Skip to main content

วันนี้ผู้หญิงได้รับอนุญาตให้ไปเดินซื้อของที่ Outlet ส่วนผู้ชายหลังจากทานอาหารเช้า ต้องเดินทางไปติดตั้งเครื่องเสียงเพื่อเล่นในเย็นวันนี้

\\/--break--\>

 

ผมขอเตือน ร้านที่เราจะไปเล่นคืนนี้ ผมดูรูปในอินเตอร์เน็ต มันสวยมาก เราจะเล่นหน้าระเบียงด้านนอกของร้าน” พี่ทอด์ดบอกกับนักดนตรี

 

เมื่อเข้าไปถึงร้าน บรรยากาศร้านเป็นไปอย่างที่พี่ทอด์ดว่าไว้จริงๆ ร้านเล็กๆ กะทัดรัด แต่ดูอบอุ่น การติดตั้งเครื่องเสียงและดนตรีเริ่มต้นอีกครั้ง ขั้นตอนต่อไปคือการลองเสียง วันนี้เนื่องจากมีเวลาในการซ้อมเพลงมาก จึงได้มีการซ้อมเพลงใหม่จากนักดนตรีฝรั่งเศส รวมทั้งเพลงดูเล ดูเลของผมด้วย ซึ่งสนุกสนานดี

 

หลังจากที่ซ้อมเพลงเสร็จ ข้าวเย็นถูกเตรียมไว้อย่างพร้อม ผู้หญิงที่ไปช้อปปิ้งเริ่มกลับมา นักเต้นเริ่มแต่งองค์ทรงเครื่อง แขกเหรื่อเริ่มทยอยกันเข้ามา ทั้งไทยทั้งฝรั่ง โดยเฉพาะพี่น้องสมาชิกสมาคมไทยเท็กซัส

 

ทุ่มตรงคอนเสิร์ตเริ่มขึ้น เพลงมโนราห์ถูกเปิดและนักเต้นออกมารำได้อย่างงดงามเหมือนเดิม ต่อด้วยลีลาระนาดจากเจ้าพระยา จากนั้นเป็นคิวของเตหน่ากู 4 เพลงรวดจบไปอย่างเรียบง่ายและไม่อึกทึก ต่อด้วยดนตรีเต็มวง ผ่านไป3 เพลง มีตำรวจแวะผ่านมาดูคอนเสิร์ตด้วย

 

สงสัย เขาอยากมาฟังเพลงไทยมั้ง!” ผมคิดในใจ ทันทีที่เห็นตำรวจลงจากรถ

ช่วยเบาเสียงหน่อย เพราะรบกวนบ้านข้างๆ เขาแจ้งมา ผมจึงต้องมาทำหน้าที่” นายตำรวจมาเตือน

เบาเสียงลงนิดหน่อย และเล่นต่อไม่เป็นไร” พี่ทอด์ดบอก

 

คอนเสิร์ตดำเนินต่อโดยเสียงดนตรีถูกลดระดับเสียงลงจากเดิมไป ผมกลับมาอยู่หลังเวที เพื่อเตรียมตัวสำหรับเพลงที่ต้องเล่นต่อไป โดยขณะที่บทเพลงแห่งแม่น้ำโขงกำลังบรรเลงอยู่

 

จบแล้วมั้ง? คอนเสิร์ตจบแล้วมั๊ง? ได้พักแล้ว เขาคงไม่ให้เล่นแล้ว เขามาไล่แล้ว!!” มือแคนจากแม่น้ำโขงมาบอกผม ผมจึงออกไปดูสถานการณ์ข้างหน้าเวที

 

ทุกคนยืนอยู่ตรงไหนให้อยู่ที่เดิม เล่นอะไรถือเอาไว้อย่างนั้นก่อน นักเต้นยืนอยู่ที่ตำแหน่งเดิม เดี๋ยวผมจะไปคุยกับเขา (ตำรวจ) ก่อน” พี่ทอด์ดบอกกับทุกคน ในขณะที่คนฟังเองพยายามคุยกับตำรวจ พี่ทอด์ดเดินไปถึงคุยกับตำรวจด้วยความจริงจัง เหมือนเหตุการณ์จะลงเอยให้เราได้เล่นต่อ ตำรวจกลับไปที่มอเตอไซด์แล้วหยิบกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่งที่ทำให้พี่ทอด์ดหันเดินกลับมาเกาหัว

 

โอเค พอแค่นี้ก่อน มีคนร้องเรียนมาว่าเสียงดัง ทางร้านไม่บอกเราว่าต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อน ช่างมัน!!” พี่ทอด์ดบอกให้ทุกคนยุติบทบาทบนเวทีสำหรับคืนนี้ ทั้งคนฟัง คนขาย คนเล่น คนร้อง คนเต้น เซ็งไปตามๆกัน เวลาที่เหลือเฟือจากคอนเสิร์ตที่ไม่จบกลายเป็นบรรยากาศการพูดคุยทักทายกัน ถ่ายรูปเดี่ยวบ้าง คู่บ้าง หมู่บ้าง ต่อด้วยการชวนกันไประบายอารมณ์ด้วยการหม่ำมื้อค่ำเคล้าเครื่องดื่มที่มีฟองอย่างเมามัน

 

หลังอิ่มกันได้ที่ งานก่อนปิดฉากคือ การเก็บเครื่องเสียง เครื่องดนตรีขึ้นรถเพื่อเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้ วันนี้ไม่แน่ใจว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ตำรวจมาไล่ สงสารแต่เพียงพี่น้องคนไทยหลายคนอุตส่าห์หยุดงาน ยอมถูกหักค่าตัวหนึ่งวัน เพื่อมาดูคอนเสิร์ต แต่ดูไปได้ไม่ถึงครึ่งทางคอนเสิร์ตต้องยุติกลางคัน

 

ก่อนเราจะกลับ มีน้องคนไทยที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาขอถ่ายรูปกับนักร้องหญิง

ทำไมคุณมาช้า หากมาเร็วหน่อย คุณอาจช่วยให้คอนเสิร์ตดำเนินต่อได้” ใครบางคนบอกตำรวจเชื้อสายไทย

ดีแล้วแหละที่ผมมาช้า ผมมาเร็วผมก็ช่วยอะไรไม่ได้ เพราะหากข้างบ้านร้องเรียนตำรวจก็ต้องมาทำหน้าที่ ผมเป็นเพียงตำรวจเล็กๆ คนหนึ่งที่อยากเข้ามาฟังดนตรีไทย แม้ไม่ได้รับเชิญ” เขาพูดจบพร้อมแถมเสียงหัวเราะให้กับคู่สนทนาอย่างสนุกสนาน

 


เวทีหน้าระเบียงร้านที่เล่น

 

 


ลีลาของ มโนราห์

 


พี่น้องสมาชิกสมาคมไทย - เท็กซัส ถ่ายรูปร่วมกับนักเต้น

 

 

 

 

บล็อกของ ชิ สุวิชาน

ชิ สุวิชาน
“ตั้งสายได้แล้ว วิธีการเล่นล่ะ?” ลูกชายกำลังไฟแรงอยากเรียนรู้ “ใจเย็นๆ ก่อนอื่นต้องฝึกร้องเพลงให้ได้ก่อน ถ้าร้องเพลงไม้ได้ จำทำนองเพลงไม่ได้ จะเล่นได้ไง” พ่อค่อยๆสอนลูกชาย “เอางี๊ เดี๋ยวพ่อจะสอนเพลงพื้นบ้านง่ายๆที่ผู้เฒ่าผู้แก่ชอบร้อง ชอบเล่นและชอบสอนเด็กบ่อยๆ ซักสองสามท่อนนะ” แล้วพ่อก็เริ่มเปล่งเสียงร้องและให้ลูกชายร้องตามที่ละวรรค
ชิ สุวิชาน
พ่อได้ดื่มชาในกระบอกไม้ไผ่จนหมดไปกว่าครึ่งหนึ่ง แล้วจึงวางลง“เดิมทีนั้น เตหน่ากูมีจำนวนสายเพียง 5-7สาย แต่ต่อมาได้มีการเพิ่มเติมสายในการเล่นเป็น 8-9สายหรือ 10-12หรือมากกว่านั้นก็ได้” พ่อหยิบเตหน่ากูและเล่าให้ลูกชายฟัง“ทำไมจำนวนสายไม่เท่ากันล่ะ?” ลูกชายถามผู้เป็นพ่อ“มันขึ้นอยู่กับความชอบและความถนัดของผู้เล่นแต่ละคน ชอบและถนัด 7 สายก็เล่น7 สายชอบน้อยกว่านั้นก็เล่นน้อยกว่าก็ได้ หรือชอบมากกว่านั้นก็เล่นมากกว่านั้นก็ได้” พ่อตอบสิ่งที่ลูกชายสงสัยในการตั้งสายเตหน่ากูแบบไมเนอร์สเกล (Minor scale) นั้นเริ่มจาก 5-7 สายโดยมีตัวโน๊ตหลักตามไมเนอร์สเกลอยู่ 5 โน้ต ได้แก่ โด (D) เร (R)  มี (M) โซ (S) ลา…
ชิ สุวิชาน
ความมืดกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง เช่นเดียวกับไม้เกี๊ยะที่มาจากแกนไม้สนสองใบต้องถูกเผาเพื่อผลิตแสงสว่างในครัวบ้านปวาเก่อญออีกครั้ง กาต้มน้ำที่ดำสนิทด้วยคราบเขม่าควันไฟถูกตั้งบนเหล่อฉอโข่อีกครั้ง กลิ่นชาป่าขั้วหอมทำให้โสตประสาทกระปรี่กระเปร่าขึ้นมาพร้อมเข้าสู่บรรยากาศการเรียนรู้ภายในบ้านไม้ไผ่หลังเดิมเตหน่ากู คืออุปกรณ์การเรียนรู้ถูกเตรียมไว้เพื่อใช้ในการเรียนรู้ ของพ่อซึ่งเป็นผู้สอนหนึ่งตัว ของลูกซึ่งเป็นผู้เรียนหนึ่งตัว รูปร่างลักษณะเตหน่ากูแม้ไม่เหมือนกันทั้งหมด แต่ก็มีรูปทรงที่คล้ายๆกัน  มีตัวท่อนไม้ใหญ่ และมีกิ่งไม้ที่โค้งงอเมื่อพ่อเห็นว่าลูกชายพร้อมที่จะเริ่มการรับความรู้แล้ว …
ชิ สุวิชาน
“พี่น้องครับ พี่ชายคนนี้ยังคงทำหน้าที่ต่อ ณ ตรงนี้ครับ ขอมอบเวทีต่อให้พี่ครับ” ผมพูดจบผมกลับไปที่นั่งของผมเพื่อเป็นคนดูต่อแม่น้ำสายนี้ยังคงไหลไปตามกาลเวลาฯ....................................................ฉันผ่านมา  ผ่านมาทางนี้ ผ่านมาดูสายน้ำ.............ได้รู้ได้ยิน..............ฯบทเพลงแรกผ่านไปต่อด้วยสาละวิน สายน้ำตาเสียงปืนดังที่กิ่วดอยลูกชายไปสงครามเด็กน้อยผวาตื่น(ทุกคืนๆ)
ชิ สุวิชาน
“ผมมีเพื่อนปกาเกอะญอมาด้วยคนหนึ่ง” ผมบอกกับคนดูผมได้ไปพบ และได้ไปฟัง เพลงที่เขาร้อง ณ ริมฝั่งสาละวิน ทำให้ผมเกิดความประทับใจในท่วงทำนองและความหมายของบทเพลงรวมทั้งตัวเขาด้วยผมทราบมาว่าตอนนี้เขาอยู่ที่เมืองเชียงใหม่  ผมจึงไม่พลาดโอกาสทีจะชักชวนเขามาร่วม บอกเล่าเรื่องราวของชนเผ่า ผ่านบทเพลงที่ผมประทับใจ ซึ่งแรก ๆ นั้น เขาแบ่งรับ แบ่งสู้  ที่จะตอบรับการชักชวนชองผม แต่ผมก็ชักแม่น้ำทั้งห้า จนเขาหมดหนทางปฏิเสธ“ผมไม่คุ้นเคยกับการร้องเพลงต่อหน้าคนมาก ๆ นะ” เขาออกตัวกับผมก่อนวันงาน แต่เมื่อถึงวันงานเขาก็ไม่ทำให้ผมผิดหวัง เขาเดินออกมาแบบเกร็งๆ และประหม่าอย่างเห็นได้ชัด เขาจะยืนตรงก็ไม่ใช่…
ชิ สุวิชาน
ณ ห้องเล็กๆ แถวสี่แยกกลางเวียง เมืองเชียงใหม่ เก้าอี้ถูกเรียงเป็นแถวหน้ากระดานประมาณร้อยกว่าตัว  ข้างหน้าถูกปล่อยว่างเล็กน้อยสำหรับเป็นพื้นที่ตั้งเครื่องเล่นดีวีดีและโปรเจคเตอร์เพื่อฉายสารคดี ใกล้เวลานัดหมายผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาทีละคน ทีละคู่ ทีละกลุ่ม“เค้าไม่อยากให้เราพูดถึงเรื่องการเมือง แต่เราอาจพูดได้นิดหน่อย” เจ้าหน้าที่ FBR กระซิบมาบอกผมเกี่ยวกับความกังวลของเจ้าของสถานที่ ผมยิ้มแทนการสนทนาตอบ เพียงแต่คิดในใจว่า หากการเมืองคือความทุกข์ยากของประชาชน ของชาวบ้านคนรากหญ้าก็ต้องพูดให้สาธารณะได้รับรู้ เพื่อจะหาช่องทางในการช่วยบรรเทาทุกข์ของประชาชน…
ชิ สุวิชาน
หลังจากดูสารคดีด้วยกันจบ “ผมอยากฉายสารคดีชุดนี้สู่สาธารณะ เพื่อสร้างความเข้าใจแก่คนทั่วไปในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ผมอยากให้คุณมาร่วมเล่นดนตรีด้วย คุณ โอ เค มั้ย” เขาถามผมผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง เพราะผมไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร  ผมรู้สึกว่า มันเป็นสิ่งที่ต้องทำ  ผมบอกกับตัวเองว่า เพียงแค่เห็นใจและเข้าใจอาจไม่เพียงพอ   หากสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยสื่อสารเรื่องราวของผู้ทุกข์ยาก โดยเฉพาะคนชนเผ่าเดียวกันได้  มันก็ควรทำไม่ใช่หรือหลังจากผมตอบตกลงเขา เราทั้งสองได้พูดคุยประสานงานกันเกี่ยวกับงานอยู่เรื่อย ๆ จนเวลาลงตัวในวันที่ 21 ธันวาคม ศกนี้ ณ สมาคม AUA เชียงใหม่ ในหัวข้อ “…
ชิ สุวิชาน
ต่า หมื่อ แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละ         ตา ข่า แฮ ธ่อ เลอ โข่ โกละอะ เคอ กิ ดิ เค่อ มี โบ            มา ซี ปกา ซู โข่ อะ เจอผีร้ายโผล่มาทางริมฝั่งสาละวิน        แมงร้ายโผล่มาทางลำน้สาละวินเสื้อผ้าลายเหมือนดั่งต้นบุก        มาเข่นฆ่าทำลายล้างชีวิตคน(ธา บทกวีคนปกาเกอะญอ)“คุณเคยติดตามสถานการณ์ทางรัฐกะเหรี่ยงประเทศพม่าบ้างไหม” เสียงผู้ชายโทรศัพท์มาถามผมด้วยภาษาไทยสำเนียงฝรั่ง“ผมทำงานในองค์กรชื่อFree Burma Rangers ครับ”…
ชิ สุวิชาน
เขานั่งอยู่แถวหน้า และเขาโบกไม้โบกมือขณะที่ผมกำลังบรรเลงเพลงอยู่บนเวที  ในมหกรรมคอนเสิร์ตเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาองค์สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ซึ่งจัดโดยสำนักประชาสัมพันธ์ร่วมกับองค์กรยูเนสโก้  ในงานได้มีการเชิญศิลปินชนเผ่าหลักทั้ง 7 เผ่า ได้แก่ ม้ง อาข่า ลีซู ลาหู่ เมี่ยน ไทยใหญ่และกะเหรี่ยง รวมทั้งยังมีศิลปินล้านนา อาทิ ครูแอ๊ด  ภานุทัต  คำหล้า ธัญาภรณ์ น้อง ปฏิญญา และไม้เมืองนอกจากนี้มีทายาทของสุนทรี  เวชชานนท์ ราชินีเพลงล้านนา คือน้องลานนา มาร่วมร้องเพลง ธีบีโกบีกับทอดด์ ทองดี ศิลปินจากรัฐเพนโซเวเนีย…
ชิ สุวิชาน
เมื่อเข็มนาฬิกาเข็มที่สั้นที่สุด เลื่อนไปยังหมายเลขเก้า ทุกคนจึงขึ้นรถตู้ เคลื่อนขบวนไปยังศูนย์ศิลปและวัฒนธรรมแสงอรุณ  เมื่อถึงมีทีมงานเตรียมข้าวกล่องไว้รอให้ทาน พอทานข้าวเสร็จพี่อ้อย ชุมชนคนรักป่า ก็มาบอกผมว่า  งานจะเริ่มบ่ายโมง  พร้อมกับยื่นใบกำหนดการให้ผมดู  ผมตื่นเต้นนิดหน่อยพอบ่ายโมง งานก็เริ่มขึ้น โดยการฉายสไลด์เกี่ยวกับป่าชุมชนที่หมู่บ้านสบลาน อำเภอสะเมิงเชียงใหม่   "ถ้าถึงคิวแล้วจะมาเรียกนะ” ทีมงานบอกกับผมในระหว่างที่ผมรออยู่หน้างานนั้น ผมก็ได้เจอกับนักเขียน นักดนตรี นักกวี ที่ทยอยมา ได้มีโอกาสคุยกับคนที่ผมรู้จัก และกำลังรู้จัก และที่ไม่รู้จักด้วย …
ชิ สุวิชาน
บุ เต่อ โดะ นะ แล บุ เออบุ ลอ บ ะ เลอ ต่า อะ เออชะตา วาสนาช่างรันทดต้องเผชิญแต่สิ่งลำเค็ญ