Skip to main content

เมื่อคืนผมไม่ได้ดื่มเหล้า เลยเกิดอาการตาสว่าง ต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะหลับ และกว่าจะหลับก็ปาเข้าไปเกินตีสาม 
.
หลับแล้วก็ยังฝันต่ออีก
.
ฝันว่าได้กลับไปอยู่บ้าน บ้านก็ยังคงมีสภาพเหมือนเดิม แต่สภาพแวดล้อมรอบบ้านกลับเปลี่ยนไป มันกลายเป็นทุ่งหญ้า กว้าง กว้าง และกว้าง...
.
นอกจากสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปแล้วยังมีสัตว์เลี้ยงใหม่เพิ่มขึ้นมาในบ้านอีกสองตัว
.
มันเป็นสิงห์โตที่โตเต็มวัยคู่หนึ่ง ร่างกายสมบูรณ์มีแต่มัดกล้าม ขนเป็นมันเมื่อต้องประกายแดด มันดูสุภาพ เชื่องเชื่อ
.
ตัวเมียค่อยยังชั่วดูเหงี่ยมหงิม เรียบร้อย นอนนิ่ง สายตานิ่งเฉยมองออกไปยังทุ่งกว้าง แต่เจ้าตัวผู้ไม่อย่างนั้น มองแง่ดีมันอาจจะขี้เล่น ซุกซน ช่างสงสัย
.
มันเฝ้าเดินตามติดผมเป็นเงาตามตัว ไม่ว่าผมจะไปอยู่จุดไหนหรือว่าทำอะไร มันเฝ้าดู บางครั้งมันก็คำรามทักทายโชว์เขี้ยวขาว ผมไม่อยากจะเดาว่ากรงเล็บที่ซ่อนอยู่ในอุ้งเท้าของมันมีขนาดและความแหลมคมประมาณไหน
.
ในฝัน ผมกับมันเล่นเอาเถิดเจ้าล่อกับมันไปเรื่อยๆ มันยังไม่ได้ทำอะไรให้ผมเจ็บบาดเจ็บ แต่ผมก็เหนื่อยและเครียดที่ต้องชิงไหวชิงพริบกับมันรวมถึงจินตนาการถึงรูปแบบและความเจ็บปวดจากการทำร้ายของมันตลอดเวลาที่ผมนอนหลับ
.
จนกระทั่งได้ยินเสียงเตือนจากแมสเสจบอกซ์เฟซบุ๊กจากเพื่อนต่างแดน มันเป็นแถลงการณ์ของปัญญาชนเรียกร้องเสรีภาพทางวิชาการในประเทศไทย ผมจึงได้หลุดรอดออกมาจากมัน หลุดออกมาจากความฝัน ตื่นขึ้นมาทำงาน
.
ระหว่างดื่มกาแฟเตรียมที่จะเริ่มงานเลยทบทวนถึงที่มาของความฝันที่พึ่งผันผ่าน ผมคิดว่าผมพึ่งพูดคุยกับพี่สื่อมวลชนอิสระท่านหนึ่งถูกเรียกให้ไปรายงานตัวซ้ำๆ ผมพึ่งทราบว่าชาวบ้านในพื้นที่พิพาทเรื่องพลังงานท่านหนึ่งถูกเรียกไปปรับทัศนะคติ ผมได้อ่านสเตตัสบนเฟซบุ๊กของนักวิชาการท่านหนึ่งที่ต้องมีความกดดันจากการคุกคามโดยทหารตลอดมา
.
มันเป็นความเจ็บปวดที่แทบจะไม่อาจแม้แต่จะส่งสำเนียงออกมา
.
จากการรับรู้เล็กๆในมุมมองอันคับแคบของผม ผมเขียนสเตตัสนี้ขึ้นมาเพื่อแสดงความระลึกถึงพวกเขา อยากบอกพวกเขาว่า เราจะไม่ทิ้งกัน 
.
สิ่งที่เกิดขึ้นกับพวกเราในวันนี้มันจะเป็นความอัปยศไร้ค่าของพวกเขาผู้คุกคาม แต่มันจะเป็นแค่ความฝันตื่นนึงสำหรับเรา เมื่อเวลาผ่านไป

 

https://www.facebook.com/sarayut.tangprasert/posts/930822176961934

บล็อกของ gadfly

gadfly
ฟันธง กกต.แค่ปราม หรือให้ลึกกว่านั้นคือรักษาหน้าแสดงอำนาจเหนือชัชชาติแล้วก็จบ 
gadfly
ผมอ่านวรรณกรรมไทยแนวสะท้อนสังคมไม่เยอะนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันมันไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม  ในช่วงวัยแห่งการแสวงหา (ใช้คำว่าแสวงหาแล้วอยากจะอ้วก ถ้าไม่มีเงินค่าอยู่กิน เล่าเรียนจากพ่อและแม่ ก็คงไม่มีโอกาสได้แสวงหาหรอก) มีนักเขียนสองคนที่ผมตามอ่า
gadfly
 ประยุทธ์บอกให้ประชาชนเลี้ยงไก่สองตัวเพื่อกินไข่ แต่สงสัยว่าประยุทธ์เคยเลี้ยงไก่รึเปล่า ไก่ใช่ไก่ทุกตัวที่จะออกไข่ได้ ต้องเป็นไก่แม่สาวที่อายุสี่เดือนขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถออกไข่ และจะออกไปได้จนอายุประมาณสองปีหรือกว่านั้นเล็กน้อย 
gadfly
 โจน จันได ปราชญ์ชาวบ้าน ต้นแบบการรณรงค์ใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียงสุดฮิป ขวัญใจไอดอลของคนชั้นกลาง คนเมืองกลุ่มใหญ่ ถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่ออพยพย้ายรกรากลี้ภัยโควิดไปอยู่ศูนย์กลางประเทศทุนนิยมอย่างสหรัฐอเมริกา พูดถึงโจน จันได ก็ต้องพูดถึงบ้านดิน ที่โจนใช้ในการสร้างชื่อใ
gadfly
 พฤษภา 53 เขตอภัยทาน ได้ถูกนักศาสนา นักสันติวิธีผลักดันให้มีขึ้น 4 จุด คือ วัดปทุมฯ บ้านเซเวียร์ สำนักงานกลาง นร.คริสเตียน แล้วก็ รร.
gadfly
เสาร์อาทิตย์ ตั้งใจจะต่อเติมบ้านส่วนที่ทำค้างไว้ให้แล้วเสร็จ ต้องจ้างช่างชาวบ้านและลูกมือเป็น นร ม ปลายมาทำ เพราะงานปูนทำเองไม่ไหวแล้วช่างไม่มา ส่วนลูกมือไปเฝ้าเบ็ดตกปลาที่อ่างเก็บน้ำ เสียเวลารอ เสียหัวสองวันเต็มๆ วันหยุดด้วย
gadfly
กรณีหมุดคณะราษฎรที่ผ่านมาผมโพสต์เฟซบุ๊กเล่นๆ แบบฮาๆ แต่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันอาจเป็นปัญหาได้เหมือนกันในเฟซบุ๊ก หลายคนเปรยว่า ที่ผ่านมาหลักฐานวัตถุทางประวัติศาสตร์ในยุคของคณะราษฎรได้ถูกเคลื่อนย้าย ทุบทำลาย หรือลดทอนความหมายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ลงไปหลายสิ่งอย่างแล้ว จะฟูมฟายอะไรนักหนา
gadfly
============================ ปากหมาหาเรื่อง บ่นบ้า (อย่าถือสาหาสาระ) ============================