Skip to main content
อียิปต์
 
 
ผมเกรงว่ารัฐบาลรักษาการของทหารในอียิปต์อยู่ในสภาพขี่หลังเสือแล้ว ต้องฆ่า, มากศพขึ้นก็ต้องฆ่า ลงไม่ได้ ถ้าลงก็หมดตัวทั้งกองทัพ ฉะนั้นไม่อาจคาดหวังให้เรื่องจบลงง่าย ๆ ได้ 
 
ทางออกที่สูญเสียน้อยกว่าคือกองทัพแตกแยก ทหารบางเหล่าก่อรัฐประหารซ้อน โค่นรัฐบาลรักษาการและฝ่ายนำกองทัพปัจจุบันลง ฟื้นฟูประชาธิปไตยผ่านรัฐบาลรักษาการใหม่ทีรวมฝ่ายภราดรภาพมุสลิมและอื่น ๆ ไว้ด้วย ยกเว้นพวกรัฐประหารฆ่าฟันประชาชน จากนั้นจัดสอบสวนดำเนินคดีฟ้องร้องผู้รับผิดชอบและลงมือสังหารหมู่ประชาชนผูุ้ชุมนุม
 
ทางออกที่สูญเสียมากกว่าคือสงครามกลางเมือง นั่นแปลว่าฝ่ายประชาชนผู้คัดค้านรัฐบาลรักษาการและทหารต้องหาอาวุธ (จากไหน?) ลงใต้ดินและรบจรยุทธ์ การชนะทางทหารคาดหวังยาก แต่การชนะทางการเมืองพอมีทาง หากลากยาวออกไปได้ แรงกดดันสากล, ปัญหาเศรษฐกิจและความแตกแยกในฝ่ายรัฐบาล-กองทัพน่าจะมากขึ้นจนรักษาอำนาจไว้ได้ยาก และต้องหาทางออกทางลงทางการเมืองบางแบบ
 
ทางออกที่สูญเสียมากที่สุดคือการปราบปรามดำเนินต่อไปจนราบคาบ หมายถึงหยุดการต่อสู้บนท้องถนนได้ ยอดคนตายคงเพิ่มอีกมาก การปกครองหลังจากนั้นย่อมคือการกดปราบนั่งฆ่าคนขังคนปิดปากคนอยูในบัลลังค์อำนาจต่อไปเรื่อย ๆ เชื่อว่ารัฐก่อการร้ายต่อประชาชนตัวเองแบบนี้น่าจะเผชิญกับทั้งการต่อสู้ของประชาชนแบบสันติวิธีและการก่อการร้ายตอบโต้ของกลุ่มฝ่ายต่อต้านต่าง ๆ เช่นกัน
 
ไทย
 
ท่าทีแข็งขันจริงจังของรัฐบาลและเสียงตอบรับที่มีมากขึ้นจากฝ่ายต่าง ๆ (โดยเฉพาะกรณีอานันท์ ปันยารชุน) ทำให้ข้อเสนอสภาปฏิรูปดูมีน้ำหนักขึ้น ในเวอร์ชั่นดีที่สุดของมัน มันอาจทำหน้าที่เป็นสถาบันที่ปรึกษาต่อรองรอมชอมหาจุดร่วมอย่างเป็นทางการในหมู่ elites ไทยกลุ่มต่าง ๆ 
 
สถาบันลักษณะนี้ที่ผ่านมาไม่มีในระบบเลือกตั้งประชาธิปไตยซึ่งพรรคเพื่อไทยและเครือข่ายกุมเสียงข้างมากไว้ได้ แต่การดำรงอยู่และอำนาจอิทธิพลอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการของบรรดา "อำมาตย์" (non-majoritarian institutions สถาบันที่ไม่ได้มาจากเสียงข้างมาก) โดยเฉพาะในภาคประชาสังคมและสื่อมวลชน ทำให้พวกเขากระตุกรัฐบาลให้สะดุดได้
 
เพื่อแก้ปัญหานี้ เบื้องหน้างานช้างทางยุทธศาสตร์เรื่องโครงการเมกะลอจิสติกส์และบริหารจัดการน้ำมูลค่าเกือบ ๕ ล้านล้านบาท รัฐบาลเพื่อไทยดูเหมือนกำลังพยายามสร้างสภาปฏิรูปเป็นสถาบันและช่องทางรองรับการหารือต่อรองจาก elites กลุ่มอื่นที่ถูกเบียดขับออกจากระบบเลือกตั้งประชาธิปไตยเหล่านี้ เชื้อเชิญชักชวนให้พวกเขาเข้ามา "มีส่วนร่วมในการบริหารอำนาจและจัดการผลประโยชน์" เพื่อสร้างฐานฉันทมติในหมู่ชนชั้นนำ (elite consensus) รองรับการดำเนินโครงการใหญ่ดังกล่าวข้างต้น
 
กลุ่มที่ไม่รับคำเชิญและถูกกันออกไปโดยปริยาย ได้แก่พันธมิตรฯกับประชาธิปัตย์ รวมทั้งเครือข่ายรัฐประหารคปค.-อำมาตย์ตกค้างบางส่วน พวกเขานับวันจะกลายเป็นพลังต่อต้านนอกระบบ (ตัวตลกสำหรับการเมืองในระบบ) ลีบผ่อห่อเหี่ยว desperate และสุดโต่งมากขึ้นทุกที แต่พวกเขาก็นึกหาทางออกไม่เจอ ได้แต่ชวนกันให้ทิ้งระบบไปสู่สุญญากาศทางการเมืองนอกระบบมากขึ้น (สนธิผ่านปานเทพและประพันธ์ชวนสส.ประชาธิปัตย์ลาออกยกแผงจากสภา ซึ่งเท่ากับสละที่มั่นสุดท้ายในระบบทิ้ง เพื่อไปเดิมพันกันนอกระบบเต็มตัว ได้ก็โค่นระบบเลือกตั้งประชาธิปไตย พ่ายก็หมดตัว กลายเป็น "กบฎ" ไม่ต้องกลับมา) 
 
พันธมิตรฯกลับเข้าระบบมาไม่ได้เพราะติดสนธิและบ่วงวาทกรรมขวาสุดโต่งต่อต้านการเลือกตั้งประชาธิปไตยของตัวเอง, ประชาธิปัตย์นับวันถดถอยเสียรังวัดในระบบเพราะติดแกนนำชนักติดหลังชุดปัจจุบันและบ่วงวาทกรรมศอฉ.-ผังล้มเจ้าของตัวเอง, กลุ่มฝ่ายต่าง ๆ ที่เหลือไม่มีกำลังชัดเจนหนักแน่นพอจะทำให้การอยู่นอกระบบของพวกเขามีความหมายจริง ในที่สุดใต้การนำที่เพลี่ยงพล้ำเสียเปรียบในระบบของประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์จึงถูกดูดดึง "โดยธรรมชาติ" ให้หันหน้าออกนอกระบบ บ่อนทำลายบทบาทฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพของตัวเองในระบบ (กลายเป็นฝ่ายลากถูไถดื้อรั้นไร้เหตุผล) และไถลใกล้เข้าไปสู่แนวทาง "เอเอสทีวี/ผู้จัดการ/พันธมิตรฯ/สนธิ" มากขึ้นทุกที
 
มันเป็นทางที่ไม่มีอนาคต ไม่ว่าสำหรับพันธมิตรฯ ประชาธิปัตย์ หรือประชาธิปไตยไทย

บล็อกของ เกษียร เตชะพีระ

เกษียร เตชะพีระ
"ในฐานะผู้เคยทำการปฏิวัติด้วยความรุนแรง ผมใคร่บอกว่าเราต้องหาทางเจือผสมการปฏิวัติด้วยความไม่รุนแรงให้มากที่สุด เพราะเหตุใดน่ะหรือ? ก็เพราะว่าบรรดาไพร่ทาสราษฎรสามัญชนโดยทั่วไปนั้นหาได้มีอาวุธสงครามในมือเหมือนกลไกรัฐภายใต้การบังคับควบคุมของชนชั้นปกครองไม่.."    
เกษียร เตชะพีระ
กระบวนการเศรษฐกิจทุนนิยมโลกาภิวัตน์ดังที่เป็นอยู่ จึงก่อผลสำคัญด้านความเหลื่อมล้ำทางโภคทรัพย์ที่เป็นอุปสรรคต่อประชาธิปไตย ไม่ใช่อุดหนุนเกื้อกูล, พลังประชาธิปไตยบนฐานอำนาจเสียงข้างมากของคนที่ขาดด้อยโภคทรัพย์ต้องหาทางคะคานถ่วงดุลอำนาจทุนมหาศาลของคนมั่งมีโภคทรัพย์เสียงข้างน้อยไว้ มิฉะนั้นประชาธิปไตยก็จะหมดความหมายในทางเป็นจริงไปในที่สุด
เกษียร เตชะพีระ
เฉพาะหนึ่งปีที่ผ่านมา รถยนต์ที่ขายในประเทศร่ำรวย อาทิ ญี่ปุ่นและอเมริกา กลับมียอดแซงหน้าในประเทศตลาดเกิดใหม่ จีนไม่ใช่ประเทศที่มีอัตรายอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นสูงสุดอีกต่อไป หากกลับเป็นไทย (ที่ ๖๐%!) และอินโดนีเซีย (ที่ ๓๕%) ในรอบปีที่ผ่านมา
เกษียร เตชะพีระ
ก้องกังวานสะท้านฟ้ามหาสมุทร ด้วยคลั่งแค้นแสนสุดประกาศกล้า เป็นแสนเสียงล้านเสียงมหาประชา สยบขวัญสั่นอุราเผด็จการ...
เกษียร เตชะพีระ
"ประชานิยม" "คนชั้นกลางนิยม" "คนรวยนิยม" "อำมาตย์นิยม" "ประชาธิปัตย์นิยม" "ม.๑๑๒ นิยม" "ราชบัณฑิตนิยม" "ยิ่งลักษณ์นิยม" "ทักษิณนิยม" "พันธมิตรนิยม" "นิติราษฎร์นิยม" "นิด้านิยม"