Skip to main content


มิ่งมิตร
เธอมีสิทธิ์ที่จะล่องแม่น้ำรื่น
ที่จะบุกดงดำกลางค่ำคืน
ที่จะชื่นใจหลายกับสายลม
 
ที่จะร่ำเพลงเกี่ยวโลมเรียวข้าว
ที่จะยิ้มกับดาวพราวผสม
ที่จะเหม่อมองหญ้าน้ำตาพรม
ที่จะขมขื่นลึกในหมึกมน
 
ที่จะโลดเริงเล่นเช่นหงส์ร่อน
ที่จะถอนใจทอดกับยอดสน
ที่จะหว่านสุขไว้กลางใจคน
ที่จะทนทุกข์เข้มเต็มหัวใจ
 
ที่จะเกลาทางกู้สู่คนยาก
ที่จะจากผมนิ่มปิ้มเส้นไหม
ที่จะหาญผสานท้านัยน์ตาใคร
ที่จะให้สิ่งสิ้นเธอจินต์จง
 
ที่จะอยู่เพื่อคนที่เธอรัก
ที่จะหักพาลแพรกแหลกเป็นผง
ที่จะลุจุดหมายปลายทะนง
ที่จะคงธรรมเที่ยงเคียงโลกา
 
เพื่อโค้งเคียวเรียวเดือนและเพื่อนโพ้น
เพื่อไผ่โอนพลิ้วพ้อล้อภูผา
เพื่อรวงข้าวพราวแพร้วทั่วแนวนา
เพื่อขอบฟ้าขลิบทองรองอรุณ.
 
 
หมายเหตุ ; นี่คือบทกวีที่ผมถือว่าเป็นบทกวีเชิงอุดมคติที่งดงามสูงส่งบทหนึ่ง ของ อุชเชนี ที่ผมท่องได้จนขึ้นใจมานานแล้ว เพราะชื่นชอบทั้งภาษากวีที่ให้จินตภาพของธรรมชาติอันงดงาม และสาระของเนื้อหา ที่ให้คุณค่าแก่สิทธิและเสรีภาพของมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง และยังเชิดชูสิ่งที่เรียกกันว่าความเป็นธรรม ที่ผู้คนและสังคมส่วนใหญ่โหยหา ต่อสู้และเรียกร้องกันมาทุกยุคทุกสมัย เอาไว้เป็นคุณค่าสูงสุดแก่โลกว่า...
 
เพื่อจะอยู่เพื่อคนที่เธอรัก
ที่จะหักพาลแพรกแหลกเป็นผง
ที่จะลุจุดหมายปลายทะนง
ที่จะคงธรรมเที่ยงเคียงโลกา
 
หวังไว้ว่า ในคืนวันที่ชีวิตหดหู่และย่ำแย่ ไม่ว่าด้วยเหตุใด บทกวีที่เต็มไปด้วยพลังบทนี้ คงจะช่วยให้ใครสักคนหนึ่ง...ที่ตกอยู่ในสภาวะทางใจเช่นนี้ สลัดความหดหู่ท้อแท้...ออกไปจากชีวิตไปได้ - ไม่มากก็น้อย เช่นเดียวกันกับที่บทกวีนี้  ได้ช่วยเยียวยาอาการทางใจที่ย่ำแย่ของผม ที่เนื่องมาจากความผิดหวังในบางสิ่งบางอย่างในช่วงเวลานี้ และก็ทำใจได้ในเวลาอันรวดเร็ว หลังจากนึกถึงกวีบทนี้ขึ้นมาได้ และมาได้คิดง่ายๆว่า อะไรๆที่เราต้องการ และสิ่งนั้นอยู่ในมือของคนอื่น ไม่ว่าเราจะทำดีสักเพียงใด และพยายามสักกี่ครั้งๆ เขาก็ไม่เคยยินดีที่หยิบยื่นให้ เราก็ต้องเลิกรากับมันเสีย เท่านั้นเอง... ( ชีวิตที่มีแต่เรื่องจำเป็นที่ต้องพึ่งพาคนอื่น หรือสังคม มักจะมีแต่เรื่องที่ขมขื่นและน่าเบื่อ...อย่างนี้นี่เองแหละครับ ต้องทำใจให้แข็งแกร่งเอาไว้ เราจึงจะอยู่ในโลกนี้ได้... )
 
สำหรับท่านที่สนใจ
งานกิจกรรมเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมและอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่  
8 - 16 สิงหาคม 52
ขอเชิญชวนท่านไปชมนิทรรศการภาพถ่าย
ชวด - นักดนตรีจากวงสุดสะแนน
โพธิ - NGO project director
แทน - ช่างภาพสารคดี
ณ ร้านกาแฟร่ำเปิง ที่ร่มรื่นด้วยเงาไม้ ซอยหลังวัดร่ำเปิง ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นอกจากกาแฟรสดีราคาแบบมิตรภาพแล้ว ยังมีเบียร์ขวดเล็กไว้บริการด้วยครับ นั่งจิบกาแฟไปจิบเบียร์ไป ค่อยๆดูภาพไป เพลิดเพลินใจดีครับ โดยเฉพาะช่วงเวลาเย็นนี่เหมาะมาก ผมเองก็เพิ่งไปแวะมาเมื่อวานนี้เอง เพราะปกติไม่มีงานอะไร เวลาเข้าเมือง ผมก็ไปแวะไปใช้บริการ ( แบบกันเอง ) แทบทุกครั้ง เพราะร้านเขา - มีทั้งที่นั่งเท่ๆหน้าเคาน์เตอร์ และที่นั่งตามโต๊ะเก้าอี้บนชานหน้าบ้านที่เขาต่อกว้างออกมาเป็นพื้นที่ของร้าน ให้เลือกนั่งกันเป็นกลุ่มอีก 4-5 โต๊ะ แบบสบายๆ ภายใต้เงาไม้ที่แวดล้อม ตามสไตล์แบบบ้านสวนนั่นเอง.
 
12 สิงหาคม 2552
กระท่อมทุ่งเสี้ยว เชียงใหม่

 

บล็อกของ ถนอม ไชยวงษ์แก้ว

ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ชีวิตของผมเป็นชีวิตที่ประสบกับภาวะขึ้น ๆ ลง ๆ เหมือนเส้นกราฟมานับครั้งไม่ถ้วน หรือถ้าจะพูดให้ชัดเจนและเข้าใจกันได้ง่าย ๆ แบบภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นชีวิตที่ประสบกับความรุ่งเรืองและตกต่ำตามวิถีทางและอัตภาพของตัวเองสลับกันไปมา...นับครั้งไม่ถ้วน นั่นเองแต่ก็แปลก...จนป่านนี้ ผมก็ยังไม่อาจทำใจยอมรับและรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่ต้องมีขึ้นมีลง นั่นคือเวลาที่ชีวิตผมขึ้นหรือรุ่งเรือง ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองฟูฟ่องพองโต และมองดูโลกนี้สวยงามสดชื่นรื่นรมย์ น่าอยู่น่าอาศัย...ราวกับสวรรค์บนพื้นพิภพแต่พอถึงเวลาที่ชีวิตเริ่มลงหรือตกต่ำ ผมก็จะรู้สึกว่าตัวเองเริ่มห่อเหี่ยวฟุบแฟบ…
ถนอม ไชยวงษ์แก้ว
ผมเคยรู้จักคนบางจำพวกที่มีลักษณะต่างจากคนธรรมดาทั่วไปอย่างเรา ๆ ท่าน อยู่ประการหนึ่ง นั่นคือคน-คนพวกนี้ไม่ว่าจะประสบกับปัญหาชีวิตมากน้อยหรือหนักหนาสาหัสเพียงใด เมื่อถึงเวลานอนหลับ…เขาสามารถที่จะปล่อยวางปัญหานั้น ๆ ออกไปจากความคิดจิตใจ และนอนหลับได้สนิท ราวกับว่าไม่มีปัญหาใด ๆ มาแผ้วพาน ครั้นเมื่อตื่นขึ้นมาในยามเช้าวันใหม่ เขาก็จะหยิบยกปัญหาต่าง ๆ มาครุ่นคิดพิจารณาหาทางแก้ไข ปัญหาใดที่แก้ไขได้…ก็จัดการแก้ไขให้เรียบร้อย ส่วนปัญหาที่ยังแก้ไขไม่ได้เขาก็สามารถจะปล่อยวางปัญหานั้นเอาไว้ก่อน และหันไปทำธุระอื่น ๆ แทนที่จะเก็บมาหมกมุ่นครุ่นคิด เป็นทุกข์กังวลอยู่กับปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้…