Skip to main content

การนอนยาวพัก สมอง กาย ใจ ของกนิษฐ์  90 วัน 111 วัน..ตื่นแล้วเหมือนเกิดใหม่ ที่หายไปไม่ได้เข้ามาที่นี่เพราะเหตุนี้.. 

เมื่อ 13 ธันวาคม 2551 เวลา 21.00 น.เกิดอุบัติเหตุกับนิส ขับมอเตอร์ไซด์กลับจากทำงาน ระหว่างขับมาตามถนนเส้นทางเข้าบ้านก็มีการทำถนนราดยางมีการขุดหลุมค่อนข้างลึกเอาไว้แต่ไม่มีป้ายเตือนผู้ที่ใช้รถ..จึงมีคนขับรถตกลงไปหลายรายรวมนิสด้วย..เท่าที่ทราบมาจากผู้ที่พบเห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า นิสสลบไปในทันทีเพราะศรีษะไปฟาดกับขอบหลุมที่เป็นปูน..ก็เลยสลบไปในทันที..คนที่พบรู้จักก็เลยรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล กว่าที่คุณหมอของโรงพยาบาลระยองจะได้มารักษาก็ต้องรอคุณหมออยู่ 6 ช.ม.ญาติพี่น้องที่มาก็คิดว่านิสคงฟื้นขึ้นมาในวันพรุ่งนี้หรืออาจจะ 7 วันคงฟื้น..
แต่อุบัติเหตุของนิสที่ขับรถตกหลุมที่เขาขุดไว้บนถนนแล้วหัวฟาดถนนที่เป็นปูน ทำให้เลือดไหลออกมา การที่ต้องมารอหมอนานทำให้เลือดที่ไหลออกมาไหลเข้าไปในตาทั้งสองข้างตาเลยมีวุ้นที่ตาดำ..จึงทำให้เมื่อฟื้นขึ้นมาตาจึงมองไม่เห็น..จุดโฟกัสของตาไม่ได้เป็นอะไรแต่เลือดวุ้นยังอยู่ นอนนิ่งอยู่เกือบ 4 เดือน พอฟื้นขึ้นมาก็เลยทำให้มองไม่เห็น ต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดตา เมื่อ 21 เมษายน  2552 ไปหาหมอที่โรงพยาบาลราชวิถี กทม. คุณหมอชัยรัตน์ เสาวพฤทธิ์ คุณหมอจักษุแพทย์ท่านนำตัวนิสเข้าผ่าตัดตาทันทีวันที่ 22 เมษายน 2552  ตาขวาก็กลับมาดีแล้ว เหลือตาข้างซ้าย คุณหมอบอกมีตาใช้ไปข้างแล้วอีกข้างรอไปก่อนมกราคม 2553 ค่อยผ่าเอา พอรู้ว่าต้องรอตามคิวนิสก็เลยร้องไห้ไป 3 วัน ร้องเพราะอยากให้ตาเราหายจะได้กลับมาทำงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และประชาธิปไตย ช่วยคนระยอง คนภาคตะวันออก เหมือนเดิม การมีตาอยู่ข้างเดียวก็เลยยังทำอะไรไม่ได้มาก นั่งหน้าคอมพิมพ์งานนานไม่ได้ ตาเดียวหมอห้ามใช้กล้อง..เฮ้อเนาะ.
แต่ไม่ใช่..อาการของนิสหัวใจยังเต้นอยู่แต่ลมหายใจอ่อน หมอเลยเจาะที่ลำคอให้อ๊อกซิเยนสอดสายยางเข้าจมูกให้อาหาร..สภาพอย่างนี้เหลือเชื่อที่อยู่ไอซียู 20 วัน และออกมาอยู่ห้องรวมอีก 2 เดือน..อาการอย่างนี้หมอให้คำยืนยันกับทางญาติว่าคนไข้อัตรารอดมีอยู่แค่ 50 % จากนั้นหมอให้ญาตินำตัวกลับบ้านและบอกกับญาติว่านิสจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา..อาจมีลมหายใจอยู่ได้อีกไม่นาน..ญาตินำกลับบ้านพร้อมทั้งทำใจเตรียมพร้อมกับนิส

 

ขอเล่าให้ฟังคราวๆเท่านี้ก่อน..หลังจากที่นอนไม่มีสติอยู่ญาติบอกจริงๆประมาณ 111 วันเห็นจะได้ ไม่ใช่แค่ 90 วัน  90 วัน นอนนิ่ง.. 21 วัน เริ่มขยับตัว และมีอาการสื่อให้ญาติรู้ว่านิสตื้นแล้วเมื่อครบ 111 วัน นิสสื่อให้ญาติรู้ว่านิสเหมือนหิวน้ำ และเจ็บตามกล้ามเนื้อ ร่างกายก็ซูบผอมลงเหลือแต่กระดูก   หลังจากที่นอนอยู่นานเป็นร้อยวันอยู่ๆนิสก็ฟื้นขึ้นมาเฉยเลยแสดงอาการสื่อให้ญาติทราบว่านิสตื่นแล้ว พยายามจะพูดกับญาติปากขยับแต่ไม่มีเสียงออกมา แต่ญาติก็ดีใจกันทั้งบ้าน นิสมีสติตื่นและฟื้นขึ้นมานี่ นิสใช้เวลาขยับตัวและพยายามจะพูดออกเสียงสื่อกับญาติร่วมเดือนเศษๆ ถึงได้ลุกขึ้นมานั่ง ยืน เดินได้ซะที..ช่วงเมษายนถึงกรกฎาคมนี้ อาการดีขึ้นทุกวันอย่างน่าดีใจ ทั้งสมอง ความคิด ความจำ ร่างกาย กลับมาเหมือนเดิมได้แล้ว ทั้งตัวนิสเองและญาติดีใจกันทั้งบ้าน ญาติดีใจที่นิสกลับมาดีเหมือนเดิม ญาติบอกว่านิสเหมือนเด็กเกิดใหม่เลย...ฮา ฮา ฮา..นิสรักญาติของนิสทุกคน ญาติดีกับนิส ทุกคน พี่สาว พี่ชาย พี่สะไภ้ หลาน ดูแลเอาใจใส่ให้กับนิสอย่างมีคุณค่าและบุญคุณ..เป็นสิ่งที่คำนึงเสมอว่า ต้องตอบแทน...

สิ่งที่ทำให้ร่างกายนิสและชีวิตกลับมาเหมือนเดิมได้ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นได้ง่ายเลยกับคนที่ประสบเหตุหนักหนากับสมองอย่างนิสนี่เลย..ที่นิสกลับมาได้เป็นเพราะมีจิตวิญญาณของคนที่รักนิสและช่วยกันดึงนิสกลับมาต่างหาก นอกจากญาติพี่น้องที่ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่แล้วในหน้าที่ของญาติ..นิสได้อีกสองจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยการเสียสละและร่างกายที่สมบูรณ์คือพี่ธนธัชและน้องญาใจ...ที่อยู่เมืองนนท./ อยู่ที่กทม.

ในช่วงวันและเดือนตั้งแต่ธันวาคม 2551 จนมาถึงเดือนปัจจุบันนี้ ของปี 2552 ทั้งพี่ธนธัชและน้องญาใจมาเยี่ยมมาดูแลนิสนับเดือนได้ 8 เดือนแล้วจ้ะ ต่อไปยังมีอีกหลายเดือนที่เราจะมาเยี่ยมมาดูแลกันอีกต่อไป จนกว่านิสจะกลับมานั่งรถทัวร์ระยองเข้า กทม.ลุยโลกได้อีกเหมือนเดิม..ฮา ฮา..

อีกสิ่งหนึ่งที่เปรียบเสมือนมีมือที่ดึงนิสกลับขึ้นมาจากการตกลงไปในหลุมที่คนทำถนนสายตำบลทับมา อำเภอเมือง ระยอง ที่นิสขับรถกลับเข้าบ้านเมื่อเวลา 21.00 น (สามทุ่ม) หลังเลิกจากการทำงานจากสำนักงานของสุทธิ อัธฌาศัย ที่ระยองขุดไว้แล้วไม่มีป้ายเตือนคนใช้รถบนถนนรู้ว่ามีหลุม เมื่อ 13 ธันวาคม 2551  นิสสลบไป ร้อยกว่าวัน ถึงได้ฟื้นขึ้นมา....

สิ่งที่เปรียบเสมือนมือที่มีส่วนในการดึงนิสขึ้นมาจากหลุมที่ตกลงไป ก็คือน้ำจิตน้ำใจของพี่น้องผองเพื่อนจิตที่เป็นร้อยๆที่ภาวนาให้นิสหายดี และกลับมานั่งคุยกันเหมือนเดิม เหมือนมีมือนับร้อยๆที่ช่วยกันยื่นลงไปดึงนิสขึ้นมาจากหลุมที่ตกลงไปนั่นเอง..
 
มาครานี้..สิ่งที่ได้มาเพิ่มเติม คือ พลังและกำลังใจที่จะทำให้สังคมนี้น่าอยู่มากขึ้น..ในชีวิตของเรานั้น ทำอะไรได้ก็ทำเถอะ เราอย่านิ่งเฉยต่อสิ่งที่กระทบเรา กระทบดีก็รับ กระทบไม่ดีก็ปล่อยให้ผ่านไป อย่าแสวงหาแต่ความสุขสบายจนลืมให้สิ่งที่ให้ใครได้ ก็ให้บ้าง ใครทำอะไรให้เราก็อย่าลืมที่จะทดแทน และตอบแทน
ทุกอย่างที่เขียนออกมาจากสามัญสำนึก...อาจยังบันทึกไม่หมด..จะพยายามนำมาบอกกล่าวให้เพื่อนผองน้องพี่ทราบกันในวันต่อไปนะจ้ะ..วันนี้ขอพักก่อนจ้า
 

บล็อกของ kanis

kanis
สวัสดีblogazine prachataiดีใจที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกของบ้านหลังนี้  หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น ข้อมูล ข้อเท็จจริงจากพื้นที่มาบตาพุด ระยอง และฝั่งทะเลตะวันออก  คงได้หลั่งไหลสู่พี่น้องที่นี่ให้ได้รับรู้  และร่วมกันปกป้องทรัพยากรไว้ให้ลูกหลานเราในอนาคต24 มิถุนายน 2551 กนิษฐ์  พงษ์นาวินมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พัทยา