Skip to main content

ฟันธง กกต.แค่ปราม หรือให้ลึกกว่านั้นคือรักษาหน้าแสดงอำนาจเหนือชัชชาติแล้วก็จบ 

 
ถามว่า กกต.อยากสอยชัชชาติไหม ก็คงอยากสอยให้ร่วง ทั้ง กกต.และคนเลี้ยง กกต.น่ะแหละ แต่ยังไม่ใช่จังหวะ 
 
ก็พึ่งเลือกตั้งมาสดๆ ร้อนๆ ยังไม่ทันประกาศผลอย่างเป็นทางการ ก็ลงพื้นที่กระตุ้นกระตุกหน่วยงานต่างๆ ใน กทม.ให้กระตือรือร้นทำงานหลังหลับไหล (แต่มีเงินเดือนไหลเข้ากระเป๋า) มาโดยตลอดแปดปีเต็ม 
 
คะแนนนิยมมาเต็ม จังหวะนี้จะแขวน จะปลด จะสอย คงไม่ใช่จังหวะที่ดีนัก รอคนกรุงเทพฯ หายเห่อค่อยว่ากันดีกว่า ยังไงอำนาจก็อยู่ในมือประยุทธ์ ปากกาอยู่ในมือมัน จะลงนามเมื่อไหร่ก็ไม่ใช่เรื่องยาก
.
สุขุมพันธ์ โคตรอีลีท ยังสั่งสอยมาแล้ว ไม่มีหมาซักตัวออกมาโวยวาย
.
สิ่งที่อยากบอกก็คือ การเลือกตั้งมีความสำคัญในทุกระดับชั้น ตั้งแต่การเลือกตั้งท้องถิ่นจนถึงการเลือกตั้งในระดับประเทศ มันไม่ใช่การที่ประชาชนใช้เวลา 4 วินาทีในคูหาเลือกตั้งเหมือนที่นักวิชาการสามานย์ว่าไว้ 
 
ความสัมพันธ์ระหว่าง นักการเมืองกับประชาชนมีมาโดยต่อเนื่อง การเสนอผลประโยชน์ทั้งในระยะสั้น อย่างเช่นให้เงิน บริจาคสิ่งของ ช่วยเหลือปัญหาเฉพาะหน้า จนถึงการบริการสาธารณะ ตามสภาพเศรษฐกิจ สังคมมีมาโดยตลอด 
 
การเลือกตั้งในแต่ละครั้ง ได้ทำหน้าที่ให้นักการเมืองต้องสรุปทำนโยบายหรือเสนอผลประโยชน์จากที่ศึกษารวบรวมมาแบบเป็นระบบบ้างแบบไม่เป็นระบบบ้างให้กับประชาชนได้เลือก
 
ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้งในทุกระดับ จะทำให้ประชาชนได้ค่อยๆ ตระหนักรู้ถึงอำนาจที่มีอยู่ในตัวเอง เริ่มที่จะสามารถต่อรอง นำเสนอนโยบายต่อนักการเมือง/พรรคการเมืองมากขึ้น อำนาจจะกลับมาอยู่ในมือประชาชน 
 
แต่การรัฐประหาร คสช.แช่แข็งระบบการเลือกตั้ง แช่แข็งระบอบประชาธิปไตยไปกว่า 6 ปี นี่ต่างหากเป็นสิ่งที่ทำลายกระบวนการในการเรียนรู้ประชาธิปไตยต่างหากคือการปล้นชิงอำนาจไปจากประชาชนอย่างแท้จริง 
 
ถอดบทเรียนจากกรณีชัชชาติกับผู้ว่า กทม. หากมีรัฐบาลใหม่ หากสามารถเสนอเปลี่ยนแปลงกฏหมายปกครองได้ ควรผลักดันให้มีการเลือกตั้งมากขึ้น ตั้งแต่ในระดับท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้านต้องไม่ผูกขาดเลือกครั้งเดียวเป็นยาวถึงเกษียณ อบต. เทศบาล เลือกตั้งสามปี/ครั้ง หรือสองปี/ครั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศต้องเลือกตั้งได้แล้ว สิงห์ดำ สิงห์แดง สิงห์ด่าง สิงห์สาโท หรือสิงห์โตไหว้เจ้า ไม่ต้องกลัวตกงาน งานบริหารองค์กร/หน่วยงานท้องถิ่นมีเยอะแยะ 
 
เป็นพ่อของลูกให้ดีก็พอแล้ว ถ้าอยากเสนอหน้าเป็นพ่อเมืองก็ลงสมัครรับเลือกตั้ง
 
สุดท้ายที่อยากจะบอกก็คือประเทศไทยเปลี่ยนได้ และเปลี่ยนได้โดยสันติวิธีด้วย แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ คนชั้นกลาง คนเมือง คนที่พอมีพอกินต้องลบมายาคติเรื่องการซื้อสิทธิขายเสียง ต้องลบภาพเจ้าพ่อ นายทุนท้องถิ่นออกจากหัว และเข้าใจว่าการเลือกตั้งคือการสะท้อนสภาพปัญหา ความต้องการของประชาชนท้องถิ่นเพื่อต่อรอง/ส่งผ่านนักการเมืองเพื่อให้รัฐแก้ปัญหาหรือตอบสนองความต้องการของพวกเขา
 
อย่าลืม ยิ่งมีการเลือกตั้งมากขึ้นเท่าไหร่ ยิ่งจะทำให้ประชาชนตระหนักถึงอำนาจที่พวกเขามีมากขึ้นเท่านั้น

 

ที่มา:  

Facebook Sarayut Tangprasert

We’re all voters: เลือกผู้ว่าฯ ทั่วประเทศต้องเกิดขึ้นจริง

 

 

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
  เห็นบนเฟซบุ๊กมีการพูดกันบ่อยๆว่า แกนนำ นปช.พาคนไปตาย พาคนไปติดคุก แกนนำไม่รับผิดชอบกับชีวิตของมวลชน ผมคิดว่ามันเป็นข้อกล่าวหาโจมตีผู้อื่นเพื่อเป็นการยกตนขึ้นสูง หรืออีกนัยหนึ่งคือมันเป็นข้อกล่าวหาทางศีลธรรม
gadfly
ผมคิดว่าผู้ที่ให้บทเรียนที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่สนับสนุนการรัฐประหาร ก็คือ ทหาร รัฐบาลทหาร และ ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง
gadfly
เมื่อคืนผมไม่ได้ดื่มเหล้า เลยเกิดอาการตาสว่าง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะหลับ และกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกินตีสาม .หลับแล้วก็ยังฝันต่ออีก.ฝันว่าได้กลับไปอยู่บ้าน บ้านก็ยังคงมีสภาพเหมือนเดิม แต่สภาพแวดล้อมรอบบ้านกลับเปลี่ยนไป มันกลายเป็นทุ่งหญ้า กว้าง กว้าง และกว้าง...
gadfly
เมื่อคิดถึงเรื่องโอกาสทางการศึกษา ในกรณีผู้ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดตาม กม.อาญา มาตรา 112ผมคิดถึงนักศึกษาสองคนคนหนึ่งเรียนอยู่ ม.เทคโนโลยีมหานคร คณะวิศวกรรมศาสตร์ ปีสุดท้าย เขาชื่ออัครเดช ชื่อเล่นว่า เค
gadfly
อ่านข้อถกเถียงในประเด็นเรื่องฟรีสปีช เฮทสปีช ความรุนแรง เสรีภาพในการแสดงออก ฯลฯ ของบรรดาปัญญาชนมากมาย แต่ใจกลับย้อนคิดถึงเหตุการณ์หนึ่ง ซึ่งอาจไม่เกี่ยวไม่ข้องกับเหตุการณ์ข้างต้นเลย ก็เลยลองยกมา