Skip to main content

ผ่านพ้นไปสำหรับฤดูการท่องเที่ยว ผู้คนหลั่งไหลมาเที่ยวมากเหนือมากมายในช่วงปีใหม่ นักท่องเที่ยวที่กลับมาจากอำเภอปายเล่าให้ฟังว่า ช่วงปีใหม่ที่นั่นถึงกับไม่มีอาหาร ไม่มีน้ำมัน เหมือนติดเกาะ ร้านอาหารบางร้านให้บริการไม่ไหวถึงกับปิดร้านไปเลย เพราะคนเยอะมาก บางคนต้องนอนค้างอีกคืนหนึ่งเนื่องจากน้ำมันไม่มีขาย ต้องรอรถน้ำมันเข้ามาจากเชียงใหม่ ร้านอาหารร้านหนึ่งขายข้าวไข่เจียวอย่างเดียวมีคนรอจำนวนมาก และคนต้องจ่ายเงินไว้ก่อน แล้วยืนรอ นานแค่ไหนก็ต้องรอเพราะไม่มีอะไรกิน

คนจำนวนมากบอกฉันว่า อุตส่าห์มาจากกรุงเทพ ฉันฟังจนเบื่อ เพราะมีจำนวนอีกมากมาไกลกว่ากรุงเทพ เช่น ตรัง ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สวิสเซอร์แลนด์ หรืออเมริกา อยู่เมืองท่องเที่ยวต้องทำตัวรับแขกบ้านแขกเมือง รถติดขนาดไหนก็หุบปากเงียบ ๆ เพราะนั่นอาจเป็นลูกค้าของเรา ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าเราอยู่ได้ด้วยลูกค้าในฤดูการท่องเที่ยวเช่นนี้

ช่วงเทศกาลบนถนนจึงมีแต่รถทะเบียนต่างจังหวัด ตอนกลางวันถนนบางสายไม่มีรถ แต่ถนนสายนักท่องเที่ยวเช่น ตลาดวโรรส ไนท์บาซ่านั้นรถติดมาก แต่พอวันที่ 2 มกราคม นักท่องเที่ยวกลับไปหมดแล้ว รถรากลับมาเต็มถนนเหมือนคนเชียงใหม่เก็บกดไม่ออกจากบ้านไหนเลยเพราะกลัวรถติด ปล่อยถนนให้แขกบ้านแขกเมืองได้ใช้

คนมาเที่ยวส่วนใหญ่หอบเงินมาใช้ และสิ่งที่พวกเขาต้องการคือการบริการที่ดี ทำให้พวกเขามีความสุข ร้านอาหารหลายร้านในเชียงใหม่ก็มีสภาพไม่ต่างจากเมืองปาย คือคนล้น พนักงานทุกคนตกอยู่ในสภาพเหมือนอยู่ในสนามแข่งขันอันเคี่ยวกรำ มองเห็นสีหน้า และแววตาของพนักงานเสิร์ฟในร้านเหยเกเหมือนวิ่งรอบสนามมาสักสามรอบ ไหนจะต้องยกอาหารถ้วยชามไปมาตลอดทั้งคืน บางคนเท้าบวมเป็นแก้ว บางคนหมดแรงจนมาทำงานวันต่อมาไม่ไหว คาดกันว่าหากรวมระยะทางที่พนักงานในร้านเดิน นำมาต่อกันแล้วคงไกลถึงลำปาง

 

ฉันเองเห็นคลื่นคนเช่นนี้ได้แต่ยืนนิ่งตั้งสติคอยรับอารมณ์ของผู้คน เพราะมีบางคนมาแล้วไม่มีที่นั่งต้องต่อคิว บางคนยืนรอถ่ายรูปกับนักร้อง และเดินมาถามตลอดเวลาว่าเมื่อไรจะมา เวลาปกติของเรากลายเป็น   “เค้ามาสายแบบนี้ทุกวันเหรอ”

ในที่สุดเราก็กลับเข้าสู่ความเงียบงันหลังปีใหม่ สืบเนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระพี่นางเธอฯ ด้วยแล้ว การงดการรื่นเริง 15 วัน ทำให้เราได้พักอย่างจริงจังเพื่อรอรับคนอีกระรอกหนึ่งในช่วงปลายเดือนมกราคม และต่อด้วยงานไม้ดอกไม้ประดับ งานประจำจังหวัดเชียงใหม่ ลากยาวไปถึงเดือนเมษายน จนจบลงที่ฤดูฝนอันยาวนาน ที่เราบอกกันว่า เป็นช่วงเวลาแทะกระดูก “กระดูกใครกระดูกมัน”

ฤดูการท่องเที่ยวจึงเป็นช่วงเวลาแห่งการกอบโกย การทำงานหนัก เพื่อกักตุนไว้ใช้ในยาม low season กับฤดูฝนซึ่งไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยว เราอยู่แบบนี้มาหลายปี จนรู้วงจรของเวลา

ฤดูหนาวที่ควรอยู่ในบรรยากาศโรแมนติก เขียนหนังสือสวย ๆ งาม ๆ ออกมาได้ สำหรับฉันจึงเป็นฤดูแห่งการ “เซาะว่าหากิน” ทำงานหนักจนเขียนอะไรไม่ได้ กลางวันหลับเอาแรง กลางคืนตื่นทำงาน ธันวาคมเป็นเดือนที่ไม่มีวันหยุดมาหลายปีแล้ว

เคาน์ดาวน์ เขายกแก้วเชียร์กัน สำหรับฉันคือเวลาที่หมดแรง และกำลังนั่งนับของ เคลียร์เงินให้กับเจ้าของสินค้าที่ฝากขาย แล้วหันมากินอาหารด้วยความหิวโหย

นี่แหละปีใหม่!

ขออวยพรย้อนหลังนะคะ

20080111 นี่แหละปีใหม่(1)

20080111 นี่แหละปีใหม่(2)

20080111 นี่แหละปีใหม่(3)

20080111 นี่แหละปีใหม่(4)

20080111 นี่แหละปีใหม่(5)

20080111 นี่แหละปีใหม่(6)

บล็อกของ โอ ไม้จัตวา

โอ ไม้จัตวา
ไปปายมา เหมือนพูดคำฮิตยังไงไม่รู้ ฉันไปปายมาจริงๆ ถามว่าไปบ่อยไหม แปดปีมานี้ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามที่ไป แต่ละครั้งเว้นวรรคสี่ปี เพราะฉะนั้นฉันจึงเป็นความเปลี่ยนแปลงของปายค่อนข้างเยอะ
โอ ไม้จัตวา
 เจอคลิบวีดีโอนี้มานานแล้วแต่ไม่มีโอกาสนำมาให้ชมสักที เขาชื่อ Paul Potts ผู้ร้องเพลง Nessun Dorma ในการประกวดร้องเพลง Britains Got Talent ของประเทศอังกฤษ ฉันชอบเข้าไปดูคลิ้บรายการนี้ เพราะจะเห็นผู้มีความสามารถทางการร้องเพลงมาร้องประกวดกันด้วยความสามารถอย่างแท้จริง อย่างเช่นสาวน้อย คอนนี่ ที่นำมาให้ชมสัปดาห์ที่แล้วก็เกิดจากรายการนี้ เขาไม่มีข้อจำกัดทางการตลาดในการประกวดร้องเพลง ไม่ต้องจัดฟัน ไม่ต้องหล่อ ไม่ต้องสวย ไม่ต้องมีคนจัดหาเสื้อผ้ามาให้ ขอเพียงมีหัวใจมาด้วยเท่านั้น
โอ ไม้จัตวา
   ขออนุญาตเปิดเพลงนี้อีกครั้ง Imagine จากเสียงร้องของสาวน้อยเสียงใส Connie Talbot นักร้องตัวน้อยผู้ผ่านการคัดเลือกเข้ารอบการประกวดร้องเพลง Britain's Got Talent ปี 2007 เสียงใส ๆ ของเธอร้องเพลง Somewhere over the rainbow ทำเอากรรมการนั่งน้ำตาไหลเป็นทาง
โอ ไม้จัตวา
  Pavarotti Last Performance "Nessun Dorma" @ Torino 2006
โอ ไม้จัตวา
  เพลงวาสิฏฐี  โดย มาโนช  พุฒตาล เมื่อวานนี้ฉันหยิบ วันที่ถอดหมวก ของเสกสรรค์  ประเสริฐกุล ขึ้นมาอ่าน (อีกรอบ) ต้องบอกก่อนว่าเป็นแฟนหนังสือของอาจารย์เสกสรรค์อย่างเหนียวแน่น ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นเด็กภูหินร่องกร้า และซื้อ "ถนนหนังสือ" หน้าปกเสกสรรค์-จิระนันท์ มาอ่านด้วยความทึ่งกับหนุ่มสาวสมัยนั้น ความที่ประวัติศาสตร์ของเขาอยู่ใกล้บ้านเรา จึงยิ่งอ่านยิ่งอิน
โอ ไม้จัตวา
(เพลงปราสาทไหว บรรเลงพิณเปี๊ยะ โดย สมบูรณ์ กาวิชัย) ผู้ส่งเข้าประกวด: นางรัษฎาพร บริจินดาได้รับรางวัลจากการประกวดต้นไม้ใหญ่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ประจำปี 2549สถานที่ วัดเชียงมั่นเลขที่ 171 ถนนราชภาคินัย ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่อายุ ประมาณ 80 ปีความสูง ประมาณ 7 เมตรเส้นรอบวง 0.60 เมตร
โอ ไม้จัตวา
ขอยกคำกล่าวลาของคุณอุ๋มอิ๋ม วดีลดา เพียงศิริ "พี่บอกพี่ปุ๊ว่า พญาอินทรี ถึงเวลาต้องบิน" กับช่วงวาระสุดท้ายของชีวิตพญาอินทรี ลุงปุ๊ครูแห่งการถ่ายภาพของฉัน
โอ ไม้จัตวา
 ป่วยค่ะท่านผู้ชม... อยู่บนโลกแท้ ๆ เหมือนอยู่ในน้ำลึก หายใจไม่ออก อากาศเป็นพิษ มันมาอีกแล้ว คราวนี้แสบจมูก แสบตา ไข้ขึ้น หวัดกินงอมแงม สยบยอมกับโลกใบนี้ หลับไปสองวันเต็ม ๆ วันนี้เจอคลิบของนักร้องคนโปรดอีกคน เคยมีซีดีเมื่อนานมาแล้วแต่แผ่นหายไป เธอชื่อ Jewel Kilcher ชาวอเมริกัน เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง เล่นกีต้าร์ นักแสดง และกวี ว้าว คนอะไรเนี่ย ฉันฟังเธอร้องครั้งแรกเมื่อครั้งอยู่ที่เมืองจีนคนเดียว เสียงเพลงของเธอเป็นเพื่อนในบรรยากาศเหงา ๆ หนาว ๆ เวิ้งว้างคนเดียวในโลกได้เป็นอย่างดี
โอ ไม้จัตวา
http://charyen.com/jukebox/play.php?id=30336  เปลี่ยนบรรยากาศมาฟังเพลงเก่า ๆ ของไทยกันบ้างค่ะ ชื่อเพลงดอกพะยอมยามยาก เสียงร้องของเพลิน พรหมแดน ซึ่งไม่คิดว่าจะมีเพลงแบบนี้ เพราะเพลงที่สร้างชื่อให้กับเพลิน พรหมแดนมักเป็นเพลงตลก ๆ เป็นเพลงร้องสลับพูด ตอนเด็ก ๆ ชอบฟังมากฟังไปหัวเราะไป คล้าย ๆ กับเพลงของวิฑูรย์ ใจพรหม ตอนนี้