Skip to main content
"หม้อนี้เอาไว้ทำอะไรเอ่ย"

ฉันถามเด็กหญิงมุสลิมตัวน้อย เธอเอียงคอ อมยิ้มอย่างเขินอาย ใบหน้ากลมๆ นั้นล้อมกรอบด้วยฮิญาบสีขาว

"บอกหน่อยน่า อยากรู้" ฉันแกล้งเซ้าซี้

"เอาไว้จับแมลง" เธอตอบอุบอิบด้วยเสียงกระซิบ

"น่าสนใจจังเลย" ฉันทำเสียงตื่นเต้น ขณะก้มดูต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงในกระถางดินเผา

.......


แสงแดดยามสายปลายเดือนมกราคมกำลังอาบไล้ยอดหญ้าหน้าห้องสมุดหลังเล็กของโรงเรียนบ้านในไร่ มีกลิ่นน้ำเค็มเจือจางอยู่ในสายลม ต้นไม้อายุน้อยหลายต้นกำลังเติบโตงอกงาม อาคารเรียนและห้องสมุดดูมั่นคงแข็งแรง หนังสือนิทานเล่มใหม่วางรอเด็กๆ อย่างสดชื่นราวกับไม่เคยผ่านเหตุการณ์รุนแรงใดๆ มาก่อน


เด็กหญิงคนนี้ยังเล็กอยู่มาก เมื่อคลื่นมหาภัยซัดเข้าใส่ชุมชนบ้านเกิดของเธอบนฝั่งทะเลอันดามัน น้ำพัดพาทุกอย่างหายไป เหลือไว้แต่ความเจ็บปวดสูญเสียที่ยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำของคนจำนวนมากในอำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา แต่ไม่ใช่ในแววตาสดใสของเธอ

.......


"แมลงมันจะตกลงไปในนั้น" เธอบอกและเผลอชะโงกเข้ามาดูด้วย ศีรษะกลมๆ ที่คลุมผ้าไว้เฉียดปลายคางของฉัน

"ในหม้อมันมีน้ำหวานล่อให้แมลงลงไป" เด็กชายผิวเข้มอีกคนเข้ามาช่วยตอบ ตาคมของเขามีแววกระตือรือร้น

"แล้วถ้าไม่มีแมลงตกลงไปล่ะคะ มันจะกินอะไร" ฉันลองภูมิ

"มันเก๊าะกินน้ำไง" เด็กชายตอบแล้วยิ้มโชว์ฟันขาว ฉันมารู้ภายหลังว่าเขาเป็นคนรดน้ำต้นไม้

.......


ปลายธันวาคม 2547 ชุมชนมุสลิมแห่งนี้แทบสิ้นเนื้อประดาตัว เมื่อเครื่องมือทำกินรวมทั้งเรือและบ้านเรือนสูญหายไปในพริบตา รอยยิ้มบนใบหน้าของทุกคนหายไป และเมื่อน้ำแห้ง หัวใจทุกคนกลับแห้งยิ่งกว่า เมื่อพบว่าผืนดินที่อยู่อาศัยมานานนับร้อยปีมีคนอ้างกรรมสิทธิ์


ความพยายามต่อสู้เพื่ออยู่อาศัยในแผ่นดินเกิดของชาวบ้านเป็นข่าวในสื่อหลายแขนง ฉันขออนุญาตไม่เล่าถึงช่วงเวลาอันขมขื่นเหล่านั้น เพราะวันนี้ มีแววตาสุกใสหลายคู่อยู่ตรงหน้า

 

"ชอบอ่านหนังสือหรือคะ" ฉันถาม มีรอยยิ้มร่าแทนคำตอบ ฉันรู้มาว่า ห้องสมุดฟื้นตัวพร้อมกับความสุขของเด็กๆ

"ชอบอ่านเรื่องอะไรเอ่ย"

พวกเขามองปราดไปที่ชั้นหนังสือเล็กๆ ข้างหน้าต่าง ภาพพ่อมดน้อยกับผ้าคลุมและไม้กายสิทธิ์โดดเด่นอยู่บนหน้าปก

"อ๋อ แฮรี่พอตเตอร์" ฉันพูด เด็กๆ ยิ้มพยักเพยิด

"เหรอๆ ดีจัง ชอบเหมือนกันเลย" ฉันดีใจที่รู้ว่าเด็กๆ มีหนังสือเล่มโปรด ในยุคสมัยที่เด็กรุ่นใหม่นิยมเกมคอมพิวเตอร์ เด็กของชุมชนบ้านในไร่ใช้เวลาในห้องสมุด


วรรณกรรมเรื่องดังของเจ.เค.โรวลิ่ง ครบชุด ๗ เล่ม ใหม่เอี่ยมด้วยเงินบริจาคของผู้ใหญ่ใจดีหลายคน เด็กชายเล่าด้วยท่าทีอายๆ ว่าเพิ่งอ่านไปถึงเล่มที่สอง เพราะอ่านหนังสือไม่เก่ง แต่ในท่าทีนั้นบ่งบอกว่าเจ้าตัวตั้งใจจะอ่านให้ครบทุกเล่ม


เราแลกเปลี่ยนกันเรื่องตัวละครที่ชอบ ฉันเหมาสัตว์ทุกตัวในเรื่อง นับตั้งแต่ เฮ็ดวิก นกฮูกหิมะแสนสวย พิกวิดเจียน นกฮูกจิ๋วผู้กระตือรือร้น ไปจนถึงครุกแชงก์ แมวสีส้มขาโก่งที่มีหางเหมือนแปรงล้างขวด แต่หนุ่มน้อยฟันขาวชอบแฮรี่ เด็กชายผู้รอดชีวิต (จากคนที่คุณรู้ว่าใคร) และแน่นอน เด็กหญิงของฉันชอบเฮอร์ไมโอนี่ สาวน้อยแสนฉลาด


"เขาเก่ง" เธอบอกด้วยเสียงกระซิบ ในขณะที่เด็กชายมีสีหน้าสดใสเมื่อนึกถึงการแข่งขันกีฬาควิดดิชบนอากาศ และการเรียนวิชาที่น่าสนุกสนานในโรงเรียนเวทมนตร์ฮอกวอตส์

"อยากเรียนวิชาคาถาแบบแฮรี่"

"ถ้าได้เรียนจริงๆ จะเสกอะไรเหรอ" ฉันสนใจอยากรู้ เด็กชายอมยิ้มแทนคำตอบ แววตาคมนั้นมีความลับ

.......


ในวันเวลาแห่งความตื่นตระหนกและเสียขวัญ จินตนาการอันสวยงามของนิทานและวรรณกรรมช่วยเด็กๆ เหล่านี้เอาไว้


ไม่ต่างจากผู้ใหญ่หลายคนที่แม้รู้ว่าดวงจันทร์เป็นดาวเคราะห์ เต็มไปด้วยหลุมบ่อขรุขระ ไม่มีแสงสว่างในตัวเอง แต่เราก็ยังสมัครใจที่จะหลงไหลในนวลแสงจันทร์ รำพันบทกวี แทนที่จะฝันถึงนีล อาร์มสตรอง


บางครั้งคลื่นลมปรวนแปร มรสุมอาจซัดใส่ชีวิตของเรา และพัดพาทุกอย่างหายไป จินตนาการถึงวันที่สว่างไสวสวยงาม นำพาให้เราเดินต่อไปอย่างเข้มแข็ง


ฉันมองพ่อมดน้อยข้างหน้าต่างอีกครั้งหนึ่ง เวทมนตร์ไม่ได้มีอยู่เพียงในนิทาน ต้นไม้ที่กำลังโต อาคารเรียนและห้องสมุดหลังใหม่ หนังสือนิทานหลายร้อยเล่มที่กลับคืนมาหาเด็กๆ ราวเนรมิต เป็นเวทมนตร์จากน้ำใจของผู้ใหญ่มากมายที่ห่วงใยหัวใจเล็กๆ


จะกี่ครั้งที่พังทลาย แต่ทุกอย่างซ่อมแซม สร้างขึ้นใหม่ได้เสมอ เช่นเดียวกับแววตาสดใสของเด็กๆ และรอยยิ้มแห่งความหวังของคนบ้านในไร่


อย่างที่ไอสไตน์กล่าวไว้ จินตนาการสำคัญกว่าความรู้

....................

 

สะท้อนใจกับดวงตาในภาพนี้ เป็นภาพเด็กนักเรียนมุสลิมในกรุงไนโรบี ประเทศเคนยา ดินแดนที่เด็กๆ ผ่านเรื่องราวเสียขวัญมามากมาย หนูน้อยคนนี้วัยเดียวกับสาวน้อยในเรื่องของฉัน แต่ประกายตาผิดกันมาก
(ขอบคุณภาพจาก http://www.flickr.com/)

 


ดูยิ้มของหนุ่มน้อยบ้าง ภาพนี้ที่ภูเก็ต งานรำลึกเหตุการณ์สึนามิ
(ขอบคุณภาพจาก
http://www.basuki.com/)

 

 

บล็อกของ มูน

มูน
รอยแผลลึกจากเขี้ยวและเล็บของเสือจิ๋วเริ่มตื้นขึ้นแล้ว หมอบอกว่าจะไม่ยัดผ้าก๊อซลงไปในแผลอีก ฉันถึงกับถอนใจเฮือกใหญ่ โล่งใจที่ไม่ต้องดูกรรมวิธีอันแสนจะหวาดเสียว ที่ถึงแม้จะคิดว่าเป็นประสบการณ์ดีๆ แต่ไม่ต้องเจอบ่อยๆ ก็น่าจะดี(กว่า)มีเพื่อนๆ ที่กลั้นใจขอดูแผลของฉันแล้วถามด้วยความตกใจปนสงสัยว่า แผลยาวและลึกขนาดนี้ ทำไมหมอถึงไม่เย็บ จึงขอนำคำหมอมาอธิบายเป็นความรู้ใหม่สำหรับใครๆ ที่ยังไม่รู้ ว่าเหตุที่ไม่เย็บนั้นก็เนื่องจากเข็มกับด้ายหมด ไม่ใช่สักหน่อย อันนั้นล้อเล่น ความจริงคือ แผลที่ถูกสัตว์กัดมีความเสี่ยงต่อเชื้อโรคบาดทะยัก (ซึ่งน่ากลัวมาก) และเชื้อตัวนี้จะเติบโตดีในที่ที่อากาศเข้าไม่ได้ …
มูน
แผงขายกล้วยปิ้งบนถนนสายใหญ่กลางกรุง ดึงดูดให้ฉันลงจากรถเมล์ก่อนถึงป้ายที่ตั้งใจจะลง ตรงเข้าไปบอกแม่ค้าสาวว่า “กล้วยปิ้งสิบบาทค่ะ” เธอเหลือบตาขึ้นเหนือศีรษะแวบหนึ่งแล้วบอกด้วยใบหน้าบึ้งตึงว่า “ขายยี่สิบบาท”ฉันสะดุ้ง รีบมองตามสายตาที่เธอตวัดไปเมื่อครู่นี้ เห็นป้ายแขวนไว้เขียนว่า กล้วยปิ้งทรงเครื่อง น้ำจิ้มรสเด็ด ชุดละ 20 บาท“อุ๊ย ขอโทษทีค่ะ ไม่ทันเห็น เอ้อๆ งั้นกล้วยปิ้งยี่สิบบาท” ฉันรู้สึกตัวเองพูดจาเงอะงะเหมือนบ้านนอกเข้ากรุงจริงๆ ด้วย ไม่รู้แม้กระทั่งราคากล้วยในท้องตลาด ก็แหม กล้วยน้ำว้าบ้านฉันยังหวีละสิบบาทอยู่เลย (ยิ่งซื้อตอนตลาดวายอาจได้สามหวีสิบ)คนขายหยิบกล้วยสี่ลูกใส่ถุง…
มูน
อยู่ดีๆ ฉันก็เหลือมือที่ใช้การได้ข้างเดียว แถมเป็นข้างซ้ายที่ไม่ถนัดเสียด้วยมือขวาหายไปไหนล่ะ ไม่หายหรอกค่ะ ยังอยู่ แต่มันยื่นใบลาพักชั่วคราว ฉันจำต้องอนุมัติ เพราะมันอ้างว่าเป็นคำสั่งแพทย์สาเหตุการป่วยของมือขวามาจากตัวฉันเอง มีแมวน้อยน่ารักสองตัวเป็นส่วนประกอบเสือจิ๋วกับสตางค์เป็นลูกแมวกำพร้าที่ถูกทิ้ง ความจริงมันมีพี่น้องสี่ตัว แต่อดตายไปสอง มันโชคดีที่ได้เจอฉัน หรือว่าฉันโชคดีที่มีโอกาสได้ช่วยมันก็ไม่รู้ สองแมวเลยมาอยู่บ้านสี่ขา ได้ป้อนน้ำป้อนนมกันจนโตความที่ไม่รู้ว่าแมวทั้งสองตัวเกิดเมื่อไร การคาดเดาอายุของมันจึงคลาดเคลื่อนไม่มากก็น้อย ฉันตั้งใจจะจับมันไปทำหมันก่อนวัยกลัดมันจะมาถึง…
มูน
ฝรั่งมักเลี้ยงหมา ไม่ใช่ในฐานะสัตว์เฝ้าบ้าน แต่เป็นสมาชิกในครอบครัว ฝรั่งคนหนึ่งบอกว่า ชีวิตสมบูรณ์ของผู้ชาย ต้องประกอบด้วย การงาน บ้าน ภรรยา ลูกๆ และหมาอย่างน้อยหนึ่งตัวการเลี้ยงหมา(อย่างถูกวิธี) ช่วยกล่อมเกลาจิตใจเด็กๆ ให้ละเอียดอ่อนและรู้จักความรับผิดชอบ เพราะหมาพูดไม่ได้ ต้องอาศัยการใส่ใจสังเกตว่าเมื่อไหร่ที่มันหิว หนาว ร้อน หรือป่วยไข้ไม่สบาย การใส่ใจในทุกข์สุขของอีกชีวิตหนึ่ง สอนให้เด็กๆ อ่อนโยนและลดความเห็นแก่ตัว นักจิตวิทยาบอกว่า เด็กมักสบายใจที่ได้บอกเล่าความลับหรือปรับทุกข์กับเพื่อนสี่ขา ในหลายๆ เรื่องที่เขาไม่อาจสื่อสารกับผู้ใหญ ทั้งเด็กๆ ยังได้หัดเผชิญกับความสูญเสีย…
มูน
ในความสัมพันธ์ระหว่างคนกับคน บางครั้งมีสายใยที่มองไม่เห็นผูกโยงเราไว้ด้วยกัน และสายใยเส้นนั้นก็อาจถักทอมาจากหนวดหรือขนแมวสักตัวหนึ่ง หลายคราวที่คนไม่รู้จักกัน มาพบเจอ พูดคุย และถูกชะตากันด้วยเรื่องของเจ้าสี่ขา เป็นไปได้ว่า ในโลกของมิตรภาพอันไร้เงื่อนไข ไม่อาจมีกำแพงใดๆ ตั้งอยู่ได้เย็นวันเสาร์ที่ 22 กันยายน 2550 แรงดึงดูดทางโทรศัพท์จากน้องสาวน่ารักชื่อน้องยู “ไปคุยเรื่องแมวๆ กันนะคะพี่” ทำให้ฉันเต็มใจนั่งรถบขส.จากบ้านนอกเข้ากรุง มุ่งไปโรงละครมะขามป้อม สี่แยกสะพานควาย ที่พลพรรครักแมวรวมตัวกันจัดนิทรรศการศิลปะเพื่อชุมชนเป็นงานเล็กๆ ที่แสนอบอุ่น มีคนรักแมว คนเลี้ยงแมว คนไม่เลี้ยง(แต่รัก)แมว…