นายหอกหัก (จูเนียร์)
เห็นเด็กๆ สมัยนี้ออกมารณรงค์เรื่องการเมือง แล้วมันช่างน่าอิจฉาซะกระไร! เพราะมีสื่อทั้งผู้จัดการ ASTV เนชั่น TPBS และอื่นๆ อีกมากมายคอยประคบประหงมให้เขาเป็นดาราเพียงชั่วข้ามคืน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเยาวชนขวาใหม่จัดคลั่งชาติคลั่งสถาบันอย่าง ยังแพด (Young pad) และอีกสารพัดของกลุ่มพลังนิสิต นักศึกษาชนชั้นกลาง ที่ละจากการโฉบเฉี่ยวสร้างความเท่ เก๋ไก๋ จากการฟังเพลงอินดี้ ดูหนังนอกกระแส แต่งตัวอย่างมีเทรนด์ มีสไตล์ มาช่วยกันขับเคลื่อนการเมืองใหม่ รัฐบาลประชาภิวัฒน์ ระบอบ 70: 30 ให้กับพวกพ้องพ่อแม่ญาติพี่น้องพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แถมได้สิทธิพิเศษทุนการศึกษาติวฟรีออนไลน์อีกคนละสามพันบาท น่าอิจฉาน้องจริงๆ วัยรุ่นนักกิจกรรมหลายคน ทำงานช่วยชาวนา ชาวเขา ช่วยแรงงาน มาเป็นสิบๆ ปี ไม่เคยออกทีวีสักครั้ง แต่น้องๆ เหล่านี้ช่างเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงแซงทางโค้งมาเฉย... กลายเป็นคนดังชั่วข้ามคืน ช่วงนี้ใครด่ารัฐบาลก็ดังน่ะน้องเอ๊ย! เก่งมากที่จับกระแสสื่อชนชั้นกลางได้ตรงเผง! และนี่คือลู่ทางแห่งอนาคตสำหรับพวกน้อง เพราะมีที่ว่างสำหรับการเป็นดารานักร้อง, ปัญญาชนหน้าจอทีวี หรือเจ้าหน้าที่องค์กรพัฒนาเอกชนรอพวกเขาอยู่เบื้องหน้า เพราะการเป็นบุคคลสาธารณะแต่วัยเยาว์ มันได้ลดค่าเสียโอกาสต่างๆ นานาไปได้โขหากจะสร้างตัวเองให้เป็นผลิตภัณฑ์สินค้าดังในอุตสาหกรรมบันเทิงและอุตสาหกรรมเอ็นจีโอไทย ..แต่ปัญญาชนและอาจารย์นี่ อดีต สสร. เขาว่าไม่ใช่ธุรกิจนะขอบอก แต่เป็นบุคคลที่มาโปรดสัตว์ในสังคมนะ ถึงแม้จะไปสอนพิเศษรับเงินเป็นกระตั๊กก็ตาม ;-) พี่หอกฯ เห็นน้องๆ ออกมาก็รู้สึกกระชุ่มกระชวยคึกคัก เพราะเมื่อก่อนเด็กกิจกรรมส่วนใหญ่มักจะมีรูปร่างหน้าตาไม่พึงประสงค์ต่อกล้องของผู้สื่อข่าว แต่น้องๆ รุ่นใหม่ที่ออกมามีทั้งสวยหล่อขาวเนียนกันทั้งนั้น แต่กระนั้น พี่หอกฯ ก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจว่า รูปลักษณ์หน้าตาผิวพรรณ ชาติกำเนิดของน้องๆ มันจะการันตีคุณภาพทางความคิดความอ่านของน้องๆ ได้ดีแค่ไหน ตรงนี้ต้องระวังที่สุดอย่าให้ใครเขาว่าได้ว่าเป็น "วัยใส ไร้สมอง" การออกมาขับเคลื่อนครั้งนี้ คีย์เวิร์ดที่อยากให้ไปศึกษาก็คงจะมีคำเดียวคือคำว่า "ประชาธิปไตย" น้องๆ จงตระหนักและหาหนังสือหนังหามานั่งลองอ่านเป็นจริงเป็นจัง มากกว่าไป Group Therapy กับพวก Yellow Turban หรือรับสะกดจิตหมู่ผ่าน ASTV แล้วลองนั่งนิ่งๆ สูดลมหายใจลึกๆ ใช้ปัญญานำทางให้เซลล์สมองมันคิดว่า ที่น้องออกมานั้นมันเพื่อสิ่งที่เรียกว่าประชาธิปไตย หรือเรียกร้องให้ถอยหลังประเทศไปสู่เผด็จการ 70: 30 หรือเคลื่อนไหวเพราะอยากเป็นคนดัง อยากเป็นฮีโร่กันแน่!? สุดท้ายนี้หอกฯ แปลงบทเพลงจากเพลง 'หนุ่มสาวเสรี' ของ สุจิตต์ วงษ์เทศ ซึ่งนำทำนองเพลงตับพระลอ (ตับลาวเจริญศรี) ที่เขียนเนื้อใหม่หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516เพื่อสดุดีการต่อสู้ของเยาวชน โดยเพลงหนุ่มสาวเสรี เป็นเพลงย่อยในชุดนี้จากทำนองเพลง ‘ลาวเฉียง' โดยหอกฯ ของใช้ชื่อเพลงว่า ‘เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง' ซึ่งใช้ทำนองฮิปฮอบผสมหมอลำแบบร๊อคข้าวปุ้น โดยขอสดุดีกลุ่มหนุ่มสาวที่กำลังขับเคลื่อนทำลายประชาธิปไตยเพื่อสร้างสรรค์การเมืองใหม่ของอภิสิทธิ์ชน ดังนี้... ครานั้นนิสิตนักศึกษา สามัคคีอภิสิทธิ์ชนทั่วไป คึกคักหนักแน่นดังแผ่นผา เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง มือติดไอโฟน ตีนสวมคอนเวิร์สก้าวหน้า เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง ศักดินากดขี่ข่มเหงคะเนงร้าย เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง มือติดแก้วเหล้าโซดาน้ำเปล่าห้าวหาญ เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง มาเถิดมาสร้างการเมืองใหม่ เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง
บรรดานักเรียนทั้งเหนือทั้งใต้
ลุกฮือขับไล่พรรคพลังประชาชน
กลมเกลียวแกล้วกล้าสดใส
ศรีวิชัยรอฟาดจนบรรลัย
พลใบกระท่อมเงื้อไม้รอตี
เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง
ดังเพื่อสร้าง เด้งเพื่อสร้าง 70: 30
ยอมให้ทำข่าวเพราะอยากเป็นดารา
ถือหลักศักดิ์สิทธิ์เหนือเสรี
‘ประชาภิวัฒน์' ของดีเหนือ ‘ประชาธิปไตย'
เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง
ดังเพื่อสร้าง เด้งเพื่อสร้าง 70: 30
โทษว่าทักษิณก้าวก่ายเสียทุกด้าน
โทษว่าชาวนากู้เงินล้านดักดาน
โทษว่าชาวบ้านเป็นทาสประชานิยม
เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง
ดังเพื่อสร้าง เด้งเพื่อสร้าง 70: 30
แกว่งกระป๊กคลุกคลานกลางอาร์ซีเอ
นี่คือพลังของกระฎุมพีชั้นกลางขวาใหม่
ทุกคนสืบเลือดกบฏบวรเดชเอย
เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง
ดังเพื่อสร้าง ดังเพื่อสร้างการเมืองใหม่
สร้างเมืองไทยให้เป็นสวรรค์อภิสิทธิ์ชน
คนจนอย่าคิดเผยอหน้าท้าทายกัน
เดี๋ยวชนชั้นกลางอย่างฉันรุมตื๊บเลย
เจ้าหนุ่มเจ้าสาวเอย เจ้าเคยเป็นฮีโร่มัยซินแล้วรึยัง
ดังเพื่อสร้าง เด้งเพื่อสร้าง 70: 30
ความเห็น
โดนใจครั
โดนใจครับ
แต่ เพื่อน พี่ น้อง ผม หลาย คน ก็ ดูหนัง อ่านหนังสือ ฟังเพลง เพื่อค้นหาสัจธรรมชีวิตกันจริงๆนะครับ
ไม่ได้ดัดจริตกันเป็นอย่างเดียว 5 5 5 5 +
อุ๊ย ผมไม่ได้หลุดปาก ด่าเด็กแนว(มักง่าย) ว่าดัดจริตใช่มั้ยเนี่ย 5 5 5 5 5+
ความโง่เ
ความโง่เขลาที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตนเอง อยากถามว่าเอาอะไรมาเป็นข้อมูลในการคิด
การศึกษาทำให้คนฉลาดได้แต่ไม่ได้แปรว่าทำให้กลายเป็นคนดีไดทั่งหมดจิงๆ
น่าเศร้าประเทศไทย
แล้วเค้า
แล้วเค้าจ้างมาเท่าไหร่หรอ
เอ่อ... เล่
เอ่อ... เล่นแรงครับ...
จริงๆ ก็ค่อนข้างเห็นด้วยนะครับ แต่ผมคิดว่าจะด่าแบบเหมารวมมันก็พูดยากนะครับ พวกที่ไปกับพันธมิตรฯ บางคนก็เป็นลูกหลานพวกที่ so call ตัวเองว่า "ฝ่ายซ้าย" (แต่...) แล้วก็พาลูกหลานตัวเองไปด้วยก็มี
บางคนเขาก็เชื่อของเขาจริงๆ ว่านี่คือการทำเพื่อชาติ
ผมคิดว่า ถ้าเกิดมองว่ากระแสฝ่ายขวาตอนนี้ มันก็คล้ายกับช่วงกระแสฝ่ายซ้ายช่วงหลัง 14 ตุลา ก็อาจจะพอพูดได้นะครับ เพราะเอาเข้าจริงก่อนหน้า 14 ตุลา นักศึกษาก็ไม่ได้มีกระแสซ้ายอะไร กระแสฝ่ายซ้ายตอนนั้นมันก็เป็นกระแสโลกของนักศึกษาอยู่ โดยเฉพาะเรื่องต่อต้านสงครามเวียดนาม (ที่แรกเกิดที่เบิร์กเลย์ ถ้าจำไม่ผิดก่อน 14 ตุลาประมาณ 2-3 ปีได้) ก็คล้ายกับตอนนี้ที่กระแสฝ่ายขวากำลังมาแรง การปลุกปั่นทั้งสื่อสารพัดชนิด ทั้งทีวี หนังสือพิมพ์ ผมไม่คิดว่านักศึกษาช่วง 14 ตุลาจะอ่านหนังสือมากกว่านักศึกษารุ่นนี้ซักเท่าไหร่เลย ต่างกันแค่กระแสช่วงนั้นและช่วงนี้เป็นกระแสคนละทางเท่านั้นเอง
อีกอย่างหนึ่ง แม้แต่อาจารย์บางคนที่น่าจะเข้าใจหลักการอะไรหลายๆ อย่าง (ไม่อย่างนั้นก็ไม่น่าจะเรียนจบได้) ก็ยังสนับสนุนพันธมิตรฯ ก็คงไม่น่าแปลกใจนักที่นักศึกษาจะเชื
ผมให้อภั
ผมให้อภัยครับ สำหรับน้อง ๆ กลุ่มนี้ เขาตื่นตัวทางการเมือง ไม่มองความซับซ้อนไม่พอ เชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะตีโจทย์นี้แตก
ฟังต้นฉบ
ฟังต้นฉบับ หนุ่มสาวเสรี ได้ที่นี่
http://www.ijigg.com/songs/V2ACD4DFPA0
ผู้เขียน
ผู้เขียนดูถูกดูหมิ่นจิตใจของหนุ่มสาว แถมยังมีลักษณะมองผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ
ฉันรู้สึ
ฉันรู้สึกหงุดหงิดเวลาผู้เขียนโยงเรื่องเพลงอินดี้กับหนังนอกกระแส คือฉันรู้สึกว่าผู้เขียนโยงมั่ว และเหมาแบบสั่ว ๆ มาก ดูรูปประโยคก็รู้แล้ว
"นักศึกษาชนชั้นกลาง ที่ละจากการโฉบเฉี่ยวสร้างความเท่ เก๋ไก๋ จากการฟังเพลงอินดี้ ดูหนังนอกกระแส แต่งตัวอย่างมีเทรนด์ มีสไตล์"
คำว่าอินดี้ความหมายมันบอกตัวเองอยู่แล้วว่ามันคือการพยายามหลุดออกจากเทรนด์ แล้วในวัฒนธรรมร่วมสมัย Trend setter ส่วนใหญ่มันก็ชนชั้นกลางด้วยกันนี้แหละ แต่ทว่ากรอบของชนชั้นมันจะมองกันตื้น ๆ ว่าชนชั้นกลางมันก็ต้องชนชั้นกลางแบบนี้หมด โอเคว่าถ้ามัน 80% ขึ้นพอจะอนุโลมว่าเป็น "ภาพรวม" ไม่ใช่เหมารวมได้ แต่ทีนี้มันไม่ใช่น่ะสิ ชนชั้นกลางที่เข้าถึงอินดี้จริง ๆ มีแต่ชนชั้นกลางแถวกรุงเทพฯ แถมมีพวกนี้จริง ๆ ไม่ถึง 40% ด้วยซ้ำ แถวรอบนอกพวกนี้ก็จมีน้อยลดหลั่นลงมา
แล้วชนชั้นกลางที่เป็นลูกทหารชั้นผู้น้อย แต่เบื่อพวกพันธมิตรก็มี พวกที่ผูกติดตัวเองกับพันธมิตรบอกให้ก็ได้ว่าบางทีมันโคตรเมนสตรีม นิตยสารที่ชอบเชียร์รัฐประหารอ้อม ๆ ก็เขียนชมคาราบาว ชมปาน ธนพร ออกนอกหน้า (พอ ๆ กับที่ชมป๋ากงกง)
ฉันถึงคิดว่าพอผู้เขียนโยงเรื่องอะไรแบบนี้มันไร้
ออกตัวไว
ออกตัวไว้ก่อนว่าฉันเองก็ไม่ได้โปรดอะไรอินดี้เท่าไหร่ (โดยเฉพาะในประเทศตัวเอง) บางทีหมั่นไส้กับ Cult Following ของมันด้วยซ้ำ (อินด้งบางวงก็งั้น ๆ บอดี้เสร่อ อะไรนั่น ไม่เห็นมีอะไร) แต่ฉันรู้สึกอยู่หน่อย ๆ ว่าผู้เขียนอาจมีท่าทีพยายามต่อต้านความก้าวหน้าทางวัฒนธรรมอื่น ๆ ด้วย ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ ถ้ามองพวกนี้ดี ๆ หน่อยมันก็สร้างความหลากหลายให้คนมีทางเลือกมากขึ้น ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง(สเกลใหญ่) อะไรพวกนั้นเลย การที่วงบางวงมันไปขึ้นพันธมิตรบางทีมันก็แค่อยากเด่นเท่านั้น พวกที่ "อิน" จริง ๆ เขารู้ เขาแยกแยะออกว่าอันจริงอันไหนเฟค ผู้เขียนพยายามเชิดชูชนชั้นล่างอะไรของผู้เขียน แต่กลับพยายามมองชนชั้นกลางแบบเหมารวมและดูถูกว่าถูกหลอก เป็นการเลือกปฏิบัติอย่างหนึ่ง โดยที่ผู้เขียนอาจไม่รู้ตัวก็ได้
ไอ้โอยาช
ไอ้โอยาชิโร่ ตูมีความสุขเว่ย ด่าอินดี้ เหมายกเข่ง ตูรู้ตัวแหละว่าเกลียดชนชั้นกลางเลยหาช่องทางโจมตีมันน่ะ มันสนุกดี
มันแบบคนเลือกทักษิณโดนด่าเหมายกเข่งแหละ ว่าโง่เป็นควาย
ตูเลยต้องเอาคืนบ้างน่ะ
มรึงมาต่อยตูป่าว
ถือว่าอิ
ถือว่าอินดี้ซวยไปแล้วกันนะ
แบบคนประณามว่าม๊อบคนจนรักทักษิณว่าเป็นสัตว์นรก เป็นม๊อบถ่อย เป็นม๊อบเติมเงินน่ะ น่ะ
ประเทศ ไท
ประเทศ ไทยตอนนี้ ควายมันชอบเอียงซ้ายชอบเลี้ยวไปทางซ้าย โอวาท ของ พ่อ ใครได้ฟังมั่ง