Skip to main content



จากกิจกรรมรำลึก 2 ปี รัฐประหาร ที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย จนมาถึงกิจกรรมพลเมืองตีเข่า ที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ ผมตั้งข้อสังเกต 2 ประการคือ

1. มวลชนฝ่ายประชาธิปไตยไม่ขยายตัวเพิ่มขึ้นกับกิจกรรมการชุมนุมบนท้องถนน อาจเป็นเพราะ กลัวถูกดำเนินคดี หรือ/และ รอจังหวะลงประชามติ หรือ/และ นปช. และเพื่อไทยไม่ร่วมเคลื่อนไหว ฯลฯ ผมจะไม่อภิปรายประเด็นนี้

แต่การไม่ขยายตัวในช่วงนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้ขบวนการเคลื่อนไหวไม่กลายเป็นเป้าหมายหลักในการเข้าทำลายจากทางฝ่ายรัฐบาลทหาร

2. ไม่มีทหารในเครื่องแบบเข้ามาสกัดกั้น จับกุม หรือสลายการชุมนุมให้เห็นอีกแล้ว แม้แต่ตำรวจเองก็มาทำหน้าที่เจรจาและ"ดูเหมือน"จะทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของผู้ชุมนุมมากกว่า แต่สิ่งที่เห็นเด่นชัดเพิ่มขึ้นมาได้แก่มวลชนฝ่ายสนับสนุนการรัฐประหาร

ผมไม่กล้าเรียกขานแบบดูเบาพวกเขาว่าเป็นมวลชนจัดตั้ง รับจ้างมา ฯลฯ ผมคิดว่าการมองในแบบนี้เป็นอันตราย

ผมเกิดไม่ทันเหตุการณ์ 6 ตุลา แต่ผมเชื่อว่ามวลชนที่เข้าไปทำการสังหาร นศ. ประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยในรั้วมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และกลางท้องสนามหลวงนั้นไม่ได้เกิดจากการจัดตั้งโดยรัฐแต่เพียงอย่างเดียว ผมคิดว่าปัจจัยอื่น อาทิ ท่าทีและทัศนะที่ดูรุนแรงสุดโต่งในขบวนนักศึกษาเอง หรือการที่สื่อกระพือขยายประเด็นดังกล่าวต่อสาธารณะก็เป็นปัจจัยให้เกิดและขยายตัวของขบวนประชาชนฝ่ายขวาด้วย

ขบวนประชาชนฝ่ายขวา(ภายใต้การอำนวยความสะดวกโดยรัฐ) ที่สามารถฆ่าเพื่อนมนุษย์ได้ด้วยความภาคภูมิใจ

ผมคิดว่าเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อขบวนการต่อสู้ของ พคท. เมื่อแนวร่วมสำคัญของ พคท. ซึ่งก็คือ นศ. ปัญญาชน ที่สามารถทำงานทางความคิดได้ดีกับคนเมือง ต้องแตกกระจายไปเป็นภาระให้กับ พคท. ในพื้นที่ชนบท

พูดแบบตรงๆ ก็คือการแตกพ่ายของ นศ. ซึ่งถือว่าเป็นแนวร่วมในเมืองของ พคท. ได้กลายเป็นปัจจัยหนึ่งในการล่มสลายของ พคท.

หากถามว่า มันเกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างไร ผมขอเน้นอีกครั้งว่าผมไม่ได้เปรียบเทียบรูปอุดมการณ์ความคิดของทั้งสองเหตุการณ์อดีต-ปัจจุบัน ว่ามันเหมือน-ต่าง ทาบทับกันพอดีหรือไม่ นักศึกษาที่ถูกล้อมปราบในเหตุการณ์ ปี 2519 ก็ไม่ได้สมาทานกับแนวทางของ พคท.ทั้งหมด

ต่องานเขียนชิ้นนี้ ผมต้องการจะสื่อสารถึง "นักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยบนสื่อโซเชียลมีเดีย" ว่าในขณะที่กระแสการต่อสู้ของฝ่ายประชาธิปไตยมันยังอยู่ในภาวะตกต่ำ การขยายแนวร่วมให้กว้างที่สุด ขณะเดียวกันก็ทำให้แนวรบแคบที่สุดเพื่อลดแรงต้าน

อย่างน้อยก็คืออย่าไปขยายแนวรบเพิ่มก็ยังดี

ตีให้ตรงเป้าที่สุด ที่รัฐบาลทหารและองคาพยพส่วนต่างๆ ของมัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือไม่เปิดแนวรบเพิ่มกับประชาชนด้วยกัน ไม่เถียงขนาดเอาเป็นเอาตาย ไม่เสียบประจาน แค่ทำให้สาธารณะได้เห็นว่าใครถูกผิดก็พอ กรณีไหนจบได้ก็ควรจบ

ควรระวังไม่ให้เกิดเงื่อนไขให้มวลชนฝ่ายตรงข้ามขยายตัว ในขณะที่มวลชนของฝ่ายประชาธิปไตยยังมีเท่าเดิม

ผมไม่อยากเห็นภาพเหตุการณ์ 6 ตุลา เกิดซ้ำอีกครั้งโดยมีนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยในปัจจุบันต้องกลายเป็นเหยื่อในเหตุการณ์

และเพราะว่าการพ่ายแพ้ในแต่ละครั้ง พัฒนาการการเมืองบ้านเราถดถอยลงไปครั้งละหลายสิบปีเหลือเกิน

ปัจจุบันก็ถอยร่นไปถึงยุคสฤษฎิ์แล้ว แพ้อีกทีไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะถอยไปถึงยุคไหน

 

 

บล็อกของ gadfly

gadfly
ฟันธง กกต.แค่ปราม หรือให้ลึกกว่านั้นคือรักษาหน้าแสดงอำนาจเหนือชัชชาติแล้วก็จบ 
gadfly
ผมอ่านวรรณกรรมไทยแนวสะท้อนสังคมไม่เยอะนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันมันไม่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงชีวิตของผม  ในช่วงวัยแห่งการแสวงหา (ใช้คำว่าแสวงหาแล้วอยากจะอ้วก ถ้าไม่มีเงินค่าอยู่กิน เล่าเรียนจากพ่อและแม่ ก็คงไม่มีโอกาสได้แสวงหาหรอก) มีนักเขียนสองคนที่ผมตามอ่า
gadfly
 ประยุทธ์บอกให้ประชาชนเลี้ยงไก่สองตัวเพื่อกินไข่ แต่สงสัยว่าประยุทธ์เคยเลี้ยงไก่รึเปล่า ไก่ใช่ไก่ทุกตัวที่จะออกไข่ได้ ต้องเป็นไก่แม่สาวที่อายุสี่เดือนขึ้นไปเท่านั้นที่จะสามารถออกไข่ และจะออกไปได้จนอายุประมาณสองปีหรือกว่านั้นเล็กน้อย 
gadfly
 โจน จันได ปราชญ์ชาวบ้าน ต้นแบบการรณรงค์ใช้วิถีชีวิตแบบพอเพียงสุดฮิป ขวัญใจไอดอลของคนชั้นกลาง คนเมืองกลุ่มใหญ่ ถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่ออพยพย้ายรกรากลี้ภัยโควิดไปอยู่ศูนย์กลางประเทศทุนนิยมอย่างสหรัฐอเมริกา พูดถึงโจน จันได ก็ต้องพูดถึงบ้านดิน ที่โจนใช้ในการสร้างชื่อใ
gadfly
 พฤษภา 53 เขตอภัยทาน ได้ถูกนักศาสนา นักสันติวิธีผลักดันให้มีขึ้น 4 จุด คือ วัดปทุมฯ บ้านเซเวียร์ สำนักงานกลาง นร.คริสเตียน แล้วก็ รร.
gadfly
เสาร์อาทิตย์ ตั้งใจจะต่อเติมบ้านส่วนที่ทำค้างไว้ให้แล้วเสร็จ ต้องจ้างช่างชาวบ้านและลูกมือเป็น นร ม ปลายมาทำ เพราะงานปูนทำเองไม่ไหวแล้วช่างไม่มา ส่วนลูกมือไปเฝ้าเบ็ดตกปลาที่อ่างเก็บน้ำ เสียเวลารอ เสียหัวสองวันเต็มๆ วันหยุดด้วย
gadfly
กรณีหมุดคณะราษฎรที่ผ่านมาผมโพสต์เฟซบุ๊กเล่นๆ แบบฮาๆ แต่ก็เริ่มรู้สึกว่ามันอาจเป็นปัญหาได้เหมือนกันในเฟซบุ๊ก หลายคนเปรยว่า ที่ผ่านมาหลักฐานวัตถุทางประวัติศาสตร์ในยุคของคณะราษฎรได้ถูกเคลื่อนย้าย ทุบทำลาย หรือลดทอนความหมายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ลงไปหลายสิ่งอย่างแล้ว จะฟูมฟายอะไรนักหนา
gadfly
============================ ปากหมาหาเรื่อง บ่นบ้า (อย่าถือสาหาสาระ) ============================