23 พ.ย. ม้วนเดียวจบ เลือดนองแผ่นดิน!?


"ถ้างวดนี้ มีการใช้ความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องครับ พี่น้อง พ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศไทย ต้องลุกฮือขึ้นมาแล้วให้เลือดนองแผ่นดิน"  ... "ผมจะบอกให้พวกสัตว์นรกรู้ ว่างวดนี้ถ้าประชาชนเขามา เขามาพร้อม ของ' กันหมด" - สนธิ ลิ้มทองกุล 20 พ.ย. 2551

 

ทีมข่าวการเมืองประชาไท

 
สนธิ ลิ้มทองกุล ได้รับการอารักขาโดย นักรบศรีวิชัย เมื่อ 26 ส.ค. 51 ที่มาของภาพ adaptorplug (CC)  

ม้วนเดียวจบ?

อาจไม่ต้องแปลกใจ ที่ในตอนเที่ยงของวันที่ 20 พ.ย. ณ บ้านพระอาทิตย์ 5 แกนนำพันธมิตร นำโดยนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการเป็นผู้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 24/2551 [1] เชิญชวนประชาชนร่วมกัน “‘เผด็จศึกเคลื่อนขบวนต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หน้ารัฐสภา หยุดอำนาจรัฐบาลทรราชฆาตกรหุ่นเชิด และหยุดสภาทาสระบอบทักษิณทุกรูปแบบ และทุกวิถีทาง ในวันที่ 23 พ.ย. 2551 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

ในแถลงการณ์นี้ยังอ้างสิทธิเคลื่อนไหวตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 70 ในการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

และจะเคลื่อนไหว จนกว่าสังคมไทยจะได้รับชัยชนะ

เป็นการประกาศในรอบไม่เกิน 12 ชั่วโมง หลังเหตุระเบิดกลางที่ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยในช่วงเช้ามืดของวันที่ 20 พ.ย. ที่ทำให้นายเจนกิจ กลัดสาคร ผู้ร่วมชุมนุมพันธมิตรฯ เสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บหลายสิบคน

อาจไม่ต้องแปลกใจ ที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง กล่าวระหว่างแถลงข่าวว่าเป็นการชุมนุม สุดท้ายของสุดท้ายแล้ว ม้วนเดียวจบ ไม่ยืดเยื้อ และถ้าประชาชนนิ่งเฉยไม่ได้ออกมาสู้ พันธมิตรเองก็คงต้องขนของกลับบ้าน แล้วก็ปล่อยให้บ้านเมืองนี้เป็นของทรราชไป

อันที่จริง พันธมิตรประกาศสู้ด้วยสำนวนที่ฟังดู เดิมพันราคาสูงทุกครั้ง ตั้งแต่ ไม่ชนะไม่เลิก ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง ในการต่อสู้ เฟส 1’ ปี 2549 กระทั่งใน เฟส 2’ ปี 2551 ทั้ง สงครามครั้งสุดท้าย ทุบหม้อข้าว ไม่ชนะไม่กลับ เป่านกหวีดครั้งสุดท้าย และล่าสุด เผด็จศึก - ม้วนเดียวจบที่จำลองย้ำว่า สุดท้ายของสุดท้าย ในขณะที่การชุมนุมยืดเยื้อมากว่า 180 วันแล้ว

ลองดูคำปราศรัยสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อ 17 มิ.ย. ที่นัดชุมนุมในยุทธการสงคราม 9 ทัพ 20 มิ.ย.

วันศุกร์บ่ายโมงตรง หน้าทำเนียบรัฐบาล เราจะเก็บข้าวเก็บของไปหมด เราจะทุบหม้อข้าว ไม่ชนะไม่กลับ ไม่ชนะไม่กลับ พี่น้องครับ เรากำลังจะเรียกให้ทุกคนทุกส่วนของประเทศไทย ถ้ารักชาติ รักศาสน์ รักกษัตริย์ แล้วยังคงต้องการปกป้องราชบัลลังก์ราชวงศ์จักรีต่อไป ให้มาร่วมกับพวกเรา[2]

ลองดูคำปราศรัยสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อ 22 ส.ค. ที่นัดชุมนุม เป่านกหวีดครั้งสุดท้าย’ 26 ส.ค. ที่เกิดยุทธการนักรบศรีวิชัยยึดสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กระทรวงสำคัญๆ และทำเนียบรัฐบาลอันลือลั่น

ขอวิงวอนพี่น้องทั่วประเทศให้ออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ออกมา ไม่ต้องดูทีวีที่บ้านแล้ว ออกมาๆๆ และจากนั้นสนธิก็ทำการ เป่านกหวีด[3]

ลองดูคำปราศรัยสนธิ ลิ้มทองกุล เมื่อคืนวันที่ 6 ต.ค. ภายหลังแกนนำรุ่น 2 ประกาศขยายพื้นที่ชุมนุมปิดรัฐสภา ที่สนธิย้ำว่าการต่อสู้เหลือ 100 เมตรสุดท้ายแล้ว

ถ้าเราเหนื่อยแล้วเราถอย แล้วเราไม่ฮึดสู้ จะทำให้ 135 วันของเราไม่มีความหมายไปเลยพ่อแม่พี่น้อง เหมือนวิ่งมาราธอน 1,000 เมตร เราวิ่งมา 900 เมตรแล้ว เหลือแค่ 100 เมตรสุดท้าย เราจะเหน็ดเหนื่อยจนกระทั่งหยุดวิ่งเชียวหรือพี่น้อง อย่าให้การติดคุกของพี่จำลอง อย่าให้การติดคุกของไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ จะต้องเสียหลายไป ใช่ ไม่ใช่ พี่น้อง[4]

แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มี ‘100 เมตรสุดท้าย เกิดขึ้น

เมื่อถามว่า ทำไมปัจจัยมวลชนของพันธมิตรในระดับเรือนพัน กระทั่งเรือนหมื่นออกมาชุมนุมกดดัน ปิดถนน ปิดล้อม กระทั่งยึดสถานีโทรทัศน์ของรัฐบาล สถานที่สำคัญทางราชการ หรือถึงขั้นสามารถยึดทำเนียบรัฐบาลแล้วแปรสภาพเป็นฐานบัญชาการเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลได้เกือบ 3 เดือน จนรัฐบาลระเห็จไปตั้งทำเนียบชั่วคราวที่ดอนเมือง แต่จนแล้วจนรอดพันธมิตรก็ไม่อาจเอาชนะรัฐบาลได้เบ็ดเสร็จ

คำตอบคงไม่ใช่เพราะรัฐบาลที่พันธมิตรกำลังรณรงค์ขับไล่ โค่นล้ม มีที่มาจากการเลือกตั้งเป็นแหล่งอ้างอิงความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตยเท่านั้น เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริงคงไม่เกิดรัฐประหาร 19 กันยายน 2549

คำตอบน่าจะอยู่ที่ อำนาจอื่นไม่เข้ามาทำ สงครามชี้ขาด 

 

 

000

เลือดนองแผ่นดิน?

อาจกล่าวได้ว่า พลังกดดันของพันธมิตรเองโดยลำพังไม่อาจทำให้รัฐบาลพลังประชาชนต้องปลาสนาการได้ อย่างการไล่รัฐบาลที่มาจากรัฐประหารแบบถนอม หรือสุจินดา

อำนาจอื่นต่างหาก คือปัจจัยชี้ขาด

ย้อนกลับไปเมื่อเหตุการณ์พันธมิตรปิดล้อมรัฐสภา 7 ต.ค. 2551 เพื่อขัดขวางรัฐบาลของสมชาย วงศ์สวัสดิ์แถลงนโยบายต่อสภา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องยิงแก๊สน้ำตาเพื่อเปิดทางเข้าสภา นำมาสู่การปะทะกับผู้ชุมนุม จนกระทั่งเหตุการณ์บานปลายตลอดทั้งวันทั้งคืนจนมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากและมีผู้เสียชีวิตหน้า บช.น. และที่ทำการพรรคชาติไทยนั้น

การปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนบานปลายไปสู่การจลาจลขั้น นองเลือด ในวันนั้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้แกนนำพันธมิตรอย่างนายสนธิมั่นใจว่างานนี้มี ได้เสีย และจะสามารถจบเกมรัฐบาลได้แบบนับถอยหลังเป็นชั่วโมงตามที่สนธิปราศรัย

โดยหลังการยิงแก๊สน้ำตาที่รัฐสภา เวลา 8.00 น. นายสนธิปราศรัยอยู่ในทำเนียบรัฐบาลประกาศว่าวันนี้ไม่ใช่วันสุกดิบแต่เป็น วันได้เสีย โดยเรียกร้องให้ผู้ชุมนุมที่หน้ารัฐสภาปิด ถ.พิชัย และ ถ.ราชวิถีเอาไว้อย่าให้ มันเข้าสภา หรือถ้าหลุดรอดไปได้ก็ ให้มันเข้าได้ ออกไม่ได้ และเรียกร้องให้พนักงานรัฐวิสาหกิจตัดน้ำ ตัดไฟ หยุดงาน ไล่ รัฐบาลสัตว์นรกออกไปจากแผ่นดินไทย

พี่น้องต้องการสงครามครั้งสุดท้ายไม่ใช่หรือ วันนี้และวันนี้เท่านั้นที่เราจะเอาประเทศไทยของเราคืนมาให้ได้ พี่น้องครับ เราถอยไม่ได้อีกแล้ว พี่น้องเราถอยไม่ได้อีกแล้ว เราถอยไม่ได้อีกแล้วพี่น้อง ถอยไม่ได้อีกแล้ว พี่น้องไม่ต้องไปกลัวตำรวจ ตำรวจมันใจเสียแล้วพี่น้อง ตำรวจมันใจเสียแล้ว พี่น้องเอาจิตวิญญาณ เข้มแข็ง กล้าหาญ แล้วคิดอยู่ในใจ กูสู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่าลืมพี่น้อง

ถ้าพี่น้องที่หน้ารัฐสภาได้ยินเสียงผม ที่มั่นตรงนั้นทิ้งไม่ได้พี่น้องเป็นยังไงเป็นกัน กำลังเสริมกำลังมา พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องห่วง มันทยอยกันมาเรื่อยๆ แล้วเราจะเห็นคลื่นมหาชนล้นหลามเต็มบ้านเต็มเมืองพี่น้อง พี่น้องที่กำลังเดินทางมา ให้มุ่งไปที่ ถ.พิชัย และ ถ.ราชวิถี ปิดทั้งพิชัย และราชวิถี ยังไงก็ไม่ให้มันเข้าสภา

ถ้ามันหลุดรอดเข้าไปให้มันเข้าได้ ออกไม่ได้ พี่น้องรัฐวิสาหกิจถึงเวลาตัดน้ำ ตัดไฟ แล้วหรือยังตอนนี้ ตัดน้ำ ตัดไฟ สหภาพรัฐวิสาหกิจทุกแห่ง สหภาพการท่าอากาศยานหยุดงานไปเลย ทุกๆ สหภาพ นี่คือการชุมนุมอย่างสงบ อหิงสา ถ้ามันไม่ได้ประชุมสภาวันนี้มันจะตายหรือยังไง วันนี้ไม่ใช่วันสุกดิบ แต่เป็นวันได้เสีย พี่น้องที่รัฐสภาทุกๆ คนเป็นวีรบุรุษของประเทศไทยทั้งสิ้น ผมบอกแล้วไงล่ะ จำไม่ได้หรือ ว่ามาร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์ แล้ววันนี้พวกคุณกำลังเขียนประวัติศาสตร์อยู่ อย่าลืมพวกคุณสู้เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราจะปล่อยให้รัฐบาลชาติชั่ว รัฐบาลสัตว์นรกอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้ ต้องไล่มันออกไปจากแผ่นดินไทย[5]

และในเวลา 13.00 น. สนธิได้ปราศรัยย้ำว่านี่เป็นการต่อสู้แบบ อหิงสาแบบสู้หลังชนกำแพงที่ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว และประกาศอย่างมั่นใจว่าเวลาของรัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ใกล้จะหมดแล้ว

เวลาของรัฐบาลสมชายจะหมดแล้ว นับเป็นชั่วโมงได้เลย ถ้าคุณฉลาดพอ คุณให้ตำรวจกลับเข้ากรมกองเพราะว่าเวลารัฐบาลนี้ ซึ่งมันเป็นรัฐบาลเถื่อนเป็นมาตั้งนานแล้ว มันจะไม่ได้มีโอกาสเป็นรัฐบาลในเวลาไม่เกิน 6 โมงเย็นนี้

ความมั่นใจของนายสนธิยังปรากฏผ่านคำปราศรัย ที่สั่งให้นายตำรวจ ตั้งแต่สารวัตร รองบังคับการ ผู้การ รองผู้บัญชาการ ผู้บัญชาการ ผู้ช่วยอธิบดีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า คุณถอยออกไป สั่งลูกน้องคุณให้เก็บอาวุธ เข้าไปนั่งในห้องแอร์ แล้วก็เช็ดเหงื่อซะให้แห้ง แล้วผมจะอนุญาตให้คุณพูดคำว่า ถ้ากูรู้อย่างงี้ กูจะไม่ทำแน่

แกนนำพันธมิตรฯ ผู้นี้ยังฝากไปถึงนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ว่า

คุณผิดพลาดครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตที่รับใช้สมชาย วงศ์สวัสดิ์ ผมบอกคุณมาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่สะพานมัฆวาน แต่คุณมันโง่ ซื้อบื้อ ไม่เคยเข้าใจว่าพวกเราผู้หญิงสวยๆ เหล่านี้ ผู้ชายหล่อๆ อย่างนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นทหารเสือพระราชาและทหารเสือพระราชินี วันนี้คุณรู้แล้วใช่ไหม ว่าคุณมาทำร้ายลูกหลานของพระองค์ท่าน คุณยิงระเบิด M-79 ทำให้ลูกหลานพระองค์ท่านขาขาด คุณยิงแก๊สน้ำตาทำร้ายประชาชนซึ่งเป็นลูกหลานพระองค์ท่าน ด้วยเหตุนี้พระองค์ท่านถึงพระราชทานเงินมาช่วยเหลือหนึ่งแสนบาท และรับคนเจ็บทุกคนเป็นคนไข้ในส่วนพระองค์หมด

นายสนธิยังย้ำว่าเดี๋ยวจะมี ข่าวดี มาตลอด นอกจากนี้เขายังเปรียบเหตุการณ์จับกุม พล.ต.จำลอง ในวันที่ 5 ต.ค. กับเหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2535 ว่าจะจบเหมือนกัน

เราต้องทำให้การติดคุกของพี่ลองเรา คุ้มค่าใช่ไหม พี่ลองเนี่ย ชอบทำตัวเหมือนพฤษภาทมิฬ พฤษภาทมิฬพอพี่ลองติดคุกทุกอย่างก็จบใช่ไหม งวดนี้แกเอาอีกแล้ว แล้วพอแกออกมาคุณสนธิผมนี่มันเป็นอะไร ผมไม่รู้เรื่อง ออกมาแล้วมันจบแล้วหรือเนี่ย[6]

ซึ่งสิ่งที่จะทำให้รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ไม่มีโอกาสเป็นรัฐบาลในเวลาไม่เกิน 6 โมงเย็นนี้ อย่างที่สนธิประกาศิตเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก อำนาจอื่น นอกวิถีทางตามรัฐธรรมนูญ

เช่นที่แกนนำพันธมิตรเรียกร้องให้ทหารออกมาทำหน้าที่ บ่อยครั้งในการเคลื่อนไหวครั้งนี้ และสารพัดวิถีทางนอกรัฐธรรมนูญตามแต่สติปัญญาของผู้ปราศรัยบนเวทีแต่ละคนจะนำเสนอ

อย่างไรก็ตามหลัง 18.00 น. รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ก็ยังอยู่

หรือว่า อำนาจอื่น ไม่มาตามนัด?

หลังจากนั้น คำปราศรัยในคืนวันที่ 7 ต.ค. ของสนธิ ลิ้มทองกุล เขาอ้างว่าจากเหตุการณ์ในวันนี้ พ่อแม่พี่น้องที่อยู่ในที่นี้ หรือดู ASTV อยู่ เริ่มหันมามองว่า อหิงสาสันติอาจไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง อาจจะต้องฆ่ากันไปให้ตายข้างหนึ่ง

เขายังอ้างว่าราชบัลลังก์ กำลังอยู่ในสถานภาพที่อันตรายที่สุด สาเหตุนอกจาก ระบอบทักษิณ แล้ว นายสนธิยังระบุถึงภัยคุกคามใหม่ว่า กำลังมีอันตรายจาก ระบอบผู้ใหญ่ในกองทัพบางคนที่มีอำนาจอยู่ซึ่งหมายถึงใครไปไม่ได้นอกจาก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.

มีทหารบางคนที่แอบอ้างว่ายังจงรักภักดีอยู่ แต่ไม่ยอมออกมาเคียงข้างประชาชนตามที่พระองค์ได้ขอร้องมา เพราะหวังเพียงยศ หวังเพียงลาภ เงินทอง จากการซื้ออาวุธ และหวังในกิเลสที่ทางการเมืองจะมอบให้ [7] [8]

ซึ่งแม้หลังจากนั้น พล.อ.อนุพงษ์ จะพาผู้นำเหล่าทัพไปให้สัมภาษณ์นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดาทางโทรทัศน์ช่อง 3 และพูดเชิงกดดันให้รัฐบาลลาออก [9] เมื่อวันที่ 16 ต.ค. แต่ก็ไม่วายถูกสนธิอัดว่าจัดฉากเคลียร์ตัวเอง [10]

หลังเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. 2551 นอกจากอิสรภาพของจำลอง ศรีเมือง และไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และการเพิกถอนหมายจับแกนนำพันธมิตร 9 คนในข้อหากบฏเปลี่ยนเป็นข้อหาอื่นที่เบากว่า

ส่วนครอบครัวของ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ และ พ.ต.ท.เมธี ชาติมนตรี ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. ก็ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษในวันที่ 13 และ 14 ตุลาคม ตามลำดับด้วย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ครอบครัวระดับปัญญาวุฒิได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนิน เพื่อพระราชทานเพลิงศพ น.ส.อังคณา ระดับปัญญาวุฒิ ที่วัดศรีประวัติ จ.นนทบุรี และยังได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิดด้วย

 

000

ในส่วนของความเคลื่อนไหวพันธมิตรหลังวันที่ 7 ต.ค. ยังขยายผลเหตุการณ์นองเลือดดังกล่าวว่า ตำรวจฆ่าประชาชน มีการชุมนุมดาวกระจายเพื่อแจกซีดีเหตุการณ์ในวันดังกล่าว

ขณะเดียวกันแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยอย่างนายสนธิ ยังเอาเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นฟางเส้นสุดท้ายของแนวทางอหิงสา และพร้อมจะหันเหการต่อสู้ไปสู่ทิศทางอื่น!?

โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค. เขาขอให้ผู้ชุมนุมสัญญาว่าหากแกนนำตาย ต้องให้แผ่นดินนี้ ลุกเป็นไฟให้ได้ แต่นายสนธิบอกว่าเขายังยึดสันติ อหิงสาอยู่ เพราะถ้าแผ่นดินลุกเป็นไฟ คนที่ทุกข์ระทมคือพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระนางเจ้า

สนธิยืนยันว่า ไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาว และผมไม่ใช่คนสู้ไม่เป็น คนมีปัญญาอย่างผมสู้ไม่เป็นหรือไง เป็นอยู่แล้ว และสู้ได้รุนแรงหนักหน่วงด้วย แต่เมื่อผมคิดตรงนี้ทีไร ผมเห็นพระเจ้าอยู่หัว ผมเห็นพระราชินี แล้วผมบอกว่าถ้ามันเป็นอย่างนี้แล้ว เท่ากับผมทำลายพระองค์

เขายังออกตัวว่าถ้าพี่น้องอยากลุย เพียงแค่เขาประกาศให้ทุกคนเอาปืนที่บ้านมาทั่วประเทศไทย เผามันให้หมด ยิงมันให้หมด ให้เลือดนองแผ่นดิน แต่ถ้าทำแบบนั้นเขาจะเป็นคนบาปของแผ่นดิน และทำให้พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าเสียพระทัย

พี่น้อง ขอให้พี่น้องเข้าใจผม ผมไม่ใช่เป็นคนขี้ขลาดพี่น้อง พี่น้องอยากลุย ถ้าผมเพียงแต่ประกาศว่า พี่น้องเราตายเพื่อชาติบ้านเมือง ทุกคนใครมีปืนที่บ้าน เอามา ทั่วประเทศไทย เผามันให้หมด ยิงมันให้หมด ให้เลือดมันนองแผ่นดิน พี่น้อง ผมจะเป็นคนบาปของแผ่นดินพี่น้อง บาปของแผ่นดิน ผมตายไป ยังไม่เสียใจเท่ากับ ผมจะทำให้พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้านั้น ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่ชาติบ้านเมืองมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา

ไอ้พวกที่เหี้ยๆ ทั้งหลาย มันไม่ได้เหี้ยสู้ผมได้หรอก ถ้าบทผมจะเหี้ยแล้ว ผมคือพระยามารจอมเหี้ยเลย

อย่างไรก็ตามเขากำชับว่าถ้ามีรัฐประหารเพื่อทักษิณก็ต้อง พร้อมที่จะนองเลือด [11]

 

ใคร เผด็จศึก ใคร?

เมื่อไม่สามารถอาศัยเงื่อนไข 7 ต.ค.ตำรวจฆ่าประชาชนเผด็จศึกรัฐบาลได้ พันธมิตรกลับต้องตั้งรับสงครามความชอบธรรมของการเคลื่อนไหว ทั้งเรื่องเป้าหมายการชุมนุมที่มุมมองจากคนข้างนอกมองว่าเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ส่วนแกนนำพันธมิตรเรียกแก้เกี้ยวว่าเป็นการ ยกระดับการต่อสู้ไปเรื่อยๆ ส่วนการประกาศชัยชนะก็ประกาศไปครั้งแล้วครั้งเล่า และคอยย้ำกับผู้ชุมนุมบนเวทีว่าใกล้จะพิพากษา ระบอบทักษิณได้แล้ว

ทั้งวาทกรรมโต้กลับอย่างการเผยแพร่คลิป พันธมิตรฆ่าประชาชนซึ่งเป็นเหตุการณ์ 7 ต.ค. ในมุมมองที่เห็นต่างจากซีดี ตำรวจฆ่าประชาชนของพันธมิตร โดยมีการเผยแพร่อย่างน้อย 2 เวอร์ชั่น และมีการไรท์ซีดีจำหน่ายแผ่นละ 5 บาท [12] ในงานครอบครัวความจริงวันนี้ ที่สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ในวันที่ 1 พ.ย. ที่ผ่านมาด้วย

ทั้งการประกาศชนโดยค่ายมติชนที่เริ่มต้นจากการตีพิมพ์เผยพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพที่พระราชทานสัมภาษณ์ในสหรัฐอเมริกา [13] จนถึงเรื่องที่เครือข่ายธุรกิจของเครือผู้จัดการไปจดทะเบียนบริษัทอยู่ที่เกาะเคย์แมนซึ่งเป็นเกาะฟอกเงินแบบเดียวกับที่บริษัทวินมาร์คในเครือข่ายธุรกิจของตระกูลชินวัตรทำ [14] การที่นักวิชาการและนักกิจกรรมอย่างเครือข่ายสันติประชาธรรมรณรงค์ ออกแถลงการณ์ 3 หยุด คือหยุดนำมวลชนปะทะ หยุดให้ท้ายพันธมิตร หยุดอนาธิปไตยและรัฐประหาร เมื่อ 26 ต.ค. [15]

ทั้งการเผชิญกับการตั้งคำถามเรื่องความสมานฉันท์ในสังคมโดยบุคคลสำคัญที่ทำงานใกล้ชิดเบื้องพระยุคลบาทอย่างนายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ที่ไปกล่าวปาฐกถายุติความรุนแรง แสวงสันติด้วยการสานเสวนาในการเปิดตัวเครือข่ายสานเสวนา เมื่อ 26 ต.ค. [16] และวาทะ รักในหลวงไม่ต้องไปทำนาที่ทำเนียบ ให้อยู่บ้าน ของนายดิสธร วัชโรทัย ประธานมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เมื่อวันที่ 29 ต.ค. [17] ซึ่ง 2 รายหลังนี้ถูกแกนนำโดยเฉพาะนายสนธิ ลิ้มทองกุล ตอบโต้อย่างเผ็ดร้อนและขู่ว่าจะถูกแฉกลับถ้ายังไม่หยุด [18] [19]

นอกจากนี้การไม่รีบดำเนินการเปิดเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินในงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ระหว่างวันที่ 14-16 พ.ย. โดยพันธมิตรเพิ่งตัดสินใจได้ในวันที่ 12 พ.ย. เพื่อเปิดเส้นทางเสด็จในวันที่ 13 พ.ย. – 5 ธ.ค. แต่ขบวนเสด็จก็เปลี่ยนไปใช้เส้นทางผ่านถนนหลานหลวงแทนถนนราชดำเนิน [20] ซึ่งเรื่องนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พันธมิตรซึ่งมี ความจงรักภักดีเป็นเครื่องมือจัดการฝ่ายเห็นต่างทางการเมืองถูกทิ่มแทงด้วยเครื่องมือนี้เสียเอง

และแม้จะมีเรื่อง คลิปคนหน้าคล้ายสมชายควงสาวเข้าม่านรูดซื้อตู้เย็นออกมาตั้งคำถามทางจริยธรรมกับนายกรัฐมนตรีแต่ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ความชอบธรรมในการชุมนุมของพันธมิตรดีขึ้น เพราะสนธิก็เจอ คลิปโอบสาวเสื้อแดงซึ่งเจ้าตัวก็ออกมายอมรับเมื่อ 18 พ.ย. ว่าได้โอบผู้หญิงในภาพซึ่งเป็น น.ส.พัฒนาวดี บุตรสาวของ ดร.ปรีดา พัฒนถาบุตร อดีตรัฐมนตรีสมัยคึกฤทธิ์ ปราโมชจริง ซึ่งถือเป็นเรื่องธรรมดาของตนที่มักทำแบบนี้อยู่เสมอไม่ว่ากับใครก็ตาม [21]

ในขณะที่เรื่องการปราศรัยของนายสนธิว่าใช้ผ้าอนามัยเพื่อแก้ไสยศาสตร์ที่อ้างว่าถูกระบอบทักษิณกระทำที่พระบรมรูปทรงม้า [22] การปราศรัยของสนธิที่เปรียบเทียบคนที่เป็นกลางไม่เข้าข้างฝ่ายใด ไม่ขอยุ่งอะไร มุ่งทำมาหากินอย่างเดียวในสังคมไทยว่า เกิดมาเป็นพวกชิงหมาเกิด ต้องจับใส่กระทงและลอยออกไปให้หมด [23] คำปราศรัยเหล่านี้มีผลเสียต่อความนิยม ความชอบธรรมของขบวนการพันธมิตรมากกว่าผลดี

นอกจากนี้การดาวกระจายของพันธมิตรในระยะหลัง อย่างการดาวกระจายครั้งล่าสุดที่หน้าสถานทูตอังกฤษ เมื่อ 30 ต.ค. ก็ไม่ได้มีมวลชนเข้าร่วมมากนัก แถมเริ่มมีคนสองข้างทางตะโกนด่า รวมถึงแท็กซี่ที่ทนรถติดไม่ได้ลงมาจอดรถด่าจนหวิดจะมีเรื่องทีเดียว [24]

ขณะเดียวกันที่มั่นสุดท้ายที่ เผด็จศึกยึดมาได้จากรัฐบาลอย่างทำเนียบรัฐบาล ก็เริ่มไม่ปลอดภัยมีเหตุไม่สงบเกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ จากเหตุระเบิดข่มขู่ห่างจากที่ชุมนุม ก็เริ่มมีเป้าหมายประทุษร้ายใกล้เวทีปราศรัย จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตในวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา และล่าสุดเมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาก็เกิดระเบิดใส่การ์ดพันธมิตรจนมีผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ความรุนแรงก็ยังเกิดจากฝ่ายพันธมิตรเองทั้งการรุมทำร้ายร่างกายผู้อื่น รวมถึงเหตุการณ์ที่การ์ดอาสาบางรายถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมเนื่องจากค้ายาเสพย์ติด และเหตุการณ์กระสุนปริศนาที่ทำให้มีผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมเสียชีวิตใกล้ที่ชุมนุมด้วย

ทั้งหมดนี้ทำให้ภาพของทำเนียบรัฐบาลกลายสภาพเป็นเขตปลดปล่อยอิสระที่ไม่ขึ้นต่ออำนาจรัฐ มีสภาพไร้ขื่อแป และเต็มไปด้วยภยันตรายจากเหตุประทุษร้ายจากกลุ่มบุคคลไม่ทราบฝ่าย (ดูล้อมกรอบ)

 

000

 

เหตุไม่สงบและอาชญากรรม
ที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
หลังวันที่
7 ตุลาคม 2551 [25]

8 ต.ค. 51 เวลา 22.00 น. เกิดเหตุระเบิดป้อมตำรวจริมคลองผดุงฯ ตรงข้ามกระทรวงศึกษาธิการ ไม่มีผู้บาดเจ็บเสียชีวิต

9 ต.ค. 51 เช้ามืดเวลา 01.00 น. เกิดเหตุลอบวางระเบิดที่แยกวัดเบญจมบพิตร ริมรั้วสนามม้านางเลิ้ง ถนนพระราม 5 มุ่งหน้าสะพานชมัยมรุเชฐ

19 ต.ค. 51 นายทองร้อย สร้อยสูงเนิน แจ้งความอ้างว่า ถูกกลุ่มพันธมิตรฯ รุมตีได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม เวลา 06.00 น. เหตุเกิดหน้าทำเนียบรัฐบาล ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามา

23 ต.ค. 51 เจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมนายสมชาย ศรีประจันต์ หรือเกี่ยว โซน 7’ อายุ 39 ปี โดยที่แฮนด์รถจักรยานยนต์ของผู้ตายพบกระเป๋าสะพายสีดำ ภายในบรรจุยาบ้า 2,000 เม็ด ระหว่างล่อซื้อยาบ้าภายในซอยสุวินทวงศ์ 24 ถนนสุวินทวงศ์ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 23 ตุลาคม ต่อมาวันที่ 25 ต.ค. นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานพันธมิตรยอมรับว่าผู้ตายเป็นการ์ด รวมทั้งอ้างตำรวจวิสามัญฆาตกรรมเพื่อปรักปรำให้ข่าวทางลบกับพันธมิตร โดยพันธมิตรได้ร่วมจัดงานศพให้กับนายสมชาย

28 ต.ค. 51 กลุ่ม นปช.ประมาณ 10 คน โพกผ้าสีแดง ถือธงสีแดง ได้นั่งบนรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บฉ 3230 กทม. ติดตั้งเครื่องขยายเสียง เข้ามาและมีการยิงหนังสติ๊กเข้าในบริเวณที่ชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร กลุ่มพันธมิตรได้ตอบโต้โดยการยิงหนังสติ๊กเข้าใส่รถคันดังกล่าว จนทำให้รถได้รับความเสียหายกระจกรถบริเวณด้านหน้าและด้านข้างแตก ขณะที่การ์ดพันธมิตรได้สกัดจับรถดังกล่าวได้บริเวณแยกสนามม้านางเลิ้ง โดยกลุ่ม นปช.ที่เป็นวัยรุ่นประมาณ 5 คน ได้วิ่งหนีเข้าไปในสนามม้า ส่วนคนที่อยู่ในรถซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ชาย 1 คน และหญิง 4 คน ถูกการ์ดพันธมิตร เข้าล็อกตัว และยึดรถเอาไว้ พร้อมกับพาตัวมาในทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำไปประจานบนเวที ฝ่าย นปช. อ้างว่าหลงเข้ามาและได้แจ้งความที่ สน.นางเลิ้ง ว่าถูกทำร้ายร่างกาย

30 ต.ค. เกิดเหตุระเบิด 3 จุด และเหตุยิงกันใกล้ที่ชุมนุมพันธมิตรจนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย

จุดแรก เวลา 03.20 น. เกิดที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ ซึ่งเป็นจุดที่การ์ดพันธมิตรฯ ตั้งรั้วเหล็กและนำยางรถยนต์มาวางไว้ โดยคนร้าย 2 คน ขับรถจักรยานยนต์เข้าไปปาระเบิดใส่เต็นท์ที่การ์ดพันธมิตรฯ และกลุ่มนักรบศรีวิชัยอยู่ภายในนั้น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย

เวลา 04.25 น. ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4-5 คน ได้ยิงปืนไม่ทราบขนาดเข้าใส่พันธมิตรฯ จำนวนหลายนัด โดยพยานในที่เกิดเหตุเล่าว่า ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวสวมใส่ชุดสีดำ และพบว่ามีการนำปืนออกมาจากฝั่งรั้วของ บช.น. จากนั้นได้ทยอยเดินเข้ามายังแผงกั้นพันธมิตรฯ แล้วระดมยิงอาวุธปืนเข้าใส่จำนวนหลายนัด ทำให้การ์ดพันธมิตรฯ ต้องวิ่งหนีกันจ้าละหวั่น พร้อมกับตอบโต้โดยการใช้พลุแสงขว้างเข้าใส่ ทำให้กลุ่มชายฉกรรจ์เห็นท่าไม่ดีล่าถอยไป

 

 
นายสังเวียน รุจิโมระ ถูกกระสุนปริศนาเีสียชีวิตด้านหลัง บช.น. ใกล้กับที่ชุมนุมพันธมิตร

ที่มาของภาพ
: ผู้จัดการออนไลน์

นอกจากนี้เกิดเหตุ นายสังเวียน รุจิโมระ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 701/151 ซ.สุขุมวิท 101 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร ซึ่งพักอาศัยอยู่กับพ่อย่านถนนสุโขทัย หลังจากเมาสุราได้ฝ่าแนวกั้นของตำรวจเข้าไปโวยวายกลุ่มพันธมิตรบริเวณ จากนั้นไม่นาน ก็ได้ยินเสียงปืนดังโดยไม่ทราบฝ่ายขึ้น 3-4 นัด เช้าวันต่อมาพบศพนายสังเวียนถูกยิงคิ้วขวาทะลุท้ายทอยเสียชีวิตบริเวณประตูด้านหลัง บช.น. ถนนพิษณุโลก แขวง-เขตดุสิต มีวิถีกระสุนถูกกำแพง บช.น.

จุดที่สอง เกิดระเบิดในบ้านนายจรัญ ภักดีธนากุล ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พบหลุมกว้าง กระจกบานเกล็ดและประตูเหล็กแตกกระจาย แรงระเบิดยังทำให้ดินภายในบ้านกระเด็นข้ามรั้วออกมาถูกรถยนต์ที่จอดอยู่หน้าบ้านด้วย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุนายจรัญอยู่ภายในบ้านด้วย

จุดที่สาม เวลาประมาณ 03.30 น. เกิดเหตุระเบิดที่โรงรถด้านข้างสถานีวิทยุวิหคเรดิโอ ภายในหมู่บ้านระมิงค์นิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ของนายเทอดศักดิ์ เจียมกิจวัฒนา แกนนำกลุ่มทหารเสือพระราชาเชียงใหม่ และเป็นหนึ่งในกลุ่มที่สนับสนุนพันธมิตรใน จ.เชียงใหม่ แรงระเบิดทำให้เกิดไฟไหม้บริเวณโรงจอดรถด้านข้าง กระจกแตก และลุกลามเข้าเผารถยนต์วอลโว่ สีเขียว หมายเลขทะเบียน ค 4546 เชียงใหม่ ของนายเทิดศักดิ์ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยดับเพลิงใช้เวลาราว 20 นาที เข้าระงับเหตุไม่ให้ลุกลามจนดับเพลิงสำเร็จในเวลาหลัง 04.00 น. เล็กน้อย เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุจะเป็นการปาระเบิดเพลิง เนื่องจากกระจกรถแตกและมีเพลิงไหม้

นายสนธิปราศรัยบนเวทีพันธมิตรว่า คนของผมก็ยิงมอเตอร์ไซต์ที่ขับผ่านหน้าบ้าน 4 คัน ด้วยท่าทีพิรุจรวมไป 8 นัด โชคร้ายหน่อยที่ยิงไม่ถูก

31 ต.ค. 51 เวลาประมาณ 02.00 น. คนร้ายนั่งรถเบนซ์สีดำ ทะเบียน 4444 ไม่ทราบตัวอักษร โยนระเบิดควันใกล้สะพานมัฆวานฯ แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ

1 พ.ย. 51 นายแอม ดาวสิงห์ อายุ 39 ปี แจ้งความว่า วันที่ 30 ตุลาคม เวลา 17.00 น. ขณะขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง และมีผู้โดยสารให้ไปส่งในกลุ่มพันธมิตร แต่ขากลับถูกทำร้ายร่างกาย เพราะติดสติกเกอร์ เบื่อม๊อบพันธมิตร และถูกยึดบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน พร้อมลอกสติกเกอร์มาติดหน้าอกเพื่อประจาน ก่อนปล่อยตัว ที่สะพานชมัยมรุเชษฐ

2 พ.ย. 51 เวลาประมาณ 02.00 น.กลุ่มวัยรุ่นจำนวน 5 คน ขับรถเก๋งเข้ามายังบริเวณสะพานมัฆวาน และชูนิ้วกลางให้การ์ดพันธมิตรฯ จนถูกการ์ดยิงปืนเข้าใส่จนรถมีรอยกระสุนยิงเข้าที่ประตูซ้าย 1 นัด และกระจกหูช้างด้านหลังขวา อีก 1 นัด และได้รับบาดเจ็บที่หัวไหล่ซ้าย 1 คน ส่วนการ์ดพันธมิตรฯ กล่าวว่า คนในรถก็ชักปืนขึ้นมากระหน่ำยิงใส่กลุ่มการ์ดพันธมิตรฯ จำนวนหลายนัด

ด้านกลุ่มวัยรุ่นพยายามขับรถหนีแต่ถูก สารวัตรทหารที่ตั้งด่านตรวจที่แยก จปร. สกัดจับไว้ได้

นอกจากนี้นายพนม โพธิ อายุ 51 ปี อยู่ที่ 117 หมู่ 9 ต.บางกร่าง อ.เมือง จ.นนทบุรี เข้าแจ้งความอ้าง ว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน เวลา 17.00 น. ขณะเดินขายหนังสือพิมพ์และหนังสือรายสัปดาห์ อยู่หลังเวทีพันธมิตรฯ ประตู 1 บริเวณทำเนียบรัฐบาล ถูกกลุ่มพันธมิตรทำร้ายร่างกายและใส่กุญแจมือซ้อม ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและปากด้านล่าง รวมทั้งข้อมือมีบาดแผล ก่อนยึดหนังสือพิมพ์และหนังสือรายสัปดาห์กว่า 40 เล่มไปด้วย ก่อนปล่อยตัวในเวลาต่อมา

4 พ.ย. 51 เวลาประมาณ 02.00 น.มีเสียงระเบิดบริเวณเชิงสะพานอรทัย ห่างจากแผงเหล็กกั้นบริเวณชุมนุมของพันธมิตรฯ เพียง 3 เมตร แรงระเบิดทำให้พื้นถนนเป็นหลุมลึก 2.5 เซนติเมตร ขวดน้ำแตกกระจาย มีรอยสะเก็ดระเบิดที่ต้นไม้และกระสอบทราย

7 พ.ย. 51 เวลาประมาณ 01.00 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้ง บริเวณเชิงสะพานมัฆวานรังสรรค์ ด้านฝั่งหน้าตึกอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และบริเวณถนนเลียบคลองผดุงกรุงเกษม ด้านข้างรั้วกระทรวงศึกษาธิการในเวลาไล่เลี่ยกันขณะเกิดเหตุระเบิดมีกลุ่มควันสีขาวขนาดใหญ่และมีเสียงดังทั่วบริเวณเสียงคล้ายประทัดยักษ์ ภายหลังจากการ์ดอาสาพันธมิตรฯ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ไม่พบเห็นความเสียหาย

ต่อมาเวลาประมาณ 04.00 น.มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด บริเวณถนนข้างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ติดกับโรงเรียนเบญจมบพิตร เมื่อการ์ดพันธมิตรฯ เข้าตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ต่อมามีเสียงปืนดังขึ้น 2-3 นัด บริเวณถนนอีกด้านของคลองตรงข้ามกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุเดิม โดยการ์ดพันธมิตรฯได้ตะโกนให้ทุกคนหมอบลง ขณะผู้สื่อข่าววิ่งหนีหลบเข้าไปภายใน ป.ป.ช.ทั้งนี้ เสียงที่ได้ยินคล้ายเสียงปืนและระเบิด ยังไม่ทราบว่าเป็นฝีมือของกลุ่มใด

ด้านกองกำลังบูรพาจับกุม นายชนาธิป เกิดแกร อายุ 26 ปี และ นายสรพงษ์ สิงห์โคตร อายุ 32 ปี บริเวณแนวชายแดน ต.ท่าข้าม อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ทั้งคู่ให้การว่าเป็นการ์ดพันธมิตรและเสพยาบ้าจริง จากการตรวจค้นพบผ้าโพกหัวสีเหลือง มีรูปธงชาติไทย และ เขียนว่า 5 พันธมิตรกู้ชาติ จำนวน 1 ผืน, ผ้าโพกหัวสีเหลืองผืนเล็ก เขียนว่า กู้ชาติ อีก 1 ผืน พร้อมปืนปากกา อีก 1 ด้าม

8 พ.ย. 51 เวลาประมาณ 04.40 น. คนร้ายปาระเบิดเข้าใส่เต็นท์นอน นักรบอิสระ 9 ในที่ชุมนุมของพันธมิตรฯ บริเวณสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี ห่างเวทีปราศรัยประมาณ 250 เมตร แรงระเบิดทำให้เกิดหลุมลึกประมาณ 10 ซม. กว้าง 20 ซม. มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือนายเมธี อู่ทอง มีบาดแผลบริเวณหน้าผากด้านซ้าย และบริเวณหน้าอก ถูกส่งตัวไปรักษาตัวต่อที่ รพ.วชิระพยาบาลและย้ายไปที่ รพ.จุฬาลงกรณ์

9 พ.ย. 51 สายตรวจ สน.สามเสน จับนายธนิต ขันอุไร อายุ 28 ปี และนายวัฒนา กิจพิทักษ์สิน อายุ 22 ปี พบลูกระเบิดและเครื่องกระสุนจำนวนมา  ประกอบด้วยระเบิดขว้าง เอ็ม 67 หรือระเบิดน้อยหน่า จำนวน 3 ลูก ระเบิดทำเอง ขนาดกำมือ 1 ลูก ทั้งหมดถูกพันด้วยเทป  สีน้ำตาลอย่างแน่นหนา ระเบิดปิงปอง แบบมีชนวน 22 ลูก กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 20 จำนวน 4 นัด หนังสติ๊ก 3 อันพร้อมลูกแก้วและหัวนอต 116 ตัว บัตร รปภ.กองทัพธรรม เสื้อแจ๊กเกตสีดำ ด้านหลังปัก การ์ดกองทัพธรรมผ้าพันคอกู้ชาติสีเหลืองและสีฟ้าอย่างละ 1 ผืน

ต่อมาในวันที่ 10 พ.ย. พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ปฏิเสธว่า 2 คนดังกล่าวถูกปลดไป 10 กว่าวันแล้วเพราะมีนิสัยชอบใช้ความรุนแรง ส่วนนายสุริยะใส ระบุว่า การจับกุมชายฉกรรจ์ในครั้งนี้ เป็นความพยายามทำลายความน่าเชื่อถือของกลุ่มพันธมิตรฯ และเชื่อว่าตำรวจเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง เนื่องจากได้รับรายงานว่า ขณะนี้มีตำรวจเข้ามาซื้อตัวการ์ดอาสาบางส่วน และให้คนของฝ่ายพวกเขาแฝงตัวเข้ามา

10 พ.ย. 51 02.00 น. สายตรวจ สน.นางเลิ้ง จับกุมนายเกียรติศักดิ์ รักภู่ อายุ 35 ปี อยู่เลขที่ 87 หมู่ 8 ต.เขาค่าย อ.สวี จ.ชุมพร ค้นบริเวณข้างประตูขวาฝั่งคนขับ พบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 กระบอก มีดพับ 1 เล่ม ท่อนเหล็กกลมยาว 80 เซนติเมตร 1 อัน และบัตรอาสาสมัครการ์ดพันธมิตร 9 ใบ  ขณะตั้งด่านตรวจหน้าบ้านพิษณุโลก เขตดุสิต กรุงเทพฯ

ส่วนอีกราย เวลา 02.05 น. ขณะที่ตำรวจร่วมกับสารวัตรทหารตั้งด่านตรวจบริเวณปากซอยลิขิต ถนนศรีอยุธยา ตรงข้ามสหกรณ์พัฒนา ฝั่งวัดเบญจมบพิตรฯ กทม. พบรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็คไฮแลนเดอร์ 4 ประตู สีน้ำเงิน ทะเบียน ช 4917 กรุงเทพมหานคร มีพิรุธ ภายในรถมีชายวัยรุ่นมากันหลายคนจึงเรียกตรวจ พบนายกวียุทธ บุญทองแก้ว อายุ 33 ปี อยู่เลขที่ 5 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. เป็นคนขับ พร้อมเพื่อนในรถอีก 7 คน ค้นเบาะด้านหลังคนขับ พบอาวุธปืน .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 13 นัด และมีกระสุนบรรจุในลูกโม่พร้อมใช้งาน อาวุธมีด 2 เล่ม สายคาดเอว 1 เส้น ผ้าคาดศีรษะมีข้อความ "กู้ชาติ" 1 ผืน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนทราบว่า อาวุธปืนมีทะเบียนถูกกฎหมายแต่ไม่ใช่ของนายกวียุทธ รวมทั้งไม่มีใบพกพาและใบอนุญาต จึงคุมตัวนายกวียุทธส่งพนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ดำเนินคดีข้อหาพกพาอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาต

11 พ.ย. 51 เวลาประมาณ 03.25 น. เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่บริเวณเต็นท์พันธมิตรฯห่างจากเวทีปราศรัย เยื้องไปทางขวามือเพียง 50 เมตร จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าขว้างระเบิดเข้ามา แล้วตกบนหลังคาเต็นท์ของผู้ชุมนุมก่อนเกิดการระเบิด มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 3 ราย เหตุการณ์ครั้งนี้การ์ดพันธมิตรฯ จับผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน และมอบให้ตำรวจ สน.ดุสิตนำตัวไปสอบสวน

13 พ.ย. 51 ตำรวจภูธร จ.ระยอง นำหมายค้นของศาล จ.ระยอง เข้าตรวจค้นเป้าหมาย 8 แห่ง ได้ผู้ต้องหารวม 14 คน พร้อมอาวุธปืนสงครามอาวุธปืนสั้น จำนวน 15 กระบอก กระสุนอีกกว่า 100 นัด พร้อมยาบ้ากว่า 900 เม็ด โดยหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นการ์ดของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่ร่วมกับเพื่อนอีก 3 คน กำลังผลิตอาวุธปืนอยู่ในสวนยางพาราหมู่ที่ 9 ต.บ้านนา อ.แกลง และถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุมและยึดอุปกรณ์การผลิตอาวุธพร้อมกับอาวุธปืนอาก้า ปืนกลมือ และปืนสั้น รวม 13 กระบอก

 

 
พล.อ.ปฐมพงศ์ เกษรศุกร์ พาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบจุดเกิดเหตุระเบิดเมื่อ
20 พ.ย. ที่ผ่านมา
(ที่มาของภาพ
: ผู้จัดการออนไลน์)

 

20 พ.ย. 51 เวลา 03.25 น. คนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่เต็นท์ของผู้ชุมนุมในทำเนียบรัฐบาลห่างจากเวทีปราศรัยเพียงแค่ 15 เมตร ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บทันที จำนวน 23 ราย อาการสาหัส 2 ราย และเสียชีวิต 1 รายในเวลาต่อมา คือ นายเจนกิจ กลัดสาคร ชาวจังหวัดชลบุรี

และล่าสุด 22 พ.ย. 51 เวลา 02.00 น. มีเหตุระเบิดบริเวณแยกสวนมิสกวันทำให้การ์ดพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รับบาดเจ็บ 8 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย

 

000

23 พ.ย. สัญญาณมฤตยู

สถานการณ์ตกอยู่สภาพตั้งรับกับปัญหาความชอบธรรมของพันธมิตร ชนิดที่สุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานพันธมิตร ถึงกับออกปากระหว่างการปราศรัยเมื่อ 20 พ.ย. ว่า เราอยู่ในจุดที่อาจจะเรียกได้ว่าเรามองเห็นธาตุแท้ของสังคมไทยเกือบจะรอบด้านแล้ว ว่าจริงๆ แล้วประเทศนี้ที่มันพัฒนาช้าเหลือเกินเพราะคนในสังคมส่วนใหญ่ขาดความกล้าหาญ โดยเฉพาะความกล้าหาญทางจริยธรรม [26]

สถานการณ์ทางธุรกิจของเครือผู้จัดการที่ไม่ได้มีสภาพดีมากนัก หลังจากศาลแพ่งมีคำสั่งเมื่อบ่ายวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ให้บริษัทแมเนเจอร์ มีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ล้มละลายเนื่องจากไม่สามารถดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลเห็นชอบได้ โดยศาลไม่เห็นชอบไม่ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูตามที่ผู้บริหาร แผนยื่นคำร้อง ในขณะที่มีเจ้าหนี้ยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ 359 ราย เป็นจำนวนหนี้ที่ขอรับชำระหนี้กว่า 4,726 ล้านบาท ทำให้ต้องเปลี่ยนหัวหนังสือพิมพ์จากผู้จัดการเป็น รายงานข่าวการชุมนุมของพันธมิตรผ่านเอเอสทีวีโดยทีมงาน ผู้จัดการ’’ และ ‘ASTVผู้จัดการรายวัน

เป็นสถานการณ์ที่สนธิเองต้องกล่าวบนเวทีปราศรัยเมื่อ 19 พ.ย. ว่าเขาต้องอมเลือด ส่วนเจ้าหนี้ก็ ไม่มีแม้กระทั่งขี้จะให้กำ [27] [28] สรุปแล้วนับตั้งแต่เคลื่อนไหวไล่ทักษิณมาตั้งแต่ 4 ก.พ. 49 จนถึงเฟส 2 ใน พ.ศ. 2551 ก็ไม่มีวี่แววว่าเครือข่ายธุรกิจของนายสนธิจะได้อะไรเป็นกอบเป็นกำ

แถมใกล้จะถึงวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งมีทั้งพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณตนและสวนสนามของทหารรักษาพระองค์ที่ลานพระบรมรูปทรงม้า โดยเฉพาะการมีพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิตฯ ประจำวันที่ 4 ธ.ค. ของทุกปี ส่วนงานสโมสรสันนิบาตเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ที่จัดเป็นประจำที่ทำเนียบรัฐบาลก็ย้ายไปจัดที่หอประชุมกองทัพเรือแทน สถานการณ์นี้ไม่เป็นผลดีกับการชุมนุมแบบยืดเยื้อกลางกรุงของพันธมิตรฯ

ดังนั้นสถานการณ์ ระเบิดกลางเวทีพันธมิตร ที่ทำให้ผู้ชุมนุมพันธมิตรสูญเสียเป็นใบไม้ร่วงชนิดที่   พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่อาจอดทนต่อรัฐบาลฆาตกรที่เข่นฆ่าประชาชนทุกวัน อย่างอำมหิตโหดเหี้ยม และไม่อาจยอมรับสภาทาสของระบอบทักษิณได้อีกต่อไป[29] จึงเป็นองค์ประกอบหนึ่ง ไม่ใช่องค์ประกอบหลักของการประกาศชุมนุม เผด็จศึก ม้วนเดียวจบ’ 23 พ.ย. 2551 เวลา 14.00 น.

ไม่ว่าเงื่อนไขนั้นจะเกิดขึ้นเองหรือถูกสร้างขึ้น พันธมิตรก็สามารถประกาศ สงครามครั้งสุดท้าย’ ‘เช็คบิล กระโจนสู่การ เผด็จศึกหรือ ม้วนเดียวจบ เพราะการชุมนุมที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม จนถึงวันนี้เป็นวันที่ 180 แล้ว หลายๆ ปัจจัยที่หนุนเสริมการเคลื่อนไหวของพันธมิตรเปลี่ยนไป เป็นที่เข้าใจได้ว่าความชอบธรรมในการเคลื่อนไหวของพันธมิตร 'เฟส 2' ณ พ.ศ. นี้ ก็ต่างจากที่เคยมีสมัยเคลื่อนไหวใน เฟส 1’ ณ พ.ศ. 2549 อย่างยิ่ง จึงต้องหาทาง 'ปิดเกม' ทุกครั้งเมื่อมีโอกาส

แต่โดยกำลังลำพังของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยไม่อาจโค่นรัฐบาลพลังประชาชนได้

โดยการยึดสถานที่ราชการ ยึดทำเนียบรัฐบาล หรือจะปิดล้อม กระทั่งยึดรัฐสภาเพื่อไม่ให้อำนาจนิติบัญญัติทำงานได้ ก็ไม่เป็นเหตุผลให้รัฐบาลพลังประชาชนต้องออกไป

พันธมิตรจะชนะเบ็ดเสร็จได้ จำเป็นอย่างยิ่งต้องมี อำนาจอื่น

อย่างที่ปานเทพ วงศ์พัวพัน โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้แถลงข่าวประจำวันที่ 5 พ.ย. โดยระบุว่าที่ประชุมแกนนำพันธมิตรเรียกร้องให้ทหารทำหน้าที่ของตัวเอง และทำตามคำสัตย์ปฏิญาณที่ให้ไว้ต่อธงชัยเฉลิมพลและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว [30]

อย่างที่ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเลขาธิการสมัชชาประชาชนแห่งประเทศไทย (สปท.) ได้เข้ายื่นหนังสือเปิดผนึกถึง พล.ท.คณิต สาพิทักษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ขอให้กองทัพจัดการกับรัฐบาลกบฏ [31]

แต่จะเข้าเงื่อนไขนั้นได้ต้องมีสถานการณ์พิเศษ

แผ่นดินต้องลุกเป็นไฟ เลือดต้องนองแผ่นดิน’!?

สนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัยเมื่อคืนวันที่ 20 พ.ย. [32] ว่าถ้างวดนี้ มีการใช้ความรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง พี่น้องครับ พี่น้อง พ่อแม่พี่น้องทั่วประเทศไทย ต้องลุกฮือขึ้นมาแล้วให้เลือดนองแผ่นดิน

เขายังย้ำดัวยว่า ผมจะบอกให้พวกสัตว์นรกรู้ ว่างวดนี้ถ้าประชาชนเขามา เขามาพร้อม ของ กันหมด

ของที่สนธิพูดคืออะไร อาวุธหรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่แึ่ึค่พก มือตบ”!

สัญญาณ มฤตยูเช่นนี้ ย่อมบอกให้รู้ว่า ถ้าฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐใช้ความรุนแรง การตอบโต้ต้องมากกว่าระดับการตอบโต้ด้วยท่อนไม้ ท่อนเหล็ก หนังสติ๊ก และปืนพก แบบวันที่ 7 ต.ค. และความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นต้องมากกว่า 7 ต.ค. แน่นอน

มันนึกว่าเราทำเป็นแค่ถักนิตติ้งหรือไงวะ พี่น้องเข้มแข็งเอาไว้ แล้วพี่น้องที่ฟังผมพูดอยู่ทั่วประเทศไทย งานนี้คืองานเผด็จศึกจริงๆ พี่น้องต้องมากันให้หมด พี่น้องต้องมา ถ้ามันล้อมเรา พี่น้องที่มาก็ล้อมมันอีกชั้นหนึ่ง

ส่วนสุริยะใส กตะศิลา ย้ำว่า นี่เป็นสงครามอันศักดิ์สิทธิ แพ้ไม่ได้ ผมไม่อยากให้เราพูดว่า เราสู้มาเต็มที่แล้ว แพ้ช่างมัน ประเทศไม่ใช่ของเรา เราต้องบอกว่า เรายอมตายและยอมเสียทุกอย่างเพื่อชาติบ้านเมือง 23 พ.ย. เราต้องออกมา

สงครามครั้งสุดท้ายไม่ใช่แค่จัดการระบอบทักษิณและรัฐบาลนอมินีเท่านั้น แต่ว่าเราถูกบีบให้เราทำสงคราม แต่เป็นสงครามที่โหยหาสันติภาพ และเสรีภาพ สัจจะและความจริง ตลอดเวลา 6 เดือน หรือย้อนไป 2-3 ปีของการต่อสู้ในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เราทำสงครามด้วยความจริงและสัจจะ 23 พ.ย. ก็เช่นกัน เป็นสงครามที่กำลังจะเอาความจริงมาพูดกันว่า ถ้าเราจัดการรัฐบาลนอมินีไม่ได้ ถ้าเราเช็คบิลรัฐบาลทรราชไม่ได้ เราไม่สามารถหยุดสงครามได้

ฉะนั้นม้วนเดียวจบในวันที่ 23 พ.ย. จึงเป็นการทำสงครามครั้งสุดท้ายเพื่อรักษาสันติภาพ เพื่อสร้างความสมานฉันท์ให้บ้านเมือง เพราะว่าถ้าเราปล่อยให้รัฐบาลชุดนี้อยู่ต่อไปจะทำให้เขี้ยวเล็บของระบบอบทักษิณงอกเงยขึ้นและขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนที่เป็นอยู่ ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องกลับมาพุ่งเป้าที่รัฐบาลชุดนี้ ถ้ามีเหตุจำเป็นต้องไปปิดทำเนียบที่ดอนเมืองก็ต้องไป เอาเป็นว่า 23 พ.ย. มีงานทำกันทุกคน[33]

สนธิบอกแล้ว ถ้ากลัวไม่ต้องมา งานนี้ขอร้อง ผู้หญิงและคนแก่อยู่แถวหลัง

คงต้องคิดให้ดีก่อนจะออกบ้านไป เลือดนองแผ่นดินแบบ ม้วนเดียวจบ ตามประกาศิตของท่านแกนนำผู้หยั่งรู้ฟ้าดินผู้นี้ เพื่อสงครามผลประโยชน์ของใคร?

สุดท้าย โปรดอ่านปากคำของสนธิในการปราศรัยวันที่ 9 ต.ค. อีกครั้ง และหวังว่าสนธิเองจะจำคำพูดของตัวเองและฉุกคิดได้ ก่อนที่จะ ถ่ายทำจริงในยุทธการ เผด็จศึก ม้วนเดียวจบ’ 23 พ.ย.

เพื่อที่จะได้ไม่มีใครต้องสูญเสียไปมากกว่านี้

 พี่น้อง ขอให้พี่น้องเข้าใจผม ผมไม่ใช่เป็นคนขี้ขลาดพี่น้อง พี่น้องอยากลุย ถ้าผมเพียงแต่ประกาศว่า พี่น้องเราตายเพื่อชาติบ้านเมือง ทุกคนใครมีปืนที่บ้าน เอามา ทั่วประเทศไทย เผามันให้หมด ยิงมันให้หมด ให้เลือดมันนองแผ่นดิน พี่น้อง ผมจะเป็นคนบาปของแผ่นดินพี่น้อง บาปของแผ่นดิน ผมตายไป ยังไม่เสียใจเท่ากับ ผมจะทำให้พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้านั้น ทรงเสียพระทัยเป็นอย่างยิ่งที่ชาติบ้านเมืองมันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา[34]

อ้างอิง

[1] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14522
[2] http://www.prachatai.com/05web/th/home/12560
[3] http://www.prachatai.com/05web/th/home/13287
[4] mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Sondhi_061008_H.wmv
[5] mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Sondhi_071008_H.wmv
[6] mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Sondhi2_071008_H.wmv
[7] http://www.prachatai.com/05web/th/home/13985
[8] mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Sondhi3_071008_H.wmv
[9] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14127
[10] http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000123816
[11] http://blogazine.prachatai.com/user/headline/post/1369
[12] เว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ, 2 พ.ย. 51
[13] ข่าวสดรายวัน, 11 ต.ค. 51, น.1
[14] มติชนรายวัน, 14 พ.ย. 51, น.3
[15] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14228
[16] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14237
[17] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14285
[18] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14256
[19] http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000129152
[20] http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9510000136798
[21] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14401, http://www.prachatai.com/05web/th/home/14441
[22] http://www.youtube.com/watch?v=cqOy_jShU04
[23] http://www.youtube.com/watch?v=eAsPsGrfXbE
[24] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14304
[25] ที่มาของข่าวบางส่วน มติชนรายวัน, 5 พ.ย. 51, น.12,

http://www.prachatai.com/05web/th/home/14278,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14284
,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14286
,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14287
,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14304
,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14412,%20%20http://www.prachatai.com/05web/th/home/14423,%20%20http://www.prachatai.com/05web/th/home/14426,%20%20http://www.prachatai.com/05web/th/home/14521,%20%20http://www.prachatai.com/05web/th/home/14539,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14423,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14426,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14521,
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14539,
[26] mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Suriyasai_201108_H.wmv
[27]
http://www.prachatai.com/05web/th/home/14520
[28] mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Sondhi_191108_H.wmv
[29] http://www.prachatai.com/05web/th/home/14522
[30] เว็บไซต์คมชัดลึก, 5 พ.ย. 51
http://www.komchadluek.com/2008/11/05/k001_229720_report.php
[31] มติชน, 14 พ.ย. 51
[32]
mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Sondhi_211108_H.wmv
[33] mms://tv.manager.co.th/videoclip/11News1/Footage/Suriyasai_201108_H.wmv
[34] http://blogazine.prachatai.com/user/headline/post/1369

หมายเหตุ
เผยแพร่ส่วนแรก 22 พ.ย. เวลา 11.00 น. เผยแพร่ตอนจบ 22 พ.ย. เวลา 18.00 น.

ความเห็น

Submitted by K on

พจนานุกรมฉบับพันธมิตร 2551

สุดท้าย (adj.) : ยังไม่เป็นที่สิ้นสุด, อนุมานได้ว่ามีต่อ
ตัวอย่างเช่น

สงครามครั้งสุดท้าย - สงครามที่จบไม่ลง สงครามที่ยังมีต่อ
สุดท้ายของสุดท้าย - ยังไม่เป็นที่จบ

ม้วนเดียวจบ ก็คงเชื่อได้ว่า คงจะหาเหตุให้ยืดเยื้อต่อไป สมดังพจนานุกรมนี้แล

Submitted by อู๊ด บางกรวย on

จะจบหรือไม่จบ มันไม่ได้ขึ้นอยุ่กับพธม.เลยสักนิด พธม.มีหน้าที่แค่สะกิดให้มึงลุกออกจากเก้าอี้และไปให้ใกลได้แล้ว ถ้ามันลุกไปเรื่องมันก็จบ แต่มันไม่ทำนะซิ แถมมาหาเรื่องพธม.ให้อีก เรื่องมันก็เลยไปกันใหญ่ มันเปรียบเหมือนคนในบ้านทะเละกันถ้าทะเลาะกันเล็กน้อยแล้วเข้าใจกันก็ปรับเข้าหากันได้มันก็จบ แต่นี่ยิ่งพูดยิ่งเป็นเรื่องเสียงกลับดังมากขึ้น จนข้างบ้านใด้ยินชาวบ้านลุกขึ้นมาดูกันเต็มไปหมด ดูว่าจะจบอย่างไร มีเลือดมีเนื้อเกิดขึ้นไหม ขณะที่ทะเลาะกันอยู่ ไอ้เพื่อนข้างบ้านก็มาขโมยของบ้าง ขยับรั้วให้กว้างขึ้นบ้าง เพราะมันมัวแต่ทะเลาะกันจึงไม่ได้สนใจบริเวณรอบๆบ้านเลย เสร็จเขาไปหมดทุกอย่าง แย่จริงๆ ผิดแล้วยังไม่ยอมรับผิดอีกนะ นายสมชาย

Submitted by วิชัย on

นายทุนเป็นเจ้าของพรรคการเมือง (พรรคการเมืองนายทุนเป็นเจ้าของ)

ฤา ประชาธิปไตยไทย มีเพียงแค่คูหาเลือกตั้ง ดั่งเป็นเพียงพิธีกรรมประชาธิปไตย เนื้อหาคุณค่าถึงประชาชนแทบไม่มี เลือกแล้วให้สิทธิขาดจนครบวาระ ตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้งส่วนหนึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในท้องที่ เป็นคหบดีเงินถุงเงินถังซื้อเสียงเข้าสภาได้อย่างง่ายดาย ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยศิวิไลซ์ ประชาชนบริจาคเงินให้นักการเมืองให้พรรคการเมือง แต่ประเทศที่มีแต่พิธีกรรมประชาธิปไตยมีแค่คูหาเลือกตั้ง นักการเมืองหรือพรรคการเมืองบริจาคเงินให้ผู้มาลงคะแนนเสียงให้ เมื่อการเมืองไทยมีต้นทุนสูงการถอนทุนคืนจึงมีตามมา ยิ่งได้อำนาจรัฐอำนาจบริหาร ก็ยิ่งกอบโกยถอนทุนกลับหนักหน่วง

ยิ่งนายทุนเป็นเจ้าของพรรค มีพฤติกรรมออกเงินทุนมาก สมาชิกในพรรคจึงเป็นเพียงมือเท้าที่ต้องยกให้ตามที่เจ้าของพรรคสั่งต้องการ ไม่มีอิสระในการตัดสินใจแก้ไขปัญหาของชาติ กลายเป็น ส.ส.มาแก้ไขปัญหาให้เจ้าของพรรคได้ถอนทุนคืน หรือออกกฎหมายแก้กฎหมายเอื้อประโยชนต่อตนเอง

โดยเจ้าของพรรคการเมืองนั้นๆก็ตอบสนองทดแทนคุณต่างตอบแทนด้วยตำแหน่งหน้าที่ เงินเดือนพิเศษนอกเหนือจากเงินเ

Submitted by พันธม้วย on

" หมา เห่า ใบ ตอง แห้ง " = ไม เป็น แก่น สาร สาระ

เชื่อ ไม่ ได้ ยาง เบา ยิ่ง กว่า ขน นก

Submitted by ธนู on

ม้วนเดียวจบ..คนแรกที่พูดคือพลเอกสพรั่ง ความหมายคือการรัฐประหารล้มรัฐบาล ขุนศึกเห็นว่าการรัฐประหารนั้นง่ายมาก การเมืองในระบอบรัฐสภาของเราจึงล้มลุกคลุกคลานมาตลอด ในรอบ76ปีที่เปลี่ยนแปลงการปกครองจึงเต็มไปด้วยการรัฐประหารมาตลอดเส้นทางอันแสนขรุขระของประชาธิปไตยของไทย

14 ตุลาคม2516 มีการสร้างสถานการณ์....ในขณะที่ผู้ชุมนุมเลิกการประท้วงแล้วถูกตีในคืน13ตุลาคม2516 เช้า14ตุลาคม2516 หน่วยพิเศษถูกส่งมาปฏิบัติการสร้างสถานการณ์ยิงประชาชนจากตึกสูง
23พ.ย.2551 จะมีการสร้างสถานการณ์หรือเปล่า?

Submitted by พันธมิตร พิชิตแดง on

คนอย่างพันธมิตรไม่มีทางเป็นหมาเห่าใบตองแห้งอย่างแน่นอน และไม่กลัวตายด้วย ตัวต่อตัวเสื่อผ่าไม่เกี่ยวยังได้ เจอแก๊สน้ำตา เจอแก๊สพิษ เจอระเบิด เจอM79 เจอกระบองของตำรวจ กระจอกมาก ถ้ากลัวป่านนี้ถอยทัพกลับบ้านไปนานแล้ว ไม่มานั่งอยู่เป็นเดือนๆหลอก ท่าน จำไว้

Submitted by ว ณ ปากนัง on

*พี่น้องครับหลับอยู่บ้านถิ่นฐานตน
ดีกว่าทนตากฝนทนแดดกล้า
อย่าให้เขาชี้ชวนป่วนพารา
การกระทำไร้ค่าน่าประณาม

*พี่น้องครับอย่าสดับรับฟังข่าว
สื่อปลุกเร้าเฝ้าระดมผูกปมหยาม
ดึงฟ้าสูงลงมา..พาคุกคาม
จุดไฟลามลุกไหม้ในบ้านเมือง

*ขอจงวางอุเบกขาพาสงบ
อย่าสยบพวกบ้าโพกผ้าเหลือง
เขาจะพาโศกสลดและหมดเปลือง
ไปกับเรื่องเสียหายทำลายล้าง

*ทำสงครามครั้งสุดท้ายมาหลายครั้ง
สิ่งที่พังคือบ้านเมืองเคืองหมองหมาง
ครั้งสุดท้ายของสุดท้ายไม่สุดทาง
ทุกก้าวย่างยิ่งเลือนรางแล้วพี่น้อง

Submitted by เด็กนนท์ on

ด้วยจิตคราวะครับ คุณ อาสา สุดยอดมาก

Submitted by อ้วน on

สงครามครั้งสุดท้าย ของสุดท้าย ที่สุดตลอดกาลของสุดท้าย สุดท้ายจริงจิงนะเออ ท้ายจริง ๆ ทะนิ่งนองนอย เอเอ๋ บ้าไปแล้ว

Submitted by ปัญญา รุ่งทอง on

ขอประณาม แกนนำ "ม็อบมีเส้น" ทุกคน
รวมทั้ง ผู้ให้ท้ายอยู่เบื้องหลัง
23 พ.ย. 2551 กำราบพวกกบฎ ให้สิ้นซาก
บ้านเมืองจะได้เข้าสู่ภาวะ "สันติภาพ" สักที

Submitted by ถึง455 on

คุณคงจะเป็นคนที่หมกมุ่นในเรื่องอย่างว่าจนได้จินตนาการออกมาอย่างนี้ น่าจะระบายความใคร่ในห้องน้ำจะดีกว่านะ รู้จักอับอายคนอื่นบ้าง

Submitted by ถึง ธรรม on

เสื้อเหลืองต่างหากที่โง่ ถูกไอ้ลิ้มหลอกสารพัดเพื่อให้เกลียดทักษิณ จนไอ้ลิ้มเคยเผลอหลุดปากในASTV ว่า "หลอกให้ประชาชนขับไล่พ.ต.ทักษิณ ไปแล้ว....." ก็ยังโง่ให้มันหลอกต่อไป คนไม่โง่เขาจะต้องติดตามข้อมูลที่หลากหลายและรู้จักคิดอย่างมีวิจารณญาณ ว่าเรื่องที่แท้จริงคืออะไร ไม่เป็นเหยื่อให้คนอื่นมาหลอกใช้ประโยชน์จากตัวเอง แล้วจะค่อยๆขยายความให้สมองเล็กๆของคุณได้ขยับขยายบ้างนะ สมเพศค่ะ

Submitted by ถึง ธรรม(ต่อ) on

1. มีหลักฐานอะไรที่ว่าทักษิณส่งเงินมาใช้ทำร้ายประชาชน เสื้อแดงชุมนุมอย่างมีอารยสุภาพ ปราศจากอาวุธ เป็นช่วงสั้นๆแล้วก็แยกย้ายกลับบ้าน ไม่เหมือนเสื้อเหลืองปิดถนนชวนกันปิดสนามบินตัดน้ำตัดไฟ มีอาวุธทำร้ายคนที่ผ่านไปใกล้ชวนกันไปปิดล้อมที่ต่างๆจนคนเขารังเกียจไปทั่วแล้วยังไม่สำนึกอีก (ใครกันแน่ที่ทำร้ายประชาชน)
2.คำกล่าวอ้างว่าทักษิณจะล้มล้างสถาบัน ใครเชื่อก็โง่แล้ว ถ้าจะล้มจริงเขาจะจัดงาน60ปีแห่งการครองราชย์ทำไม งานนี้พยายามจัดให้พระองค์ท่านดูดีที่สุดเท่าที่จะทำได้โดยแสดงนิทรรศการต่างๆที่แสดงถึงพระปรีชาสามารถและการอุทิศตนของท่านต่อประชาชน ทักษิณไม่โง่อย่างคุณที่ไม่รู้ว่าการทำให้สถาบันดูดีไปทั่วโลกแล้วจะเป็นการลำบากยิ่งขึ้นถ้าจะล้มล้าง
3.พวกเสื้อแดงนิยมทักษิณเพราะทักษิณทำประโยชน์ให้กับประเทศ (ทำให้หนี้IMF 470000 ล้านบาทหมด ทำให้เงินคงคลังที่ปชปเหลือให้หมื่นกว่าล้านบาทกลายเป็น 2200000 ล้านบาท)
ทำให้ประชาชนมีสวัสดิการต่างๆมากมายชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น ยังกล้าเสี่ยงตายขัดผลประโยชน์ที่ผิดกฏหมายต่างๆเพื่อให้ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้น
อย่ากล่าวหาอย่างโคมลอยโดยยืมสำนวนชั่วๆของศาสดาโกเต็ก

Submitted by ว ณ ปากนัง on

*หมาตาขวาง อ้างเป็นยาม เฝ้าแผ่นดิน
เห่าไปสิ้น ใครต่อใคร ไม่เลือกหน้า
คนในบ้าน ยังไล่ฟัด กัดบาทา
เป็นหมาบ้า หมาร้าย ไม่ให้คุณ

*เจ้าของบ้าน จึงรำคาญ ในเสียงเห่า
เสียงปลุกเร้า อย่างหมา พาหัวหมุน
ยิ่งหมาพา กัดดะ จะว้าวุ่น
อย่าการุญ หมาบ้า อย่าเชื่อมัน

Submitted by ว ณ ปากนัง on

*ขบวนการ ตัดปะ วาทกรรม
พูดกับทำ ขัดกัน มั่นเสมอ
สรรหาคำ มาใช้ ได้เพ้อเจ้อ
เฝ้าพร่ำเพ้อ หลอกลวง ประชาชี

*เมื่อไม่ได้ ดั่งใจ ให้โกรธา
เหมือนหมาบ้า พิโรธ โกรธเต็มที่
หันไล่งับ ไล่กัด ซัด “คนดี”
หมากาลี ร้อนเร่า เผาแผ่นดิน

เอาเลยกัด เข้าไป จะได้รู้
อย่าเพียงขู่ หากิน หมิ่นไปสิ้น
หากไม่กัด จะเหมือนหมา เห่าหากิน
กรรโชกเขา ทั่วแผ่นดิน จินดาร้าย

*แท้จริงเจ้า แสนกลัว สันติภาพ
กลัวผลบาป ของตัว พาหัวหาย
กลัวฝูงชน เลิกคลั่ง สั่งไม่ได้
กลัวในผล สุดท้าย เจ้าตายเอง

*ออกอาการ หมาบ้า กระหายน้ำ
ไม่ตีซ้ำ ก็ต้องตาย หงายท้องเก๋ง
คนเขาหลบ หลบไป ใช่กลัวเกรง
ปล่อยให้ตาย ตามเพรง แห่งบาปกรรม

Submitted by thaiman on

มันชั่งน่าเวทนาจริงๆนะครับที่เห็นคนไทยหลายคนที่แยกไม่ออก คิดไม่ได้ มองไม่เห็นว่าอะไรจริง อะไรโฆษณาชวนเชื่อ เพราะการกล่อมซ้ำ ใช้เทคนิควิธีการ ปจว. ที่นักจิตวิทยาทุกคนรู้....จำไว้นะครับ...คุณสนธิไม่เคยทำอะไรเพื่อคนอื่น ไม่เคยนิยมศรัทธาระบอบขุนนางศักดินาเลยและรังเกียจระบอบกษัตริย์อย่างที่สุด..ทั้งหมดคือการทำมาหากิน..ของคุณสนธิ โดยนำเอาจุดอ่อนของคนไทยมาใช้คือ..ไม่กล้าคิดต่าง ชอบทำตามกันโดยไม่เคยวิเคราะห์เองต้องมีผู้ชี้นำ เชื่อและศรัทธาอะไรก็ได้โดยไม่ต้องมีเหตุผล ออ่นด้อยเรื่องการมองภาพรวมและไม่ถนัดการทำงานเป็นทีม (ถนัดการตามมากกว่า) ที่น่าเวทนามากก็ตรงที่ไม่ทราบแม้กระทั่งว่าตนเองตกเป็นเหยื่อเพราะการอยู่ตรงนั้นไม่มีโอกาสได้คิดเลย หลายคนรับเงินเพื่อมาชุมนุม หลายคนเกียจทักษิณเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว หลายคนมาเพราะมีข้าวกินมีตังค์ใช้และดูมีความสำคัญกว่าการไช้ชีวิตปกติ โดนกล่อมหนักๆเข้าก็เชื่อถือศรัทธา..ทั้งสามกลุ่มนี้จะรู้สึกตัวอีกที่เมื่อที่บ้านเริ่มมีปัญหา ได้รับบาดเจ็บ หรืออาจจะไม่รู้ตัวเลยจนตาย...มันช่างน่าสงสารจริงๆที่ปลาเหล่านี้ไม่มีโอกาสที่จะรู้ด้วยซ้ำว่าแม่น้ำที่อยู่นอกอ่างปลานั้นเป็นอย่างไร

Submitted by คนอีสาน on

ผมว่าแยกประเทศให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยครับ เพราะระบอบประชาธิปไตยหนึ่งคนก็มีค่าหนึ่งเสียงเท่ากันไม่ว่าจะเป็นผู้ดีหรือสามัญชน หากไม่เคารพเสียงส่วนใหญ่แบบนี้ก็ไม่ต้องอยู่ด้วยกันแล้วครับ เบื่อมากพวกไม่ยอมรับกติกายอมรับซะอย่างมากก็แค่สี่ปีแล้วก็เลือกตั้งกันใหม่

Submitted by บ่าวแดง on

หมาเห่า มันจะไม่กัดหลอก แค่ขู่ให้พวกใจเสาะกลัว
นี้ก็แค่งานเลี้ยงสังสรรค์ ให้พวกชิงหมาเกิดได้ดูเล่นๆ

Submitted by thaiman on

พี่น้องคนไทยทุกท่านครับ มาถึงนาทีนี้..นาทีที่เหล่าสาวกของแต่ละด้าน ขาดสติ พร้อมทำอะไรก็ได้ตามบัญชาของศาสดา ..ไม่มีใครเชื่อใครหรอกครับ ความมืดมอดทางปัญญาที่สั่งสมมานาน กับความออ่นด้อยในโลกกว้างจะนำพาประเทศของเรา......สิ้นชาติ....ยิ่งกว่าอิรักบวกอาฟกานิสถานเสียอีก การตายรายวันจะเป็นเรื่องปกติ คนที่ชักใยหรือนายทุนเขาไม่เดือดร้อนเท่าไหร่หรอกครับ ที่สำคัญแกนนำไม่ตายก่อนแน่นอน คนที่ลำบากคือพวกที่ถูกจูงทั้งหลายนะแหละ ฐานะทางเศรษฐกิจก็ลำบากอยู่แล้วยิ่งจะลำบากหนักเข้าไปอีก เมื่อถึงตอนนั้น..ที่เริ่มคิดได้.....ก็ถอยไม่ได้แล้ว มองดูเหตการณ์ในประเทศเพื่อนบ้านสิ ประชาชนลำบากแค่ใหน แต่พวกที่เป็นแกนนำ , ผู้นำ , ผู้ปกครองก็ยังเสวยสุขได้เหมือนเดิม ที่ลำบากคือประชาชน... แต่ถ้าดูดีๆมันก็มีโอกาสซ่อนอยู่มากมายเหมือนกัน...ไม่มีการเปลี่ยนแปลงไดไม่มีการสูญเสีย....เพียงแต่ว่าไครจะเป็นเหยื่อของใคร...เท่านั้นเอง มองให้กว้างๆ คิดย้อนไปไกลๆ ทำใจไห้มั่น ถ้าอยากตายอย่างวีรบุรุษของศาสดา.....เชิญเลยครับ เอากันให้ตายไปข้าง(zero sum) ถ้าพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่เหลือล่องรอยเดิมจริงๆ เชิญเลยครับ.. อย่าให้เหลือชาติ

Submitted by thaiman on

ถามจริงๆเถอะครับ ไม่รู้ตัวจริงๆหรือครับว่ากำลังทำอะไรกันอยู่ ทำไมไม่มองอะไรให้รอบด้าน มองให้ก้วางๆ ไกลๆ.. ดูอดีต ดูความเป็นมาและเป็นไป พัฒนาการของเหตุการณ์ตั้งแต่อดีตเมื่อ 60 กว่าปีที่ผ่านมาและพัฒนามาจนถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์มีตั้งหลายด้าน หนังสือ ข้อมูลใน net และสื่ออื่นๆมีให้ดูให้เรียนรู้มากมาย อย่าปิดหูปิดตาตัวเองสิครับ ถึงตาจะบอดก็ไม่จำเป็นที่จะคลำแค่หูแล้วบอกว่านั่นคือช้างทั้งตัว เปิดใจตัวเองแล้วคลำไปเรื่อยๆสิ คลำออกไปนอกเหนือจากที่ควาญช้างกำหนดหรือสั่งก็ได้นิ จะได้รู้จักช้างทั้งตัว ไม่มีใครเป็น perfectionist หรอกครับ อย่าไปจับเจอแค่ขี้ที่ติดก้นช้างแล้วบอกว่าช้างเหม็นทั้งตัว.มันมีตั้งหลายส่วน และที่สำคัญจะชั่วจะดีอย่างไรก็ขอให้คลำช้างทั้งตัวก่อน แล้วจะเลือกสรุปอย่างไรก็ขอให้ใช้สมองให้เต็มที่อย่าพึ่งสรุปตามที่ครวญช้างบอกเท่านั้น ใช้สติและปัญญาเยอะๆ สว่นจะรักใครชอบใครก็ขอให้เลือกด้วยตัวเองอย่างมีสติ เผื่อพลาดพลั้งเป็นอะไรไปจะได้ไม่เจ็บใจทีหลัง ถ้าจะต้องตายก็ขอให้ตายด้วยการตัดสินใจของตัวเองไม่ไช่เพราะถูกกำหนดจากครวญช้าง เพราะอย่างนั้นมันน่าสังเวชเกินไป เราเลือกที่จะเป็นได้เองครับ

Submitted by hato on

ให้เชื่อเถอะทักษิณพยาม ทำเพื่อตัวเอง จริง ๆ เพราะไม่ อย่างนั้น แล้วคนที่ รู้เรื่องความลับทักษิณเยอะ ๆ มันจะขับออกไป จากกลุ่มของมันถ้าไวใจไม่ได้ สักวันทักษิณพยายามลดพระราชอำนาจ ทำให้สถาบันด้อยคุณค่าลง จนหมดแรงศรัธาประชาชน

Submitted by thaiman on

ที่อยากจะบอกก็เพราะยังเห็นพี่ๆน้องๆเป็นคนไทยดว้ยกันอยู่ไต้กะลาใบเดียวกันเรียนประวัติศาสตร์ด้านเดียวมาด้วยกัน ถูกมอมเมาและกล่อมซ้ำมาดว้ยกัน ลองถามเพื่อนๆที่อยู่ข้างในทำเนียบสิครับ นอกเหนือจากสันติอโศก+ยะไสแล้วมีใครไหมที่เคยร่วมประท้วงกับพลตรีจำลองเมื่อเดือนพฤษภาปี35บ้าง กล้ายืนยันว่าแทบจะไม่มีเลย พวกที่ผ่านเหตุการณ์ปี35มาแทบจะไม่มีใครรว่มกับพลตรีจำลองอีกเลย นึกถึงเหตุการณ์เมื่อวันนั้นทุกคนยังสมเพสตัวเองไม่หายเลย..ไม่น่าโง่ได้ขนาดนั้น แรงแค้นของคน2คนที่มีอัตตาสูงและความคิดหลุดโลก เห็นความตายของเพื่อนร่วมชาติเป็นแค่ทหารเลว มือที่สามที่ออกมาสารภาพแล้วทั้งพัลลภและพวก จิ๋ว ประสงค์เหล่านี้ล้วนเป็นหมากที่ทำให้พวก.....ทหารเลว.....ที่ถูกจูงจมูกอย่างเราไม่กลัวตาย และก็ได้ตายสมใจไปเป็นร้อย ใครที่อยู่ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์วันนั้นจะรู้ดี แล้วเป็นไง.....ทั้ง สุจินดา จำลอง ปริญญา ประสงค์ พัลลภ ล้วนอยู่ดีมีสุขไม่มีใคร...ตาย...สักคน......ครั้งนี้ก็เชื่อว่าไม่แตกต่างแต่จะหนักกว่าเดิม เพราะในอดีตคนไทยไม่เคยแก้ไขปัญหาการเมืองได้โดยไม่มีการตาย ....เพราะถูกกำหนดมาแล้วจากครวญช้าง ...เอ้าใครพร้อมตายเชิญครับ

Submitted by thaiman on

เอ้า.. เชิญเลยนะครับพี่น้อง เอากันให้ตายกันไปข้าง อย่าให้เหลือเยื่อใยต่อกัน อย่าให้เหลือชาติไทยไว้ .ศาสดาสนธิก็ชี้นำแล้วนี่...ใครมีของก็เอาของออกจากบ้านมาด้วย.....มาช่วยกันทำลายชาติ เอาให้ย่อยยับ อย่าให้น้อยหน้าพวกอิรัก พวกเลบานอล เดี๋ยวเสียชื่อพี่ไทยหน้าโง่หมด ไอ้นั่นมันก็ชั่ว ไอ้นี่มันก็เลว มือที่สามเตรียมให้พร้อม จัดการให้ได้ตามนายสั่ง ไอ้พวกนี้ก็แค่ทหารเลว ตายไปร้อยสองร้อยคนก็ไม่เห็นเป็นไร คนโง่ๆอยู่ไปก็หนักแผ่นดิน เอาให้เลือดทว่มแผ่นดิน ใครขัดขวาง จัดการมันให้หมด....แล้วเดียวนายจะออกมาปิดงานเอง จบแล้วอิ่มหมีพีมันกันทุกคน หนี้สินเดี๋ยวเคลียร์ให้ ขอให้เกมจบเสียก่อน ...พร้อมหรือยังหละพี่น้อง

นี่แหละหนากบในกะลา ไม่รู้จักกระทั่งนกกระสา โง่ซ้ำโง่ซาก โง่จนเข้าสายเลือด.. มองอีกทีก็ดีเหมือนกันนะ จะได้ไปเกิดใหม่ เพื่อนๆเมื่อเดือนพฤษภา35 รออยู่ ไปกันหลายๆคนนะจะได้ไม่เหงา พาลูกพาเมีย ญาติพี่น้องไปด้วยนะ จะได้เป็นวีรบุรุษทั้งครอบครัว ไม่ไปเดี๋ยวเขาหาว่า..ชิงหมาเกิดนะเออ..ไปแล้วไปลับอย่ากลับมาเกิดเป็นกบอีกนะ ไปสู่ที่ชอบที่ชอบนะ ไม่ต้องเป็นหว่งศาสดา เดี๋ยวมีคนเคลียร์ให้ พวกกันทั้งนั้น

Submitted by Thought on

Last OFFER.
1. Tell PAD to hung themself in Govt house.
2. Surrender, we'll jail them for life.
3 Execute the LAST WAR, we will shoot them at the SPOT.

Submitted by Gneisenau on

ตามสบายกันเลยพี่น้อง อย่าลืมเขียนชื่อไว้ตามอวัยวะด้วยปากกาเคมีด้วยนะ เผื่อว่าแขนขาขาดขึ้นมาอย่างรอบที่แล้ว จะได้เก็บไปใส่โลง..เอ๊ย เก็บไปต่อให้ถูกคน

เจ๊ๆๆ ชุดดำน่ะ อย่าเพิ่งซักนะ เด๊วต้องไปวัดอีกหลายรอบเชียวล่ะ

Submitted by ลิ้ง2 on

ลิ้มมันหนักแผ่นดินจริงๆ คนทั้งแผ่นดินไม่เอามัน แต่มันก็ไม่สน
ถึงรัฐบาลลาออก มันก็ไม่จบหรอก
เพราะเลือกตั้งอีกพันครั้ง คนส่วนใหญ่ก็เลือกกลับมาอีก
นี่แหละเขาเรียกประชาธิปไตยของจริง ไม่ใช่แบบของลิ้ม
ในเมืออำนาจที่แท้จริงมาจากประชาชน
ลิ้มเลยพยายามเอา 70/30 การเมืองใหม่มาใช้(เพราะทำยังไงลิ้มก็แพ้ระบอบประชาธิปไตย)

แต่ความจริงแล้ว ที่ลิ้มก็ต้องการให้เกิดระบอบเจ้าขุนมูลนายเพราะ ต้องการพึ่งอำนาจเพื่อปลดหนี้ สร้างความร่ำรวยให้กับตัวเอง ก็เท่านั้นเอง.

พวกพันธมิตรที่ชุมนุมก็เป็นเพียงเครื่องมือ เพื่อใช้เบิกทางให้กับลิ้ม.
อย่าไปเกลียดชังพวกที่ไปชุมนุมเลย พวกเขาไม่ได้โง่ แต่โดน ASTV Propaganda ทุกวัน มันก็ต้องเป็นอย่างนี้แหละ(คนเกาหลีเหนือยังรักคิมเลยเพราะ โดน Propaganda ทุกวันเหมือนกัน).

Submitted by ปัญญา รุ่งทอง on

นับแต่วันนี้(24 พ.ย. 2551) เป้นต้นไป
ผมจะไม่ให้อภัย "ผู้ก่อการร้ายอนาธิปไตย(ผกอ.)" ในนาม "พันธมิตร ฯ" อีกต่อไป
และจะ ขอประณามและสาปแช่ง ตลอดกาล

Submitted by คนไทย on

สงครามครั้งสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ของสุดท้าย ฯลฯ

Submitted by ปัญญา รุ่งทอง on

ถึง
ปัญญาชนสยาม (และเครือข่าย)
ผู้ดีรัตนโกสินทร์ (และเครือข่าย)
ราษฎรอาวุโส (และเครือข่าย)
กวีรัตนโกสินทร์ ศิลปินเพื่อชีวิตและ เครือข่าย

30 อธิการบดี 40 ส.ว. องค์กรสิทธิ ฯ องค์กรสื่อ ฯ
สภานายความ กป.อพช. และเครือข่าย

จงออกมาปราม(ตัดไฟเสียแต่ต้นลม) ผู้ก่อการร้ายอนาธิปไตย(ผกอ.)
ให้หยุดการปิดล้อมรัฐสภา และการกระทำผิดกฎหมาย โดยพลัน !!!!
ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ "สลายการชุมนุม" ตามหลักปฎิบัติของสากลทั่วโลก "
ดีกว่าที่ จะมาออก"แถลงการณ์" เพื่อ ประณาม "รัฐบาล" หลังเหตุการณ์

Submitted by Prem on

สวัสดีค่ะ...วันนี้หญิงจอยยังคงรับหน้าที่ในชีพจรเว็บไซต์ของสยามสปอร์ต เราไปอัพเดทข่าวสารในวงการกีฬาพร้อมๆกันเลยค่ะ

@ เพิ่งจะมีข่าวดีให้แฟนๆสักหลาดชาวไทยได้ยินดีกันไม่นาน ว่า "เจ้าบอล" ภราดร ศรีชาพันธ์ จะกลับมาคัมแบ๊คลงสังเวียดหวดในมี.ค.ปีหน้าแน่นอน แต่ก็ยังเกิดเหตไม่คาดฝันเกิดขึ้น ล่าสุด โอกาสที่จะแขวนแร็กเกตและหันหลังให้วงการเทนนิสอาชีพในปีหน้ามีค่อนข้างสูง

@ หลังได้พยายามจับแร็กเกตลงคอร์ตซ้อมแล้ว แต่ยังพบว่าอาการเจ็บที่ข้อมือขวา ที่ทำให้ห่างหายไปจากสนามแข่งขันเทนนิสอาชีพนานกว่า 1 ปี ยังไม่หายขาด นอกจากนี้ยังมีผลกระทบถึงความมั่นใจ แม้ว่าจะเข้าฟิตเนสเพื่อเรียกความฟิตของร่างกายรอไว้พร้อมแล้วก็ตาม

@ และตัวของภราดร เองได้ตัดสินใจที่จะเลื่อนโปรแกรมการแข่งขันจากเดิมที่มีกระแสข่าวว่าจะใช้เวลาหวดทีมชาติชุดเดวิสคัพในเดือนมี.ค.ปีหน้า ระหว่างไทย กับ ออสเตรเลีย เป็นเวทีคืนสนามออกไปอย่างไม่มีกำหนด โดยเจ้าตัวย้ำว่าในเดือนมี.ค.นั้นอาจจะเร็วไปสำหรับความพร้อมของตัวเอง เพราะขณะนี้ยังไม่ได้จับแร็กเกตลงซ้อมอย่างเป็นจริงเป็นจัง

@ ยังไงพวกเราก็ยังเป็นกำลังใจให้ "เจ้าบอล" หาย

Submitted by หางเหลือง on

โกตั๊บ: มหา! ชุมนุมก็ยืดเยื้อ ยึดทำเนียบ ล้อมสภาก็ไม่ได้ผล ระเบิดตายไปก็หลายคน ไอ้ปื๊ดนัดแล้วก็ไม่มา แต่ ชายยังไม่ออก ระบอบทักษิณเหนียวแน่นจริง ๆ

มหาจำลวย: อหิงสา สงสัยจะใช้ไม่ได้เสียแล้ว ต้องมีสงครามครั้งสุดท้าย

พิภวย: ก็ไม่แน่นะมหา! ที่ท่านยอมเสียสละตนอดข้าวประท้วงจนเกือบตาย และทำให้สุจินดวยต้องลาออกเมื่อสิบกว่าปี นั่นนะน่าจะยังใช้ได้ แต่ครั้งนี้ต้องยกระดับ

โกตั๊บ + มหา: ??????

พิภวย: สงครามครั้งสุดท้ายนี้ แกนนำห้าหกคน ต้องเสียสละ หากต้องใช้ความรุนแรงจริง ๆ ขึ้นพวกเราต้องยอมตายก่อนใคร ๆ งานนี้สำเร็จแน่...

โกตั๊บ มหาจำลวย สุริยะดวย สมกวย สมดวย : @#$%%%^^*^%*^@#$$%^#@

Submitted by Hoy Yai on

อารมณ์โกรธเข้าประตูหน้า สติปัญญาก็โผออกประตูหลัง
โทษคนอื่นแก้ไขอะไรไม่ได้ โทษตนเองแก้ไขได้
คุณธรรมความดีไม่ได้อยู่ที่ลิ้น หากเก็บไว้ในใจ
การขอที่ไม่ต้องละอาย คือ ขอโทษ
การให้ที่ไม่ต้องออกอะไรเลย คือ การให้อภัย
เหลือทางถอยไว้ให้กับคนอื่น เท่ากับเหลือทางถอยไว้ให้กับตัวเอง
ขายไข่ปิ้ง ก็สุขได้ถ้าจิตใจดี ตำแหน่งใหญ่เป็นรัฐมนตรี จะสุขไหมถ้าใจโกง
อย่าถือดีกับคนที่นอบน้อม อย่านอบน้อมกับคนที่ถือดี
เลื่อนตัวเองขึ้น แต่อย่าลดคนอื่นลง
คนโง่เท่านั้นมักอวดตน เป็นคนฉลาด และ.. คนโง่มักแสดงตนให้ผู้อื่นเห็น ว่าตนเป็นผู้ฉลาดเสมอ
คุณธรรมความดีไม่ได้อยู่ที่ลิ้น หากเก็บไว้ในใจ
ดอกไม้งามทรามกลิ่น นกบินหนี ดอกกลิ่นดีหอมกาย หมายเข้าหา ดั่งเช่นคนรูปงาม ทรามวาจา ดูเถิดหนา ว่ามีใคร เขาหมายปอง

Submitted by พ่อกูดาบหัก on

ยุทธการม้วนเดียวจอด ของนายจำลอง ศรีเมือง

Submitted by doctor J on

โง่หรือแกล้งโง่

ผมไม่รู้จริงๆ ว่าคนเขียนบทความนี้"โง่หรือแกล้งโง่"

ใครๆก็รู้กันทั้งเมืองว่าพธม.ก่อหวอดปฏิวัติปี๔๙ได้ก็เพราะทักษิณทำตัวเอง agenda ที่พธม.จุดประกายเป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเห็นด้วย

แต่ครั้งนี้ agendaที่สนธิพยายามจุดมันไม่เป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ บางเรื่องก็ยังเป็นที่ถกเถียงด้วยซ้ำไป ดังนั้นถ้ารัฐบาลสมชาย ไม่สะดุดขาตัวเอง โดยการสร้างเรื่อง"เอี้ยๆ"ชนิดที่คนทั้งประเทศรับไม่ได้ ไม่มีวันที่สนธิจะปลุกกระแสคนทั้งชาติได้ ต่อให้ตอแหลon air จนริดสีดวงทวารสำรอกออกมาทางปาก ก็ปลุกไม่ขึ้น แล้วทหารหน้าไหนมันจะโง่พอออกมาปฏิวัติในสถานการณ์ที่ไม่สุกงอม นั่นมันฆ่าตัวตายชัดๆ

สรุปแล้วพธม.จะทำสงครามครั้งสุดท้ายได้จริงหรือไม่ รัฐบาลสมชายต่างหากเป็นคนให้คำตอบ

Submitted by พธม on

ม้วนเดียวจบจริงๆ แต่มันเป็นหนังม้วนยาว จบก็ต่อเมื่อลาออกหรือยุบสภา

Submitted by brownie on

เสียดายจังที่คนไทยส่วยใหญ่เป็นพุทธศาสนิกชนซะเปล่า แต่ดูแนวคิดและการกระทำแล้วไม่รู้จริงๆว่า สมอง หรือ ระบบการคิด หรือเป็นแค่เพียงในใบเกิดที่พ่อแม่ช่วยแจ้งให้เขตระบุให้

เกิด แก่ เจ็บ ตาย มันก็แค่นั้น เที่ยวนี้ก็ระวังกันดีดีหละ เดี๋ยวหาศพไม่เจอ ชิ้นส่วนไม่ครบ สงสารญาติที่อยู่ข้างหลังบ้าง ค่าเทอมลูกๆที่ยังคงติดค้างโรงเรียนเขาไว้หนะ ยังไม่ได้จ่ายเลย อีกตั้งหลายปีกว่าไอ้ตัวเล็กมันจะจบ มีการมีงานทำ ที่ลางานไปประท้วงบ่อยๆหนะ เจ้านายเขาเริ่มเพ่งเล็งแล้วนะ มือตบหรือเสื้อเหลืองก็ช่วยไม่ได้นะ เขายิ่งจ้องๆจะเอาคนออกอยู่ด้วย ระวังๆไว้บ้างนะ ถ้าตายไปก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าพืการมาใครจะดูแล เมียมันยังอายุไม่มาก คิดหรือว่ามันจะมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำ มันไม่มาจมปลักอยู่กับคนพิการหรอกนะ ถ้าห้ามใจไม่ไหวจริงๆ ก็ระวังตัวเองนะ อย่าไปฟังคนอื่นเขามากนัก คิดถึงความจริงของชีวิตเราเองบ้าง

Submitted by พธม on

ม้วนเดียวจบจริงๆแต่ม้วนมันยาว ถ้ายุบหรืออก ถึงจะจบ

Submitted by ว ณ ปากนัง on

*ตามสบายเถิดท่านพันธมิตร
พาบ้านเมืองวิปริตฤทธิ์ยิ่งใหญ่
ไม่ก่อเกิดสร้างสรรค์ประการใด
มีแต่ใฝ่ทำลายทุกประการ

*ทำสงครามครั้งสุดท้ายไปเรื่อยเรื่อย
รอจนเหนื่อยเรื่อยไปไร้รัฐประหาร
รัฐบาลยังอยู่อย่างทนนาน
จะล้างผลาญอย่างไรก็ไม่กลัว

*พฤติกรรมมุ่งหมายทำลายชาติ
ชิงบทบาทการนำสุดทำชั่ว
ด่าคนอื่นเรื่อยไปไม่ดูตัว
ว่าเมามัวชั่วช้ายิ่งกว่าใคร

*การต่อต้านการทำงานของรัฐบาล
จะสะท้านถึงปวงชนคนส่วนใหญ่
พาขัดเคืองลำบากและยากไร้
ส่วนพวกเอาแต่ไล่ไม่รับรู้

Submitted by เอกรินทร์ on

เตรียมตัวเถอะครับ เด็กรุ่นต่อไปจะเรียกประเทศตัวเองว่า.......ประเทศไทยเหนือ,ประเทศไทยไต้ แน่นอน เหมือน เกาหลี เยอร์มัน ก็เพราะสนธิเค้าบอกว่าพี่น้องชาวใต้เเละตะวันออกมากันให้เยอะๆมันจะแยกแผ่นดินชัดๆ น่ากลัวจริงๆ

Submitted by แมว on

ทดสอบ

Submitted by คนชายแดน on

อยากให้จบเหมือนกัน ไปรัฐสภาแล้วขึ้นรถกลับบ้านใครบ้านมันนะท่าน จำลองอยากจะไปบำเพ็ญภาวนาต่อ สนธิอยากเข้าวัดรักษาศีลข้อ 4 สมเกียรติคิดถึงนักศึกษา สมศักํดิ์อยากกลับไปสหภาพ พิภพต้องการไปดูแลหมู่บ้านเด็ก สุริยะไส อยากจิ้มแจ่วบอง ทุกคนได้กลับ ไชโย ประเทศไทยร่มเย็น ไม่มีเสียผรุสวาทเสียดสี เด็ก ๆ จะไม่ก้าวร้าว มือตบ ตีนตบ เอาไปทำเชื้อไฟหุงข้าว มีแต่สิ่งดีครับท่าน

Submitted by ธรรม on

เอกรินทร์ คิดผิดแล้วหละครับ คุณไม่ได้เข้าใจอะไรจริงๆเลย นี่แหละเสื้อแดง
หากทักษิณกลับมาประเทศจะถูกแยกเป็นอย่างน้อยสองส่วน เพราะ เขาไม่สามารถปกครองด้ามขวานได้ ดูจากพันธมิตรที่ออกมาเหนียวแน่นมาก 16 จังหวัด เขาไม่เอาด้วย ทีนี้มีปัญหาเรื่องเก่า ไฟใต้อีกหละ และเรื่องความแตกต่างทางศาสนา ซึ่งจริงๆเป็นเรื่องไม่ใหญ่เพราะยังมีสถาบันเป็นศูนย์หล่อหลอมดวงใจ

ทีนี้คุณก็คิดเอาเองก็แล้วกันว่ามันจะเป็นอย่างไร ด้ามขวานมีทรัพยากรไม่ใช่น้อย เขาไม่โง่ และเป็นคนที่จริงจังขยัน แกร่ง

ทีนี้คุณก็เลือกเอาว่าจะเอาใครอยู่ เอาใครเป็นผู้นำ

Submitted by ศาสดา โกเต็ก on

สนธิยืนยันว่า “ไม่ใช่คนขี้ขลาดตาขาว และผมไม่ใช่คนสู้ไม่เป็น คนมีปัญญาอย่างผมสู้ไม่เป็นหรือไง เป็นอยู่แล้ว และสู้ได้รุนแรงหนักหน่วงด้วย"

เหตุการณ์ 6 ตุลา (30ปีก่อน) สนธิประกาศกับทุกฝ่ายว่า เขาเป็นกลาง โดยทำหน้าที่เขียนข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นหัวก้าวหน้า

พูดได้ไง คนเป็นกลาง "พวกชิงหมาเกิด" ประชาธิปไตยใครจะเป็นพวกไหนได้ทั้งนั้นแหละ แต่ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย อย่าใช้ความรุนแรง อย่าทำกิริยาดูถูกเหยียดเหยียมกับผู้ที่คิดต่าง

Submitted by ธรรม on

เห็นด้วยกับปัญญา รุ่งทอง
ขอประณาม ผู้นำ "ม็อบเสื้อแดง" ทุกคน
รวมทั้ง ผู้ให้ท้ายอยู่เบื้องหลังจากต่างแดน
23-28 พ.ย. 2551 กำราบพวกทุนสามานย์ ให้สิ้นซาก
บ้านเมืองจะได้เข้าสู่ภาวะ "สันติภาพ" สักที

Submitted by ธรรม on

ศ่าสดาโกเต๊กเสื้อแดงกล่าวว่า
"พวกชิงหมาเกิด" ประชาธิปไตยใครจะเป็นพวกไหนได้ทั้งนั้นแหละ แต่ขอให้อยู่ในกรอบกฎหมาย อย่าใช้ความรุนแรง อย่าทำกิริยาดูถูกเหยียดเหยียมกับผู้ที่คิดต่าง
แล้วที่เพิ่งพูดไปนั่น เหยียดหยามคนอื่นหรือเปล่าครับ นี่แหละคนเสื้อแดง

Submitted by ธรรม on

brownie ก็เหมือนกับเสื้อแดง และเสธฯแดงที่ชอบความรุนแรง และข่มขู่ผู้อื่น ไอ้เรื่องตกงานเกิดแน่หากรัฐบาลนี้ยังอยู่ต่อไป เพราะรัฐบาลเอาแต่พรรคพวกตัวเองเข่ามาเป็นรัฐมนตรี ไม่ได้มอบงานตามความสามารถ มัวแต่คิดว่าจะทำอย่างไรจึงจะปิดความชั่วของตัวเองได้ ทำอย่างไรจึงจะหลุดคดี ทำอย่างไรจึงจะเอาทักษิณกลับมา ทำอย่างไรจึงจะเอาภาษีมาหาเสียง ทำอย่างไรจึงจะให้พวกพ้องประมูลงานได้ แค่นี้เวลาก็ไม่พอแล้ว จะมานั่งคิดแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้อย่างไร เงินที่ถูกโกงไปก็เป็นภาษีของคุณนั่นแหละ ยิ่งจนยิ่งเสียภาษีเป็นสัดส่วนต่อรายได้ที่มากกว่าคนรวย ดังนั้นคนจนจะถูกโกงและเอาเปรียบมากที่สุด

Submitted by ธรรม on

brownie กล่าวว่า "ระวังๆไว้บ้างนะ ถ้าตายไปก็ไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าพืการมาใครจะดูแล เมียมันยังอายุไม่มาก คิดหรือว่ามันจะมานั่งป้อนข้าวป้อนน้ำ มันไม่มาจมปลักอยู่กับคนพิการหรอกนะ ถ้าห้ามใจไม่ไหวจริงๆ ก็ระวังตัวเองนะ อย่าไปฟังคนอื่นเขามากนัก คิดถึงความจริงของชีวิตเราเองบ้าง"
-นี่แหละคือหัวใจของคนเสื้อแดงที่มันต่างกับคนเสื้อเหลือง เข้าใจหรือยัง คุณห่วงแต่ตัวคุณเอง ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งในสังคมเขายอมเสียสละเพื่อส่วนรวม และคุณก็ยังเข้าใจผิดคิดไปว่าครอบครัวอื่นเขาจะเหมือนครอบครัวคุณ ที่พอสามีพิการ ภรรยาก็ทิ้งเขา สำหรับพันธมิตรแล้วอย่าว่าแต่เป็นสามีภรรยากันเลย เมื่อเราเป็นพี่น้องพันธมิตรแล้ว เราก็ไม่มีทางจะทิ้งกัน และหากเจ้านายคุณมีความคิด หากเขาจะจ้างคนงานที่ไว้ใจได้สักคน ผมว่าเขาต้องเอาคนเสื้อเหลืองมากกว่าคนเสื้อแดง ไม่เชื่อคุณไปถามดู

Submitted by ธรรม on

ผมต้องขอทบทวนความทรงจำให้คุณทหารต่อสถานการณ์บ้านเมืองในประวัติศาสตร์ ก่อนการเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 ระหว่างปี 2308 – 2310 มีดังนี้
- ผู้มีอำนาจทุศีล ไร้จริยธรรม หลงเหลิงมัวเมาในอำนาจ
- ขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวง แตกแยกเป็นก๊กเป็นวัง
- บ้านเมืองท้องพระคลังร่ำรวย ไพร่ฟ้ายากจน
- พระเณรเถรชี ประพฤติตนเป็นอาบัติ เพราะศาสนามัวหมอง
- ละเลยข่าวศึก ละเลยประเพณีปกครองทหาร
- ขุนทหารอ่อนแอ แตกแยกเป็นก๊กเป็นเหล่า
- ทอดทิ้งละเลยหัวเมืองใหญ่น้อย
- กระบวนการยุติธรรมสั่นคลอน ตราชั่งโอนเอียง
- ยกยอคนชั่ว ทอดทิ้งคนดี
- คนในเมืองหลวงในกำแพงเมือง หลงใหลอบายภูมิ ยึดติดวัตถุ
- ขุนนางประจบสอพลอ เบียดบังบ้านเมือง เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน
- ศึกนอกศึกในไส้ศึกบ่อนทำลายบ้านเมือง
คำถาม : คุณเสื้อแดง คุณรู้หรือเปล่า ?

Submitted by ผ่านมา on

เวบนี้มีแต่พวกขี้ขลาดโดยเฉพาะเวบบอร์ด ไปดีกว่าไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยได้แค่ระบายอารมณ์ใส่กันเอง งมโข่งแท้ๆ

Pages

2 คำถามเรื่องหลักการในข่าว “แดง” จับ “แดง”

กรณี “แดงจับแดง” ที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่ควรถูกมองว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวและจบกัน แต่นี่คือเป็นปัญหาท่าที และหลักการของแกนนำซึ่งไปช้ากว่ามวลชนอย่างสม่ำเสมอ

M79 และผองเพื่อน: สิ่งเบี่ยงเบนข่าวสารราคาย่อมเยา

วิธีกลบข่าวแบบบ้านๆ ไทยๆ ไม่ต้องลงทุนมากก็กลบมันด้วยน้อง M79 ลูกกระสุนสนนราคาละไม่กี่ร้อย แต่ก็ได้พาดหัวข่าวหน้าหนึ่งกลบข่าวคนเป็นหมื่นเป็นแสนที่ออกมาไล่รัฐบาลในขณะนี้

โอกาสเดียว 'ยึด' และ 'ยึดหมด' : ข่าวคดียึดทรัพย์ในสายตานักข่าวเทศ

สื่อต่างประเทศให้ความสนใจกับข่าวการเมืองในไทยกันหนาแน่นตลอดสัปดาห์นี้ ยิ่งใกล้วันศุกร์ วันที่สื่อทั้งหลายเรียกมันว่า judgement day มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งลงข่าวและบทวิเคราะห์กันคึกคักมากขึ้นเท่านั้น ประเด็นของการรายงานของสื่อนอกเน้นหนักไปที่สองเรื่องใหญ่คือ แนวทางของคำพิพากษาที่จะออกมา กับผลสะเทือนทางการเมืองจากการตัดสินหนนี้ ทั้งต่อการต่อสู้ทางการเมืองระหว่างสองขั้วคือเหลืองกับแดง และผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจไทย

(ที่มาของภาพ: มังกรดำ) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาคารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2551 หรือเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ถือเป็นการกลับเมืองไทยครั้งแรกนับตั้งแต่เขาออกจากประเทศไปประชุมที่องค์การสหประชาชาติและเกิดการรัฐประหารโค่นอำนาจเขาเมื่อ 19 กันยายน 2549 ต่อมาวันที่ 31 กรกฎาคม 2551 เขาเดินทางออกนอกประเทศอีกครั้งโดยไม่กลับมาฟังคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในคดีที่ดินรัชดา ล่าสุดในวันที่ 26 กุมภาพันธ์นี้ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะอ่านคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทอีกคดี นับเป็นอีกครั้งหนึ่งที่สื่อทั้งไทยและต่างประเทศให้ความสนใจต่อเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองไทย