ฉันเริ่มต้นเพลงนี้ด้วยประโยคนี้
“ฉันเรียนรู้เพื่ออยู่เพียงตัวและจิตใจ เป็นมิตรแท้ที่ดีต่อกัน”
*****************************
ฝนพรำยามดึก ฉันขับรถบนถนนโล่ง เสียงเปียโนกับเสียงร้องเพลงทะเลใจในเวอร์ชันของป๊อด จากอัลบัม 25 ปี คาราบาว เพลงที่ฉันชอบมาแต่ไหนแต่ไร กับเพลงคนล่าฝัน ซึ่งฟังแล้วให้พลังกับชีวิต จนต้องขอบคุณคนเขียนเพลง แอ๊ด คาราบาว
เสียงหยาดน้ำตาหยาดกลางคอนเสิร์ต 25 ปีคาราบาว ด้วยอานุภาพของดนตรี และพลังในการดึงอารมณ์คนฟังร่วมของป๊อด เพลงในเวอร์ชันเบาบางแต่เปี่ยมพลัง ร่วมกับเสียงคนทั้งอิมแพ็ค เมืองทองธานี ดึงความฝัน ความผูกพัน ฆ้อน ตะปู ในหัวใจออกมาตีกันวุ่น จนหลายคนต้องหลั่งน้ำตาออกมา
เชียงใหม่กลางทะเลใจยามดึกเช่นนี้ยังไม่น่ากลัวเท่าไร แม้วันเวลาจะผ่านมาถึงยี่สิบปี เสียงเพลงนี้ทำให้คิดถึงเพื่อน เราผ่านคืนวันอันโหดร้ายมาได้อย่างไร ปีกอ่อนในคืนนั้นฝ่าพายุฝนมาได้อย่างไร นานเท่าไรที่ชีวิตได้เรียนรู้บทเพลงในการพลิ้วกายผ่านสายฝนและลมแรงให้ได้โดยไม่เปียกโชกยับเยิน
******************************
ฉันแว่วยินเสียงเป้ เพื่อนเกย์หนุ่มนั่งรำพึงรำพันถึงหนุ่มหล่อที่เพิ่งหักอกเขามา เขาพึมพำบทกวีบทหนึ่งที่ริมอ่างแก้ว
ฉันกลับมานั่งที่เก่า ที่ที่เราเคยนั่งด้วยกัน
แต่เมื่อเวลาผ่านผัน มีเพียงฉันมานั่งที่เก่า
ภาษาเพื่อนสนิทคืนนี้พึมพำกลางทะเลใจว่า เออ กูคิดถึงมึงว่ะเป้
เหมือนชีวิตผันผ่านคืนวันอันเปลี่ยวเหงา ตัวเป็นของเราใจของใคร
มีชีวิตเพื่อสู้คืนวันอันโหดร้าย คืนที่ตัวกับใจไม่ตรงกัน
คืนนี้มีเพียงฉันมานั่งที่เก่า อ่างแก้วยามนี้ไร้คน ที่นั่นมีน้องเอ๋เมาปลิ้นกลิ้งหลุน ๆ ลงมาจากสันเขื่อน เมื่อเธอกึ่มได้ที่เธอจะกระโดดลงอ่างแก้วลงไปว่ายน้ำโชว์ทุกท่าที่เธอว่ายได้ทั้งเสื้อขาวกางเกงยีนส์ เช้ามาเธอจับพู่กันวาดรูปผู้หญิงมีหางเป็นปลา เบื้องหลังมีหมู่ดาว มีแมวดำนั่งข้างกาย
คืนนั้นคืนไหน ใจแพ้ตัว คืนและวันอันน่ากลัวตัวแพ้ใจ
ท่ามกลางแสงสีศิวิไลซ์ อาจหลงทางไปไม่ยากเย็น
ขับรถผ่านสนามรักบี้ ในความมืด ฉันเห็นภาพตัวเองนอนหนาวกลางสนามหญ้าข้างมอเตอร์ไซด์ตอนตี 4 เพราะอุบัติเหตุของรูมเมทกับเพื่อนชายในห้องนอนทำให้ฉันอยู่ในนั้นไม่ได้ จำได้ว่าฉันฟุบหลับข้างรถจนฟ้าสาง แล้วเงยหน้ามองดอยสุเทพ เหตุผลตอนนั้นที่เลือกสนามรักบี้เป็นที่พักกาย เพราะดึกเกินกว่าจะไปเคาะห้องเพื่อนคนไหน หอพักในม.ช.ก็ปิดหมด สนามรักบี้กว้างใหญ่ ใครไปใครมาน่าจะเห็น อีกสองชั่วโมงก็เช้าแล้ว
คืนนั้นคืนไหน ใจเพ้อฝัน คืนและวันฝันไปไกลลิบโลก
ดั่งนกน้อยลิ่วล่องลอยแรงลมโบก พออับโชคตกลงกลางทะเลใจ
********************************
ทะเลใจในแต่ละช่วงชีวิตต่างกันออกไป บางคืนฉันนอนในห้องเก็บของ ด้วยหัวใจเจ็บช้ำจากความไร้น้ำใจของคนที่เรารัก และตื่นขึ้นมาโบกโบยบิน ฟ้ามืดบางครั้งก็ทำให้หัวใจสว่างขึ้น ทำให้ปีกแข็งแรงขึ้น บินแม้ฝนไม่ตก ลมไม่พัด แต่ในใจเปียกโชกไปกับพายุที่พัดผ่านชีวิต
ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกลับไม่เจอ
ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข
กลางทะเลบางครั้งกลับมีเกลียวคลื่นเป็นที่พักพิง เมื่อวันเวลาผ่านไปฉันพบต้นไม้บางต้นเป็นเพื่อนเก่า ถนนบางสายเป็นเส้นบาง ๆ ที่ทอดออกมาจากหัวใจที่เป็นสุข ความมืดกับความเงียบบางครั้งเป็นเพื่อนแท้ ท้องฟ้ายามตะวันตกดินในคืนเดินทางที่หัวใจบอบช้ำทำให้น้ำตาไหลรินจนต้องจอดรถ ขณะวันเวลาผ่านไปท้องฟ้าเดียวกันนี้บอกว่าชีวิตก็เป็นเช่นนี้เอง พระอาทิตย์ขึ้นและตก พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว ท้องฟ้าไม่เคยเหมือนกันสักวัน แต่มีอยู่ทุกวัน
ทุกชีวิตดิ้นรนค้นหาแต่จุดหมาย ใจในร่างกายกลับไม่เจอ
ทุกข์ที่เกิดซ้ำ เพราะใจนำพร่ำเพ้อ หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข
อืมมม...หาหัวใจให้เจอก็เป็นสุข ฉันพึมพำเบา ๆ ก่อนหลับไปในคืนนี้.