Skip to main content


อายตัวเองถ้าจะบอกใครว่าเป็นนักข่าว จำกัดความตัวเองง่ายๆว่าเป็นพวกชอบเสือก อยากรู้อยากเห็นไปแทบทุกเรื่อง อยากเข้าใจ ! ข่าวก็เลยกลายเป็นแค่ผลพลอยได้

เป็น'นักเผือก'

พูดแล้วก็ให้รู้สึกอายเพื่อนร่วมงาน และที่หนักกว่าก็คือกลัวคนจ่ายเงินเดือนจะพากันคิดมาก cheeky

สำหรับคนที่ให้ความไว้ใจ บอกเล่าสิ่งที่เห็นสิ่งที่คิดให้ฟัง ผมค่อนข้างจะระวัง ไม่ใช่สักแต่จะสะท้อนสิ่งที่เขาพูดออกมาให้ตรงที่สุด แล้วก็ปิดจ๊อบไป

ที่ถามตัวเองมากที่สุดก็คือ เขาพูดเพราะคิดว่าคุณเป็นนักข่าว เป็นปัญญาชน หรือคิดว่าคุณเป็น'เพื่อน'  ลองทบทวนดูบ้างก็ดี

สิ่งที่ผมคิดว่าเสนอแล้วจะเป็นอันตรายต่อแหล่งข่าวผมก็จะหลีกเลี่ยงไม่นำเสนอ ถ้าสิ่งใดที่นำเสนอแล้วย้อนกลับมาทำลายสิ่งที่พวกเขาเชื่อ สิ่งที่พวกเขาต่อสู้ก็จะไม่นำเสนอเช่นกัน

ถามแล้วถามอีก เอาให้ชัวร์ บางครั้งเล่นเอาแหล่งข่าวรำคาญ แต่ถึงแหล่งข่าวยืนยันชัดเจน แต่พอปล่อยงานออกไปแล้วก็นอนไม่เป็นสุข ใจตุ๋มต่อม กลัวว่าจะมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับพวกเขา

โชคที่ที่ผ่านมายังไม่มีอะไรร้ายแรง (แต่ก็ไม่ค่อยจะมีงานอะไรออกมาให้คุ้มค่าเงินเดือนเหมือนกัน)

ไม่ใช่แค่เฉพาะเสื้อแดง สองปีก่อน กปปส. คปท. บุกถล่ม กกต ที่สนามกีฬาไทยญี่ปุ่น ดินแดง ผมก็ไปตามเก็บบรรยากาศสูดแก็ซน้ำตากับพวกเขา ก็ไม่ได้อะไรมากนัก ระหว่างปะทะ


 

ได้เจอฮาร์ดคอร์ตัวเป็นๆดิ้นได้ เห็นกันจะจะ พวกเขาค่อนข้างไว้ใจผม อาจเพราะเห็นว่าผมไม่ถอยเวลามีเสียงปืน หรือเมื่อมีแก็ซน้ำตามาตกใกล้ๆ สงสัยเขาคงคิดว่าผมเป็นนกหวีดตัวพ่อ

แต่ผมก็ไม่มีรูปใบหน้าพวกเขามารายงาน ให้เจ้าหน้าที่ติดตามดำเนินคดี รายงานเหตุการณ์ก็รายงานไปพื้นๆ ไม่หวือหวาให้ความชอบธรรมต่อผู้มีอำนาจเข้าใช้ความรุนแรง

อกเขา อกเรา

คนเรามีพ่อแม่ ลูกเมียต้องคอยดูแล ด้วยความคิดความเชื่อ แรงผลักดันทางการเมือง มันไม่ควรที่จะต้องจับพวกเขาไปยัดเยียดอยู่ในคุก

คนอื่นอาจยืนยันว่าต้องทำ แต่สำหรับผม คำตอบคือ ไม่!

ผมคิดว่าในการต่อสู้ทางการเมือง ความรับผิดชอบทางกฎหมายอย่างมากก็ให้แกนนำรับไป

ที่พูดมาทั้งหมดไม่ได้ต้องการอวดตัวว่าเป็นคนดีขี้หอม เพียงแต่อยากบอกว่าหน้าตาท่าทางที่ไม่น่าไว้วางใจอย่างผม แต่ถ้ามีคนไว้วางใจบอกเล่าถึงสิ่งที่เขาคิด เขาเชื่อ เขาปฏิบัติ ผมก็จะไม่เอาสิ่งที่พวกเขาบอกเล่าย้อนกลับไปทำลายทั้งตัวของเขาและอุดมการณ์ของพวกเขา

ผมไม่ได้มีความรู้สูง ไม่ได้ฉลาดแหลมคม วาจาฉาดฉานอะไรมาก

เพียงแต่ผมไม่ใช่คนอย่างนั้น!

ผมไม่ทรยศต่อความไว้ใจที่เขามีให้กับผม



https://web.facebook.com/sarayut.tangprasert/posts/1064951003549050?notif_t=like&ref=notif

 

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
ฟันธง กกต.แค่ปราม หรือให้ลึกกว่านั้นคือรักษาหน้าแสดงอำนาจเหนือชัชชาติแล้วก็จบ 
gadfly
ผมอ่านวรรณกรรมไทยแนวสะท้อนสังคมไม่เยอะนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันมันไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม  ในช่วงวัยแห่งการแสวงหา (ใช้คำว่าแสวงหาแล้วอยากจะอ้วก ถ้าไม่มีเงินค่าอยู่กิน เล่าเรียนจากพ่อและแม่ ก็คงไม่มีโอกาสได้แสวงหาหรอก) มีนักเขียนสองคนที่ผมตามอ่า
gadfly
 ประยุทธ์บอกให้ประชาชนเลี้ยงไก่สองตัวเพื่อกินไข่ แต่สงสัยว่าประยุทธ์เคยเลี้ยงไก่รึเปล่า ไก่ใช่ไก่ทุกตัวที่จะออกไข่ได้ ต้องเป็นไก่แม่สาวที่อายุสี่เดือนขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถออกไข่ และจะออกไปได้จนอายุประมาณสองปีหรือกว่านั้นเล็กน้อย 
gadfly
 โจน จันได ปราชญ์ชาวบ้าน ต้นแบบการรณรงค์ใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียงสุดฮิป ขวัญใจไอดอลของคนชั้นกลาง คนเมืองกลุ่มใหญ่ ถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่ออพยพย้ายรกรากลี้ภัยโควิดไปอยู่ศูนย์กลางประเทศทุนนิยมอย่างสหรัฐอเมริกา พูดถึงโจน จันได ก็ต้องพูดถึงบ้านดิน ที่โจนใช้ในการสร้างชื่อใ
gadfly
 พฤษภา 53 เขตอภัยทาน ได้ถูกนักศาสนา นักสันติวิธีผลักดันให้มีขึ้น 4 จุด คือ วัดปทุมฯ บ้านเซเวียร์ สำนักงานกลาง นร.คริสเตียน แล้วก็ รร.
gadfly
เสาร์อาทิตย์ ตั้งใจจะต่อเติมบ้านส่วนที่ทำค้างไว้ให้แล้วเสร็จ ต้องจ้างช่างชาวบ้านและลูกมือเป็น นร ม ปลายมาทำ เพราะงานปูนทำเองไม่ไหวแล้วช่างไม่มา ส่วนลูกมือไปเฝ้าเบ็ดตกปลาที่อ่างเก็บน้ำ เสียเวลารอ เสียหัวสองวันเต็มๆ วันหยุดด้วย
gadfly
กรณีหมุดคณะราษฎรที่ผ่านมาผมโพสต์เฟซบุ๊กเล่นๆ แบบฮาๆ แต่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันอาจเป็นปัญหาได้เหมือนกันในเฟซบุ๊ก หลายคนเปรยว่า ที่ผ่านมาหลักฐานวัตถุทางประวัติศาสตร์ในยุคของคณะราษฎรได้ถูกเคลื่อนย้าย ทุบทำลาย หรือลดทอนความหมายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ลงไปหลายสิ่งอย่างแล้ว จะฟูมฟายอะไรนักหนา
gadfly
============================ ปากหมาหาเรื่อง บ่นบ้า (อย่าถือสาหาสาระ) ============================