Skip to main content

การเดินทางยังดำเนินต่อ บทเพลงในรถยังเป็นเพื่อน มีทั้งเพลงที่ดัง มีทั้งเพลงไม่ดัง บางเพลงเคยได้ฟังมาบ้าง บางเพลงไม่เคยรู้จัก

เพลงที่ดังกว่า ไม่ได้ดีกว่าเสมอไป คนที่ดังกว่าไม่ได้เก่งกว่าเสมอไป” ทอด์ดสรุปให้ฟัง
แต่อย่างผมไม่ดัง และไม่เก่งด้วย” ผมสรุปของผมในใจ
\\/--break--\>

เนื่องจากระยะทางยาวไกล มีการผลัดกันขับรถ วันนี้ถึงคิวผมขับรถ เป็นครั้งแรกที่ขับรถพวงมาลัยอยู่ทางซ้ายแต่ขับแลนขวา ขับไปเรื่อยๆจนผมเห็น ธง โบกปลิวโดยที่ไม่ใช่ ธง ของสหรัฐอเมริกา ธงถูกติดตามที่ต่าง มีสามแถบ สามสี ขาว แดง น้ำเงิน และ หนึ่งดาว

นี่เป็น ธงอะไรคับ?” ผมถามคนในประเทศอเมริกา
อ้อ นี่เราถึงเท็กซัส แล้ว Lone star state” เจ้าถิ่นบอกผม

คนเท็กซัสมีเรื่องราวการต่อสู้ที่น่าสนใจ พวกเขาต้องการเป็นอิสระ ไม่ต้องการเป็นสหรัฐอเมริกา ธงที่เป็นสัญลักษณ์ของ เท็กซัส จึงมีเพียงดาวเดียว นั่นเป็นที่มาของการขนานนามรัฐว่า “รัฐดาวเดี่ยว”

ในปี
1519-1685 อาณานิคมสเปน ได้มาปกครองเท็กซัส ปี 1685-1690 แยกตัวออกมาเป็นสาธารณรัฐเท็กซัส ปี 1690-1821 ตกอยู่ภายใต้การปกครองของสเปนอีกครั้ง ปี 1821-1836 ถูกปกครองโดยเม็กซิโก ปี 1836-1845 แยกตัวมาเป็นสาธารณรัฐอีกครั้ง ปี 1845-1861 รวมตัวกับสหรัฐอเมริกา ปี 1861-1865 แยกตัวออกมาเป็นรัฐอิสระปกครองตนเอง ต่อมาอเมริกาได้ทำทุกวิถีทาง จนสามารถผนวกเอาเท็กซัสกลับมาเป็นส่วนหนึ่งสหรัฐอเมริกาได้อีกครั้งตั้งแต่ ปี 1865 จนถึงปัจจุบัน

แต่คนเท๊กซัสก็ยังคงอยากที่จะเป็นเท๊กซัสมากกว่าเป็นอเมริกา ความภูมิใจของคนเท็กซัสในการต่อสู้เพื่อปกป้องมาตรภูมิครั้งสำคัญ การต่อสู้กับเม็กซิโก ที่
Alamo ที่คนเท็กซัสได้พลีชีพมากมายในการต่อสู้ครั้งนั้น จนได้มีการสร้างอนุสรณ์สถานเพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษผู้เสียสละเพื่อแผ่นดินเกิด ของที่ระลึกเมืองนี้ที่มีมากที่สุดคือสินค้าที่มี ธงเท็กซัส ดาวเดี่ยวและข้อความ “REMEMBER THE ALAMO”

ในใจผมนึกถึง ค่ายมาเนอปลอ ค่ายก่อมูหร่า ของคนกะเหรี่ยง ริมฝั่งแม่น้ำเมยในรัฐกะเหรี่ยง น่าเสียดายที่มิอาจรักษาค่ายทั้งสองแห่งที่ว่านั้นได้ เวลาพูดถึงประวัติศาสตร์การต่อสู้ของคนกะเหรี่ยงในประเทศพม่าช่วงหลังๆ มีแต่คำว่าน่าเสียดาย เพราะมันมีแต่สิ่งที่น่าเสียดาย เสียดายโอกาส เสียดายพื้นที่ เสียดายคน

ถึงโบสถ์เก่าที่ถูก เทคโอเวอร์ มาทำเป็น
Casbeer’s Nightclub ในเมือง San Antonio เวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ต้องเล่นคอนเสริตโดยที่ยังไม่มีใครทานข้าวมื้อเย็นเลย ผู้ชมผู้ฟังเป็นคนไทยประมาณ ร้อยกว่าคน การแสดงดำเนินไปอย่างเต็มที่เต็มรูปแบบ 3 ชั่วโมงจบลง ทั้งนักดนตรี นักร้อง นักเต้น ต่างเก็บของเครื่องไม้เครื่องมือเสื้อผ้า เครื่องเสียงขึ้นรถ อากาศร้อน ความหิวรบกวน ความเพลียมาเยือน ความง่วงทักทาย ความหงุดหงิดเข้ามา

บรรยากาศการเก็บของเริ่มเปลี่ยนจากวันแรกๆ เสียงบ่นเริ่มมา คนยกของเริ่มปวดเอว

โอย ต้องเล่นดนตรีด้วย ต้องยกของด้วย ต้องขับรถด้วย อะไรกันเนี้ย!” มือกีตาร์จากฝรั่งเศสเริ่มเปิดหัว
เป็นนักร้องนี้มันสบายนะ ไม่ต้องยกของไม่มีเครื่องดนตรี ร้องเพลงเสร็จ ถ่ายรูปกับคนดู เดี๋ยวผมจะเป็นนักร้องบ้าง (หัวเราะ)” เขาบ่นทีเล่นเล่นทีจริงต่อ
เอ้า! พูดอย่างแสดงว่า คุณกำลังบอกว่าฉันกินแรงคุณเหรอ? ฉันเป็นผู้หญิงคุณจะให้ฉันยกของเหมือนผู้ชายเหรอ” นักร้องหญิงทัก เขาไม่ตอบเธอ แต่เขายกขวดเบียร์กระดกใส่ปากแทน
โอย หิวข้าว” เขาเปลี่ยนเรื่อง ทุกคนจึงบ่นหิวข้าวตามๆกันไปขณะที่เกือบเที่ยงคืนแล้ว
ผมอยากพาไปที่ที่หนึ่งก่อน อยากให้ทุกคนไป มันเหมือนคนบางระจัน ที่เมืองไทย คนAlamo ต่อสู้เหมือนคนบางระจัน” มีทั้งคนเห็นด้วยกับคนไม่เห็นด้วย บางคนอยากให้ไปหาที่นอนก่อน บางคนอยากให้ไปหาที่กินก่อน แต่พี่ทอด์ดก็ไปที่พิพิธภัณฑ์ Alamo ก่อน โดยหวังที่จะให้ทางคณะได้ซึ้งกับวีรกรรมการต่อสู้เพื่อปกป้องแผ่นดินถิ่นเกิด แต่เนื่องจากยามวิกาลเราไม่สามารถเข้าไปข้างในได้ ทำได้เพียงโพสท่าถ่ายรูปหน้าประตูพิพิธภัณฑ์ กว่าจะออกมาก็ราว เที่ยงคืนครึ่ง เราจึงไปหาที่นอน

เนื่องจากไม่ได้มีการจองที่นอนไว้ล่วงหน้า ห้องบางห้องไม่ได้มีการเตรียมไว้รอ จึงต้องรอจนกว่าห้องจะครบ เมื่อห้องครบการจัดสรรคนนอนไม่ลงตัวอีก บางคนไม่ชอบนอนกับคนสูบบุหรี่ บางคนไม่ชอบนอนกับคนนอนกรน บางคนไม่ชอบนอนกับฝรั่งด้วยเหตุผลที่คุยกันไม่รู้เรื่อง กว่าจะจัดห้องลงตัว เปลี่ยนกันไป เปลี่ยนกันมาตั้งหลายรอบ


เดี่ยวผมจะไปล่าอาหารมาทุกคนรออยู่ที่นี่” พี่ทอด์ดพูดเสร็จออกจากที่พัก กว่าจะกลับมาอีกทีประมาณชั่วโมงหนึ่ง
ผมล่ามาได้แค่นี้ ร้านแถวๆนี้ปิดหมดเลย อยากให้ทุกคนกินอันนี้ไปก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยฟัดหนักๆ” พี่ทอด์ดพูดพร้อมยื่นอาหารสำเร็จรูป อาทิ มาม่า ขนมปัง มาให้คณะทานก่อนนอน แต่บางคนง่วงมากกว่าหิวเลยไม่สนอาหารแล้ว

รุ่งเช้า ผมเดินไปที่พิพิธภัณฑ์
Alamo อีกรอบ ข้างในมีนิทรรศการเรื่องราวการต่อสู้ มีเครื่องมือเครื่องใช้ของวีชน มีของที่ระลึก แต่ห้ามถ่ายรูป
ถ่ายข้างในไม่ได้ก็ถ่ายข้างนอก" ผมออกไปถ่ายรูปข้างนอก
มันมีหลักการอยู่ว่า อย่าเพิ่งถาม ทำไปก่อนถ้าเขามาว่า แล้วหยุด การถ่ายรูปก็เหมือนกัน ถ่ายก่อนแล้วค่อยว่ากัน” พี่ทอด์ดบอกผม ก่อนออกจากรั้วพิพิธภัณฑ์

 

 

 บนถนนระหว่างเดินทางไป Texas

 


ธงดาวเดี่ยว ของ
Texas

 


ร้านขายของที่ระลึกใน
Texas

 


พ่อค้า ชาวแม็กซิโก

 

 


ค่ายบางระจัน แห่ง
Texas

 

 


 

 

 

บล็อกของ ชิ สุวิชาน

ชิ สุวิชาน
“ตั้งสายได้แล้ว วิธีการเล่นล่ะ?” ลูกชายกำลังไฟแรงอยากเรียนรู้ “ใจเย็นๆ ก่อนอื่นต้องฝึกร้องเพลงให้ได้ก่อน ถ้าร้องเพลงไม้ได้ จำทำนองเพลงไม่ได้ จะเล่นได้ไง” พ่อค่อยๆสอนลูกชาย “เอางี๊ เดี๋ยวพ่อจะสอนเพลงพื้นบ้านง่ายๆที่ผู้เฒ่าผู้แก่ชอบร้อง ชอบเล่นและชอบสอนเด็กบ่อยๆ ซักสองสามท่อนนะ” แล้วพ่อก็เริ่มเปล่งเสียงร้องและให้ลูกชายร้องตามที่ละวรรค
ชิ สุวิชาน
พ่อได้ดื่มชาในกระบอกไม้ไผ่จนหมดไปกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วจึงวางลง“เดิมทีนั้น เตหน่ากูมีจำนวนสายเพียง 5-7สาย แต่ต่อมาได้มีการเพิ่มเติมสายในการเล่นเป็น 8-9สายหรือ 10-12หรือมากกว่านั้นก็ได้” พ่อหยิบเตหน่ากูและเล่าให้ลูกชายฟัง“ทำไมจำนวนสายไม่เท่ากันล่ะ?” ลูกชายถามผู้เป็นพ่อ“มันขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน ชอบและถนัด 7 สายก็เล่น7 สายชอบน้อยกว่านั้นก็เล่นน้อยกว่าก็ได้ หรือชอบมากกว่านั้นก็เล่นมากกว่านั้นก็ได้” พ่อตอบสิ่งที่ลูกชายสงสัยในการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกล (Minor scale) นั้นเริ่มจาก 5-7 สายโดยมีตัวโน๊ตหลักตามไมเนอร์สเกลอยู่ 5 โน้ต ได้แก่ โด (D) เร (R)  มี (M) โซ (S) ลา…
ชิ สุวิชาน
ความมืดกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง เช่นเดียวกับไม้เกี๊ยะที่มาจากแกนไม้สนสองใบต้องถูกเผาเพื่อผลิตแสงสว่างในครัวบ้านปวาเก่อญออีกครั้ง กาต้มน้ำที่ดำสนิทด้วยคราบเขม่าควันไฟถูกตั้งบนเหล่อฉอโข่อีกครั้ง กลิ่นชาป่าขั้วหอมทำให้โสตประสาทกระปรี่กระเปร่าขึ้นมาพร้อมเข้าสู่บรรยากาศการเรียนรู้ภายในบ้านไม้ไผ่หลังเดิมเตหน่ากู คืออุปกรณ์การเรียนรู้ถูกเตรียมไว้เพื่อใช้ในการเรียนรู้ ของพ่อซึ่งเป็นผู้สอนหนึ่งตัว ของลูกซึ่งเป็นผู้เรียนหนึ่งตัว รูปร่างลักษณะเตหน่ากูแม้ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็มีรูปทรงที่คล้ายๆกัน  มีตัวท่อนไม้ใหญ่ และมีกิ่งไม้ที่โค้งงอเมื่อพ่อเห็นว่าลูกชายพร้อมที่จะเริ่มการรับความรู้แล้ว …
ชิ สุวิชาน
“พี่น้องครับ พี่ชายคนนี้ยังคงทำหน้าที่ต่อ ณ ตรงนี้ครับ ขอมอบเวทีต่อให้พี่ครับ” ผมพูดจบผมกลับไปที่นั่งของผมเพื่อเป็นคนดูต่อแม่น้ำสายนี้ยังคงไหลไปตามกาลเวลาฯ....................................................ฉันผ่านมา  ผ่านมาทางนี้ ผ่านมาดูสายน้ำ.............ได้รู้ได้ยิน..............ฯบทเพลงแรกผ่านไปต่อด้วยสาละวิน สายน้ำตาเสียงปืนดังที่กิ่วดอยลูกชายไปสงครามเด็กน้อยผวาตื่น(ทุกคืนๆ)
ชิ สุวิชาน
“ผมมีเพื่อนปกาเกอะญอมาด้วยคนหนึ่ง” ผมบอกกับคนดูผมได้ไปพบ และได้ไปฟัง เพลงที่เขาร้อง ณ ริมฝั่งสาละวิน ทำให้ผมเกิดความประทับใจในท่วงทำนองและความหมายของบทเพลงรวมทั้งตัวเขาด้วยผมทราบมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองเชียงใหม่  ผมจึงไม่พลาดโอกาสทีจะชักชวนเขามาร่วม บอกเล่าเรื่องราวของชนเผ่า ผ่านบทเพลงที่ผมประทับใจ ซึ่งแรก ๆ นั้น เขาแบ่งรับ แบ่งสู้  ที่จะตอบรับการชักชวนชองผม แต่ผมก็ชักแม่น้ำทั้งห้า จนเขาหมดหนทางปฏิเสธ“ผมไม่คุ้นเคยกับการร้องเพลงต่อหน้าคนมาก ๆ นะ” เขาออกตัวกับผมก่อนวันงาน แต่เมื่อถึงวันงานเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เขาเดินออกมาแบบเกร็งๆ และประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เขาจะยืนตรงก็ไม่ใช่…
ชิ สุวิชาน
ณ ห้องเล็กๆ แถวสี่แยกกลางเวียง เมืองเชียงใหม่ เก้าอี้ถูกเรียงเป็นแถวหน้ากระดานประมาณร้อยกว่าตัว  ข้างหน้าถูกปล่อยว่างเล็กน้อยสำหรับเป็นพื้นที่ตั้งเครื่องเล่นดีวีดีและโปรเจคเตอร์เพื่อฉายสารคดี ใกล้เวลานัดหมายผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาทีละคน ทีละคู่ ทีละกลุ่ม“เค้าไม่อยากให้เราพูดถึงเรื่องการเมือง แต่เราอาจพูดได้นิดหน่อย” เจ้าหน้าที่ FBR กระซิบมาบอกผมเกี่ยวกับความกังวลของเจ้าของสถานที่ ผมยิ้มแทนการสนทนาตอบ เพียงแต่คิดในใจว่า หากการเมืองคือความทุกข์ยากของประชาชน ของชาวบ้านคนรากหญ้าก็ต้องพูดให้สาธารณะได้รับรู้ เพื่อจะหาช่องทางในการช่วยบรรเทาทุกข์ของประชาชน…
ชิ สุวิชาน
หลังจากดูสารคดีด้วยกันจบ “ผมอยากฉายสารคดีชุดนี้สู่สาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่คนทั่วไปในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผมอยากให้คุณมาร่วมเล่นดนตรีด้วย คุณ โอ เค มั้ย” เขาถามผมผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เพราะผมไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร  ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ  ผมบอกกับตัวเองว่า เพียงแค่เห็นใจและเข้าใจอาจไม่เพียงพอ   หากสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสื่อสารเรื่องราวของผู้ทุกข์ยาก โดยเฉพาะคนชนเผ่าเดียวกันได้  มันก็ควรทำไม่ใช่หรือหลังจากผมตอบตกลงเขา เราทั้งสองได้พูดคุยประสานงานกันเกี่ยวกับงานอยู่เรื่อย ๆ จนเวลาลงตัวในวันที่ 21 ธันวาคม ศกนี้ ณ สมาคม AUA เชียงใหม่ ในหัวข้อ “…
ชิ สุวิชาน
ต่า หมื่อ แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละ         ตา ข่า แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละอะ เคอ กิ ดิ เค่อ มี โบ            มา ซี ปกา ซู โข่ อะ เจอผีร้ายโผล่มาทางริมฝั่งสาละวิน        แมงร้ายโผล่มาทางลำน้สาละวินเสื้อผ้าลายเหมือนดั่งต้นบุก        มาเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตคน(ธา บทกวีคนปกาเกอะญอ)“คุณเคยติดตามสถานการณ์ทางรัฐกะเหรี่ยงประเทศพม่าบ้างไหม” เสียงผู้ชายโทรศัพท์มาถามผมด้วยภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง“ผมทำงานในองค์กรชื่อFree Burma Rangers ครับ”…
ชิ สุวิชาน
เขานั่งอยู่แถวหน้า และเขาโบกไม้โบกมือขณะที่ผมกำลังบรรเลงเพลงอยู่บนเวที  ในมหกรรมคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งจัดโดยสำนักประชาสัมพันธ์ร่วมกับองค์กรยูเนสโก้  ในงานได้มีการเชิญศิลปินชนเผ่าหลักทั้ง 7 เผ่า ได้แก่ ม้ง อาข่า ลีซู ลาหู่ เมี่ยน ไทยใหญ่และกะเหรี่ยง รวมทั้งยังมีศิลปินล้านนา อาทิ ครูแอ๊ด  ภานุทัต  คำหล้า ธัญาภรณ์ น้อง ปฏิญญา และไม้เมืองนอกจากนี้มีทายาทของสุนทรี  เวชชานนท์ ราชินีเพลงล้านนา คือน้องลานนา มาร่วมร้องเพลง ธีบีโกบีกับทอดด์ ทองดี ศิลปินจากรัฐเพนโซเวเนีย…
ชิ สุวิชาน
เมื่อเข็มนาฬิกาเข็มที่สั้นที่สุด เลื่อนไปยังหมายเลขเก้า ทุกคนจึงขึ้นรถตู้ เคลื่อนขบวนไปยังศูนย์ศิลปและวัฒนธรรมแสงอรุณ  เมื่อถึงมีทีมงานเตรียมข้าวกล่องไว้รอให้ทาน พอทานข้าวเสร็จพี่อ้อย ชุมชนคนรักป่า ก็มาบอกผมว่า  งานจะเริ่มบ่ายโมง  พร้อมกับยื่นใบกำหนดการให้ผมดู  ผมตื่นเต้นนิดหน่อยพอบ่ายโมง งานก็เริ่มขึ้น โดยการฉายสไลด์เกี่ยวกับป่าชุมชนที่หมู่บ้านสบลาน อำเภอสะเมิงเชียงใหม่   "ถ้าถึงคิวแล้วจะมาเรียกนะ” ทีมงานบอกกับผมในระหว่างที่ผมรออยู่หน้างานนั้น ผมก็ได้เจอกับนักเขียน นักดนตรี นักกวี ที่ทยอยมา ได้มีโอกาสคุยกับคนที่ผมรู้จัก และกำลังรู้จัก และที่ไม่รู้จักด้วย …
ชิ สุวิชาน
บุ เต่อ โดะ นะ แล บุ เออบุ ลอ บ ะ เลอ ต่า อะ เออชะตา วาสนาช่างรันทดต้องเผชิญแต่สิ่งลำเค็ญ