Skip to main content
May be art of 2 people, people standing and indoor
 
 
พูดถึงงานคนอื่นแล้วไม่พูดถึงงานที่ตัวเองทำหน้าที่เป็นภัณฑารักษ์ก็จะดูกระไร ถึงจะเขินๆ หน่อย แต่ก็ต้อง shameless self-promotion สักหน่อย
ในผลงานของอาจารย์โจ้ วัทวัส ทองเขียว นั้น ผมรู้ว่าจะได้รับเชิญเป็นภัณฑารักษ์ก็มีเวลาเตรียมตัวและอธิบายชิ้นงานไม่มาก เมื่อแรกเห็นงานอาจารย์โจ้ต้องบอกว่าแอบกลัว เพราะทั้งฝีมือและระยะทางของการทำงานศิลปะมีพื้นที่และอัตลักษณ์ของตัวเองอยู่แล้ว โดยเฉพาะในชุด นิ/ราษฎร์ ที่ SAC แล้วแอบหวั่นใจ เพราะความเหมือนจริงในระดับ Hyperrealism ซึ่งสะท้อนออกมาในงานชัดเจน ตรงไป ตรงมา แม้จะมีเรื่องราวซ้อนทับอยู่มากมายก็ตามที กล่าวได้ว่า ไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกแล้ว
แต่ในชุดที่วิทวัสลดทอนความเหมือนจริงระดับเหนือจริงให้เหลือเพียงชั้นสี แถบสี และรหัสของสี ต้องเรียกว่าอยู่ในสภาวะที่ศิลปินถอดรื้อความรุ่มรวยในชิ้นงานออกจนเปลือยเปล่า
แถมยังสุ่มเสี่ยงในแง่การตอบรับว่า ผลงานชุดใหม่นี้คืออะไร?
แน่นอนว่า ทันทีที่เห็นแถบรหัสสี อาจจะไม่ต้องเดามาก แต่ในรายละเอียดของภาพจริง กลับมีความยากในตัวมันเอง เพราะสำหรับศิลปินในระดับ hyperealism ย่อมเห็นรายละเอียดที่เราอาจจะไม่เห็นด้วยตาเปล่า และการมองแบบผิวเผิน
ชิ้นงานแต่ละภาพจึงมีความซับซ้อนตั้งแต่เริ่มสร้างแถบสีแดงที่มาจากร้านสีที่มีสีหลายยี่ห้อให้เลือก แม้รหัสสีเดียวกัน กลับส่งแสงประกายความแดงออกมาได้อย่างน่าสนใจ
จากการทดลอง วิทวัสได้ทิ้งเปลือกที่ห่อหุ้มออกจนหมด ทั้งยังทดลองเรียบเรียงลำดับสีให้เราได้เห็นว่า แม้กระทั่งความแดง ยังสามารถแดงได้หลายเฉด
ในสีน้ำเงินรหัส Royal blue ยิ่งสะท้อนความแตกต่างของเม็ดสี และนั่นหมายถึงคุณสมบัติพื้นฐานของสี ตลอดจนฝีมือของศิลปินที่ขับเน้น เลือกระดับสี เพื่อปลดปล่อยสีออกจากเม็ดสี ให้สำแดงตนออกมา
กระบวนการทำงานที่ละเอียดอ่อน กลับเป็นความรุนแรงที่ศิลปินได้กระทำ หรือปฏิบัติต่อแนวทางของตัวเองอย่างรุนแรง ลดรูปและรายละเอียด สะท้อนให้เหลือนามธรรม
ถึงบางคนจะไม่เรียกว่าเป็นภาพนามธรรม แต่ภาพชุด The Ideoscapes of Violence ก็สื่อสะท้อนถึงความรุนแรงในมิติที่ศิลปินลดทอน กด ปลดระวางความละเอียดออกให้เหลือคุณสมบัติพื้นฐานของแต่ละสี ดังได้กล่าวมา
ตอนที่คิดชื่อของนิทรรศการ ผมนึกถึงผลงานของ Arjun Appadurai ที่เอาประสบการณ์ของคนพลัดถิ่นที่สื่อถึงปริมณฑลในแบบที่เขาเรียกโดยในคำลงท้ายว่า -scape เพื่อแสดงความปะทะ ประสาน ของความหมายและการเดินทางข้ามพรมแดน ที่เรียกว่า ethnoscapes, finanscapes, technoscapes, mediascapes, และ ideoscapes
 
ซึ่งงานชุดนี้ได้สื่อถึงความนี้อย่างลงตัว เพราะการปะทะของความคิดในปริมณฑลของสังคมไทยนั้น ข้ามพ้น และอยู่ในท้องถิ่น ส่งผ่านโพ้นทะเล และสะท้อนกลับมายังประเทศไทย ทำให้อาณาบริเวณของความคิดและอุดมการณ์สั่นสะเทือนไปตั้งแต่ล่างสุดจนถึงชั้นฟ้า
และแน่นอนว่าศิลปินอย่างวิทวัส ทองเขียว ไม่ได้สำแดงตนยึดโยงกับดาวดึงส์หรือนิพพานที่ศิลปินชายไทยมักสำแดงอวดอ้างออกมา แต่เขากลับทิ้งสัมภาระเหล่านั้นไว้ เหลือเพียงของที่จำเป็น การลดรูป ทอนรายละเอียดต่างๆ กลายมาเป็นความรุนแรงที่ปรากฏ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ
ผลงานชุดนี้กลับส่งความรุนแรงออกมาให้เราเห็นว่าศิลปินต่อสู้กับแนวทางของตัวเอง ร่องรอยของความคิดและข้อถกเถียงกลับส่งเสียงก้องคึกโครมในสีที่พลุ่งพล่านออกมา
ไม่ว่าผู้ชมจะรู้สึกอย่างไร อาจารย์โจ้ วิทวัส กลับไม่ยอมประนีประนอมเลย หากยืนยันที่จะสื่อความหมายของผลงานนี้อย่างตรงไป ตรงมา และท้าทาย สายตาของผู้ชมมากๆ
ภาพบางภาพ ยังได้ตะโกนออกมาดังยิ่งกว่าผู้เขียน
และเป็นวัตถุพยานของยุคสมัยที่ "เปลี่ยนไม่ผ่าน ข้ามไม่พ้น" นี้
ขอเชิญชมนิทรรศการ The Ideoscapes of Violence โดยวิทวัส ทองเขียว ผลงานจิตรกรรมชุดใหม่ล่าสุดของศิลปิน
นิทรรศการจัดแสดงไปจนถึงวันที่ 23 เมษายน 2566
วันพฤหัสบดี-วันอาทิตย์ เวลา 11.30-18.00 น
The Ideoscapes of Violence
โดยวิทวัส ทองเขียว
ภัณฑารักษ์ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
พฤหัสบดี - อาทิตย์ เวลา 11.40-18.00 น. ที่ Manycuts Artspace ARI ซอยอารีย์ 3
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 063-1923921 or at our Facebook and Instagram @manycuts.ari
———
The Ideoscapes of Violence
by Wittawat Tongkeaw
curator Pandit Chanrochanakit
For more information, please contact 063-1923921 or FB and IG @manycuts.ari

 

บล็อกของ บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ

บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เพื่อนถามว่ารถไฟแบบเก่าไม่ดีตรงไหน คนเราเจริญแต่วัตถุ ควรให้ความสำคัญกับจิตใจ ตอบคำถามเพื่อนไปแล้วอยากแชร์กับท่านอื่นๆ นะครับ ขอโทษเพื่อนอีกทีถ้าทำให้กระอักกระอ่วนใจ แต่อยากจะเล่าแบ่งปันกับคนอื่นๆ ด้วย เรื่องรถไฟรางคู่ หรือความเร็วสูงนั้น ที
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
(ข้อความต่อไปนี้มาจากรายงานวิจัยเรื่องชีวประวัติรัฐธรรมนูญและธรรมนูญแห่งรา
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
นัยสำคัญของการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งคือการปฏิเสธอำนาจอธิปไตยของปวงชนชาวไทยด้วยเป็นการดึงดันต่อประกาศพระราชกฤษฎีกาในการเลือกตั้งเตรียมการถอยหลังย้อนทวนเข็มนาฬิกาของพรรคการเมืองที่แพ้การเลือกตั้งมาโดยตลอดเล่ห์กลตื้นๆ แบบนี้ อาจเป็นเส้นผมบังภูเขา เป็นหลุมพรางก่อนจะ
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
คนดีไปไหนหนอ? ถ้ายังจำกันได้เมื่อ พ.ศ.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
ขอทบทวน political literacy เกี่ยวกับศาลอาญาและศาลรัฐธรรมน
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
หลายวันมานี้ผมหมกมุ่นกับเรื่องนิรโทษกรรมจนลืมไปว่าคนจำนวนมาก "ข้าม" เรื่องนิรโทษกรรมไป "ล้มรัฐบาล" กันแล้ว
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
เวลานี้ใครไม่ออกมาพูดเรื่องนิรโทษกรรมก็จะกลายเป็นเชยล้าสมัย ผมอยากให้ลองดูประวัติศาสตร์นิดหน่อยครับไม่อยากพูดมากเลยเอารูปมาแปะเลยนะครับ ภาพเหล่านี้มาจากหนังสือเล่มนี้ครับ 
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
สมัยที่ทำหน้าที่อนุกรรมการตรวจสอบความจริงกรณีเผากรุงเทพ 34 จุดนั้น ไม่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารชั้นผู้ใหญ่หรือ กทม.
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
สำหรับคนที่กำลังสงสัยว่าเรื่องนิรโทษกรรมคืออะไร ผมต้องบอกว่าดีใจมากที่คนไทยสนใจการเมืองมาก ทั้งสองสีเสื้อ และน
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
หลายวันก่อนได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อนร่วมวิชาชีพจากหลายสถาบัน เราคุยกันถึงประเด็นที่ว่าแนวคิดบริหารรัฐกิจและการศึกษาที่หยิบเอาแนวทางการบริหารจากภาคเอกชนมาใช้ ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติ ในบางแห่งบรรจุภาควิชารัฐประศาสนศาสตร์ไว้ในคณะวิทยาการจัดการ บางสถาบันยกระดับให้เป็น "คณะ" บางแห่งยกฐานะเท่าเทีย
บัณฑิต จันทร์โรจนกิจ
 มีข่าวว่าอดีตผู้นำนักศึกษารุ่น 14 ตุลาคม 2516 ระดมกำลังตั้งกลุ่มกระทิงแดงและรวมตัวที่กองบัญชาการ 103 เมื่อวันที่ 20 ก.พ.56 ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความทรงจำอันพร่าเลือนของคนเหล่านี้จากเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์เมื่อเกือบ 40 ปีมาแล้ว