Skip to main content

เมื่อ 24 กค. 65 ผู้จัดการแสดง #ฮิญาบ2022  ชวนผมไปดูการแสดงของคุณฟารีดา จิราพันธ์ ที่กาลิเลโอเอซิส แล้วผู้จัดจะชวนผมสนทนาหลังละคร

ผมรับปากทันทีเพราะไม่ได้ดูละครมานานแล้วนับตั้งแต่การระบาดของโควิดร่วม 2 ปี และก็ชื่นชอบผลงานคุณฟาอยู่ก่อนแล้ว

ละครแต่ละรอบเปิดให้คนชมไม่มากนัก คิดว่าไม่ถึง 100 คนดีนัก การแสดง (ซึ่งจะเรียกว่าละครก็ไม่เชิงนัก แต่บางทีผมก็ขอเรียกว่าละครบ้างการแสดงบ้างก็แล้วกันครับ) กินเวลาราว 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นมีพักนิดหนึ่ง แล้วก็มีการสนทนากันต่อ ไม่น่าเขื่อว่าคนยังอยู่สนทนากันหลังละครอีกไม่น้อยเลย และหลายคนยังเป็นแฟนการแสดงของคุณฟามาหลายต่อหลายเรื่องอีกด้วย

ผมอยากใช้พื้นที่นี้บันทึกความเห็นผมต่อการแสดง “ฮิญาบ” ที่เสนอไว้และคิดต่อ 3-4 ประเด็นสั้นๆ ครับ

ข้อแรก “ฮิญาบ” ตั้งคำถามต่อการที่คนไทยพุทธหรือคนไทยนอกศาสนาอิสลามมักมองว่าการสวมฮิญาบเป็นสิ่งแปลกประหลาด ว่าการสวมฮิญาบแปลกจริงหรือ ความธรรมดาของฮิยาบในฐานะรูปแบบหนึ่งของการจัดการหัว/ผมนั้น ไม่ต่างไปจากความธรรมดาของการจัดการหัว/ผมของคนทุกวัฒนธรม ชนชั้น เพศ และศาสนา  

ผมเล่าถึงผู้คนในพื้นที่วิจัยหนึ่งของผมในภาคเหนือของเวียดนาม คือคน “ไทดำ” ว่าพวกเขาโดยเฉพาะผู้หญิง โพกหัวด้วยผ้าคลุมผมหลายแบบในต่างช่วงวัย ตามสถานะของผู้หญิง หญิงสาวโพกแบบหนึ่ง หญิงแต่งงานแล้วโพกอีกแบบ หญิงสามีตายโพกอีกแบบ แถมลวดลายยังบอกทั้งอัตลักษณ์เฉพาะเมืองและฝีมือเฉพาะตนของผู้ปักลาย พวกเขาไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม แต่พวกเขานับถือศาสนาผีแถน

ผมตั้งคำถามต่อว่า แล้วการตัดผมเกรียนสามด้าน มัน “ปกติ” กว่าการคลุมผมของหญิงมุสลิมตรงไหน แล้วการแต่งทรงผมแบบต่างๆ มันปกติตรงไหน การแต่งหน้าทาปากมันปกติตรงไหน หากคิดว่าการสวมฮิญาบเป็นสิ่งแปลกประหลาด ก็ควรสงสัยกับความ(ไม่)ปกติของการจัดการหัวและเนื้อตัวเราเองด้วย

ข้อสอง ในแง่ของการแสดง การสวมฮิญาบแสดงเป็นการท้าทายความเป็นศิลปะของการแสดงเอง ในการแสดงนี้ ผมคิดว่าคุณฟาได้ตั้งคำถามกับความเป็นการละคร/การแสดง อะไรกันแน่ที่ทำให้เกิดการละครขึ้นมา มันคือหน้าตาที่ต้องเปิดเผยหมดเท่านั้นหรือ

ในการแสดงนี้ คุณจะได้เห็นเองว่า เมื่อปิดหน้าแล้ว บทบาทของเรือนร่างส่วนต่างๆ อากัปกิริยา เสียงที่เปล่ง วิธีการพูด ภาษาที่ใช้ ไปจนถึงวัสดุประกอบการแสดง ที่ว่าง อาคาร ห้อง แสง สีของแสง ตลอดจนเสียงนอกการแสดง บริบทแวดล้อมสถานที่จัดการแสดง ผู้ชม ระยะห่าง/ประชิดของผู้ชม ปฏิกิริยาของผู้ชม ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญของการแสดง  

คำถามที่ใหญ่ต่อแวดวงการแสดงและใหญ่กว่านั้นคือ ต่อแวดวงสื่อมวลชนในประเทศนี้ ทำไมการสวมฮิญาบจึงไม่ถูกยอมให้ปรากฏในการแสดงและในสื่อมวลชนทั่วไป

ข้อสาม ละครของคุณฟาจึงตั้งคำถามเลยไปถึงการดำเนินชีวิตประจำวันในประเทศไทย รวมทั้งประเทศไหนๆ ก็ตามที่ปิดกั้นการสวมฮิญาบเพราะอ้างว่าเป็นการแสดงสัญลักษณ์ทางศาสนา  

คุณฟาถามถึงความเป็นคนที่เท่าเทียมกันใต้ฮิญาบ ใต้การแสดงออกแบบต่างๆ ว่าทำไมการแสดงออกบางแบบของคนเช่นกันจึงไม่ได้รับการยอมรับอย่างเสมอเหมือนกัน ทำไมการดำเนินชีวิตประจำวันในประเทศนี้ต้องกีดกันการสวมฮิญาบ  

ข้อสี่ ข้อนี้เป็นคำถามที่ผมได้จากการแสดงเช่นกัน แต่บังเอิญมีผู้ร่วมอภิปรายท่านหนึ่งเสนอคำถามนี้มาก่อน และคุณฟาเองก็ต่อประเด็นนี้ได้อย่างแหลมคมอยู่แล้ว ในบันทึกนี้ผมจะขอต่อประเด็นนี้เพียงสั้นๆ คือเรื่องควาเป็นศิลปะและการเป็นนักแสดงหญิงในศาสนาอิสลาม  

ละครของคุณฟาตั้งคำถามต่อสถานะทางศิลปะในศาสนาอิสลาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ศิลปะการแสดงกับผู้หญิงอิสลาม  

เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในศาสนาอิสลาม ศิลปะถูกมองว่าเป็นสิ่งเร้าอารมณ์ สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ผู้คนตกลงไปในความเสื่อม ศิลปะในศาสนาอิสลามจึงมีได้เฉพาะในรูปแบบที่โยงกับคัมภีร์อย่างไร้รูปเคารพ ในสถาปัตยกรรมอิสลาม เราจึงเห็นเฉพาะรูปทรงเลขาคณิตและอักษรอาหรับซึ่งถ่ายทอดข้อความจากพระคัมภีร์ ถ้าว่ากันอย่างเคร่งครัด ทัศนศิลป์แบบอื่นรวมทั้งการแสดงจึงเป็นสิ่งต้องห้าม  

ตามหลักนี้ การแสดงของคุณฟาจึง ถ้าไม่ถึงกับตั้งคำถามก็เสนอทางเลือกให้กับการเป็นมุสลิมหญิงที่ใช้ศิลปะการแสดงเพื่อทั้งสื่อประเด็นทางศาสนา และเพื่อสร้างความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม ซึ่งนั่นก็อาจเป็นเส้นทางใหม่ๆ ที่ท้าทายทั้งต่อตัวคุณฟาเองในฐานะหญิงมุสลิม และท้าทายให้แสวงหาบทบาทศิลปะหรือการใช้ศิลปะในศาสนาอิสลาม  

“ฮิญาบ” คงชวนให้คิดถึงอะไรได้อีกมาก และหากว่าจะมีการเพิ่มรอบหรือเปิดแสดงครั้งใหม่อีก ก็ขอชักชวนเพื่อนๆ หาโอกาสไปดูกันครับ

บล็อกของ ยุกติ มุกดาวิจิตร

ยุกติ มุกดาวิจิตร
การดีเบตระหว่างนักเรียนกับรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่หน้ากระทรวงฯ เมื่อวาน (5 กย. 63) ชี้ให้เห็นชัดว่า หากยังจะให้คนที่มีระบบคิดวิบัติแบบนี้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการอยู่ ก็จะยิ่งทำให้การศึกษาไทยดิ่งลงเหวลึกไปยิ่งขึ้น
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ประเด็น "สถาบันกษัตริย์" ในประเทศไทยปัจจุบันไม่ใช่เรื่องศีลธรรมและไม่ใช่แค่เรื่องความรู้สึก แต่เป็นเรื่องของสถาบันทางการเมืองและการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมการเมืองไทย ถ้าไม่เข้าใจตรงกันแบบนี้ก่อนก็จะไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ฟัง/อ่านข้อเสนอของนักศึกษา/ประชาชนที่เสนอในการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อวานนี้ได้
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ปีนี้ผมอายุ 52 ผมคิดอยู่ตลอดว่า ถ้าพ่อแม่เสียไป ผมจะดัดแปลงบ้านที่อยู่มายังไง จะรื้ออะไร ย้ายอะไร ผมไม่มีลูก ม
ยุกติ มุกดาวิจิตร
การยุบพรรคอนาคตใหม่อย่างที่สาธารณชนและแม้แต่นักกฎหมายเองก็เห็นว่าไม่สมเหตุสมผลทั้งในทางกฎหมายและในทางการเมือง และความเหลวแหลกของกลไก เกม และสถาบันการเมืองในขณะนี้ คือเงื่อนไขเฉพาะหน้าที่ทำให้เยาวชนจำนวนมาก ซึ่งเป็นคนหน้าใหม่ของการเมืองไทย ในหลายพื้นที่กระจายไปทั่วประเทศ ลุกขึ้นมาแสดงออกทางการเมืองอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่มีความขัดแย้งรอบใหม่ในกลางทศวรรษ 2540 เป็นต้นมา 
ยุกติ มุกดาวิจิตร
วินาทีที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ ความสำคัญไม่ใช่ว่าพรรคการเมืองหนึ่งถูกยุบไปหรอก แต่ความสำคัญอยู่ที่ว่า ผู้มีอำนาจกำลังสร้างความแตกร้าวครั้งใหม่ที่พวกเขาอาจจะพบปฏิกิริยาโต้ตอบที่ไม่เหลือเศษซากอะไรให้กอบกู้โลกเก่าของพวกเขากลับมาได้อีกต่อไป
ยุกติ มุกดาวิจิตร
ข้อสังเกตจากการแถลงของ ผบทบ. ล่าสุด แสดงการปัดความรับผิดชอบของผู้นำกองทัพไทยอย่างเห็นได้ชัดดังนี้
ยุกติ มุกดาวิจิตร
จากเหตุการณ์ #กราดยิงโคราช เราเห็นอะไรเกี่ยวกับทหารไทยบ้าง
ยุกติ มุกดาวิจิตร
การเสียสละกับการรักษาหลักการมักถูกนำมาใช้อ้างหรือมากกว่านั้นคืออาจมีส่วนใช้ในการตัดสินใจ
ยุกติ มุกดาวิจิตร
พวกคุณไม่ได้เพียงกำลังทำลายพรรคการเมืองใดพรรคหนึ่ง หรือกลุ่มการเมืองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่พวกคุณกำลังทำลายความหวังที่คนจำนวนมากมีต่อความก้าวหน้าของประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่นใหม่ที่เริ่มสนใจประเทศชาติ
ยุกติ มุกดาวิจิตร
อาวเบี๋ยนเป็นศิลปินอาวุโสชาวไต/ไท ในเวียดนาม ผมรู้จักกับท่านมาร่วม 15 ปีแล้ว ตั้งแต่เมื่อพบกันครั้งแรกๆ ก็ถูกชะตากับท่าน ผมจึงเพียรไปหาท่านหลายต่อหลายครั้ง ที่ว่าเพียรไปหาไม่ใช่แค่เพราะไปพบท่านบ่อย แต่เพราะการไปพบท่านเป็นเรื่องยากลำบากมาก เมืองที่ท่านอยู่ชื่อเมืองล้อ หรือเรียกแบบสยามๆ ก็เรียกว่าเมืองลอก็ได้ 
ยุกติ มุกดาวิจิตร
วันนี้เป็นวันระลึก "เหตุการณ์ 28 กุมภาพันธ์" 1947 หรือเรียกกันว่า "228 Incident" เหตุสังหารหมู่ประชาชนทั่วประเทศไต้หวัน โดยรัฐบาลที่เจียงไคเชกบังคับบัญชาในฐานะผู้นำก๊กมินตั๋งในจีนแผ่นดินใหญ่
ยุกติ มุกดาวิจิตร
มีเพื่อนขอให้ผมช่วยแนะนำร้านอาหารในฮานอยให้ แต่เห็นว่าเขาจะไปช่วงสั้นๆ ก็เลยแนะนำไปไม่กี่แห่ง ส่วนร้านเฝอ ขอแยกแนะนำต่างหาก เพราะร้านอร่อยๆ มีมากมาย เอาเฉพาะที่ผมคุ้นๆ แค่ 2-3 วันน่ะก็เสียเวลาตระเวนกินจนไม่ต้องไปกินอย่างอื่นแล้ว