Skip to main content

ไม่กี่วันก่อน ผมได้มีโอกาสดูภาพยนตร์เรื่อง "Lassie Come Home " ทางเคเบิลทีวี ซึ่งน่าสนใจและน่าประทับใจดี จึงหาหนังสือมาอ่านพบว่าหนังสือเล่มนี้ได้แปลเป็นไทยนานแล้ว โดย ร.ท.นิพนธ์ กาบสลับพล และจัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์สุขภาพใจ


"แลสซี่" ถือกำเนิดจากปลายปากกาของนักเขียนเชื้อสายอังกฤษ-อเมริกัน เอริค ไนท์ (Eric Knight) ในรูปแบบเรื่องสั้น ตีพิมพ์ลงใน Saturday Evening Post เมื่อปี 1938 และผู้เขียนขยายเป็นนวนิยายในปี 1940 ซึ่งประสบความเป็นอย่างดี


Lassie ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์หลายครั้งหลายหนรวมทั้งเป็นซีรี่ส์ทางจอโทรทัศน์โดยมีดาราฮอลลีวู้ดระดับตำนานนำแสดง ไม่ว่าจะเป็น อลิซาเบธ เทย์เลอร์, มิคกี้ รูนี่ย์, ร็อดดี้ แม็คโดเวลล์ และ จิมมี่ สจ๊วร์ต


Lassie ฉบับซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ออกอากาศครั้งแรกในปี 1954 และฉายติดต่อยาวนานถึง 20 ปี ได้รับรางวัล Emmy ถึง 2 ครั้ง "สาขาซีรี่ย์ทางโทรทัศน์สำหรับเด็กยอดเยี่ยม" และเป็นซีรี่ย์ที่ยืนโปรแกรมฉายนานที่สุด ทั้งยังได้ออกฉายใน 50 ประเทศทั่วโลกด้วย กระทั่งเกิดมูลนิธิ Lassie ในเวลาต่อมา

 

เป็นเรื่องราว ความรักและความผูกพันระหว่างเด็กชายโจกับสุนัขคอลลีตัวเมียแสนสวยที่อุปสรรคอะไรก็ไม่อาจพรากทั้งคู่ให้แยกจากกันได้


บริบทของเรื่องเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ประเทศอังกฤษเมืองยอร์กเชียร์ซึ่งเป็นเมืองแห่งเหมืองแร่ และขึ้นชื่อลือชาในเรื่องพันธุ์สุนัข


ช่วงสงคราม ครอบครัวของโจประสบความฝืดเคืองทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจนจำเป็นต้องขาย Lassie สุนัขแสนรักแสนฉลาดของพวกเขาให้กับท่านดยุค รัดลิ่ง ซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่ให้ได้ Lassie มาไว้ในครอบครอง


อย่างไรก็ตาม Lassie ไม่ยอมไป โจ จึงต้องแสร้งทำเป็นไล่มัน เขาพูดกับ Lassie ทั้งน้ำตาว่ามันเป็นหมาไม่ดี ไปซะ


เมื่อถูกขาย Lassie ก็ถูกใส่กรงพาขึ้นรถ ขึ้นรถไฟข้ามประเทศไปยังปราสาทหรูในสก๊อตแลนด์ของท่านดยุคซึ่งอยู่ไกลออกไปกว่า 500 ไมล์


แต่เจ้าหมา Lassie ไม่อาจทนอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยได้ แม้ว่าท่านดยุค รัดลิ่ง จะรัก Lassie มากแต่มันไม่เหมือนเจ้านายน้อย ๆ คนเก่าอยู่ดี Lassie คิดถึงเจ้านายน้อยของมันที่มันเคยไปรอรับที่หน้าโรงเรียนทุกวัน


Lassie จึงหาทางหลบหนี และออกเดินทางข้ามประเทศเพื่อกลับไปยังที่ ๆ มันจากมาแม้ว่าระยะทางจะไกลแสนไกลก็ตาม Lassie ข้ามน้ำ ข้ามเขา ผ่านภูมิประเทศและอันตรายทั้งจากธรรมชาติและมนุษย์มากมายนานัปการจนแทบหมดสภาพความสวยงาม เพื่อกลับมาหาเจ้าของอันเป็นที่รักให้ทันวันคริสมาสต์


ช่วงหนึ่งของการเร่ร่อนกลับอังกฤษ Lassie ได้พบกับนักเชิดหุ่นเร่ร่อนที่เดินทางบนหลังม้าในกองคาราวานและมีหมาหนึ่งตัวชื่อ ทูทส์ Lassie ร่วมเดินทางไปกับเขา ช่วยแสดงละครให้เด็ก ๆ เพื่อแลกอาหารและเสาะหาหนทางกลับบ้าน จากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง เสร็จแล้วก็นอนพักในป่ามืดทึบที่เขาตั้งแคมป์นอน


ท่านดยุค รัดลิ่ง ออกติดตามหาอย่างหนักเพื่อนำตัว Lassie กลับคืนมา ตามมาจนกระทั่งถึงประเทศอังกฤษ

 

  

ด้วยความพยายามอย่างน่าซาบซึ้งใจ Lassie หาทางกลับมาถึงบ้านจนได้แต่อยู่ในสภาพที่ป่วยหนัก ดูเหมือนมันกำลังจะตาย ตอนที่โจ มาพบนั้น มันนอนหายใจรวยรินอยู่ท่ามกลางหิมะในคืนวันคริสต์มาส

ภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะโหดร้ายต่อคนดูอย่างมากหากปล่อยให้ Lassie ตายหลังจากได้เห็นหน้าเจ้านายน้อยเพียงแวบเดียว ดังนั้นตามขนบของหนังในแนวนี้ Lassie จึงค่อยฟื้นจากอาการป่วยและกลับมาสวยงามดังเดิม

แม้ตัวเอกของเรื่องจะเป็นเด็กชายกับสุนัขคอลลีเพศเมีย แต่ความเข้มข้นกินใจของเนื้อเรื่องทำให้นวนิยายและภาพยนตร์เรื่องนี้ครองใจผู้อ่านและผู้ชมตราบจนปัจจุบัน.

 

 

 

บล็อกของ นาลกะ

นาลกะ
เย็นวันหนึ่ง สายรุ้งออกไปเล่นฟุตบอลเหมือนเคย แต่วันนี้แม่ของเขาไม่ไปด้วย เพราะมีเพื่อนของแม่มาหาที่บ้าน สายรุ้งจึงไปกับเด่นสองคน สายรุ้งใส่ชุดกีฬาสีขาวตัวโปรด ใส่รองเท้าสีแดงที่แม่เพิ่งซื้อให้ใหม่ ส่วนเด่นใส่สีแดงทั้งชุด“ใส่ชุดนี้แล้วทำประตูได้ทุกที” เด่นคุย สายรุ้งนำฟุตบอลไปด้วย เขาใส่ไว้ในตะกร้าด้านหน้าของจักรยาน แล้วก็บึ่งไปยังสวนสาธารณะพร้อมเด่นเหมือนเคย มีเพื่อนบางคนรออยู่แล้ว พวกเขากำลังเล่นลิงชิงบอลกันอยู่เป็นการวอร์มร่างกาย จากนั้นก็แบ่งทีมกัน พอแบ่งทีมเรียบร้อยแล้ว พวกเขาก็เล่น แต่วันนี้มีเด็กสองคนที่สายรุ้งไม่เคยเห็นมาก่อนมาขอเล่นด้วย“สองคนนี่เพิ่งย้ายมา” เด่นกระซิบ “…
นาลกะ
ตอนนี้ปิดเทอมแล้ว สายรุ้งใช้เวลาอยู่กับแม่เกือบตลอด มีเพียงที่เขาออกไปเที่ยวเล่นกับเด่นหรือไปที่บ้านคุณตาเท่านั้นที่ห่างจากสายตาแม่ คุณตาจะสอนให้เขาปลูกต้นไม้ ให้เขาเห็นความสำคัญของต้นไม้ที่มีต่อชีวิตและต่อสิ่งแวดล้อม“ต้นไม้แทบไม่เหลือแล้ว” คุณตาบ่น “มีแต่หมู่บ้านจัดสรร”,คุณตาชอบบ่นเกี่ยวกับหมู่บ้านจัดสรรอยู่บ่อย ๆ คุณตาบอกว่าหมู่บ้านจัดสรรทำลายสิ่งแวดล้อม แต่สายรุ้งยังไม่เข้าใจว่าหมู่บ้านจัดสรรจะทำลายสิ่งแวดล้อมได้อย่างไรแม่จะหาโอกาสพาสายรุ้งไปทำกิจกรรมต่างๆ อยู่บ่อยครั้งเพื่อไม่ให้สายรุ้งเบื่อที่ต้องอยู่แต่ในบ้าน   เย็นวันหนึ่งแม่พาสายรุ้ง เด่นและสุนัขโอเว่นไปเดินเล่นในสวนสาธารณะ…
นาลกะ
เมื่อมะม่วงต้นใหญ่ที่หน้าบ้านหักโค่นลง คุณปู่ เด่น และสายรุ้งก็จัดการเลื่อยออกเป็นท่อน ขัดอย่างดี แล้วทำเป็นโต๊ะกับม้านั่ง สายรุ้งมักจะชอบนั่งทำการบ้านตรงนั้น สัตว์หลากชนิดที่เลี้ยงไว้ก็จะเข้ามาห้อมล้อมสายรุ้ง โดยเฉพาะเจ้าโอเว่น สุนัขแสนรู้ ที่ชอบกระโดดให้ดูอยู่เสมอแล้วเวลาที่เด่นหรือเพื่อน ๆ มาหาสายรุ้งที่บ้าน โอเว่นก็มักจะอวดการกระโดดสูงให้เพื่อน ๆ ของสายรุ้งชม แต่แล้วก็เกิดเหตุร้ายก็เกิดขึ้นกับโอเว่น จนต้องนอนซมไปหลายวัน คืนหนึ่งมีฝนตกหนักอย่างไม่ลืมหูลืมตาทั้งคืน ลมก็พัดแรง แล้วพอรุ่งเช้าปรากฏว่ากิ่งไม้หักรานไปหลายกิ่งเพราะแรงลมพัดกระหน่ำ ใบไม้หล่นเกลื่อนกราดเต็มลานหน้าบ้าน…