"ไม่สูญเปล่า . . . เราสัญญา"

8 October, 2007 - 02:11 -- karnt

picture

 

ฤาอีกกี่รำลึกคร่ำ-
ครวญฝากคำผ่านแผ่นดิน
กู่ร้องฟ้องแผ่นหิน
…ก็เงียบสิ้นอยู่ฉะนี้?

อีกกี่ผู้พลีตน
อีกกี่คนจึงจะชี้
จึงมันผู้กาลี
สำนึกค่า - “ประชาชน”?

…เจ็บไหมเล่าพี่น้อง
กี่เสียงร้องเรากู่ก่น
กี่เลือดเนื้อวีรชน
ที่ไหลท้นแล้วซึมหาย?

ครั้งแล้วและคราเล่า
ที่เพียงเรามาฟูมฟาย
ปีเดือนเคลื่อนพ้นหาย
ดั่งละลายกับสายลม?

ด้วยผู้ทุกข์ยาก
ก็ยังยากยังระทม
ทั้งปวงมันผู้ขี่ข่ม
ก็สุขสมอยู่ลอยนวล?

ฤาแผ่นดินนี้สิ้นแล้ว
ตลอดแนวแถวขบวน
ทัพไทที่ท้าทวน
ที่ก้าวสวนกระแสพาล?

 

ยังหรอก, ทรรัฐ!
กี่กำจัดประหัตประหาร
กี่กระสุนทมิฬมาร
เรามิเคยจะสูญพันธุ์

ยังหยัดและยังอยู่
ยังร้องกู่ยังใฝ่ฝัน
แค้นคั่งทั้งปวงนั้น
ยังนับวันจะทวงคืน

มิท้อ และมิพรั่น
จะฝ่าฟันจะแข็งขืน
เถิด, กี่หอกกระบอกปืน
มิขอคืนปณิธาน

จะก้าวเคียงผองคนทุกข์
จะร้องปลุกไปชั่วกาล
จะบรรเลงเพลงขับขาน
ต้านตีต่อทรชน

 

ฆ่าเราอีกกี่ครั้ง
เลือดเราหลั่งอีกกี่หน
ทุกเลือดเนื้อวีรชน
จะเติบต้นเป็นช่อธรรม

ตุลาฯ สู่ ตุลาฯ
ถึง พฤษภาฯ ยิ่งตอกย้ำ
ทุกเลือดเนื้อวีรกรรม
คือเสียงปลุกเราลุกทวง

ทุกเลือดเนื้อวีรชน
ไม่สูญเปล่า - เราสัญญา!

 

"คารวะวีรชน"
กานต์ ณ กานท์
(14 ตุลาคม 2543)

 

 

บทกวีนี้ ผมเขียนขึ้นในเช้าวันที่ 14 ตุลาคม 2543 เพื่ออ่านในวาระ "27 ปี 14 ตุลาคม 2516"
ณ เวทีหอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในเย็นวันเดียวกัน

ผมขอนำมาลงไว้ ณ ที่นี้ อีกครั้งหนึ่ง ในวาระครบรอบ “31 ปี 6 ตุลาคม 2519”, “34 ปี 14 ตุลาคม 2516”, “15 ปี พฤษภาคม 2535” และ “75 ปี แห่งการปฏิวัติ 24 มิถุนายน 2475” เพื่อคารวะต่อดวงวิญญาณวีรชนทุกท่าน ที่ได้สละชีวิตเพื่อบุกเบิกเส้นทางสู่เสรีภาพและอธิปไตยของประชาชน แม้ว่าในวันนี้ ประเทศไทยจะยังไม่สามารถก้าวไปถึงความหมายที่แท้จริงของถ้อยคำเหล่านั้นเลย

และเพื่อจะตอกย้ำคำมั่นที่ว่า
จะไม่ยอมให้ความเสียสละเหล่านั้น “สูญเปล่า” ไป
เราสัญญา

 

 

หมายเหตุ:
กวีรุ่นใหม่ที่ได้ร่วมอ่านบทกวีในวาระดังกล่าวคือ (เรียงลำดับตามการอ่านในเวทีวันนั้น)
ศิลป์ ศิวากรณ์ (พีรศักดิ์ ชัยเสรี - เสียชีวิตแล้ว), พณ ลานวรัญ, ส.ดอกไม้แดง และ
กานต์ ณ กานท์ โดยมี "โก้" และ "เก่ง" (ขออภัย ผมไม่ทราบชื่อจริงของทั้งสองคนครับ) เป็นผู้บรรเลงไวโอลินและกีตาร์โปร่งเพลง "แสงดาวแห่งศรัทธา" ประกอบ

ความเห็น

Submitted by เสือเมืองสิงห์ on

ทุกเลือดเนื้อวีรชน
ไม่สูญเปล่า - เราสัญญา

เว้นศกก่อน ตอนกันยา
เราขอมุดขุดลงดิน

อืม..เยี่ยม

...
ทุกเลือดเนื้อวีรชน
จะเติบต้นเป็นช่อธรรม

ตอบคุณเสือเมืองสิงห์

ผมคงสามารถรับผิดชอบได้เฉพาะสิ่งที่ตัวเองทำเท่านั้น

หาก - "ศกก่อน ตอนกันยา" มีผู้ "ขอมุดขุดลงดิน"
ก็เป็นความรับผิดชอบของ ผู้ "มุดขุดลงดิน" เองครับ

Submitted by ปฐพีคีตกาล on

เมื่อเผด็จการมิสูญสิ้น เราก็มิอาจจักสิ้นสูญ
ขอเพื่อนทุกคนเป็นเรี่ยวแรงใจให้กัน
ในวันที่ฟ้าหมอง ดาวยังคงส่องแสง
แม้นมิอาจแลเหน แต่มิได้หายไป
กนวีร์

Submitted by เสือเมืองสิงห์ on

ต้องขอโทษคุณกานต์ ณ กานท์ ด้วยครับ

ผมมิได้จะหมายถึง คนที่มีใจสู้และเป็นธรรม เยี่ยงท่าน

แต่อ่านแล้วอดให้นึกถึง ปีก่อน มันก็ จิ๊ดขึ้นมาใน บัดดล...ฮ่าๆ

ตอบคุณเสือเมืองสิงห์ครับ
ขอบคุณที่ชี้แจงครับ ไม่มีปัญหาเลยครับผม

แต่อย่าเรียก "ท่าน" หรือยกย่องกันขนาดนั้นเลยนะครับ
ผมก็แค่ประชาชนธรรมดาตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น
เดี๋ยวผมฟังจนเคลิ้มแล้ว "เปลี่ยนสี" ไปอีกคนจะยุ่งนะครับ (ฮา...)

ปล.ถึงทีมงานประชาไทครับรหัสดูยากมากเลยครับผม กดเปลี่ยนแล้วก็ยังดูยากครับ (แต่อาจเป็นเพราะผมสายตาไม่ค่อยดีด้วยครับ)

Submitted by happy on

หวัดดีค่ะคุณกานต์
อ่านแล้วรับได้ถึงความรู้สึกของการสูญเสีย
ทำให้เข้าใจว่าตาย 1 เกิด 100000 คืออะไร
ขอชมเชยด้วยใจจริงค่ะ เก่งมากเลยน่ะ

Submitted by seangdaosattaman on

" ตุลาฯ ส่ง ตุลาฯ

ถึง พฤษภา ยิ่งตอกย้ำ

ทุกเลือดเนื้อวีรกรรม

คือเสียงปลุกเราลุกทวง

ทุกเลือดเนื้อวีรชน

ไม่สูญเปล่า - เราสัญญา ! "

ตุลาฯ สู่ พฤษภาฯ

มหาชนกล้าแกร่งแล้วหนา

เผด็จการ ท๊อปบูททมิฬ _ เผด็จการรัฐสภา

มวลประฃาฯ มิพรั่นเกรง

ล้วนถูกขับไล่ ถูก สาปแฃ่ง

พลังสำแดงต่อผู้กุมเหง

มนุษยชาติมิหวั่นเกรง

เร็ว ! รีบเร่งทวงชัยคืน !

แด่ ... 34 ปี สิบสี่ตุลฯ

... 31 ปี หหกตุลาฯ

... 5 พฤษภามทมิฬ

... การลุกขึ้นสู้ของพี่น้องประชาชนพม่า และทั่งโลก

ขอบคุณทุกท่านมากๆ ครับ
ทั้งคุณเสือเมืองสิงห์, คุณมาลานชา, คุณปฐพีคีตกาล, คุณ Happy (สำนวนคุ้นมากๆ ครับ ...ไม่แน่ใจว่าผมเดาถูกรึเปล่า) และคุณseangdaosattaman (อันนี้คงไม่พลาด - อ้ายแสงดาว ศรัทธามั่น)
พอดีผมเป็นไข้ เพิ่งลุกได้ไม่กี่ชั่วโมง เลยเพิ่งได้มาขอบคุณครับ

ขออนุญาตแจ้งข่าวที่ขำไม่ออกครับ

"พัฒนาการ" ของ "ประชาธิปไตย" แบบ "ไทยๆ"
คือ
http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID...

(แก้ไขเพิ่มเติมครับผม)

ขออนุญาตแจ้งข่าวที่ขำไม่ออกครับ

[b]ล่าสุดของ "พัฒนาการ" "ประชาธิปไตย" แบบ "ไทยๆ":[b]
[url]http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID...

ปล. ทราบมาว่าล่าสุดท่านสนช.ได้มีมติถอนเรื่องนี้ และนำกลับไปทบทวนแล้ว แต่ประชาชนตาดำก็จำเป็นต้องจับตาดูกันต่อไป เพื่อไม่ให้ท่านผู้ทรงเกียรติหาจังหวะแอบผลักดัน เงียบๆ (ตามธรรมเนียม "ไทยๆ") อีก

Submitted by บุญส่ง on

เป็นบทกวีที่สร้างความสะเทือนใจครับ ขอบคุณที่เขียนขึ้นมา

Submitted by สหาย on

เยี่ยมมากครับสหายกานต์ เป็นกำลังใจให้เสมอ

Submitted by gabapentin on

The great art of giving consists in this: the gift should cost very little and yet be greatly coveted, so that it may be the more highly appreciated.

Submitted by zoloft on

Hollywood is a place where they place you under contract instead of under observation.

The art of war is simple enough. Find out where your enemy is. Get at him as soon as you can. Strike him as hard as you can, and keep moving on.

Submitted by zanaflex on

All God does is watch us and kill us when we get boring. We must never, ever be boring.

Submitted by prozac on

The human mind treats a new idea the same way the body treats a strange protein; it rejects it.

ก้าวฝ่า “ความเงียบงัน” - A Walk Through "the Silence"

17 July, 2012 - 17:17 -- karnt

กานต์ ทัศนภักดิ์: ศิลปะโฟโต้โมเสคเพื่อเหยื่อ112 ท่ามกลาง “ความเงียบงัน” ที่เราทุกคนในสังคมต่างต้องเผชิญอยู่นี้  (โดยรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม)   ไม่ได้มีแต่ความว่างเปล่า และยิ่งไม่ใช่ความ “นิ่งงัน” อย่างที่บางคนอาจหมิ่นแคลน ลำพอง หรือแม้แต่ลอบทอดถอนใจ  -- หากแต่ยังมีความเคลื่อนไหว และมีคนจำนวนมากที่ยังคงพยายามจะ “ก้าวฝ่า” มันไป

 

 

"10 เมษายน 2553" ในความทรงจำของผม

30 April, 2012 - 19:22 -- karnt

หมายเหตุ: บันทึกนี้เป็นเพียงความทรงจำของคนคนหนึ่งที่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์วันนั้น-คืนนั้น ในบางจุดและบางช่วงเวลา - ในแง่หนึ่งจึงอาจไม่มีเนื้อหาที่สำคัญ และไม่มี "ข้อมูลใหม่" เป็นเพียงการบันทึกเอาไว้เตือนความจำตัวเองว่า เคยอยู่ "ที่นั่น"