Skip to main content

ต่อกรณี อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล.  รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์  ออกมาประกันตัวลูกศิษย์ ที่ถูกจับกุมในกิจกรรม"เลือกตั้งที่(รัก)ลัก" เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา จนได้รับการแซ่ซร้องสรรเสริญจากฝ่ายผู้สนับสนุนประชาธิปไตยส่วนหนึ่งนี่สำหรับผมแล้วผมรู้สึกแปลกๆนะครับ ผมคิดว่ามันเป็นหน้าที่ของ รอง อธิการบดีฝ่ายกิจกรรมนักศึกษาอยู่แล้วที่ต้องออกมาทำหน้าที่นี้  มันเป็นต้นทุนที่ต้องจ่ายของคนที่มาทำงานบริหารสถานศึกษาที่เคยมีชื่อเสียงในทางการเมือง และประชาธิปไตย ผมเลยไม่รู้สึกปลื้มปิติอะไรมากมาย

มองในแง่ดีสำหรับตัวคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยเองแล้วก็คือ มันอาจเป็นการลดแรงกดดันให้กับผู้บริหาร มธ.ที่เข้าไปเลียตูดดูดไข่รัฐบาลทหารด้วยรึเปล่า??
 
สิ่งที่สงสัยมากขึ้นก็คือถ้ามีนิสิต นศ.มหาลัยอื่นถูกจับ ต้องใช้เงินประกันตัวด้วยนี่ อ.ปริญญาจะกล้าใช้เงินประกันตัวพวกเขาไหม(ที่ผ่านมายังไม่เคยมี) ถ้ากล้าแล้วนักประชาธิปไตยค่อยมากรี๊ดกันก็ยังดี เพราะอย่างน้อย อ.ปริญญา ก็แสดงความกล้าหาญที่จะก้าวข้ามรั้วมหาวิทยาลัยออกมาปกป้องนักกิจกรรม นักศึกษา คนอื่นๆ
.
ในวันที่มีการจับกุม มีนักวิชาการจากทาง จุฬา มหิดลและทางธรรมศาสตร์เองแจ้งมากับผมว่าพร้อมที่จะเข้ามาประกันตัวผู้ถูกจับทุกคน ไม่เพียงเฉพาะ นศ.มธ. คำถามก็คือว่าเราควรที่จะชื่นชมพวกเขาเหมือนอย่างที่ชื่นชมปริญญาไหม ?? หรือว่าจริงๆแล้วพวกเขาน่านับถือกว่าปริญญาเสียอีก...รึเปล่า??
.
ในวันที่มีการจับกุม ผมเห็น อ.ประจักษ์ ก้องกีรติ และ อ.ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์ ไปติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ถ้าในวันนั้น ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ไม่มีเงินสดจำนวน หกหมื่นบาทเพื่อใช้ประกันตัวนักเคลื่อนไหวนอกรั้วมหาลัยอีกสามคนที่เหลือ และหากนักวิชาการทั้งสองท่านเข้าไปใช้ตำแหน่งประกันตัวให้ คงจะมีอะไรที่เด่นชัดขึ้นและงามหน้าธรรมศาสตร์มากกว่านี้
.
ไม่ได้ติติงว่า อ.ปริญญาทำไม่ดีนะครับ มีต้นทุนทางสังคมสูงๆ ขยับเขยื้อนตัวทำอะไรซะบ้างน่ะเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะช่วงหลังๆสายตาของผมเริ่มมีปัญหาว่าไม่สามารถแยกระหว่างท่านสมคิดกับท่านปริญญาออกจากกันได้แล้ว
.
แต่ถ้าอยากให้ผมกรี๊ดดังๆเหมือนกับเพื่อนๆน้องๆหลายๆคนนี่ผมว่า อ.ปริญญา ควรอย่างยิ่งที่จะลงทุนให้มากกว่านี้


มีเพื่อนพี่ที่ผมเคารพหลายคนแสดงความเห็นที่แตกต่างออกไป ติดตามได้ในสเตตัสนี้นะครับ

บล็อกของ gadfly

gadfly
ฟันธง กกต.แค่ปราม หรือให้ลึกกว่านั้นคือรักษาหน้าแสดงอำนาจเหนือชัชชาติแล้วก็จบ 
gadfly
ผมอ่านวรรณกรรมไทยแนวสะท้อนสังคมไม่เยอะนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันมันไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม  ในช่วงวัยแห่งการแสวงหา (ใช้คำว่าแสวงหาแล้วอยากจะอ้วก ถ้าไม่มีเงินค่าอยู่กิน เล่าเรียนจากพ่อและแม่ ก็คงไม่มีโอกาสได้แสวงหาหรอก) มีนักเขียนสองคนที่ผมตามอ่า
gadfly
 ประยุทธ์บอกให้ประชาชนเลี้ยงไก่สองตัวเพื่อกินไข่ แต่สงสัยว่าประยุทธ์เคยเลี้ยงไก่รึเปล่า ไก่ใช่ไก่ทุกตัวที่จะออกไข่ได้ ต้องเป็นไก่แม่สาวที่อายุสี่เดือนขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถออกไข่ และจะออกไปได้จนอายุประมาณสองปีหรือกว่านั้นเล็กน้อย 
gadfly
 โจน จันได ปราชญ์ชาวบ้าน ต้นแบบการรณรงค์ใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียงสุดฮิป ขวัญใจไอดอลของคนชั้นกลาง คนเมืองกลุ่มใหญ่ ถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่ออพยพย้ายรกรากลี้ภัยโควิดไปอยู่ศูนย์กลางประเทศทุนนิยมอย่างสหรัฐอเมริกา พูดถึงโจน จันได ก็ต้องพูดถึงบ้านดิน ที่โจนใช้ในการสร้างชื่อใ
gadfly
 พฤษภา 53 เขตอภัยทาน ได้ถูกนักศาสนา นักสันติวิธีผลักดันให้มีขึ้น 4 จุด คือ วัดปทุมฯ บ้านเซเวียร์ สำนักงานกลาง นร.คริสเตียน แล้วก็ รร.
gadfly
เสาร์อาทิตย์ ตั้งใจจะต่อเติมบ้านส่วนที่ทำค้างไว้ให้แล้วเสร็จ ต้องจ้างช่างชาวบ้านและลูกมือเป็น นร ม ปลายมาทำ เพราะงานปูนทำเองไม่ไหวแล้วช่างไม่มา ส่วนลูกมือไปเฝ้าเบ็ดตกปลาที่อ่างเก็บน้ำ เสียเวลารอ เสียหัวสองวันเต็มๆ วันหยุดด้วย
gadfly
กรณีหมุดคณะราษฎรที่ผ่านมาผมโพสต์เฟซบุ๊กเล่นๆ แบบฮาๆ แต่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันอาจเป็นปัญหาได้เหมือนกันในเฟซบุ๊ก หลายคนเปรยว่า ที่ผ่านมาหลักฐานวัตถุทางประวัติศาสตร์ในยุคของคณะราษฎรได้ถูกเคลื่อนย้าย ทุบทำลาย หรือลดทอนความหมายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ลงไปหลายสิ่งอย่างแล้ว จะฟูมฟายอะไรนักหนา
gadfly
============================ ปากหมาหาเรื่อง บ่นบ้า (อย่าถือสาหาสาระ) ============================