ”)

ริงโทนโทรศัพท์มือถือเวิอร์ชั่นเด็ดๆ ที่ผู้เขียนพูดถึงนั้นมีเนื้อหาสาระหลักๆ ที่ล้วนเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมและการปฏิบัติทางเพศ ซึ่งมีใจความว่า

“โอ้นวลน้องโปรดถอดเสื้อใน    ถอดไวไวพี่จะไซ้นมก่อน
โอ้ความรักสุดแสนนิรันดร         ปิดประตูใส่กลอนและก็นอนเย็ดกัน
น้องอยู่ข้างล่างพี่อยู่ข้างบน     ผลัดกันอมและก็ผลัดกันเลีย
ทำกันผัวๆ เมียๆ             ผลัดกันเลียและก็ผลัดกันอม
รูน้องเล็กพี่เย็ดไม่ทัน        รูน้องตันพี่ดันไม่ไหว
รูน้องเล็กพี่เย็ดเข้าไป         พี่ทนไม่ไหวน้ำแตกคารู”

ผู้เขียนอยากจะชวนคิดวิเคราะห์เนื้อหาของริงโทนโทรศัพท์มือถือที่ปรากฏอยู่ข้างบนนี้ ซึ่งได้รับความสนอกสนใจของผู้ที่ได้ยินริงโทนโทรศัพท์มือถือนี้ว่าได้สะท้อนเรื่องราวทางเพศอะไรบ้างในสังคมไทย? และได้บอกเล่า/สะท้อนเรื่องทางเพศด้วยมุมมองอย่างไรบ้าง?

ผู้เขียนมองว่าริงโทนนี้เป็นกระจกส่องให้เราได้เห็นและเรียนรู้เรื่องเพศของคนในสังคมไทยว่าพอนึกถึงเรื่องเพศ (Sexuality) ผู้คนโดยทั่วไปก็มองเห็นแต่เพียงกิจกรรมทางเพศ (sexual act) พฤติกรรมทางเพศ (sexual behavior) ความสุขทางเพศ (sexual pleasure) เท่านั้น

นอกจากนั้นผู้คนในสังคมไทยดูเหมือนว่าได้ถูกหล่อหลอมให้คิดและเชื่อถือตามๆ กันไปว่า “ปฏิบัติกิจทางเพศนั้นต้องริเริ่มและกระทำโดยผู้ชายและผู้หญิงเป็นฝ่ายยอมตาม รอคอยความสุขที่ผู้ชายจะเป็นฝ่ายหยิบยื่นให้ เพศสัมพันธ์นั้นจะเกิดขึ้นได้ เป็นที่ยอมรับและถือว่าเหมาะสมต้องอยู่ภายในกรอบความสัมพันธ์แบบคู่สามีภรรยาและกระทำการเพราะเหตุแห่งรักเท่านั้น กิจกรรมทางเพศนั้นเกิดขึ้นระหว่างคู่ความสัมพันธ์หญิงชาย และกิจกรรมทางเพศที่ถูกพูดถึงนั้นมิใช่เพียงแต่การสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปในอวัยวะเพศหญิงเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์ทางปากซึ่งทั้งฝ่ายหญิงฝ่ายชายที่เป็นคู่ความสัมพันธ์ทางเพศต่างกระทำให้กันและกัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีความขัดแย้งสับสน เพราะยังตอกย้ำความสำคัญของช่องคลอดและสัญลักษณ์ของการบรรลุถึงซึ่งความสุขทางเพศนั้นคือ การหลั่งน้ำอสุจิของฝ่ายชายและความสุขที่เกิดจากเพศสัมพันธ์นั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ความสุขทางเพศของผู้ชาย”

เนื้อหาของริงโทนโทรศัพท์มือถือ เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ที่เป็นรูปธรรมของปฏิบัติการณ์ในสังคมของการส่งผ่านและจรรโลงระบบความคิดความเชื่อและความหมายเรื่องเพศที่กลุ่มคนส่วนใหญ่ยึดถือ

ในหลายๆ ครั้งเรื่องตลกโปกฮาที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพศซึ่งบางทีอาจต้องใช้เงินจับจ่ายซื้อหามานั้น สามารถทำให้เราได้หัวเราะท้องคัดท้องแข็ง น้ำหูน้ำตาร่วง ได้รับความสุขและความเบิกบาน จนร่างกายได้หลั่งสารความสุขออกมานั้น มันจะล้อเลียน  ผลิตซ้ำมายาคติทางเพศ สร้างภาพตัวแทนความเป็นหญิงเป็นชายที่เกี่ยวโยงกับเรื่องทางเพศ ตอกย้ำภาพเชิงลบ หรือแม้กระทั่งกดทับความเป็นคนที่ต่ำต้อยกว่าของคนบางกลุ่มบางพวกในสังคม เช่น กะเทย สาวประเภทสอง ผู้หญิงอายุมากที่ยังไม่แต่งงาน  แม่ชี ชาวเขาชาวดอย (พี่น้องชนเผ่า) พี่น้องแรงงานข้ามชาติ ฯลฯ  แต่ด้วยอารมณ์สนุกสนานแบบบรรยากาศพาไปมันได้บดบังมิติทางสังคมเหล่านั้น จนหลายๆ ครั้งเรา (รวมทั้งผู้เขียนในบางคราว) อาจจะขาดความละเอียดอ่อนและลืมตั้งคำถามหลายๆ คำถามกับตนเองว่า

* เรากลายเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติที่ขาดความเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นคนของผู้อื่นหรือไม่?
* เรากำลังตอกย้ำและผลิตซ้ำความไม่เท่าเทียม ความเหนือกว่า/ด้อยกว่าของผู้คนในสังคมผ่านเรื่องเล่า “ขำๆ” ของเราหรือไม่?  
* การแบ่งปันความสุขด้วยการเล่าเรื่องตลกโปกฮาและหาความสุขจากการได้ยินได้ฟังเรื่องโจ๊กของเรา เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการประกอบสร้างค่านิยมและความเชื่อเรื่องเพศบางอย่างหรือไม่?
* เรากำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อที่ว่า “เรื่องทางเพศเป็นเรื่องของฝ่ายชาย/ผู้สวมบทความเป็นชาย มิใช่เรื่องผู้หญิง/ผู้ที่สวมทับความเป็นหญิงหรือไม่?

ผู้เขียนมิได้จะส่งเสริมการกำกับควบคุมการพูดเรื่องเพศของคนในสังคมแต่อย่างใด เพราะ ผู้เขียนเชื่อมั่นในหลักการด้านสิทธิในการพูดในการแสดงความคิดเห็นไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามแต่ เพราะเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่เราพึงมีพึงได้ เพียงแต่อยากจะกระตุ้น ชวนคิด ย้ำเตือนว่า ถ้าเราสามารถเรียนรู้เรื่องเพศผ่านเรื่องราวใกล้ๆ ตัวและได้มีเวลาวิเคราะห์วิพากษ์เรื่องราวเหล่านั้นบ้าง ศักยภาพของเราในการปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมความคิดความเชื่อเรื่องเพศบางอย่างที่ลดทอนความเป็นคนของกันและกัน  เราน่าจะลดระดับความไม่เท่าเทียมในสังคมได้มากขึ้นจากเรื่องที่เราได้พูด ได้เล่า และได้ฟัง