Skip to main content

 

นั่งอ่านหนังสือพิมพ์มติชนสุดสัปดาห์ ฉ.๑๒ - ๑๘ พ.ย.๕๓ ชอบคำพูดของบทความในนั้นว่า …
 “ ว่ากันว่า “อาวุธ”   ที่น่ากลัวที่สุด ชนิดหนึ่งในทางการเมืองก็คือทำให้ผู้นำ “เป็นตัวตลก” ทำอะไรตลก เพราะเมื่อเป็น “ตัวตลก” ทำอะไรตลก แล้วความน่าเชื่อถือก็เปลี่ยนไป”

- -   สายลมเหนือแห่งมันตฤดูพลิ้วโชยมา อากาศเย็นสบายภายใต้ร่มไม้อันร่มรื่น ณ บ้าน  - ร้าน ป่าในเมือง “สุดสะแนน” คืนงาน Free Concert  ของอ้าย “ถนอม ไชยวงษ์แก้ว” กวี นักเขียน ศิลปิน คนเพลง ฯลฯ แห่งล้านนาที่น้องๆ เพื่อนๆ จัดให้  คืนวันงานม่วนหลาย รำร่ายฟ้อนกันเยิบๆ ยาบๆ ข้าฯ ก็ม่วนหลายเชิญแขกทั้งฝรั่ง และคนต่างชาติมาม่วนรำกัน      คืนนี้ข้าพระพุทธเจ้าบรรทม ณ ที่นี่ 

ยามอรุณรุ่งราง เสียงไก้แจ้ขัน ประชันกัน   นกร้องเพลงไพเราะทำให้หัวใจเปรมปรีดาอิ่มเอมในดวงหฤทัยยิ่งนัก
มติชนสุดฯโปรยหน้าปกเขียนว่า … “ ตลกวิจารณ์รัฐบาล รัฐไม่ยอมเปลี่ยนแปลง” มีรูปอ้ายโน้ส อุดม แต้พานิช ขึ้นปก  …กะโถ… รัฐบาลเผด็จการพลเรือนอภิสิทธิ์ - เทพเทือก ฯลฯ อ้ายอุดมแต้ฯ เหย เขาจักเปลี่ยนแปลงได้จาได? ในเมื่อพวกเขาเป็นพวก “อภิสิทธิชน”   และเป็นพวกเผด็จการในข้ออ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง …ที่ว่าเป็นเผด็จการในรูปธรรมก็คือ …

*แทรกแซงสื่อสิ่งพิมพ์ และสื่อทางอินเตอร์เน็ต ในนาม  ICT และสื่อวิทยุชุมชน   ทีวี ฯลฯ
**ออก พ.ร.บ.เผด็จการฉุกเฉินโดย “ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน” (ศอฉ.) ที่อ้างความชอบธรรมในการจัดการกะมหาประชาชน (เอออำนาจรัฐอยู่ที่ใครมันก็ทำได้ทั้งน้านนนนนแหละว่ะ)
***สั่งกระชับพื้นที่ (ใช้ภาษากวีสวยอิบอ๋ายเล๊ย) ใช้ความรุนแรงกับประชาชนที่วัดปทุมฯ และราชประสงค์ ฯลฯ
**** จับกุมคุมขังประชาชนผู้ประท้วงทั่วประเทศโดยอ้างข้อหาเป็น “ผู้ก่อการร้าย” พวกเธอรัฐเผด็จการ คิดว่าเธอเป็น “ผู้ก่อการดี” เหรอ … ชิมิ ชิมิ ?   โอ้เจ้าพวกหอกหัก
*****กรณีภัยน้ำท่วมใหญ่ทั่วประเทศ ก็ไม่เห็นช่วยเหลือประชาชนอย่างรีบด่วน ทำหน้าหล่อ ทั้งนายกฯ และรัฐมนตรี ทำเป็นเท่นั่งเรือไปเยี่ยมเยือน แบบตีนไม่ติดดิน เปรียบเทียบกะน้าสรยุทธ สุทัศนะจินดาและทีมงานบ่ได้ด๊อก
 
- - ในฐานะที่เป็น กวี นักเขียน ฯลฯ สมมุติ ข้าพระพุทธเจ้าทำงานอิสระและไม่ต้องการขึ้นตรงต่อใคร ต่อองค์กรใดต่อรัฐบาลสมมุติใดๆ และก็มิต้องการให้ใครมาขึ้นตรงด้วย ข้าฯเป็นตัวของตัวเอง มีจุดยืน จุดนอน จุดนั่ง ของตัวเอง ฯลฯ ครายจะวิพากษ์ว่าจะใดก้อบ่ถือสา ในเมื่อเราเป็นตัวตนของเราเอง แต่ก็ยอมรับเคารพในการวิพากษ์วิจารณ์นั้นเต็มพุงเจ้า

เอาล่ะ แม้จะเป็นเพียงเสียงจิ้งหรีด จิ้งจก ตุ๊กแก ฯลฯ  ข้าฯขอเรียกร้องให้รัฐบาลเผด็จการพลเรือน (ที่เขาว่ากันว่าตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหาร) เรียกร้องอย่างจริงจังกะรัฐบาลพลเรือนอภิสิทธิ – เทพเทือกฯ และผบ.ทบ. ฯลฯ รีบปลดปล่อย “ผู้ก่อการดี” ที่เรียกร้องประชาธิปไตยออกจากคุกคอกคุมขังทั้งหมดโดยเร็วพลัน และอย่ามาปิดกั้นสื่อสารทุกชนิดของประชาชน!

ปัดธ่อ เจ้าพวกรัฐบาลสมมุติ เธอคิดว่ามหาประชาชนชาวไพร่ราบและประชาชนทุกชนชั้นทุกชั้นชนโง่เหมือนพวกเธอเหรอ ชิมิ ชิมิ?

ประชาชนเขามีวิจารณญาณที่จะตัดสินใจว่า อะไรจริง อะไรเท็จ? โปรดอย่า 
LOOK  DOWN ขอใช้ภาษาพี่น้องกระเหรี่ยงปกาเกอญอหน่อย กรุณาโปรดอย่า (นี่ใช้ภาษาสุภาพแล้วนะ) ดูถูกหมิ่นหยามพี่น้องมหาประชาชนเลยเจ้า …และใช้กลไกอำนาจรัฐมากดขี่มหาประชาชน (พวกเธอรู้ไหม? คำว่า ม หา ป ระ ชา ช น คืออะไร? รู้แล้วจักหนาวววววว  บ่ฮ้อน เน้อ…
 
ประเทศชาติห่าเหวสมมุตินี้ มิมีทางที่จะมีความปรองดองกันได้ (เสธฯหนั่น เฒ่าน้ำตาจระเข้แห่งเมืองพิจิตรหรือ? เป็นตัวการ์ตูนตลกตลอดมา และไร้ common sense สิ้นดี) ตราบใดที่ยังมีชนชั้น มีการกดขี่ขูดรีด มีผลประโยชน์ มีชนชั้นอภิสิทธิชนอยู่ ฯลฯ ดังนั้นใครที่พูดถึงเรื่องปรองดอง สมัครสมานสามัคคี มันจึงไร้เดียงสา งี่เง่า ฯลฯ ให้ลุงหนั่นเดินทางไปเถอะ ไปทั่วโลก เอกภพ จักรวาล ไปหาความสมานฉันท์ แล้วจักฮู้ว่ามันเป๋นไปได้แต๊ก่อ?

จำได้ไหม? พ่อแม่พี่น้อง… ลุงหนั่น ขจรประสาท (ข้าพระพุทธเจ้าตั้งใจใช้คำนี้ ว่า “ประสาท” เพราะดูลุงประสาท จริง) เมื่อมีตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้ คนเฒ่าน้ำตาจระเข้คนนี้ประกาศบอกสื่อมวลชนว่า จะต้องสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ที่สะเอียบ แพร่ …พูดไม่ทันขาดคำ พี่น้องชาวตำบลสะเอียนทำการฌาปนกิจเฒ่าหนั่นเลย มันดูน่าทูเรชั่น(หมายถึงทุเรศ….ข้าฯเอามาสมาสและสนธิกันทั้งในคำไทยและภาษาปะกิต) ไหมล่ะ? พี่น้องชาวบ้านเผาหุ่นลุงเฒ่าทารกคนนั้นเลย   และเฒ่าที่เฒ่าเพราะอยู่นาน (ไม่รู้จักโตทางอ่องออ … หมายถึงสมองที่ไม่โตซักกะที) อย่างเฒ่าคนนี้ ก็บังอาจอวดฉลาดพูดทำนองว่า (ไม่อยากเรียกว่างี่เง่า กลัวจะถูกฟ้องที่ศาลโลก ha ha) ที่ตำบลสะเอียบมีไม้สักทองเพียงสองสามต้น เหมือนน้าหมัก (สมัคร สุนทรเวช   ที่วายชนม์ไปแล้วบอกทำนองว่า…ถ้านกยูงหน้าโง่เพียงสองสามตัว เมื่อสร้างเขื่อนไม่หนีไปก็โง่แล้ว ….พี่น้องคับนี่แหละคือวาทกรรมของพวกนักธุรกิจกินเมืองนักเลือกตั้งที่ดูถูกประชาชนเรื่อยมา (แล้วเรายังจะให้พวกงี่เง่านี้ดูถูกเราตลอดดดดดไปหรือ?)  

…ขอถามว่า ถ้าบ้านของเฒ่าหมัก และเฒ่าหนั่น ตลอดจนบ้านของอธิบ่ดีกรมชลประทาน (ตั้งใจใช้คำนี้ คือ “อธิบ่ดี” ) และพวก กฟผ. มาอาศัยอยู่ที่สะเอียบนับตั้งแต่รุ่นโคตรปู่ย่าตายาย จะยอมให้สร้างไหม?...กะเด๋ว เดี๋ยวขอพูดแบบจิ๊กโก๋หน่อย ว่าทำไมเฒ่าหนั่น และเฒ่าหมัก (แกตายไปแล้ว อโหสิกรรม) ตอนนี้เอาเฒ่าหนั่นน้ำตาจระเข้ก่อนว่า เฒ่าแน่จริงทำไมไม่ไปพบพี่น้องชาวสะเอียบล่ะ เห็นทำเป็นพูดคุยกะผู้สื่อข่าวทำนองว่าจะไปดูไปทำความเข้าใจกับพี่น้องสะเอียบ  ขอโทษ … ทุด … นายไม่แน่จริงนี่หว่า ขี้ขลาดตาขาวชะมัดเล๊ยไม่กล้าไป อายตัวเองซะมั๊ง (โกหกใครได้แต่ขี้จุ๊ โกหกตัวเองไม่ได้ดอก ไร้ศักดิ์ศรีเล้ยผู้เฒ่าหนั่น) ...มาดูดงป่าสักทองแห่งสะเอียบกันไปเลยดีกว่าว่าอุดมสมบูรณ์แค่ไหน? ดีไม่ดีเฒ่าหนั่นอาจจะได้เห็นยลชมฝูงนกยูงที่นั่นมารำแพนฟ้อนเย้ยหยันเฒ่าคนนี้ด้วย   … กล้ามาพบพี่น้องชาวสะเอี๊ยบไม๊ล่ะ? ...ผู้เฒ่าหนั่น ข้าพระพุทธเจ้าอาจจะอ่อนพรรษากว่าท่านมากหน่อย ตอนนี้ข้าฯ มีอายุที่เป็นเพียงตัวเลข ๖๕ พรรษา แต่เรื่องอายุมัน sparrow มันกระจอก เราเอากึ๋นมาคุยกันดีฝ่า ถ้าผู้เฒ่าคนนี้ได้มาอ่าน…อยากให้อ่าน มั๊กๆ ทั่นจักรู้ว่ายังมีคนที่รู้เช่นเห็นชาตินักธุรกิจกินเมืองโกงเมืองอีกมากมาย ขอเตือนสติว่า…อย่าดูถูกพลังมหาประชาชน! (ท่านใดที่เข้ามาอ่านในเว็บนี้ กรุณา zerox ไปให้ท่านหนั่นได้ยลชมด้วย ขอบคุณ คับ )

 “ โลกร้อนขึ้นทุกทีแล้วโว๊ย” (global warming) มีมหาประชาชนตะโกนดังขึ้นใส่หูพวกมนุษยชาติอวิชชาที่งี่เง่าทั้งหลาย ฯลฯ
 
ท้องฟ้า ช่วงต้นฤดูหนาวไม่ค่อยมีเมฆา  แต่ทว่าก็งามไปอีกแบบหนึ่ง ข้าฯนั่งรับ แสงตะวัน ยามเช้าที่มีพลังแสงสีมิให้เราเป็นโรคกระดูกพรุน (ลุงหนั่นเคยได้รักษา anatomy    ของลุงอะเป่า?   ราวังเด้อจะเหมือน ลุงน้าหมัก … สมัคร สุนทรเวช   และ ลุงพันเอกอุทาร สนิทวงศ์ ตลอดจนพันเอกสุดสาย ณ อยุธยา หัวหน้ากระทิงแดงที่จัดตั้งพวกนักเรียนอาชีวะห้ำหั่นนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประชาชน  คนพวกนี้ได้ไป “ค้าถ่าน” แล้ว   … สมัยก่อนไม่มีเตาเผาไฟฟ้าที่ป่าช้า เขาใช้ไม้ฟืนเผาคนที่ตาย แล้วก็มีถ่านไม้หลงเหลืออยู่ จีงเรียกคนที่ตายว่า “ไปค้าถ่านแล้ว” คำศัพท์นี้ช่างจะสุดแสนโรม้านซ์คาธอลิกชะมัดญาติเล๊ย ฯลฯ พรรคพวกขวาจัดที่เคยปลุกระดม เข่นฆ่านิสิตนักศึกษา ประชาชนในเหตุการณ์ ๖ ตุลาคม มหาโหด ปี ๒๕๑๙ มาแล้ว รวมทั้งมี “มือที่มองไม่เห็น” ที่หฤโหดกว่าด้วย   … บาปกรรมมันอยู่ที่ตัวมนุษย์ที่ทำบาปกรรมเอง คนเพียกนี้จะต้องได้รับกรรม คือการกระทำของตัวเองสักวันในชาตินี้แหละ มิต้องรอให้ถึงชาติหน้า ตอนบ่ายๆ)
 
พวกมนุษย์อวิชชาทั้งหลาย พึงเข้าใจรับรู้ เคารพธรรมชาติโลกชีวิตจิตวิญญาณซะมั๊ง มิงั้นเธอจักถูกประณาม หมิ่นหยามว่า โคตรงี่เง่าฉิบหาย
 
เอ๊ะ ขอโทษ   … ครานี้เขียนดุไป หน่อยแต่มีเมตตาเจ้า ขอ “พระอภัยมณี” ตวย และหากข้าพระพุทธเจ้าพูด กวน Teen ใครที่ทำให้เคืองในพระหฤทัยใครก้อขอกราบอภัยโทษโตย … ขอพระราชทานอนุญาตมหาประชาชนไปนอนก่อน เน้อ … บุญฮักษา เจ้า @

ปลายฝน – ต้นหนาว, ล้านนาอิสระ, เจียงใหม่.        
 
 

 

 

บล็อกของ แสงดาว ศรัทธามั่น

แสงดาว ศรัทธามั่น
ดูกร... ภราดา ...  ภราดร ...  โปรดอย่าได้  ฉงนฉงายค ว า ม ห ม า ย ชี วี  เพลานี้ณ  ที่ซึ่ง  มนุษยชาติ  โ อ บ ก อ ด ป ฐ พีณ ที่ซึ่ง เวลานี้  เ ธ อ มี รั ก ป ร ะ จั ก ษ์ ใ จรั ก มิ ต้อง ฝัน ... รั ก  นั้นคือ รั ก จ ริ ง !“ ค ว า ม รั ก นั้ น ยิ่ ง ใ ห ญ่ ”เริงรำร้อง  เที่ยวท่องไปสู่จุดหมายปลายทางแห่ง   เ พ ล ง รั ก นิ รั น ด ร์ณ ที่นี่ ... ที่นั่น ... ที่โน่น! นั้นมี  รัก!เราผ่อนพักชีวา  รั ก รั ง ส ร ร ค์เ มื่ อ  วิ ญ ญ า ณ  แห่ง  รั ก  โ อ บ ก อ ด กันโ ล ก = น ร ก – ส ว ร ร ค์  เป็นฉันใด  มิ…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ภาพจาก แฟ้มข่าวประชาไท(๑) Excellent Life Rhythm(เป็นจังหวะชีวิตที่แสนวิเศษนัก)ปลายฤดูฝน – ต้นฤดูหนาวแสง สี เสียง แห่งแม่พระธรรมชาติ อันเป็นรากเหง้า แห่งวิถีชีวิตเพื่อนมนุษยชาติ ช่างงดงาม หลากสีสันนัก!--- ดวงตะวัน ดวงดาว เดือนเสี้ยว –- กลางฤดูปลายฝน ต้นหนาว-- ฯลฯ --- ฯลฯ --- ฯลฯ---เริงระบำ รำร่ายฟ้อนเป็น Rhythm… เป็นจังหวะดนตรีแห่งสีสัน ช่างงดงามนักExcellent Life Rhythmเป็นจังหวะชีวิตที่แสนวิเศษนัก!“ Life is Very Beautiful”ชีวิตช่างงดงามนัก หากโครงสร้างสังคม สามานย์ เปลี่ยนแปลง(๒) หมดเวลาของคุณแล้ว!Hello!พณฯหัวเจ้าท่าน คมช.หมดเวลาของคุณแล้ว!อย่าสืบต่ออำนาจต่อไปอีกเลย!อย่าเผด็จการฟัสซิสม์…
แสงดาว ศรัทธามั่น
ล ม ห น า ว เ ห นื อ พั ด โ ช ย ม ายามต้องไล้ผิวกายร้อน ที่รุ่ม ก็ คลายกลิ่นอาย เหมันตฤดู มิรู้เลือน น ก น้ อ ย ๆ สีเหลืองเรืองเรื่อโบยบินทุกแหล่งหล้ามิรู้หนโผร่อนจับเกาะกิ่งก้านต้นมะขามสนามหลวง – สนามราษฎร์ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว – ตามไล่ทักทายกันโ อ ... ก็นานนักแล้วซิหนอที่พวกเจ้ามิได้มาพบกัน! ณ เบื้อง ฟ้าบนด ว ง ต ะ วั น สาดแสงแรงกล้า น ก พิ ร า บ ข า ว พราวอันมิถ้วนนับสะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อน ... ราวจักข่ม คคนานต์พราวปีกขาว สะพรึบสะพรั่ง โบยบิน ฉวัดเฉวียน เวียนว่อนเริงรำร่อนจับเกาะกอดโดมแดนธรรม... ธ ร ร ม ศ า ส ต ร์โ อ !...…
แสงดาว ศรัทธามั่น
(1)จักรวาลอวยพรชัยณ ยามราตรีกาลดวงดาวเดือนพราวพร่างบนทุ่งฟ้าวิบ วิบ วับ วับ เปล่งประกายทอแสงเจิดจ้าอวยพรชัยแด่โลก ชีวิต!แล ณ ยามอรุณรุ่งดวงตะวันสาดแสงสีทองส่องโลกหล้าวิหคนกกามวลสรรพสิ่ง – สรรพชีวี...เริงระบำรำร่ายฟ้อนอวยพรชัยแด่ผองเพื่อนมนุษยชาติ!ณ คืนวันแห่งการสัปประยุทธ ต่อสู้ด้วยอหิงสา ศานติวิธีพี่น้องม่าน พี่น้องชนเผ่าทั้งผอง...แล สตรีเหล็ก “ออง ซาน ซูคยี”รวมทั้งผองเพื่อนพี่น้องร่วมโลกร่วมแผ่นดินแห่งดาวโลกดวงนี้ต่างคล้องแขนร่วมเดินทางเปล่งร้องขับขานบทเพลงแห่งชัย...ชัย...ชัย...ชัย ! ดูรา...ภราดา...ภราดายลดูด้วยประกายดวงตาปลื้มปิติ...ดูซี...ดูซี...“มองดูความจริงซี”พระคุณท่าน แม่ชี...…