คุณวิทวัสครับ โปรดอย่าสังเวย 'คุณต้น' เป็นเครื่องเซ่นเรทติ้ง

 

ภาพจากเว็บบอร์ด pantip

จันทร์ ในบ่อ

 

เชื่อว่าหลายคนคงได้ชมรายการตีสิบเมื่อสัปดาห์ก่อน โดยเชิญ คุณต้น' อดีตนักร้องวง ทิค แทค โท' บอยแบนด์ไทยสไตล์ญี่ปุ่นรุ่นแรกๆ ที่โด่งดังราวสิบปีก่อนมาออกรายการ เพื่อเป็นอุทธาหรณ์แก่สังคมเรื่องผลเสียจากการใช้ยาเสพติด

คุณต้นสูญเสียความทรงจำและมีอาการทางสมองชนิดที่เรียกว่า จิตเภท' จากการใช้ยาเสพติดโดยเฉพาะยาบ้าและยานอนหลับชนิดรุนแรง จนหลายปีมานี้เขาได้หายหน้าหายตาไปจากวงการบันเทิงและจดจำใครไม่ได้เลย

คุณแม่เคยสัญญากับคุณต้นไว้ว่า หากอาการดีขึ้นจะพามาออกรายการตีสิบอีกครั้งเพื่อทบทวนเรื่องราวในอดีต เพราะคุณต้นและเพื่อนๆ เคยมาเป็นแขกอย่างสนุกสนานในสมัยที่วง ทิค แทค โท' ยังโด่งดัง เวลาผ่านไปคุณแม่และครอบครัวยังดูแลคุณต้นเป็นอย่างดีเสมอมา วันนี้คุณต้นจดจำคนรอบตัวได้และความทรงจำในอดีตเริ่มกลับมามากแล้ว คุณแม่จึงติดต่อมาที่รายการตีสิบเพื่อให้คุณต้นมาออกรายการอีกครั้ง

เรื่องราวของคุณต้นสามารถเป็นบทเรียนให้ใครหลายๆ คนได้อย่างแน่นอน แต่กระนั้นสิ่งที่ชวนตั้งคำถามกลับเป็นวิธีการนำเสนอของรายการตีสิบมากกว่า

แม้ว่าการพูดคุยหรือการสัมภาษณ์โดยตรงจะเป็นจุดเด่นของรายการนี้ และเป็นวิธีการนำเสนอแบบหนึ่งที่ต้องยอมรับว่าเข้าถึงผู้ชมและมีความน่าสนใจสูง แต่การพูดคุยก็มีความละเอียดอ่อนในตัวมันเองอย่างยิ่ง อย่างที่เคยมีกรณีตีศอกฟาดปากกันมาแล้วในการสัมภาษณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพที่ผ่านมาเมื่อมีคำถามระคายหู และยิ่งสำหรับคุณต้นซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากบทเรียนของอดีตแล้ว การนำเสนอต้องยิ่งละเอียดอ่อนระมัดระวังอย่างสูง  

แต่รายการตีสิบเทปนี้ดูเหมือนจะละเลยรายละเอียดของ ความเป็นมนุษย์' ไปมาก เมื่อรายการเหมือนไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การพูดคุยแต่เพียงเป็นการจับเอาคุณต้นมานั่งออกโทรทัศน์เพียงเพื่อบอกและย้ำแก่สาธารณะตลอดเวลาว่า คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ ไม่ปกติ' คุณต้นจึงถูกทดสอบจาก วิทวัส สุนทรวิเนตร์ ผู้ดำเนินรายการตลอดเวลาเพื่อยืนยัน อาการที่ดีขึ้น' เท่านั้น และทั้งที่ผ่านไปได้หลายคำถาม แต่เมื่อคำถามสุดท้ายคุณต้นไม่สามารถตอบโจทย์การคิดเลขในใจได้ถูก เทปการสัมภาษณ์ก็ไม่ได้ตัดออกทั้งที่สามารถทำได้โดยไม่ได้ทำให้เนื้อหาสาระเสียแต่อย่างใด รายการกลับปล่อยความผิดพลาดของคุณต้นออกมา

สำหรับคนดูรายการเป็นไปได้ว่าคงรู้สึกสะท้อนใจไม่น้อย แต่สำหรับคุณต้นแล้วการทดสอบต่างๆ ออกรายการโทรทัศน์มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย และที่สำคัญการทดสอบนั่นเองก็คือสิ่งที่จะชี้นำให้สังคมตัดสินคุณต้นให้มีอาการไปมากกว่าความเป็นมนุษย์' ที่คุณต้นเป็น

คุณต้นอาจเป็นคนๆ หนึ่งที่มีอาการผิดปกติที่สมองจริง แต่ที่สำคัญคือ คุณต้นยังเป็นมนุษย์เหมือนทุกๆ คน ซึ่งมนุษย์คนหนึ่งที่เกิดมาก็ไม่สมควรถูกทดสอบใดๆ จากสาธารณะว่า เขาปกติหรือไม่ปกติกว่าคนอื่นหรือไม่ ส่วนสิ่งที่สังคมควรทำคือเรื่องการเปิดโอกาสต่างหาก

แม้ว่าวันนั้นคุณต้นดูเหมือนยิ้มและตอบคำถาม แต่หลายครั้งคุณต้นก็ขมวดคิ้วและมีสีหน้าขรึม ยกมือลูบใบหน้าครุ่นคิด ในความเป็นจริงเราไม่รู้เลยในช่วงเวลาที่คุณต้นกำลังออกรายการหรือกำลังถูกทดสอบ คุณต้นกำลังเครียดหรือไม่ เหมือนกับครั้งหนึ่งในอดีตที่คุณแม่เล่าว่าคุณต้นเป็นคนร่าเริง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นคนที่ชอบเก็บงำ บางที ณ เวลานั้น คุณต้นก็อาจกำลังเก็บงำอะไรอยู่ในใจมากกว่าที่เราเห็นในจอโทรทัศน์ไม่กี่นาทีก็ได้  

การที่คุณแม่ของคุณต้นมีความหวังดีต่อสังคมและคุณต้นโดยเป็นผู้ติดต่อมาทางรายการด้วยตัวเองเป็นเรื่องที่น่ายกย่อง แต่ความรับผิดชอบในด้านรูปแบบการนำเสนอที่ไม่ควรลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์นั้นน่าจะเป็นความรับผิดชอบของทางรายการที่มีประสบการณ์มากกว่า การหวังเพียงการใช้อารมณ์ที่ตรึงคนดูมาเป็นเครื่องมือในการคงเรทติ้งให้สูงไว้นั้นคงเป็นเรื่องที่ต้องตั้งคำถามกันต่อไปในอนาคต แม้ว่าเรื่องยาเสพติดจะเป็นอุทธาหรณ์แก่สังคมได้ก็ตาม แต่เชื่อว่าทางรายการที่มีสมองขนาดนี้น่าจะสร้างรูปแบบการนำเสนอที่ดีได้มากกว่านี้

การเดินไปสู่เส้นทางยาเสพติดของแต่ละคนคงมีเหตุผลต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่กระตุ้นเร่งเร้าจนอาจพอฟันธงได้ก็คือ แรงบีบคั้นจากคนรอบข้างนั่นแหล่ะที่เป็นแรงผลักคนๆ หนึ่งให้เดินไปสู่ทางที่ตีบตันได้อย่างรุนแรงและหลังชนฝา ในทางเดียวกันรายการตีสิบเองอาจจะต้องทบทวนบทบาทตัวเองด้วยว่าบทสัมภาษณ์ไม่กี่นาทีในวันนั้นกำลังสร้างแรงบีบคั้นทางสังคมให้คนๆ หนึ่งไม่แตกต่างไปจากที่สังคมกำลังผลักใครบางคนไปสู่ปลายขอบเหวอันมืดมิดอยู่หรือไม่    

สุดท้ายนี้ ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณต้นและคนอื่นๆ ไม่ว่าใครที่กำลังเผชิญแรงบีบคั้นรอบด้านจากสังคม ขอให้ทุกคนจงแปลเปลี่ยนมันเป็นความสำเร็จเหมือนกับที่ จอห์น แนช เคยทำได้ หากใครเคยดูหนังเรื่องA Beautiful Mind คงทราบว่าเป็นหนังที่สร้างจากบางมุมชีวิตของเขาซึ่งเป็นผู้มีอาการทางสมองชนิดจิตเภทแบบเดียวกับคุณต้นเป็น แต่ในที่สุด จอห์น แนชก็ฟันฝ่าข้อจำกัดของตนเองจนสามารถเป็นนักคณิตศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ และยังคิดทฤษฎีเกมจนคว้ารางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์มาได้

ก้าวต่อไป..ก้าวต่อไป ครับ

ความเห็น

Submitted by แหลม on

ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับว่าไม่ควรละเลยหัวใจของคนที่เขาให้เกียรติมาออกรายการ คุณวิทวัสเนี่ย หลายหนแล้ว ที่ทำธุรกิจสื่อโดยนำพาสังคมไทยไปผิดทาง

Submitted by john on

รายการอัด เชื่อว่าถ้าตอบผิดเค้าคงอัดใหม่ อย่าไปคิดมาก

Submitted by อริน on

นั่นแหละครับ ผลผลิตของ "ทุนนิยมสามานย์" ที่ทำลายความเป้นมนุษย์ (dehumanization) รวมทั้งรายการอย่าง "มองต่างมุม" ที่พิธีกร "อดีต ส.ว. ฟากพันธมิตร" ใช้วิธี "เสี้ยมเขาควายชนกัน" จนงเรทติ้งรายการและใรทางส่วนตัวพุ่งกระฉูดเป็น "มายาภาพ" ติดตัวหากินสืบเนื่องมาได้หลายปีกว่า "หางอำมาตยอภิชนาธิปไตย" จะโผล่ให้เห็น
"วิทวัส" เคย "ก็อกแก็ก" เขียนหนังสือที่สมัยเริ่มต้นยังไม่ "ดังระเบิด" เพื่อนสนิทในวัยเรียนจากดินแดนมิคสัญญี 3 จังหวัดชายแดนใต้เป็นคนจัดพิมพ์หนังสือรวมงานเขียนยุคต้นชื่อ "ดาวน์อันเดอร์" ณ วันนี้ ไปทำไร่อยู่จังหวัดชายแดนตะวันออก ประสบอุบัติเหตุร้ายแรง
เมื่อต้นปีนี้ เกือบพิการ ยังใส่รองเท้าแตะฟองน้ำ และยืนอยู่ฝ่ายประชาธิปไตย คัดค้าน "คมช."
ไม่ต่างไปจากการเผยธาตุแท้ของพิธีกรดังณ วันนี้ ที่หากินกับ "ความขัดแย้งทางการเมือง" และ/หรืออะไรก็ได้อย่างออกนอกหน้าในความเอนเอียงไปทาง "สื่อกระแสหลัก-เอียงข้างพันธมิตรฯ"
น่นแหละครับ...ทุนนิยมสามานย์ ที่ไม่เห็นมีใครในหมูสื่อด้วยกันพูดถึง
ด้วยภราดรภาพ

Submitted by สุริยะขุ่น on

มึงบ่นอะไร ไอ้คุณอริน อย่าอวดรู้มากไอ้เต่า

Submitted by อริน on

อย่าสำรากสิครับ พูดกันแบบมนุษย์ที่มีอารยะเป็นไหม?
ทำอย่างนั้นน่ะ จิ๊กโก๋เตาปูนเก่าอย่างผมเลิกทำมาเกือบ 40 ปีหย่อน 2 ปีเอง ก็ พ.ศ.2513 นั่นแหละครับ... โรงหนังเฉลิมพันธ์ยังอุ่นๆอยู่เลย... เช้ามืดเสาร์อาทิตย์นั่งรถเมล์ (ฟรีแบบเด็กเตาปูน) ไปกินก๋วยจั๊บที่หอนาฬิกาจังหวัดนนท์ชามละ 2 บาท...
แต่รู้อะไรไหม... ผมไม่เคย "เล่น" คนอ่อนแอกว่า... ไม่เคย "เล่น" คนลับหลัง... และที่ถือเป็นสัจจะ "ไม่ด่าแม่คู่อริ" ครับ อาจารย์เขาสอนว่า "เดี๋ยวของออก"... มารู้ทีหลังว่าเป็นอุบายของ "นักเลงแท้" ที่ "ห้ามหยาบคาย" ไงครับ
ที่เล่ารายละเอียดมาให้อ่านเพราะอยากยืนยันว่า "ทำถ่อย" ก็เป็น แต่เลิกแล้ว... หลังจากมีโอกาส "เป็นผู้เป็นคน" กับเขานี่แหละครับ... คือ...แบบว่า พอรู้จักจำแนกแยะแยะผิดชอบชั่วดีได้ด้วยวิจารณญาณส่วนตัวน่ะครับ... ถอด "สนตะพาย" ออกจากจมูก... เลิก "เคี้ยวเอื้อง"... เผลอแผล็บเดียว "เขาหลุด" มาจนถึงทุกวันนี้เลยครับ...

"ประชาธิปไตยจงเจริญ"
"ประชาชนจงเจริญ"
ด้วยภราดรภาพ

Submitted by นายจอ ชอบอ่าน on

ผมว่าเราน่าจะแสดงความคิดเห็นให้ตรงกับหัวข้อและข้อมูลที่ได้อ่านและรับรู้นะครับ เพื่อที่ผู้ที่เข้ามาในหัวข้อจะได้รับสิ่งที่สร้างสรรค์ และความรู้ไปใช้ในการดำเนินชีวิตต่อไป อย่าเอาทุกอย่างไปผูกไว้กับการเมืองเลย "มันน่าเบื่อ..และไม่สร้างสรรค์"

Submitted by อริน on

"มนุษย์ เป้น สัตว์ การเมือง" ครับ
ด้วยภราดรภาพ

Submitted by ท่านโอยาชิโร่ on

ก็อสสิปอีกแล้ว
บันเทิงก็ก็อสสิป
การเมืองก็ยังก็อสสิปอีก

Submitted by อริน on

พิธีกรรายการโทรทัศน์ และผู้ประกาศรายการวิทยุ - คนไหน "ไม่เลือกข้าง" บ้าง...
อยู่ที่จะออกนอกหน้าจนน่าเกลียดหรือเปล่าเท่านั้น...
ทีนี้.. รายการ "หากิน" ที่ไม่คร่อมการเมือง แม้แต่บางรายการที่นำเสนอ "รถยนต์ราคา 55 ล้าน" "นาฬิการาคา 12 ล้าน" "กระเป๋าถือราคา 3-4 แสน" หรือ "ทายาทไฮโซทำชั่วตอนวัยรุ่น...ก่อนจะมาได้ดีหลัง 'พ่อง-แม่ง' ส่งไปใส่ตะกร้าล้างน้ำชุบตัว" นั้น ให้อะไรคนดูบ้าง...
การเมืองมันก็แค่เรื่องผลประโยชน์ที่ชัดเจนในเรื่องรูปแบบการใช้อำนาจเท่านั้นแหละครับ...
เชื่อไหมว่าใน "ศาสนจักร" นั้น การเมืองเข้มข้นอย่าบอกใครเลย... ไปดูประวัติศาสตร์คดี "พระพิมลธรรม" ดูสิครับ หรือเรื่องราวของ "สมเด็จป๋า" กระทั่ง "นิกายยานอวกาศ" และ "นิกายฟ้า-ดิน"
ส่วน "บันเทิง" ที่ว่าก็ดู การเมืองของโทรทัศน์ 3 ช่อง เป็นไรล่ะครับ (ขอเรียกด้วยชื่อเดิมทั้งหมด) 9-11-ITV...
โปรดอย่าเบือนหน้าหนีจากเรื่องจริงในประเทศนี้เลยครับ... หนังดังตลอดกาลอย่าง "ไอ้ซาส์จอมเนรคุณ" นั้น เป็นซีรีส์ไม่รู้จบไปนานแล้ว

ประชาธิปไตยจงเจริญ
ประชาชนจงเจริญ
ด้วยภราดรภาพ

Submitted by หมูป่า on

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ สังเกตุเหมือนกันว่าบางที พี่ต้นก็นั่งขมวดคิ้ว เหมือนคิดอะไรอยู่ บางทีเค้าอาจจะฟื้นความจำได้มากกว่าที่เรารู้ และพี่เค้าอาจแยกแยะความปกติ หรือผิดปกติได้มากขึ้นแล้ว การป้อนคำถาม หรือการให้พี่เค้าทำการทดสอบแบบนั้น เป็นการที่ไม่สมควรเอาซะเลย (เป็นใครๆ ก็คงไม่อยากให้คนอื่นมาตัดสินเราว่า ผิดปกติไปจากมนุษย์คนอื่นหรอกใช่มั้ยคะ)

Submitted by doctor J on

ขอบคุณ คุณจันทร์ ในบ่อ เป็นอย่างยิ่งที่ช่วยหยิบยกเอาประเด็น"ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์"ขึ้นมากระตุกขาคนไทยยุค"ใครคิดไม่เหมือนกู มันเอี้ย"

ขอจงมีพลังและกำลังใจ สร้างสรรงานดีๆแบบนี้ต่อไปครับ

Submitted by เกรียงศักดิ์ on

ผมได้ชมรายการแม้ว่าจะไม่จบก็ตาม แต่ในส่วนที่นำเสนอผมกลับเห็นต่างครับ เนื่องจากว่า หากคุณวิืทวัสคิดจะตัดส่วนที่คุณสรุปว่า เป็นการบ่งชี้ว่ารายการละเลยต่อความเป็นมนุษย์ ของผู้ร่วมรายการออกไปแล้ว ความผิดปรกติของคุณต้นจากการใช้ยาเสพย์ติดจะถูกสื่อออกมา
ด้วยวิธีใดได้ครับ แค่การบอกว่าครั้งหนึ่งคุณต้นสูญเสียความทรงจำไป แต่ตอนนี้บำบัดแล้ว ดีขึ้นแล้ว พูดคุญพอรู้เรื่องแล้ว คนดูจะเชื่อหรือครับ แล้วการมาออกรายการแล้วบอกว่า เคยติดยานี่มันก็ไม่ได้รับคำชื่นชมแน่ๆครับ ดังนั้นผมจึงเชื่อรายการตั้งใจที่จะนำเสนอ เหตุการณ์นี้เพื่อสื่อให้เห็นพิษร้ายของการเสพย์ยา ที่เมื่อผู้ชมได้ชมแล้วต้องรู้สึกเลยว่า มันน่ากลัว กว่าที่เคยรู้จักมัน มิฉะนั้นคุณต้นคงต้องถูกประนามว่ากุเรื่อง อยากกลับมาดังแน่นอน

ส่วนความเห็นที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหา เอาเรื่องการเมืองไปปนกับเรื่องอื่นให้มั่วไปหมดเนี่ย เลิกทำ
เถอะครับ นอกจากไม่เกิดปัญญาแล้ว ยังแสดงความไม่รู้จักกาละเทศะ มารยาทที่ดีของสังคม
ด้วยครับ แม้ว่าจะเป็นสังคมที่ไม่เคยเจอหน้ากันก็เถอะครับ แล้วไม่ต้องมาด่าผมต่อนะครับ เพราะผมไม่กลับมาอ่านแน่ครับ ขอบคุณ

แค่ผัวเมียทะเลาะกัน...ครับ

 
โจว ชิงหมาเกิด
 
 
ประเด็นฮอตฮิตในรอบสัปดาห์นี้หนึ่งประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือบทสัมภาษณ์ "สมชาย หอมละออ"แย้มผลสอบสลายชุมนุมพฤษภา′53 ผัวเมียทะเลาะกัน... ผิดทั้งคู่ (วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 14:00:45 น. สัมภาษณ์พิเศษ โดย พงศ์พิพัฒน์ บัญชานนท์)
 
 

ด้วยรักและไว้อาลัยแด่การสอบโอเน็ต (และบทสัมภาษณ์ 'ติ่งหู' กับ 'ผู้ไม่เชี่ยวชาญ')

เดือนมีนาคมแล้วค่ะท่านผู้อ่าน

ช่วงเวลาที่นักเรียนชั้น ม.6 ต้องจำจากจรสถาบันอันเป็นที่รักเพื่อก้าวไปข้างหน้า ทั้งจากความต้องการของตัวเองและกระแสสังคมที่ต่างคาดหวังว่าการ ศึกษาคือหนทางแห่งการเป็น “เจ้าคนนายคน”

หากท่านผู้อ่านเคยผ่านช่วงเวลาของการสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเป็นระบบเอนทรานซ์หรือระบบแอดมิชชันคงยังจำช่วงเวลาหฤโหดของการเข้าห้องสอบที่แบกเอาความฝันของตัวเอง ความคาดหวังของผู้บุพการี และหน้าตาของสถาบันระดับมัธยมศึกษา (ที่มักจะวัดกันด้วยจำนวนนักเรียนที่สามารถสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้)ตลอดจนท่านผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครู อาจารย์ ไปจนถึงผู้บริหารสถานศึกษาก็ต่างลุ้นตัวโก่งกับผลการเข้ามหาวิทยาลัยในอีกไม่กี่เดือนหลังจากนั้น ….ช่างเป็นช่วงชีวิตที่ลืมไม่ลง เสียจริง ๆ

รักเทอซะให้เข็ด ..แม่เจ็ดสาวลีโอ

ปีนี้บรรยากาศเหน็บหนาวที่มาพร้อมกับลานเบียร์หลายแห่งตามห้างสรรพสินค้า มีเรื่องสนุกสนานทวีคูณมากขึ้น เมื่อเกิดปรากฏการ “สาวลีโอ” ที่ยุ่งเหยิงอีรุงตุงนังเมื่อไปพันกับการเมืองยุคอำมาตย์ฝึกหัดครองเมือง

เมื่อมาถึงปลายปีที่มีบรรยากาศหนาวๆ ชวนให้เปล่าเปลี่ยว ธรรมเนียมปฏิบัติของบรรษัทค่ายน้ำเมาต่างๆ จะต้องมีแคมเปญอะไรมาเป็นของกำนัลให้กับหนุ่มๆ คึกคักมีชีวิตชีวา โดยปฏิทินรูปแบบวาบหวามมักจะถูกเข็นออกมาในช่วงนี้ และลีโอก็ไม่เคยพลาด หลังจากที่ได้ “ลูกเกด - เมทินี กิ่งโพยม” มาช่วยเป็นแม่ทัพดูแลการผลิตด้านสื่อหวาบหวิวให้ค่ายลีโอ เป็นส่วนหนึ่งในการฟาดฟันต่อสู้กับค่ายช้างจนทำให้เบียร์ลีโอเป็นเบียร์อันดับหนึ่งของประเทศ โดยกลยุทธการตลาดที่สำคัญนั้นก็คือการขายความเซ็กซี่และมีระดับกว่าช้างมาหน่อย

ขออนุญาต "ไม่แปล"

สถานการณ์ในเมืองไทยตอนนี้ทำให้พวกเราไม่สามารถนำเสนออะไรหลายอย่างได้โดยเฉพาะสิ่งที่มาจากต่างประเทศ ก็เพราะประเทศสยามกำลังพยายามปิดกั้นไม่ให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลจากสื่อต่างชาติ หรือถ้าจะให้รับรู้ก็จะถูกบิดเบือนหรือรับเอามาดัดแปลงให้เป็นวาทศิลป์มุ่งสำเร็จความใคร่ในการทำลายล้างศัตรูของตนเอง โดยไม่สนถึงผลกระทบที่ตามมาว่าจะบานปลายร้ายแรงขนาดไหน