Skip to main content

ผู้เขียน
ทีมข่าวการเมือง

 

ประเด็นจากข่าวแดงจับแดง เป็นการตั้งคำถามที่หนักหน่วงในเชิงหลักการอีกครั้งสำหรับการเคลื่อนไหวที่นิยามตัวเองว่าเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ประเทศไทยเคยมีมา

หลักการที่ถูกกระทุ้งถามในครั้งนี้ล้วนเป็นเรื่องของนิติรัฐที่เป็นใจกลางของการปกครองระบอบประชาธิปไตยทั้งสิ้น

 

หนึ่ง มาตรา 112 กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และมาตรการปกป้องสถาบันกษัตริย์บรรดามีในประเทศไทยนั้น แกนนำเห็นว่าเป็นปัญหาหรือไม่ ควรถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือปรับปรุงแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่ ซึ่งนี่เป็นคำถามที่กนนำไม่เคยตอบจริง อันนำมาสู่คำกลาวหาว่า “สู้ไปกราบไป” จนกระทั่งในช่วงหลังๆ มานี้ การแสดงออกทางการเมืองของคนเสื้อแดงแยกได้ชัดว่า มีแดงกระแสหลัก ซึ่งขาดความขัดเจนในประเด็นนี้ กับแดงราดิคัล ที่พูดเรื่องนี้อย่างชัดเจนในที่สาธารณะ

ความไม่ชัดเจนในหลักการเบื้องต้นนำมาสู่การขับเคลื่อนที่สับสนลักลั่น แสดงออกมาหลายกรรมหลายวาระ เช่น เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 54 หลังจากที่ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เข้าพบนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ รักษาการ ประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ รองประธาน นปช. นายวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ โฆษก นปช. เพื่อหารือเรื่องการชุมนุมของคนเสื้อแดงในวันที่ 12 มี.ค. ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยภายหลังการหารือประมาณ 30 นาที ได้มีการแถลงข่าวโดยแกนนำ โดยนายวรวุฒิแถลงว่า สิ่งที่ตำรวจห่วงใยและฝากให้แกนนำช่วยดูแล ก็คือข้อความต่างๆ ที่อาจเข้าข่ายหมิ่น จึงขอให้พี่น้องเสื้อแดงช่วยสอดล่องดูแล เมื่อพบข้อความดังกล่าวให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจับกุมได้ทันที

และนำมาสู่อาการแอคทีฟในการตรวจตรากันเองของแกนนำเสื้อแดงและการ์ด นปช. จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้น

สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตและวิจารณ์เหตุการณ์ดังกล่าวผ่านเฟซบุคของเขาด้วยว่า "ผมว่า การทีการ์ด "บ้าจี้" ขนาดนี้ ซึงครั้งอื่นๆ ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี ต้องเป็นการ "ชี้นำ" มาจากระดับผู้รับผิดชอบ อย่างน้อยระดับผู้รับผิดชอบด้านการ์ด วันนี้ ก่อนเกิดเหตุการณ์ เวทีก็ประกาศซ้ำ คล้ายๆ กับคำสัมภาษณ์ของวรวุฒิ วิชัยดิษฐ์ ที่ผมโพสต์ไปเื่มื่อวาน คือ ประกาศดังๆ จากเวทีเลย เรื่อง เจออะไรที "หมิ่นเหม่" ให้จับส่งตำรวจ"

"ในบรรยากาศการเมืองแบบนี้ ที่ผู้นำ นปช.เองบางคน ก็โดนกล่าวหาว่า "หมิ่น" โดนเล่นงานจากรัฐ ... แค่นี้ยังไม่พอ? นปช. ต้อง "ช่วย" ทำหน้าที่ในการเล่นงานคนอื่นเรื่อง "หมิ่น" ... ด้วยหรือครับ?"

แน่นอน หลายคนอาจแสดงความเห็นว่า บางทีการ์ดก็ไม่ฉลาด และการ์ดก็มีที่มาหลากหลายร้อยพ่อพันแม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่อ้างได้แต่นั่นก็นำมาสู่คำถามถึงกระบวนการจัดการของแกนนำเสื้อแดงเช่นกัน ว่าจะใช้วิธีการที่ไม่รัดกุมเช่นนี้และไว้วางใจให้คนร้อยพ่อพันแม่มาดูแลความเรียบร้อยในการชุมนุมโดยไม่มีการวางระบบและข้อตกลงที่ชัดเจนรัดกุมในการปฏิบัติหน้าที่แต่ละครั้งได้หรือ ยิ่งหากแกนนำหรือคนเสื้อแดงกลัวว่าจะมีคนอื่นมา “แอบแฝงบ่อนทำลาย” ก็ยิ่งควรต้องชัดเจนในหลักการให้มากบยิ่งขึ้นด้วยว่า “แบบไหน” ที่เรียกว่าเป็นการแอบแฝงบ่อนทำลาย มิเช่นนั้น คนเสื้อแดงทุกคนก็อาจถูกการ์ดแดงจับได้ทุกครั้งที่ชุมนุม เพราะการตีความตามทัศนส่วนตัว แกนนำเองย่อมต้องระมัดระวังในประเด็นนี้ และน่าจะรู้ดีกว่าใครว่า “คนเสื้อแดงทำอะไรก็ผิด” อย่างที่แกนนำพูดตัดพ้อสื่อและสังคมอยู่เนืองๆ

ที่ผ่านมา กรณีความหละหลวมในการบริหารจัดการการ์ดก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์มาก จนกระทั่งมีคำเสียดสีทำนองว่า ถ้าการ์ดผิดแกนนำ ก็อาจปัดความรับผิดได้ โดยบอกว่า นั่นไม่ใช่คนเสื้อแดง

คำเตือนด้วยความห่วงใยในเรื่องระบบการ์ดนี้ “วัชรพันธุ์ จันทรขจร” หรือ “โป๊ะ” ซึ่งเคยรับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ขบวนการเคลื่อนไหวของนิสิตนักศึกษาในยุค 14 ตุลา และพฤษภา 35ซึ่งแกนนำเสื้อแดงให้ความเคารพและเดินสำรวจการรักษาความปลอดภัยเมื่อครั้งคนเสื้อแดงชุมนุมที่ราชประสงค์อยู่เนืองๆ ก็เคยตั้งข้อสังเกตถึงจุดอ่อนนี้

“ ก็ไปดูการรักษาความปลอดภัยที่ นปช. ตั้งขึ้นมาว่าเป็นอย่างไร เขามีระบบอยู่แล้ว อารี (ไกรนรา) เขาก็ตั้งขึ้นมา ว่าจะมีกี่ชั้นๆ แต่ปรากฏว่าอารีเขาเป็นคนเปิด ก็มีการ์ดเยอะมาก ก็มีอาการมั่ว เราก็เตือนว่า อย่างน้อยวงในต้องมีระบบระเบียบ มีการจัดการกับการ์ดที่แฝงตัวเข้ามา แล้วการที่เปิดให้ใครก็ได้เอาบัตรประชาชนเข้ามาก็เป็นการ์ดได้นั้นไม่ถูก ก็บอกเขา”

 

สอง ปัญหาเรื่อง การบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐในกรณีดังกล่าว

เมื่อคุณปลาโดนจับไป คำถามที่สังคมหรืออย่างน้อยที่สุดคนเสื้อแดงละเลยไปคือ กระบวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งประเด็นนี้ สาวตรีสุขศรี อาจารย์ภาควิชากฎหมายมหาชน ที่ได้อยู่ร่วมในกระบวนซักถามของตำรวจตั้งข้อสังเกตในหน้าวอลล์ของตนเองในเฟซบุคว่า”

“กรณีผู้ถูกการ์ดเสื้อแดงจับส่งตำรวจเพราะแจกเอกสาร..๑. แน่ล่ะว่าเรื่องนี้ต้องจัดการให้ชัดเจน ถึงการใช้อำนาจเกินไปของการ์ดเสื้อ แดง (ตรงนี้มีคนพูดถึงเยอะ) แต่ที่เราไม่เข้าใจคือ มีคนจำนวนน้อยมาก (แม้แต่ญาติผู้เสียหายเอง) ที่จะตั้งคำถามถึง ๒. การใช้อำนาจของตำรวจ กรณีควบคุมและสอบปากคำโดยไม่มี "ข้อกล่าวหา"...ทำไมคนไทยพร้อมตรวจสอบการทำงานของ ปชช. ด้วยกันเอง แต่หรี่ตาให้การใช้อำนาจโดย "รัฐ" ??” และ

“พอดีวันที่มีเหตุจับกัน มีโอกาสได้ไปอยู่ตรงนั้น...พบว่า การดำเนินการของตำรวจ (แม้เขาจะแสดงความเป็นมิตรกับผู้ถูกจับ) ไม่ว่าจะเป็น การถามปากคำโดยไม่มี "การแจ้งข้อกล่าวหาใด ๆ ทั้งสิ้น" การยืนยันว่าควร "เซ็นต์ชื่อในใบสอบปากคำนั้น" กระทั่งการ "ตามไปดูที่บ้านของผู้ถูกจับ" ล้วนไม่มีกฎหมายให้อำนาจ !!! เรายืนยันวันนั้นว่า ตำรวจไม่มีอำนาจ...แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ทุกคน หัวเสียกับ "การ์ด นปช." จนละเลยที่จะตั้งคำถามถึงการใช้อำนาจของตำรวจ ...ทำไม ?”

 

สุดท้าย แดงจับแดงที่เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ไม่ควรถูกมองว่าเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิด หรือเรื่องน้ำผึ้งหยดเดียวและจบกัน แต่นี่คือเป็นปัญหาท่าที และหลักการของแกนนำซึ่งไปช้ากว่ามวลชนอย่างสม่ำเสมอ ประเด็นนี้ร้อนแรงมาก และคนเสื้อแดงหลายคนแสดงความผิดหวังต่อแกนนำอย่างชัดเจน บางคนประกาศไม่ไปร่วมชุมนุมด้วยแล้ว อีกส่วนหนึ่งกลับโต้ตอบว่าประเด็นเหล่านี้เป็นเรื่องที่เสื้อแดงราดิคัล ที่เข้าใจกันว่ามีสมศักดิ์ เจียมธีรสกุลเป็นผู้นำทางความคิด มักจะยกมาโจมตีแดงกระแสหลัก แล้วยุให้ไปตั้งกลุ่มเอาเองเพื่อจะได้เคลื่อนไหวให้ถูกใจตัวเอง ขณะที่บางคนที่พูดเรื่องนี้ไปในทำนองตั้งคำถาม ก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นแค่ “เหาฉลาม” ของนักวิชาการประวัติศาสตร์คนดัง ซึ่งการโต้ตอบดังกล่าวมานี้ ไม่มีอะไรที่เรียกได้ว่าเป็นการโต้แย้งในเชิงหลักการเลย
 

บล็อกของ หัวไม้ story

หัวไม้ story
ผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยจำนวนหนึ่ง อาจจะฮือฮามาสักพักแล้วกับเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของนักการเมืองค่ายประชาธิปัตย์ นำโดย หล่อใหญ่ อภิสิทธิ์ ตามมาด้วยสาทิตย์ วงษ์หนองเตย  แต่ก็ยังอาจจะยังไม่เห็นประสิทธิผลมากนักสำหรับการเปิดพื้นที่ใหม่ในสื่อใหม่ในโลกออนไลน์ เพราะยังไม่มีการใช้สำหรับแคมเปญหาเสียง หรือแคมเปญกิจกรรมอะไรพิเศษ แต่แล้ว เมื่อเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ชื่อ thaksinlive เริ่มเป็นที่รับรู้ของชาวไซเบอร์เพียงไม่กี่วัน ก็กลับฮือฮาเป็นกระแสพ้นพรมแดนโลกไซเบอร์ออกมาเหมือนปีศาจที่ตามหลอกหลอนไปทุกพรมแดนความรับรู้ของขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม
หัวไม้ story
ในฐานะที่กระแสรางวัลซีไรต์ปีนี้ช่างแผ่วเบา เราจึงขอกระตุ้น ยั่วยวน ให้หันมองด้วยงานวิจารณ์ของ “นายยืนยง” ซึ่งยืนยันกับการชื่นชม “วิญญาณที่ถูกเนรเทศ” เล่มหนึ่งที่เข้ารอบสุดท้าย ไม่ว่าใครจะครหาอย่างไรก็ตาม         ชื่อหนังสือ         :           วิญญาณที่ถูกเนรเทศ ผู้เขียน              :           วิมล ไทรนิ่มนวล จัดพิมพ์โดย       :   …
หัวไม้ story
โดย ทีมข่าวการเมือง 5 แกนนำพันธมิตร ขึ้นปราศรัย ระหว่างงานรำลึก 1 ปีแห่งการต่อสู้ของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อ 25 พ.ค. 52 ที่สนามกีฬากลาง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต จ.ปทุมธานี (ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์, 25 พ.ค. 52)
หัวไม้ story
หลังการชุมนุมคนเสื้อแดงจบลงไปในวันที่ 14 เมษายน 2552 โดยการชุมนุมครั้งนั้นเกิดความรุนแรงขึ้นในหลายจุด ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากการใช้อาวุธ ทั้งจากฝ่ายตำรวจ ผู้ชุมนุม และกลุ่มไม่ทราบฝ่าย ช่วงเวลา 2-3 วันให้หลัง ประชาไทพยายามติดตามหาพยานผู้เห็นเหตุการณ์ ทว่าพยานบุคคลหลายคนเลือกที่จะเป็นเสียงเงียบ และหลายคนเลือกการเดินทางกลับต่างจังหวัด บรรยากาศภายใน 1 สัปดาห์หลังจากนั้น ดูเหมือนเป็นบรรยากาศแห่งความเงียบและหวาดระแวงสำหรับผู้เคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง นั่นทำให้เราเริ่มคิดถึงคนเสื้อแดงที่ต่างจังหวัด…
หัวไม้ story
สัมภาษณ์ เสรี สาระนันท์ ส.ส. หลายสมัยจากอ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ถึงเหตุผลที่ ส.ส. ยังคงต้องอยู่กับเสื้อแดงและทักษิณ และกระบวนการจัดการเสื้อแดงที่เป็นฐานเสียง และเป็นมวลชนที่เข้าร่วมการชุมนุม รวมถึงให้เขาประเมินอนาคตของทั้งตนเองและขั้วอำนาจฝ่ายสีแดง การสัมภาษณ์ครั้งนี้สะท้อนถึงพลังของ "ปีศาจ" อย่างทักษิณ ที่จะยังครอบงำจิตใจชาวบ้านและหลอกหลอนการเมืองขั้วตรงข้ามต่อไปอย่างยากจะเปลี่ยนแปลง
หัวไม้ story
เสียง ภาพ ชาวบ้านเสื้อแดง ตำบลหนองไผ่ จังหวัดอุดรธานี บอกเล่าความรู้สึกและความเห็นทางการเมือง ว่าด้วยประชาธิปไตย และทักษิณ หลังการชุมนุมคนเสื้อแดงที่ยุติลงในช่วงบ่ายของวันที่ 14 เม.ย. อนึ่ง ชาวบ้านบางส่วน ได้เข้ามาร่วมการชุมนุมคนเสื้อแดงในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่อีกบางส่วนไม่ได้เข้าร่วม แต่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดอยู่ที่บ้าน ผ่านสถานีดีสเตชั่น และวิทยุชุมชนคนรักอุดร ประชาไทบันทึกคลิปวีดีโอ เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ที่ผ่านมา
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง [การโหยหาอดีตของสองทหารแก่ สุรชัย-เปรม อาจไม่ต่างกันมาก ผิดกันตรงที่ ทหารแก่คนหนึ่งอาจสมใจ สังคมไทย Nostalgia ย้อนยุคขุนศึก อำมาตย์ เป็นใหญ่ได้อีกหลัง 19 ก.ย. 49 มีองคมนตรีมาเป็นนายกฯ ที่ป๋าเห็นเป็นวินสตัน เชอร์ชิล มีนายกฯ หนุ่มที่ป๋าบอก “ผมเชียร์” … เช่นนี้กระมัง สหายเก่า-ทหารแก่อีกคนจึงขอแต่งชุดทหารป่าเข้ามอบตัว ขอ Nostalgia อีกรอบ] ]   000 นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำ นปช. ขณะเข้ามอบตัวเมื่อ 27 เม.ย. 52 (ที่มาของภาพ: ASTVผู้จัดการออนไลน์)
หัวไม้ story
[ ทีมข่าวการเมือง ]   ทุกๆ เช้าของวันจันทร์-ศุกร์ ถ้าไม่ใช่วันหยุดนักขัตฤกษ์ ภารกิจของนายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย คือเตรียมเดินทางมายังสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมแห่งเอเชีย (Asia Satellite Television) หรือ เอเอสทีวี ถ.พระอาทิตย์ เพื่อดำเนินรายการ “Good Morning Thailand” รายการเล่าข่าวและวิเคราะห์สถานการณ์การเมืองอย่างเผ็ดร้อน ซึ่งเขาจัดเป็นประจำทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 6.00-7.00 น. แต่วันนี้ 17 เมษายน เขาไม่ได้จัดรายการ “Good Morning Thailand” เหมือนเคย เพราะถูกลอบยิงเมื่อเวลาราว 5.40 น. ก่อนที่รถของเขาจะมาถึงสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี   000   ที่มา:…
หัวไม้ story
(ทีมข่าวการเมือง)ทีมข่าวการเมือง สัมภาษณ์ผู้ชุมนุมแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง ระหว่างการชุมนุมเมื่อวันที่ 8 เมษายน ที่ผ่านมา โดยถามพวกเขาว่า “ออกมาชุมนุมทำไม?” ต่อไปนี้คือคำตอบของพวกเขา 
หัวไม้ story
ห้องพิจารณาคดี 904 หลังสิ้นเสียงคำพิพากษาให้จำคุก 10 ปี...
หัวไม้ story
[ทีมข่าวการเมือง]"พี่สนธิก็เคยคุยกับผมเป็นการส่วนตัวว่าคิดถึงพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วยซ้ำ มีโปลิตบูโร หรือคณะกรรมการนโยบายของพรรคที่อาจจะไม่ได้มามีตำแหน่งบริหาร ไม่ได้มามีตำแหน่งทางการเมือง แต่ว่าคุมยุทธศาสตร์ คุมทิศทางพรรค ซึ่งอันนี้น่าสนใจ และคงต้องดูว่าโครงสร้างเป็นอย่างไร ขณะเดียวกัน เรายังมีเวลาศึกษาพรรคการเมืองจากหลายประเทศ เพื่อเปรียบเทียบกัน และต้องดูบริบทสังคมไทยด้วย แบบไหนมันเข้ากับสังคมไทย"สุริยะใส กตะศิลา, สัมภาษณ์ใน เนชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 876, 13 มีนาคม 2552  000 แกนนำพันธมิตรฯ บน “เวทีคอนเสิร์ตการเมืองครั้งที่ 4” ของพันธมิตรฯ ที่เกาะสมุย เมื่อ 4 มีนาคม 2552…
หัวไม้ story
ทีมข่าวการเมือง การเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ 13-15 มี.ค. มีหลายประเด็นจากการเยือนดังกล่าวที่ยังไม่ได้รับการพูดถึง หลายเรื่องถูกบิดเบือน และผลิตซ้ำ จนกลายเป็นชุดความคิดที่ถูกยอมรับโดยไม่มีการตั้งคำถาม “ประชาไท” ขอนำเสนอเรื่องที่ยังไม่มีการรายงาน เรื่องที่ยังไม่ถูกพูดถึง และเรื่องที่บิดเบือนดังกล่าว ในระหว่างการเยือนอังกฤษของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  1.เปิดต้นทางข่าว “ไม่ได้หนี แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร”   สื่อมวลชนไทยทุกฉบับพร้อมใจรายงานภารกิจของอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ…