ได้หนังสือเล่มนี้มาเกือบสี่ปีจากร้านขายหนังสือ a different bookstore ในแหล่งช้อปปิ้งชื่ออิสต์วูด เมืองลิบิส ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าหากอยากได้หนังสือแปลของนักเขียนเอเชียก็มาที่นี่ได้ เพราะเป็นแหล่งรวมงานเขียนชาวเอเชีย ประเภทประวัติศาสตร์ การเมือง วัฒนธรรมหาได้ง่ายที่สุดแห่งหนึ่งในมนิลา (หวังว่าร้านหนังสือยังไม่เจ๊งไปเสียก่อน)
\\/--break--\>
ปราโมเดีย อนันตา ตูร์ เป็นนักเขียนชื่อดังของอินโดนีเซียและเอเชีย เป็นแคนดิเดทรางวัลโนเบล รางวัลสำคัญของโลกอีกด้วย เขาได้ชื่อว่าเป็นนักเขียนต่อต้านอาณานิคมดัทช์ และสร้างกระแสชาตินิยมของอินโดนีเซีย เขาเป็นนักเขียนที่มีชีวิตผ่านทุกยุคสมัยของอินโดนีเซีย เห็นการเปลี่ยนแปลงของอินโดนีเซียตั้งแต่ยุคอาณานิคม สงครามโลกครั้งที่ 2 และอินโดนีเซียหลังได้รับเอกราช ทว่าหลังยุคอาณานิคมหนังสือเขากลับถูกแบนจากรัฐบาลซูฮาร์โต นับว่าเขาเป็นกบฎในทุกยุคสมัย มีงานเขียนเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นความไม่เท่าเทียมในสังคม สังคมแบบชนชั้นของอินโดนีเซียผ่านทุกตัวละครของเขา จากที่มีโอกาสได้อ่านหนังสือเล่มนี้ชนิดที่วางไม่ลง เป็นเรื่องราวของหญิงสาววัยสิบสี่จากชายฝั่ง กำเนิดในหมู่บ้านชาวประมงยากจน
เธอเป็นตัวแทนที่บอกถึงเรื่องราวของชนชั้นล่างและความสัมพันธ์เชิงอำนาจต่อชนชั้นสูง หรือชนชั้นผู้มีการศึกษาของสังคมอินโดนีเซีย บนฉากแห่งดินแดนจาวา (ชวากลาง) ผ่านการแต่งงานแบบคลุมถุงชนระหว่างเธอกับ ‘Bendoro' ชนชั้นสูงผู้มีการศึกษาโดยมีเชื้อแถวของกษัตริย์ของสังคมจาวา อภิสิทธิชนที่ได้รับการศึกษาจากระบบของดัทช์ การพูดภาษาดัทช์ได้เป็นสัญลักษณ์แห่งการแบ่งชั้นวรรณและสิทธิของความเป็นพลเมืองในยุคอาณานิคมด้วย ตัวแทนของการยอมจำนนอย่างสิ้นเชิงต่ออำนาจของชนชั้นคือพ่อของหญิงสาวจากชายฝั่ง วัฒนธรรมของชนชั้นสูงและสิ่งสร้างของดัทช์คือความอาญาสิทธิ์แห่งความถูกต้องที่ชนอีกชั้นไม่อาจโต้ตอบหรือตั้งคำถามกับมันได้ แต่.....ทว่า หญิงสาวจากชายฝั่งต่างจากพ่อของเธออย่างสิ้นเชิง เมื่อเธอเริ่มตั้งคำถามและโต้แย้งสังคมชั้นสูง โดยให้คุณค่าและความงดงามของชีวิตชนชั้นล่างผู้ยากไร้ในหมู่บ้านชาวประมงของเธอผ่านช่วงหนึ่งที่ถูกรังแกจากผู้แวดล้อมสามีในคฤหาสน์ วิญญาณกบฎของเธอถูกปลุกขึ้นเมื่อเธอจากหมู่บ้านมาปะทะกับความแปลกแยกแตกต่างจากอีกสังคมหนึ่งที่ต่างกันราวฟ้ากับดิน
นอกจากนี้หญิงสาวจากชายฝั่ง ฉายให้เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมที่หญิงสาวยึดมั่นและต่อสู้แม้ในช่วงจุดจบของชีวิตแต่งงานระหว่างเธอกับชายชนชั้นสูงของเมือง สะท้อนให้เห็นถึงความเหลื่อมล้ำทางสังคมยุคหนึ่งของอินโดนีเซีย
หญิงสาวจากชายฝั่ง...ผู้หญิงที่ต่อสู้เพื่อความมีตัวตนของเธอ